ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 75 กัปตัน (ฟรี)
'อย่างแรก เขามั่นใจอย่างยิ่งว่าซาร่าห์จะตายจากการระเบิดหรือต่อให้ไม่ตาย เธอก็ไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้'
เขาเหลือบมองซากศพมนุษย์ที่ถูกทำลายและขมวดคิ้ว
'ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะช่วยอะบิซอลตัวนั้นไว้ อาการบาดเจ็บทั้งหมดของเขาสามารถจะหายได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เขาอาจจะพยายามที่จะซื้อใจพวกอะบิซอลก็ได้' ใบหน้าของวาเรี้ยนบิดเบี้ยวอย่างรังเกียจ
'อย่างที่สอง' วาเรี้ยนจับหน้าผากของเขา
'มีบางอย่างที่สำคัญเกี่ยวกับอะบิซอลตัวนี้ ซึ่งเขาจะเสียมันไปไม่ได้เพราะอะบิซอลทุกตัวจะระเบิดตัวเอง มีเพียงผู้ชายคนนี้เท่านั้นที่จะทำให้สิ่งนี้ยังคงอยู่ต่อได้'
วาเรี้ยนตัดสินใจค้นของในแหวนอวกาศของพวกเขาทั้งหมดก่อน
ในแหวนอวกาศของมนุษย์ เขาพบสมบัติดวงดาวสองสามอย่าง: ดาบ หอก ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีขวดยารักษาอีกด้วย
'มีแค่นี้หรอ?' วาเรี้ยนลองหาอีกครั้งและพบบางอย่างเพิ่ม สิ่งนั้นคือรูปภาพมากมายหลายรูป
เขาดึงมันออกมา แต่รูปทั้งหมดเป็นรูปเดียวกันหมดเลย
เป็นรูปของผู้หญิงสองคนในชุดสีดำ พวกเธอใส่แว่นตา ดังนั้นเขาจึงมองไม่เห็นตาของพวกเธอ แถมยังใส่หน้ากาปิดส่วนที่เหลืออีก แม้แต่ผมของพวกเขาก็ยังถูกคลุมเอาไว้
มันเป็นชุดของกลุ่มเงาสุดคลาสสิก แม้ว่าจะแตกต่างกันเล็กน้อย...
วาเรี้ยนมั่นใจว่าเป็นคนที่เขาเคยเห็นมาก่อน
บลูแฟลชกับอีนิกม่า
'บลูแฟลชและอีนิกม่า...'
'นี้มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี้ย'
อีนิกม่าเป็นหัวหน้าที่มีชื่อเสียงของกลุ่มเงา ซึ่งใครก็ตามที่เคยได้ยินเธอพูดก็คงตายกันหมดแล้ว แถมรูปที่รัฐหามาได้ยังไม่ใช่รูปที่รัฐถ่ายเองแต่เป็นรูปที่กลุ่มเงาเป็นคนเผยแพร่ออกมา...
'กลุ่มเงา...พวกเศษเดนมนุษย์...ที่ทรยศต่อเผ่าพันธุ์ของตัวเอง และฆ่าพวกอัจฉริยะที่จะคอยช่วยปกป้องมนุษยชาติ สองคนนี้เป็นต้นเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นพวกนี้งั้นหรอ?
'แล้วทำไมตอนนั้นพวกเขาไม่ฆ่าฉัน?' วาเรี้ยนตกอยู่ในความสับสน
ในไม่ช้าเขาก็ส่ายหัว
'มันไม่สำคัญแล้ว' เขาเอื้อมมือไปที่แหวนอวกาศของอะบิซอล
"ฮะ อะไรวะ?"
วาเรี้ยนไม่สามารถเข้าถึงได้แม้ว่าอะบิซอลจะตายไปแล้วก็ตาม
สมบัติแห่งดวงดาวถูกผูกไว้กับคนเพียงคนเดียวและสามารถใช้ได้แค่คนที่ผูกสัญญาเอาไว้ มันไม่มีพันธะอื่นเพราะนี้เป็นกฎของสมบัติดวงดาว
มีแค่ไม่กี่วิธีที่บุคคลอื่นจะใช้ได้คือให้เจ้าของเดิมปลดพันธะสัญญาหรือ ... ฆ่าเจ้าของเดิม
อย่างไรก็ตามสมบัติดวงดาวส่วนมากก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาร์ติแฟค
อาร์ติแฟคเป็นสมบัติที่พบในรูนซึ่งเป็นมรดกของเทวดา
ดังนั้นสมบัติดดวงดาวทั้งหมดจึงถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์
อะบิซอลต้องมีวิธีทำขึ้นมาที่แตกต่างและทำให้กฎของสมบัติดวงดาวเปลี่ยนไปจากเดิม
และตอนนี้วาเรี้ยนก็กำลังหงุดหงิดอย่างมาก
"เวรเอ้ย!" เขาอัดพลังชี่และพลังอวกาศใส่แหวนอวกาศแต่ก็ยังไม่สามารถเปิดได้
เขาลองใช้เลือดจากอะบิซอลด้วยแต่ก็เปิดไม่ออก
"ควย!" เขาสถบออกมาด้วยเสียงท้อแท้
วาเรี้ยนออกจากถ้ำและยังคงพยายามเปิดต่อไป เขาไม่สามารถเปิดแหวนอวกาศได้ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน
'ระบบ แกเปิดสิ่งนี้ได้ไหม' ในที่สุดเขาก็นึกถึงใครบางคนที่อาจจะมีความหวังให้เขาได้บ้าง
[เจ้าของร่าง ระบบนี้ดูเหมือนเป็นระบบที่ทำขึ้นมาเพื่อเป็นโจรเปิดแหวนอวกาศที่ขโมยมาได้หรอ?] เสียงของระบบพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยฉาทำให้วาเรี้ยนรู้สึกรำคาญไอ้ระบบนี้มาก
'....' วาเรี้ยนถอนหายใจ
'ใช่ แกดูเหมือนโจรที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้'
[.....]
[คุณยายทวดของคุณต่างหากที่เป็นโจร!] ระบบพูดแล้วเงียบไป
วาเรี้ยนหัวเราะเยาะคำพูดของมัน แต่เขาไม่รู้ว่าระบบกำลังพูดความจริง
วาเรี้ยนยังคงพยายามเปิดต่อไปในขณะที่จับตาดูสภาพแวดล้อมโดยรอบไปด้วย
สถานที่พิเศษทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ที่ถูกซ่อนอยู่ ดังนั้นโอกาสที่มนุษย์จะเจอจึงต่ำมาก
แต่สัตว์เวทมนตร์ก็สามารถทำให้เขาปวดหัวได้ถ้าหากว่ามันมาใกล้
“อืม...วา—าเรี้ยน” เสียงอันแผ่วเบาดังขึ้นและวาเรี้ยนเห็นซาร่าห์ค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ
“ไม่ต้องฝืนก็ได้ครับ กัปตันบาดเจ็บหนักที่สุดเลยนะครับ” วาเรี้ยนยื่นมือมาให้ซาร่าห์
เธอลังเลแต่ก็จับมือเขาแล้วเดินออกไป
"ฉันสบายดี" เธอพูดแล้วนั่งลงนอกถ้ำข้างที่นั่งของวาเรี้ยน
วาเรี้ยนกลับมานั่งในตำแหน่งของเขา เขาประหม่ามาก
เขาหวังว่าเธอจะไม่สังเกตเห็นที่เขาใช้เทเลพอร์ตไปด้านหลังอะบิซอลก่อนที่เขาจะแทงดาบใส่มัน
'ยิ่งมีคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี' โดยเฉพาะชาร์ลลี...'
ซาร่าห์มองดูใบหน้าที่ฟุ้งซ่านของวาเรี้ยนและกลืนคำพูดที่เธอกำลังจะพูดกลับลงคอไป
เธอเคยเป็นคนที่ได้รับความสนใจทุกที่ที่เธอไป แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีใครสนใจเธอมากนัก
แต่ถ้าหากว่าเป็นกัปตันคนอื่นมาแทนที่ซาร่าห์ วาเรี้ยนจะเจอช่วงเวลาที่ยากลำบาก ถูกลงโทษ ตัดคะแนน MP ต่อภารกิจและแม้กระทั่งถูกไล่ออกจากทีม
'นั่นคือเหตุผลที่เซธต้องการให้ฉันเป็นกัปตันของเธอ เธอโชคดีนะ'
เธอหัวเราะเบาๆทำให้วาเรี้ยนตกใจ
'แต่พวกเราโชคดีกว่านะ' ซาร่าห์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและขำ
"คะ..ครับ?" วาเรี้ยนสงสัยว่าคนเราจะหัวเราะหลังจากที่พึ่งจะเกือบตายได้ยังไง แต่เขาลืมไปว่าเขากับไคล์ก็ทำแบบเดียวกันเหมือนกัน..
'เธอบ้าไปแล้วหรือยังไงนะ... ไม่สิ ฉันต้องระวังเผื่อว่าเธออาจจะกลายเป็นบ้าจริงๆ ฉันจะไม่แปลกใจเลยถ้าระบบเรียกการกระทำนี้ว่า [สมดุล]'
ซาร่าห์สังเกตเห็นการจ้องมองแปลกๆของวาเรี้ยนและไอเล็กน้อย เธอกลับมามีความสงบเย็นเยือกเย็นเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามตอนนี้วาเรี้ยนพร้อมที่จะวิ่งหนีซาร่าห์เต็มที่
"ขอบคุณนะ" ซาร่าห์โค้งคำนับ
“ผมทำในสิ่งที่ผมควรทำ ผมแน่ใจว่ากัปตันจะช่วยผมได้ถ้าผมตกอยู่ในอันตรายครับ” วาเรี้ยนยักไหล่
“ฉันคิดว่าเธอจะหนีไปแล้วซะอีก แต่เธอไม่หนีถึงแม้จะเป็นแค่ระดับ 2 ก็ตาม” ซาร่าห์พูดอย่างช้าๆ
“เอ่อ...” ใบหน้าของวาเรี้ยนกระตุก
“อ๊ะ ขอโทษทีๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดว่าระดับ 2 ไม่ดีใครๆก็ต้องเคยผ่านจุดนั้นมาทั้งนั้นแหละ มันก็แค่... ทำไมเธอถึงยังอยู่แม้ว่าการต่อสู้แบบนั้นจะฆ่าเธอได้ทุกเมื่อ?”
วาเรี้ยนมองดูดวงตาที่สงสัยของเธอและพูดว่า "ก่อนที่จะระเบิดผมก็คิดที่จะหนีอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าการตายของผมไม่เปลี่ยนผลลัพธ์ผมจะไม่ยอมตาย ผมมีสิ่งที่ต้องทำในชีวิต"
ซาร่าห์ดูประหลาดใจกับความจริงใจของเขา
“แต่ความเสี่ยงที่ผมรับไว้ในตอนที่ผมเข้าไปช่วยมันต่างออกไป ถ้าหากว่าผมเข้าไปช่วยตอนนั้นผลลัพธ์ก็จะเปลี่ยนไปผมก็เลยเข้าไปช่วย แต่ถึงจะเป็นยังงั้นผมไม่ใช่คนที่กล้าหาญอย่างที่กัปตันคิดหรอก ถ้าเป็นระดับ 8 มาที่นี่ผมจะเป็นคนแรกที่วิ่งหนีครับกัปตัน” วาเรี้ยนลูบคางด้วยสีหน้าจริงจัง
“พรืีดดด เธอไม่คิดว่าฉันจะผิดหวังในตัวเธอเหรอ คำตอบของเธอตรงกันข้ามกับสิ่งที่กัปตันทุกคนอยากได้ยินเลยนะ ฮ่าฮ่า” ซาร่าห์หัวเราะ
“ผมก็แค่พูดความจริงครับ” วาเรี้ยนมองดูท้องฟ้าและจินตนาการตัวเองที่จะต้องสู้กับพวกระดับ 5
ด้วยประสบการณ์ในการทำภารกิจครั้งนี้ อนาคตอยู่ในมือของเขาแล้ว
“ผมรู้สึกขอบคุณมากที่อนุญาตให้ผมเข้าร่วมทำภารกิจนี้ แต่ครั้งต่อไปผมน่าจะทำคนเดียวได้แล้ว” เขายิ้ม
ซาร่าห์สังเกตรอยยิ้มของเขา มันเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ถ้าคนเดียวทำไม่ได้ก็โทรหาฉันได้ ถึงแม้ว่าฉันจะยุ่งเกือบตลอดเวลา แต่ฉันมั่นใจว่าฉันจะทำอะไรได้บ้าง แต่ฉันว่าเธอคงไม่โทรหาฉันหรอก” ซาร่าห์ปัดข้อความและแชร์รายชื่อติดต่อของเธอ
"อุ๊บซ์" วาเรี้ยนพยักหน้าและเปิดการติดต่อของเธอ
ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อมองดูชื่อเต็มของเธอ
“กัปตันเป็นลูกสาวของอีแวนเดอร์เหรอครับ?”