บทที่ 34 การประลองของเย่หลิงเสวี่ย จินตนาการหนึ่งบุปผา เทพธิดาเยือนพิภพ❗️
ถ้าฉินมู่รู้ถึง 'อาหารสมอง' และการคาดการณ์ของหยุนรั่วซี เขาคงหัวเราะออกมาอย่างแน่นอน
เขาแลกเปลี่ยนเพียงคัมภีร์ฝึกวิชากายาจักรพรรดิจากเขตแดนเสริมโลหิตถึงเขตแดนสวรรค์นิมิตเพียงเพราะว่าแต้มตกใจนั้นไม่เพียงพอ
แต่นึกไม่ถึงว่าหยุนรั่วซีจะสร้างเรื่องขึ้นและหาเหตุผลที่สมบูรณ์แบบด้วยตัวนางเอง
แน่นอนว่าหยุนรั่วซีไม่เข้าใจความหมายของกระจกโบราณในส่วนท้ายของคัมภีร์โบราณ
แท้จริงแล้ว กระจกโบราณนั้นเป็นเบาะแสที่ฉินมู่ทิ้งไว้โดยเจตนา
ในภายหลัง เมื่อจำเป็น เขาจะใช้งานเบาะแสชิ้นนี้และใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นั้นชี้นำไปสู่ดินแดนลับแห่งใหม่❗️
หลังจากได้อิสรภาพกลับคืนมา ทุกคนในเหมืองต้นกำเนิดก็โค้งคำนับไปในทิศทางที่กายาจักรพรรดิจากไปและขอบคุณในคุณงามความดีของเขา
หลังจากนั้นก็ออกจากเหมืองโบราณ มุ่งหน้าสู่บ้านโดยไม่รีรอ
หยุนรั่วซีก็จากไปเช่นกัน
นางรีบกลับไปที่เมืองผิงหยาง เพื่อรวมตัวกับชาวเมืองและเริ่มฝึกฝนตามคัมภีร์โบราณ
หลังจากที่ทุกคนจากไปกันหมด ฉินมู่ก็จากไปเช่นกัน
เขากลับไปที่แหล่งน้ำกลางทะเลทรายนั้น พาชาวเมืองเมืองผิงหยางกลับไปที่เมืองผิงหยางและแจ้งพวกเขาว่าตำหนักไร้ความหวังถูกทำลายจนสิ้นและทุกคนปลอดภัยแล้ว
ระหว่างที่ฉินมู่ทำเช่นนี้ ก็พบว่าแต้มตกใจของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
'เจ้าได้รับแต้มตกใจ +857 จากเฉินผิงอู๋❗️'
'เจ้าได้รับแต้มตกใจ +1254 จากหยางซี❗️'
'เจ้าได้รับแต้มตกใจ +1588 จากหลี่หวูชาง❗️'
'เจ้าได้รับแต้มตกใจ+899 จากหวังผิงจือ❗️'
'เจ้าได้รับ...'
ในระยะเวลาอันสั้นแต้มตกใจเพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งแสนแต้ม
หือ❓ แต้มตกใจถึงได้เพิ่มขึ้นอีกได้อย่างไร❓
ฉินมู่กะพริบตา
เขาค่อนข้างคุ้นเคยกับชื่อของผู้ตกใจเหล่านี้
ส่วนใหญ่เป็นผู้ฝึกยุทธ์เผ่ามนุษย์และมนุษย์ทั่วไปที่อยู่ใกล้เมืองหิมะน้ำแข็ง
หลี่หวูชาง นั่นมันชื่อของนายน้อยตำหนักไร้ความหวังมิใช่รึ❓
เมืองหิมะน้ำแข็ง หลี่หวูชาง นายน้อยตำหนักไร้ความหวัง
คำเหล่านี้เชื่อมโยงกัน ฉินมู่เผยใบหน้าที่แสดงถึงความเข้าใจอย่างชัดเจน
ดูเหมือนเขาจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
…………
แดนร้างตะวันออก สำนักหิมะน้ำแข็ง
สำหรับศิษย์สำนักหิมะน้ำแข็ง วันนี้ย่อมไม่ใช่วันดีอย่างแน่นอน
เพราะเส้นตายเดือนมกราคมที่ขีดไว้โดยนายน้อยตำหนักไร้ความหวังหลี่หวูชางและศิษย์น้องเย่หลิงเสวี่ยได้มามาถึงแล้ว
และหลี่หวูชางก็ได้มาถึงที่เมืองหิมะน้ำแข็งตั้งแต่เช้า
ในเมืองหิมะน้ำแข็ง สนามประลองสูงตระหง่านถูกจัดตั้งขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่
วันนี้ หลี่หวูชางและเย่หลิงเสวี่ยจะมีการประลองชี้ขาดกันบนเวทีนี้
มนุษย์ในเมืองแห่กันมาโดยรอบ
บนสนามประลอง เย่หลิงเสวี่ยยืนตรงข้ามชายหนุ่มในชุดคลุม
“หลิงเสวี่ย ทำไมเจ้ากับข้าต้องมาจนถึงจุดนี้❓”
“ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้า ทิ้งการต่อต้านที่ไร้ประโยชน์นี้ซะ หลังจากแต่งงานกับข้า จะมีประโยชน์มากมายนับไม่ถ้วนรอเจ้าอยู่”
บนสนามประลอง ชายหนุ่มผู้มีกระแสพลังอันเย็นชาในชุดคลุมมองอย่างตะกละตะกลามไปยังเย่หลิงเสวี่ยที่ยืนอยู่ตรงข้ามเขาและพูดด้วยความมั่นใจและจองหอง
เขาเป็นนายน้อยของตำหนักไร้ความหวัง ลูกชายของหลี่ต้าวหลิน หลี่หวูชาง❗️
ได้ยินคำพูดของหลี่หวูชาง ด้านล่างสนามประลอง ผู้ฝึกยุทธ์สำนักหิมะน้ำแข็งกำหมัดแน่นและมีสีหน้าไม่พอใจ
หลี่หวูชางมีทั้งพรสวรรค์และความฉลาด และยังเป็นผู้มีร่างเทพดารา
ไม่เพียงแค่นั้น ตำหนักไร้ความหวังได้พึ่งพิงเผ่าพันธุ์โบราณ เขาจึงได้รับโอสถและวิชาล้ำค่ามากมายจากเผ่าพันธุ์โบราณ ทำให้เขายิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
เย่หลิงเสวี่ยแม้ว่าการฝึกฝนอย่างมุมานะ แต่พรสวรรค์ของนางธรรมดาเกินกว่าจะเทียบกับหลี่หวูชางได้❗️
"พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ลงมือเต็มที่ได้เลย"
เย่หลิงเสวี่ยพูดเบาๆ ชุดสีขาวของนางพลิ้วไหว
ตั้งแต่ฝึกคัมภีร์โบราณของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ ภาวะจิตใจของนางก็ดีเยี่ยมขึ้นเรื่อยๆ เสื้อคลุมของนางพริ้วไหวราวกับเทพธิดา
"โอ้ ถ้าเช่นนั้นก็ให้ข้าทำลายความภาคภูมิใจและขยี้ภาพลวงตาของเจ้าซะ❗️"
หลี่หวูชางเย้ยหยันและไม่พูดสิ่งใดต่อ เขาก้าวไปข้างหน้าพร้อมด้วยกระแสพลังอันทรงอำนาจที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ตั้งใจที่จะเอาชนะเย่หลิงเสวี่ยด้วยพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด❗️
หลี่หวูชางก้าวไปข้างหน้า ร่างกายเปล่งประกายราวกับแสงดาวระยิบระยับที่อัดแน่นในร่างกาย และผิวของเขาใสราวกับหยก ซึ่งแทบจะโปร่งใสเลยก็ว่าได้
ร่างเทพดารานี้เป็นร่างกายพิเศษที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง
เมื่อถูกใช้งาน ร่างกายนั้นจะส่องไสวราวกับดวงดาว และดูเหมือนว่าจะบรรจุพลังของดวงดาวเอาไว้ มีพลังมหาศาลยากที่จะต้านทานได้
"ถ้าเจ้าไม่ยอมแพ้ ก็อย่ามาโทษข้าที่จะสั่งสอนบทเรียนให้"
หลี่หวูชางนั้นเย่อหยิ่งอย่างยิ่ง
เขาผลักฝ่ามือออก ฝ่ามือที่เกือบจะโปร่งใสจนสามารถเห็นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลเวียนอยู่ในนั้นพร้อมด้วยแสงอันส่องสว่าง
ฝ่ามือถูกซัดออกไป ลมโดยรอบแปรปวน และมิติก็คำรามราวกับว่ามีภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์มากดทับ ทำให้หายใจได้ลำบาก
ด้านล่างสนามประลอง ผู้คนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป
หลี่หวูชางนั้นแข็งแกร่งเกินไป เป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง เพียงฝ่ามือเดียวก็ทำให้ไม่มีใครกล้ารับมือเขา
อย่างไรก็ตาม แม้เผชิญกับการโจมตีของหลี่หวูชาง เย่หลิงเสวี่ยก็ยังคงสงบเงียบ
"เส้นทางของข้าจะเริ่มอย่างเป็นทางการนับแต่วันนี้"
เย่หลิงเสวี่ยพึมพำเบาๆ
ชุดสีขาวพลิ้วไหว เส้นผมดำงามโบกสะบัด
ในมิติ ดอกไม้กำลังโปรยลงมา
แต่ละกลีบนั้นสว่างสดใส งดงามไร้ที่ติ และเต็มไปด้วยกระแสพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลเวียนอยู่
เย่หลิงเสวี่ยยืนอยู่กลางทะเลดอกไม้ ราวกับเทพธิดาสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ที่ได้ลงมายังโลกมนุษย์ ศักดิ์สิทธิ์และลึกลับ
กลีบดอกไม้ร่วงหล่น ดูไร้พิษภัยใดๆ
แต่หลี่หวูชางที่อยู่ตรงข้าม หน้าเปลี่ยนสีในทันใด❗️
เพราะ ในบรรดากลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นมาจากฟากฟ้า เขารู้สึกได้ถึงกระแสพลังแห่งการทำลายล้างที่ไร้เปรียบปาน ซึ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะและร่างกายอันทรงพลังของเขาแทบจะระเบิดออก
"จินตนาการหนึ่งบุปผา เทพธิดาเยือนพิภพ”
เย่หลิงเสวี่ยพูดเบาๆ นางยืนอยู่กลางทะเลดอกไม้ ถือกลีบดอกไม้ไว้ในมือราวกับเป็นเทพธิดา
กลีบดอกไม้ร่วงหล่น ผ่าลงในมิติ แต่ละกลีบดูเหมือนจะมีพลังมหาศาล
แต่ละกลีบนั้นราวกับเป็นร่างเทียมของเย่หลิงเสวี่ย กลีบดอกไม้นับไม่ถ้วนร่วงโรยมาจากท้องฟ้า ราวกับมีเย่หลิงเสวี่ยนับไม่ถ้วนร่วมกันสังหาร❗️
จินตนาการหนึ่งบุปผา เทพธิดาเยือนพิภพ
เย่หลิงเสวี่ยเรียนวิชาต้องห้ามนี้มาจากคัมภีร์โบราณซึ่งได้สืบทอดมาจากจอมจักรพรรดินี นี่เป็นครั้งแรกที่นางใช้มันในวันนี้และแสดงให้ทุกคนเห็น❗️
สดใสและงดงาม รุ่งโรจน์และเจิดจรัส
ไม่มีสิ่งใดต้านทานการโจมตีนี้ได้
หลี่หวูชางคำราม ระเบิดพลังทั้งหมดและต่อสู้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มีแต่มันก็ไร้ประโยชน์
กลีบดอกไม้ร่วงหล่นจากท้องฟ้า แยกมิติและแม้กระทั่งเลือดเนื้อของเขา
กลีบดอกไม้วาววับ แล่นผ่านร่างเขา ทำให้เม็ดเลือดสาดกระเซ็นออกมา ซึ่งดูน่างดงามอย่างยิ่ง
เพียงชั่วพริบตา ร่างของหลี่หวูชางก็เต็มไปด้วยบาดแผล ปลิวถลาออกไปในทันใด ตกอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส❗️
เมือมองไปที่หลี่หวูชาง ก็จะเห็นผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสล้มนอนกองลงบนพื้นสนามประลองอย่างน่าสังเวช
เมื่อมองไปที่เย่หลิงเสวี่ยก็จะได้พบกับผู้ซึ่งอยู่ท่ามกลางทะเลดอกไม้ ราวกับเทพธิดาสวรรค์เก้าชั้นฟ้าลงมาเยือนโลกมนุษย์ ผู้คนที่ดูการต่อสู้อยู่ด้านล่างต่างก็อ้าปากค้าง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ทุกคนล้วนเดาผลการประลองครั้งนี้ไปต่างๆ นาๆ
บางทีอาจเป็นการต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ
บางทีหลี่หวูชางอาจจะชนะได้อย่างง่ายดาย
แต่ไม่มีใครคิดว่า เพียงกระบวนท่าเดียว เย่หลิงเสวี่ยก็ได้ 'สังหาร' หลี่หวูชางในชั่วพริบตาโดยที่อีกฝ่ายไม่อาจรับมือได้เลย❗️