บทที่ 259 - แชมป์เปี้ยน! ผู้ชนะเลิศ ! (1)
บทที่ 259 - แชมป์เปี้ยน! ผู้ชนะเลิศ ! (1)
ในการต่อสู้แบบ วิธีวนรอบ สี่อันดับแรก ถ้า มหาวิทยาลัยเมืองมังกร สามารถเอาชนะ ไฟเออรี่เบิร์ด และ เกาะวาฬ ได้ พวกเขาจะไม่ต้องพบกับอุปสรรคในการเป็นแชมป์อีกต่อไป ทีมมหาวิทยาลัยซวนหนี่ที่เหลือไม่สามารถหยุดพวกเขาได้
“แต่หากมหาวิทยาลัยเกาะวาฬ ชนะและแพ้ ไฟเออรี่เบิร์ด มหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติทั้งสามแห่งจะมีสถิติการชนะสองครั้งและการแพ้หนึ่งครั้ง จากนั้นแชมป์จะถูกกำหนดโดยคะแนนของแต่ละรอบ”
ในหอกระจายเสียง หวงเทียนเล่ย กล่าวกับผู้ชมว่า “ในทางทฤษฎี ตราบใดที่ มหาวิทยาลัยเกาะวาฬ เอาชนะ มหาวิทยาลัยเมืองมังกร ด้วยความได้เปรียบอย่างแน่นอน แล้วแพ้ ไฟเออรี่เบิร์ด ด้วยข้อเสียอย่างใหญ่ มหาวิทยาลัยไฟเออรี่เบิร์ด จะมีโอกาสเล็กน้อย ในการคว้าแชมป์”
“แน่นอน นั่นเป็นเพียงทฤษฎี ในการต่อสู้เมื่อวาน มหาวิทยาลัยไฟเออรี่เบิร์ด แพ้โดยสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะความผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ แต่ก็เป็นที่แน่ชัดสำหรับทุกคนว่าความแข็งแกร่งของมหาวิทยาลัยเมืองมังกร นั้นแข็งแกร่งกว่า ไฟเออรี่เบิร์ด มาก”
“ด้วยความได้เปรียบเช่นนี้ หากเกาะวาฬสามารถเอาชนะ เมืองมังกร ได้ การเอาชนะ ไฟเออรี่เบิร์ด ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ความเป็นไปได้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ เมืองมังกร จะบดขยี้เกาะวาฬ ดังนั้นจุดสนใจหลักคือทีมใดที่จะกลายเป็นอันดับสอง มหาวิทยาลัยเกาะวาฬ หรือมหาวิทยาลัยไฟเออรี่เบิร์ด”
ซือเยว่หรงซึ่งนั่งอยู่ทางขวามือ ยิ้มและถามว่า “เทียนเล่ย คุณรู้สึกไหมว่ามหาวิทยาลัยเกาะวาฬไม่มีความหวังอีกต่อไปแล้วคะ ?”
“นั่น… แน่นอนว่าไม่ใช่” หวงเทียนเล่ย หยุดชั่วครู่และกล่าวว่า “ท้ายที่สุด มันเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าไม่มีความหวัง แต่คุณสามารถเห็นความแตกต่างของพลังการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่าย ไม่เป็นการพูดเกินจริงที่จะบอกว่า สุนัขล่าเนื้อเทพพายุ เป็นสไปรท์ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่มีการจัด ลีคมหาวิทยาลัยมา ไม่มีสไปรท์ตัวใดที่สามารถเทียบได้ !”
แข็งแกร่งแค่ไหน ?
ใบมีดลมธรรมดาของมันสามารถระงับทักษะเฉพาะระดับสูงของสไปรท์อื่น ๆ ได้ มันแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ !
ในฐานะผู้บรรยายรับเชิญพิเศษ หวงเทียนเล่ย เข้าใจเหตุผลแล้ว คนนั้น… แท้จริงแล้วถึงการเป็น เจ้าอาณาเขตโดยกำเนิด !
พลังของ สุนัขล่าเนื้อเทพพายุ นั้นสมเหตุสมผล
สิ่งเหล่านี้… เป็นข้อมูลที่ค่อนข้างลับ เขาไม่ได้เปิดเผยต่อผู้ชม และคนส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจแม้ว่าเขาจะอธิบายก็ตาม
ในฐานะนักวิจารณ์ เขาวิเคราะห์กลยุทธ์และข้อดีข้อเสียของทั้งสองฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
จากนั้นเขาก็สรุปว่ามหาวิทยาลัยเกาะวาฬ… กำลังตกอยู่ในอันตราย!
…
ในขณะนี้ ในห้องรับรองของมหาวิทยาลัยเกาะวาฬ
กัปตันหวังฉีแสดงความกดดันอย่างมาก “จากสถานการณ์เมื่อวาน สุนัขล่าเนื้อเทพพายุ นั้นมีความสามารถที่จะปราบปรามพวกเราในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว หรือแม้แต่เอาชนะสไปรท์ของเราในระยะเวลาอันสั้น”
ไพ่ตายของพวกเขาคือห้าสไปรท์ที่แข็งแกร่งที่สุดของมหาวิทยาลัยเกาะวาฬ !
มันแข็งแกร่งกว่าสไปรท์ธรรมดาทั่วไปมากและแข็งแกร่งกว่าสไปรท์ระดับพิเศษหนึ่งหรือสองตัวที่บ่มเพาะโดยมหาวิทยาลัยที่สำคัญ !
แต่ยังคง…
ไม่ใช่การแข่งขัน
หวังฉี รู้จักสถานที่ของเขา
“ไม่เพียงเท่านั้น สุนัขล่าเนื้อเทพพายุ ยังเป็นสไปรท์ธาตุลม มันเร็วมากและมาและไปเหมือนลม หากเราแยกและครอบครองคะแนนทรัพยากร มันอาจจะทำลายเราทีละคน และถ้าสไปรท์ของเรารวมทีมกันสองคน พวกเขาสามารถครอบครองคะแนนทรัพยากรได้เพียงสองคะแนนเท่านั้น ... พวกเขาไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคู่ต่อสู้ได้ แต่มีแนวโน้มมากที่จะถูกรังควานโดย สุนัขล่าเนื้อเทพพายุ นั้นอย่างต่อเนื่อง”
นี่หมายความว่าศัตรูจะทำคะแนนอย่างมั่นคง ในขณะที่พวกเขากำลังทำคะแนนเป็นระยะ
มันเป็นเพียงการตายอย่างช้าๆ
“ดังนั้น แผนของฉันคือการจัดตั้งทีม !” หวางฉีกล่าว “สุนัขล่าเนื้อเทพพายุ นั้นแข็งแกร่งมากในการปะทะหนึ่งติ่อหนึ่ง แต่ในการต่อสู้แบบทีม ผลของมันจะอ่อนลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเรามีแฟรี่ผีเสื้อที่ช่วยเหลือและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี… การรวบรวมกำลังเป็นโอกาสเดียวของเรา ! พวกนายคิดว่าไง ?”
เจียงฉิวฉี พยักหน้า
รุ่นพี่ ฉินหยา และรุ่นพี่อีกคนเห็นด้วย
ซูฮ่าวตกลงและเสริมว่า “ตามแผนของรุ่นพี่ ฉันได้ขยายกลยุทธ์อื่น…”
…
เวลา 8:50 น. และทั้งสองทีมเริ่มเข้าสู่อารีน่า
สมาชิกของทั้งสองทีมเข้าสู่เวที ผู้บรรยายทั้งสองยังได้รับรายชื่อของทั้งสองทีมในตอนแรก
“สมาชิกในทีมของมหาวิทยาลัยเกาะปลาวาฬคือหวางฉี, เจียงซิ่วฉี, ฉินหยา… เดี๋ยวก่อนนะ สุดท้ายมันคือซูฮ่าว ?”
“สไปรท์ของซูฮ่าวคืออีกาเพลิงใช่ไหม ? เป็นเพียงระดับพิเศษที่เพิ่งทะลวงมาได้ มันไม่ควรจะดีเท่ากับสไปรท์ระดับพิเศษที่มีประสบการณ์เหล่านั้นใช่ไหม ?”
“บางทีมหาวิทยาลัยเกาะวาฬ มีแผนบางอย่างในใจ ?”
หวงเทียนเล่ย มีความรู้สึกคลุมเครือว่าอาจมีบางสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับคำทำนายของเขาอีกครั้ง
แต่พอคิดดูแล้ว ก็คิดว่าน่าจะมาจากไหน อีกาวิญญาณลุกไหม้ ไม่สามารถพบจักรวาลเล็ก ๆ ของมันได้ในทันทีทันใดใช่ไหม ?
“ตอนนี้เราเห็นว่าทั้งสองทีมได้เริ่มเรียกสไปรท์ของพวกเขาแล้ว”
หน้าจอแสดงฉากต่างๆ ภายในหอคอยทั้งสอง สีแดงและสีน้ำเงิน
หลันฉิง จาก มหาวิทยาลัยเมืองมังกร เรียก สุนัขล่าเนื้อเทพพายุ ของเธอ สุนัขตัวใหญ่สีขาวหอนและวนรอบ หลันฉิง สองครั้งหลังจากปรากฏตัว ถูหัวโตกับไหล่ของเธอ
ในหอคอยของมหาวิทยาลัยเกาะวาฬ เฉียงฉีเปรวไฟแดง, แพะเขาอมตะ, นกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์… ถูกอัญเชิญทีละตัว
ในขณะนี้ พวกเขาเห็นคนสุดท้าย ซูฮ่าว กางนิ้วออกกว้างเช่นกัน ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นในอวกาศ และไฟ...
“สไปรท์อะไร ? นั่นเป็นเพียงอีกาวิญญาณลุกไหม้ไม่ใช่รึไง… เอ๋ ?”
ในสถานที่ สไปรท์ในชุดเสี่ยวเตี๋ยสีเขียวปรากฏขึ้นจากระลอกคลื่น
มันมีตาโตเป็นน้ำ ผมสีเขียวมรกตและแขนที่งามสง่า ปีกสีเขียวมรกตสามคู่ของมันกระพือเล็กน้อย ทำให้มันลอยอยู่กลางอากาศ
หมอกจาง ๆ ปกคลุมทั่วร่างกาย ในสายตาของผู้ชม กลีบนับไม่ถ้วนดูเหมือนจะร่วงหล่นเมื่อสเปเชียลเอฟเฟกต์เป็นประกายปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
“นั่นเป็นสไปรท์ประเภทไหน ?”
“หนึ่งชั่วโมง ฉันต้องการข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับสไปรท์นั่นในหนึ่งชั่วโมง !”
“อ้า ฉันตายแล้ว~!”
“อ้า ฉันตายแล้ว~!”
“อาเหว่ยก็ตายด้วย !”
หวงเทียนเล่ย ตกตะลึงสักครู่ก่อนที่เขาจะตอบสนอง “นั่นมันแฟรี่ผีเสื้อ ! รูปแบบสไปรท์ที่ปรากฏในปีนี้พัฒนามาจาก หนอนไหมทารก”
คำพูดของเขาดูเหมือนก้อนหินก้อนใหญ่วางบนทะเลสาบอันเงียบสงบ
ผู้ชมนับไม่ถ้วนต่างพากันตื่นเต้น
“อะไรนะ หนอนไหมทารก สามารถพัฒนาเป็นสไปรท์ที่มีรูปร่างมนุษย์ได้จริงหรอ ?”
“ฉันต้องการหนอนไหมทารก 100 ตัวในหนึ่งชั่วโมง !”
“โอ้ ฉันควรดูการแข่งขันต่อไปไหมเนี้ย ? หรือฉันควรซื้อหนอนไหมทารก เพื่อทำสัญญาทันที ?”
“ซื้อหนอนไหมทารก แน่นอน ! ฉันรู้สึกว่าวันนี้ ไม่สิ ในหนึ่งชั่วโมง หนอนไหมทารก จะเริ่มขายออกและราคาของมันจะเพิ่มขึ้น !”
ความคิดเห็นมากมายหลั่งไหลเข้ามา หวงเทียนเล่ย ตกตะลึง เขาหันไปมองเพื่อนร่วมงานของเขา ซือเหยว่หรง และถามว่า
“ฉันไม่ได้พูดถึงว่ามันยากมากสำหรับหนอนไหมทารกที่จะพัฒนาเป็นแฟรี่ผีเสื้อ ?”
…
ในหอคอย ซูฮ่าวเอื้อมมือออกไปและเดินผ่านกลีบดอกไม้ มีความรู้สึกเย็นชากับมันจริงๆ
มันใช้ความสามารถของ การแปลงร่างลวงตา และ ภาพลวงตา อย่างชำนาญมากยิ่งขึ้น
มันก็แค่นั้น…
ใช้ความสามารถที่หายากเช่นนี้เพื่อสร้างลักษณะพิเศษของรูปลักษณ์… เขายังคงรู้สึกว่ายังมีบางสิ่งที่ขาดหายไป
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ทำไมเราไม่เพิ่ม *BGM อื่นอีกนะ” **ดนตรีพื้นหลัง
มีเหตุผลมาก อุ้กกิ้ว~!
เสี่ยวเตี๋ยพยักหน้า
…
ในบรรดาทีมชายห้าคนจากมหาวิทยาลัยเกาะวาฬ มี หมีทรราช รุ่นพี่คนหนึ่งมีหน้าที่ดูแลประตูเพื่อป้องกันไม่ให้หอคอยถูกขโมย
สไปรท์ตัวอื่นๆ รวมตัวกันเป็นทีมและเข้าไปในพื้นที่ของศัตรู
ในขณะนี้มีชั้นของหมอกสีขาวลอยอยู่เหนือป่า
สไปรท์สองสามตนยับยั้งรัศมีและเดินผ่านป่า
ด้วยอุ้งเท้าเนื้อของมัน ลมปราณสีแดงที่ใหญ่ที่สุดเหยียบบนพื้นที่เต็มไปด้วยใบไม้ที่ร่วงหล่น โดยไม่ส่งเสียงใดๆ
แพะเขาอมตะที่ถือไม้เท้าเดดวูดอยู่ในมือ ดูเหมือนชายชราหลังค่อม มันไม่ช้าเช่นกัน ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ไหน กิ่งก้านที่ตายแล้วและทิ้งไว้เบื้องหลังก็สั่นสะท้านเล็กน้อย ลบร่องรอยของสไปรท์สองสามตัว
ด้านบนมีนกสีขาวตัวเล็ก ๆ วนอยู่รอบ ๆ และสำรวจบริเวณโดยรอบ
อันหนึ่งข้างหน้า อันหนึ่งข้างหลัง อันหนึ่งอันบน พวกเขาสร้างรูปแบบการป้องกันที่เรียบง่าย
ตรงกลางของขบวนมีแฟรี่ผีเสื้อซึ่งใช้มือกดเข้าหากัน ดวงตาของมันถูกปิดและปีกของมันสั่นเล็กน้อยขณะที่มันเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเร็วคงที่ อันที่จริง มันใช้การรับรู้ทางจิตวิญญาณเพื่อสำรวจบริเวณโดยรอบ
“อุ้กกิ้ว~!”
มันไม่ได้พูด แต่ใช้พลังจิตเพื่อส่งข้อความที่คล้ายกันถึงเพื่อนตัวน้อยของมัน
เจอหมาตัวใหญ่ๆ อุ้กกิ้ว~!
