77 - พวกเราอิ่มแล้ว
77 - พวกเราอิ่มแล้ว
หลิวไคไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองพวกหลินฟ่าน
เป็นเพราะเขายังเด็กเกินกว่าที่จะแบกรับความทุกข์ทรมานในขณะนี้ได้
เป็นเรื่องปกติที่เขาจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
เขาแค่ต้องการรักษาอาการบาดเจ็บของเขาและไม่ต้องการให้สิ่งใดมารบกวนเท่านั้น
ในทางเดินของโรงพยาบาลหลินฟ่านและเหล่าจางไม่ได้อารมณ์ดี พวกเขามาเยี่ยมเพื่อนด้วยความปิติ แต่สุดท้ายพวกเขากลับถูกปฏิเสธ
“เราน่ารำคาญมากไหม” ผู้เฒ่าจางถามด้วยเสียงต่ำ
"ไม่." หลินฟ่านยิ้มแต่รอยยิ้มของเขาไม่เต็มใจเล็กน้อย
แทนที่จะขึ้นลิฟต์ พวกเขาลงบันไดจากชั้นสิบสอง
ชุดแปลกๆของพวกเขากระตุ้นความอยากรู้ของผู้คนมากมาย
ในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ผู้กล้าหาญของหลี่ไหลฟู่กำลังจับตาดูพวกเขาทั้งสองคน
เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่ได้ใช้ลิฟท์แต่เลือกที่จะเดินลงบันไดโดยตรง พวกเขาจึงรู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างมากเพราะมันทำให้พวกเขาต้องวิ่งตามลงไปด้วย
ผู้ป่วยจิตเวชทั้งสองมีท่าทางซึมเศร้าเล็กน้อย พวกเขามาด้วยความหวังอันยิ่งใหญ่แต่สุดท้ายพวกเขากลับถูกผู้คนทอดทิ้งอย่างเย็นชา
ผู้คนที่สัญจรไปมาหลบหลีกพวกเขาอย่างรวดเร็ว
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาดูน่ากลัวหรืออะไรประมาณนั้น มันเป็นเพราะพวกเขามีท่าทางเศร้าโศกมากเกินไปนั่นเอง
บางทีนี่อาจจะเป็นความเหงาก็ได้
“อย่าขวางทาง รีบหลบไป”
ฉากข้างหน้าค่อนข้างวุ่นวาย
ชายหลายคนอุ้มผู้เฒ่าคนหนึ่งวิ่งเข้ามาที่โรงพยาบาลด้วยความตื่นตระหนก
ในขณะเดียวกันป้าอีกคนที่มีอายุประมาณห้าสิบเศษก็จิกหัวของผู้หญิงคนหนึ่งพยายามบังคับให้เธอตามเข้ามาด้วย
“นางสาระเลว ทุกสิ่งทุกอย่างนี้เกิดขึ้นก็เพราะแก แกยังคิดจะปฏิเสธความรับผิดชอบอีกเหรอ”
ผู้คนมากมายตามเฝ้าดูฉากนี้ด้วยความสนใจ บางคนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายด้วยซ้ำ
“หึ! พี่สาวที่แสนดี”
เมื่อหลินฟ่านเห็นภาพตรงหน้าเขา ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจนัก แต่เมื่อเห็นว่าผู้หญิงที่ถูกดึงเส้นผมอยู่นั้นคือพี่สาวที่แสนดีมันทำให้เขารู้สึกมีความสุขมาก
เขาไม่คิดว่าในช่วงเวลาอันแสนเศร้านี้เขาจะได้พบกับคนคุ้นเคย
ณ ขณะนี้.
สถานการณ์ ณ จุดเกิดเหตุ ปั่นป่วนเป็นอย่างมาก
คุณป้าคนนั้นยกมือตบหน้าพี่สาวที่แสนดีซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้ว่าเธอจะล้มลงบนพื้นคุณป้าคนนั้นยังคงลงมือไม่หยุด
“พี่สาวที่แสนดี เจอกันอีกแล้วนะ” หลินฟ่านโบกมือพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของเขา
"ไสหัวไป"
หญิงวัยกลางคนส่งเสียงคำรามใส่พวกหลินฟ่านก่อนจะลงมือทุบตีหญิงขายบริการคนนั้นอีกครั้ง
ทันใดนั้นหลินฟ่านก็จับแขนของหญิงวัยกลางคนไว้ หญิงวัยกลางคนเต็มไปด้วยความโกรธ เธอชี้หน้าของหลินฟ่านและพร้อมที่จะเอาเรื่อง
แต่หลินฟ่านยังคงยิ้ม เขารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังโกรธแต่เขาคิดว่าด้วยรอยยิ้มของเขามันจะทำให้ความโกรธของเธอเบาบางลง
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกคุณ รีบถอยออกไป” หญิงขายบริการพูดกับทั้งสองด้วยสีหน้าร้อนรน
เธอรู้ว่าสองคนนี้ป่วยทางจิต เธอไม่ต้องการให้พวกเขาถูกกระตุ้นอารมณ์โกรธขึ้นมาซึ่งไม่รู้ว่าสุดท้ายทั้งสองคนจะทำอะไรลงไปบ้าง
หญิงวัยกลางคนพยายามดิ้นรนให้หลุดจากมือของหลินฟ่าน แต่ทันทีที่เธอมองเห็นรอยยิ้มของเขาลำคอของเธอก็แห้งผากและไม่กล้าพูดอะไรอีก
“ดูเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมสิ โรงพยาบาลจิตเวชชิงซาน”
“บ้าจริง! พวกเขาเป็นผู้ป่วยทางจิต หญิงชราคนนี้กล้ามาก เธอไม่กลัวว่าพวกเขาจะแทงเธอตายในมีดเดียวเหรอ?”
เมื่อหญิงวัยกลางได้ยินคำพูดของคนรอบข้าง เธอก็ตกตะลึงและรู้สึกหวาดกลัวอย่างรุนแรง
จากนั้นเธอก็หันไปชี้หน้าของผู้หญิงขายบริการและตะคอกออกไปว่า
“แกโชคดีนะที่มีไอ้บ้าพวกนี้มาช่วย”
พูดจบเธอก็สะบัดแขนและรีบวิ่งตามชายชราเข้าไปอย่างรวดเร็ว
"ทำไมพวกคุณถึงอยู่ที่นี่?" หญิงขายบริการถาม
หลินฟ่านกล่าวว่า "เขากับผมมาเยี่ยมเพื่อน แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ต้องการให้เรามา"
ผู้เฒ่าจางรู้สึกท้อแท้และไม่มีความสุข:
“เมื่อคืนเราแอบออกมาเยี่ยมเพื่อนของเรา พวกเราจำนำสิ่งของที่ล้ำค่าที่สุดเพื่อซื้อของขวัญให้กับเขาด้วย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่อยากเป็นเพื่อนกับเราแล้ว”
หญิงขายบริการไม่รู้ว่าเพื่อนที่พวกเขาพูดถึงเป็นใคร
แต่เมื่อได้ยินว่าพวกเขาแอบออกมาเมื่อคืนนี้เธอก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
กูลูลู!
ท้องของเหล่าจางกรีดร้อง เห็นได้ชัดว่าเขาเริ่มหิวแล้ว
“ไปทานข้าวกันเถอะ” หญิงขายบริการพูด
หลินฟ่านอยากจะบอกว่าไม่ พวกเขาต้องกลับบ้านเดี๋ยวนี้
แต่ผู้เฒ่าจางขัดขืนเพราะเขารู้สึกหิวมากเกินไป ดังนั้นหลินฟ่านจึงได้แต่ตามใจผู้เฒ่าจางเท่านั้น
ร้านอาหารที่หน้าโรงพยาบาล
ผู้เฒ่าจางกำลังถือชามและดื่มโจ๊กด้วยความสุข อาหารมื้อนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ มันแตกต่างจากตอนที่พวกเขาอยู่โรงพยาบาลจิตเวชอย่างสิ้นเชิง
“อร่อยมั้ย?” หลินฟ่านถามด้วยรอยยิ้ม
ผู้เฒ่าจางพยักหน้า "อืม อร่อยมาก"
ผู้หญิงขายบริการไม่ได้อารมณ์ดีหลังจากที่พบเจอกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเมื่อเห็นท่าทางที่ร่าเริงของทั้งสองคน ทุกสิ่งที่เธอเพิ่งประสบมาก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
ใช่.
ประสบการณ์ของเธอแย่มาก
แต่เมื่อเทียบกับพวกเขา อย่างน้อยเธอก็มีอิสระและปกติมากกว่า
ขนาดคนที่ไม่ปกติเช่นพวกเขายังสามารถมีความสุขได้ เธอที่เป็นคนปกติแท้ๆทำไมถึงไม่มีความสุข?
หลินฟ่านกินอาหารน้อยกว่าเหล่าจาง เขารู้ดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขากินลงไปนั้นล้วนต้องจ่ายเป็นเงินซึ่งพี่สาวแสนดีที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นคนจ่าย ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการกินมากเกินไป
หลินฟ่านกินข้าวเพียงชามเดียวและดื่มน้ำโค้กอีกหนึ่งกระป๋องเท่านั้น
“พอมั้ย ถ้ายังไม่พอก็สั่งเพิ่มได้นะ” หญิงขายบริการถามด้วยความเอื้ออาทร
เหล่าจางกำลังจะพูดว่าผมยังอยากกินซาลาเปาอีก 2 เข่ง แต่มือของหลินฟ่านตบต้นขาของเขาเบาๆแล้วส่ายหัว
"ผมอิ่มแล้ว." หลินฟ่านยิ้ม
"ผมก็อิ่มเหมือนกัน" ผู้เฒ่าจางยิ้มอย่างมีความสุข
เมื่อเห็นท่าทางของพวกเขาหญิงขายบริการก็หัวเราะอย่างเอ็นดูแล้วตะโกนขึ้นว่า
“เถ้าแก่ขอซาลาเปาอีก 2 เข่ง”
“ไม่เป็นไร พวกเราอิ่มแล้วจริงๆ”
หลินฟ่านและเหล่าจางมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าอย่างหนักแน่น
"ไม่เป็นไร ถือว่าเลี้ยงฉลองที่ได้พบกันอีกครั้ง"
หญิงขายบริการกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทันใดนั้นละครภาคเช้าที่ฉายอยู่ทางทีวีก็ถูกตัดเข้าสู่รายการด่วน