เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 47 : สายธารอสูรโถมเข้ามายามเราซ่อมรั้วบ้าน...
ตอนที่ 47 : สายธารอสูรโถมเข้ามายามเราซ่อมรั้วบ้าน...
ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของอาณาจักรฉีซาน ณ เมืองอู่ตันของตระกูลเซียว
เมื่อวันก่อน ข่าวการขอถอนหมั้นระหว่างตระกูลซวนและตระกูลเซียวในที่สุดก็แพร่ออกไปทั่วทุกทิศ ในระหว่างที่คนเมืองอู๋ตันยังคงตกตะลึงกับเหตุการณ์วิเศษที่ปรากฏขึ้น พวกเขาก็นินทาสกุลเซียวไปด้วยเช่นกัน แต่ในอีกด้านหนึ่ง คนแซ่เซียวทั้งหลายไปเมินเฉยกับการซุบซิบของชาวบ้านร้านตลาดภายนอกเสียแล้ว
ความจริงเกี่ยวกับเรื่องในวันนั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกไป อย่างไรเสีย คนสกุลเซียวก็ยังคงหน้าบางอยู่บ้าง แถมข้อเสนอของการยกเหมืองหินวิญญาณระดับสูงถึงของแห่งก็นับว่าเย้ายวนเช่นกัน
ติ้งต่อง ติ้งต่อง...
ใจกลางเมืองอู๋ตัน อาณาเขตตระกูลเซียวบัดนี้กำลังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย พวกเขากำลังเร่งซ่อมผนังและกำแพงจวนที่พังทลายวันก่อนกันอยู่
เพราะการตื่นขึ้นของเนตรสวรรค์และนัยน์ตาหยินหยางของหลินซวน สิ่งก่อสร้างกว่าครึ่งหนึ่งของสกุลเซียวถูกทารกน้อยเป่าจนกระจุยกระจาย บางส่วนเต็มไปด้วยรอยร้าว และมีหลุมลึกตั้งอยู่ในห้องโถงหลักของตระกูล ทะลุลงไปยังเหมืองหินวิญญาณเบื้องล่าง อีกทั้งร่องรอยของลำแสงจากทักษะของหลินซวนที่ลากยาวไปจรดดินแดนรกร้างทิ้งเอาไว้
“เฮ้ย เฮ้ย ทางด้านเจ้ามีคนมากพอแล้วมิใช่หรือ?”
“ถ้าเพียงพอแล้วก็ไปซ่อมเมืองอู๋ตันโน่น กำแพงด้านตะวันตกของเมืองกว่าครึ่งถูกทำลายเชียวนา”
“พวกแซ่หลินสร้างความเสียหายถึงเพียงนี้แต่กลับลอยหน้าหายไปเฉยๆ เสียอย่างนั้น”
“ความเสียหายมหาศาลเสียจริง..”
“เอาเถิด อย่างไรเสียพวกเราก็ได้รับเหมืองหินวิญญาณระดับสูงมาถึงสองแห่งเช่นกัน”
“ยิ่งกว่านั้น พวกเราเองก็ใช่ว่าจะทำถูกต้องกับการใช้สัญญาหมั้นหมายไปกดดันผู้อื่น”
“นายน้อยเซียวซุ่ยเองก็ใกล้จะหายดีแล้วด้วย”
“เจ้าได้ยินมาหรือเปล่า? ดูเหมือนว่าร่างกายของนายน้อยจะพัฒนาขึ้น เมื่อวาน มีบางคนพบเปลวไฟสีขาวลุกโชนด้านหน้าเขาในระหว่างการบ่มเพาะเสียด้วย คาดว่าเขากำลังสกัดโอสถบางอย่างอยู่!”
“จริงหรือ? อย่างน้อย นายน้อยของพวกเราก็ดีขึ้นบ้างแล้วล่ะนะ...”
“ก็ไม่ทั้งหมด...แต่ก็เอาเถิด ข้าเองก็มิได้ชอบการออกแบบเดิมของโถงหลักสกุลเราอยู่แล้ว ได้สร้างมันขึ้นมาใหญ่ก็นับว่าเป็นเรื่องดี ฮ่าๆๆ!”
คนแซ่เซียวทั้งหลายท้ายสุดก็ยังค้นพบความสำราญใจในคราเคราะห์ของตน พวกเขาต่างก็ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย
อย่างไรเสีย มิใช่คนตระกูลเซียวทุกคนจะใจกว้างเยี่ยงนั้น บ้างก็เก็บตัวเงียบและบ่มเพาะอย่างโดดเดี่ยว ในอนาคต พวกเขายังหวังว่าตนเองจะแข็งแกร่งพอจะตบหน้าตระกูลหลินและซวนได้!
แต่ทว่า การจะล้มสกุลหลินหาได้ง่ายดายปานนั้น..
เซียวจ้านมองไปยังสมาชิกตระกูลที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาก่อนยิ้มออกมา อย่างน้อย มันก็ไมได้แย่ไปเสียทั้งหมด ซุ่ยเอ๋อร์ก็ดีขึ้นแล้ว ตระกูลเซียวจากนี้ก็จะยืนด้วยลำแข้งตนเองเพื่อพัฒนาต่อไป
ใกล้กับกำแพงเมืองอู๋ตัน คนสกุลเซียวมากมายกำลังช่วยกับซ่อมแซมกำแพงเมืองอยู่ บ้างก็กางค่ายกล ส่วนที่เหลือก็ใช้ปราณของตนหยิบจิบเอาหินก้อนยักษ์มาถมในรอยแตกของกำแพง
“ด้วยความเร็วเท่านี้ เพียงครึ่งวันก็คงมากพอ...” ใครบางคนเอ่ยขึ้นพลางเช็ดเหงื่อจากหน้าผากของตนแล้วมองไปบนท้องฟ้า
ทันใด เขาก็มองเห็นบางสิ่ง
“โอ้? กลุ่มก้อนสีดำด้านนั้นคือสิ่งใด?”
ศิษย์ตระกูลเซียวคนนั้นกำลังสับสน เขาหรี่ตาก่อนจะพยายามเพ่งมอง หลังจากใช้เวลาสักพัก สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นย่ำแย่อย่างยิ่ง!
“อะ อสูร!”
“ฮ่าๆ เจ้าล้อเล่นอันใดกัน?”
“อสูรหรือ พวกมันจะมาด้วยสาเหตุใดกัน? เป็นเจ้าโกหกพวกเราแล้ว...”
ด้านหลังของศิษย์น้อยคนนั้น ผู้บ่มเพาะคนหนึ่งหัวเราะออกมา ก่อนที่เขาจะเหาะขึ้นไปบนฟ้าแล้วมองไปยังทิศของแดนรกร้าง ทันใดนั้นเขาก็สบถออกมาอย่างตื่นตระหนก
“บัดซบ!”
นี่มันเรื่องบัดซบอันใดกัน?!”
ไกลออกไปตรงเส้นขอบฟ้า ณ ที่ตั้งของแดนรกร้าง กลุ่มก้อนสีดำมากมายกำลังก่อตัวขึ้น ก่อนจะค่อยๆ ขยายออก ปรากฏเป็นอสูรนับไม่ถ้วนปลดปล่อยปราณปิศาจออกมาพร้อมรังสีฆ่าฟัน!
หากมิใช่คลื่นอสูรแล้ว สิ่งนี้จะเป็นอะไรไปได้อีก! บัดนี้ ผู้บ่มเพาะมากมายที่กำลังซ่อมแซมกำแพงอยู่ก็มีปฏิกิริยาออกมา พวกเขากำลังมองไปด้านนั้นด้วยความตกใจถึงขีดสุด!!
“ฝูงอสูรพวกนี้มาที่นี่ได้อย่างไรกัน?”
“เร็วเข้า รีบกลับไปรายงานท่านผู้นำตระกูลเดี๋ยวนี้!”
“รีบไป!”
ศิษย์ตระกูลเซียวเร่งรีบทะยานกลับไปทันที ในเวลาเดียวกัน จอมยยุทธบางส่วนก็ถีบตัวขึ้นไปยังหอเตือนภัยก่อนจะลั่นระฆัง!
“คลื่นอสูรกำลังมุ่งหน้ามา!”
“คลื่นอสูรกำลังมุ่งหน้ามา!”
บอกได้เลยว่าเหล่าผู้บ่มเพาะสกุลเซียวช่างตอบสนองได้อย่างรวดเร็วยิ่ง
เพียงได้ยินสัญญาณเตือนดังขึ้นเท่านั้น ผู้บ่มเพาะทั้งหลายก็เริ่มเหาะขึ้นมายืนบนฟ้าทีละคนสองคน เมื่อมองเห็นฝูงอสูรมากมาย พวกเขาก็นิ่งค้างไป แต่รีบตั้งสติใดทันที หลังจากอพยพเหล่าพลเมืองธรรมดาออกไป พวกเขาก็หยิบจับอาวุธประจำกายขึ้นมาก่อนขึ้นไปเหยียบยืนด้านบนของกำแพงและเริ่มตั้งค่ายป้องกัน
ในอดีต มิใช่ว่าพวกเขาไม่เคยเผชิญหน้ากับเหล่าอสูรที่ถาโถมเขามาเยี่ยงนี้ แต่ช่างน่าเสียดาย ครั้งนี้หาได้เป็นเฉกเช่นกาลก่อนไม่
ครั้งก่อนหน้า อสูรที่บุกเข้ามานั้นเป็นเพียงเหล่าอสูรปลายแถวที่อยู่ตามชายขอบของดินแดนรกร้างเท่านั้น อย่าได้กล่าวถึงเสือดำสามหัวที่อาศัยลึกเข้าไปในแดนรกร้าง ต่อให้เป็นอสูรที่อยู่ถัดออกมาก็ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน!
บัดนี้ อสูรปิศาจเกือบสิบตนปรากฏขึ้นมาพร้อมกับ และพวกมันยังนำเอาเหล่าลูกน้องใต้การปกครองมาอีกนับไม่ถ้วน!
เมื่อรวมตัวกัน ปราณปิศาจมากมายก็พวยพุ่งคล้ายคลื่นยักษ์ในมหาสมุทร กลิ่นอายเหล่านี้พุ่งกระแทกหน้าตระกูลเซียวทันที! เมื่อปะทะเข้ากับค่ายกลป้องกันของเมือง เสือดำสามหัวและอสูรปิศาจที่เป็นชนชั้นผู้นำทัพในครั้งนี้อีกเกือบสิบตนก็กลับคืนร่างเดิมของมันทันที!
“โฮก!!”
ปิศาจวานรสูงหมื่นฉื่อ เสือดำสามหัวตัวเท่าภูเขา หมาป่าธุลีกางปีกโฉบลงจากท้องฟ้า มังกรพายุขยายร่างครอบครองนภา และอสูรพฤกษาหมื่นปีพร้อมเหล่าสมุนต่างกรีธาทัพเข้ามาล้อมรอบเมืองอู๋ตัน...
“โอ้....คุณพระช่วย....” สายตาของเหล่าผู้บ่มเพาะในเมืองมีเพียงความตื่นตระหนกถึงขีดสุด
ตูม
เสือดำสามหัวกางกรงเล็บของมันออกมาก่อนจะอัดเอาลมปราณประจุไว้ภายในแล้วตะปบใส่ม่านพลังป้องกันของเมืองอู๋ตัน สร้างรอยแตกมากมายให้เกิดขึ้น ก่อนจะหันหัวไปมองเหล่าอสูรทั้งหลายที่ติดตามมาด้วย มันเอ่ยออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำราวกับกำลังคำรามในลำคอ
“อย่าได้ซุกซน ห้ามให้มนุษย์สักคนตกตายเด็ดขาด!”
“เป้าหมายของเราในครานี้มิใช่การสังหาร แต่เป็นการตามหาข่าวคราวของแท่นบูชาห้าสีของเขา!”
“หากพวกเจ้าต้องการละเลงเลือด หลังจากได้พบแท่นบูชาแล้วอยากจะทำสิ่งใดก็ตามแต่ใจ”
“ทุบตีพวกมันให้อ่วม เราจะถามทีหลัง!”
“ถามพวกมันเกี่ยวกับปรากฏการณ์นั้นและแท่นบูชามาให้กระจ่าง!”
ดวงตาของเหล่าอสูรที่เหลือเต็มไปด้วยประกายตื่นเต้น พวกมันผงกหัวรับราวกับไก่จิกข้าวสาร จากนั้น พวกมันก็หันไปจ้องเล่นงานมนุษย์บนกำแพงเป็นเป้าหมายแรกทันที!