ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 68 ภารกิจแรก(ฟรี)
วาเรี้ยนรู้สึกกดดันอย่างมากเมื่อเขากำลังขึ้นมาบนชั้นห้า
ราวกับว่าเขาจมดิ่งลงไปในมหาสมุทรโดยที่ตัวถูกถ่วงด้วยหินอยู่และต้องหาทางว่ายเอาชีวิตรอด
อ่อนแอนั่นคือความรู้สึกที่เขารู้สึกกับตัวเองเมื่อเจอกับบุคคลที่อยู่ชั้นนี้
นักเรียนปีที่ 2 ระดับ 5 คนเหล่านี้เป็นหัวกะทิของหัวกะทิ
ในสถาบันฝึกทหารจักรพรรดินักเรียนนายร้อยโดยเฉลี่ยจะเข้ามาโดยที่ยังเป็นระดับ 2 และก้าวไปสู่ระดับ 3 ในปีที่สองของพวกเขา
จากนั้นพวกเขาจะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆและก้าวไปสู่ระดับ 4 ในปีที่สาม พวกเขาจะสำเร็จการศึกษาโดยที่เป็นระดับ 4 และจบออกไปเป็นทหาร
แต่ถ้าหากว่าเป็นพวกอัจฉริยะ...
พวกเขาเข้าร่วมสถาบันการศึกษาที่ระดับ 3 พวกเขาจะก้าวไปสู่ระดับ 4 ภายในสิ้นปีแรกและเข้าสู่ระดับ 5 ภายในสิ้นปีที่สอง ในปีที่สามพวกเขาจะก้าวกระโดดไปสู่ระดับ 6
แต่คนพวกนี้ไม่มีใครที่สามารถไปถึงระดับ 7 ได้ก่อนจบการศึกษา มีความห่างระหว่างระดับ 6 และระดับ 7 อยู่มากคล้ายกับการจะขึ้นจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 แต่ความยากห่างกันลิบลับ
ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่ระดับ 6 จะสามารถเลื่อนขึ้นเป็นระดับ 7 ได้
'พวกอัจฉริยะไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างสักหน่อย' วาเรี้ยนคิดขณะเดินเข้าไปในห้องโถง
ชาร์ลลี แซนเดอร์ เป็นระดับ 6 เมื่อเขาจบปีที่ 2 นี่คือผู้ชายที่ก้าวข้ามคำจำกัดความของอัจฉริยะ
อย่างไรก็ตามการก้าวขึ้นสู่ระดับ 7 นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แม้แต่ชาร์ลลี แซนเดอร์ก็ถูกคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาอย่างน้อยสองปี
'แต่คุณสามารถตัดสินเขาด้วยวิธีการแบบธรรมดาๆได้หรอ' วาเรี้ยนรู้สึกกังวลเล็กน้อย
การมาของเขาดึงดูดความสนใจของรุ่นพี่เป็นอย่างมาก บางคนเลิกคิ้วด้วยความไม่พอใจ และบางคนก็เพิกเฉยต่อเขาทันทีหลังจากสัมผัสได้ถึงออร่าของเขา
อย่างไรก็ตาม มีไม่กี่คนที่เดินเข้ามาหาเขาด้วยสายตาที่คุกคาม
พวกที่เดินเข้ามาวาเรี้ยนสัมผัสได้ว่าเป็นพวกที่ออร่าอ่อนแอที่สุดในห้อง แต่สำหรับวาเรี้ยนพวกเขายังแข็งแกร่งกว่าเขาอยู่หลายเท่า
"ลงไปซะ"
“เห้ยมึงคิดว่าที่นี้เป็นที่สำหรับมึงหรอ?”
“กล้าดียังไงมาขึ้นมาที่ชั้นนี้”
ตามที่คาดไว้ โลกใบนี้ไม่เคยขาดคนแบบนี้ คนประเภทที่ถ้าเห็นคนที่อ่อนแอกว่าก็จะเข้ามารังแกและพูดจาดูถูกอยู่เสมอ
หนึ่งในรุ่นพี่พูดว่า:
“มึงรู้ไหมว่าปู่ของฉันเป็นใคร”
'เดี่ยวนะ! คุณปู่ของพี่เกี่ยวอะไรกับชั้นนี้หรอครับ เขาเป็นรปภ. ที่ชั้น 5 หรอคร้าบ?' วาเรี้ยนอยากจะพูดออกมาแบบนี้มากแต่เขาก็อดทนไม่พูดออกไป
เขาเปิดข้อความและฉายรายละเอียดคำเชิญของทีมแทน
{ชื่อทีม: เซียร่า
จำนวนสมาชิก: 5
เชิญ: วาเรี้ยน}
"หือ..."
รุ่นพี่ทั้งสี่คนสูดหายใจเข้าอย่างเย็นชา
"ฝืด" (เสียงหายใจ)
"ฝืด"
ครู่ต่อมาพวกเขาคุกเข่าโดยไม่ลังเลและขอร้อง:
“น้องชาย พี่มีตาหามีแววไม่”
“พี่สมควรตาย แต่พี่ขอร้องนายหล่ะ พี่มีพ่อแม่ที่แก่เฒ่าอยู่ที่บ้าน”
“พี่มีลูกสามคน ลูกคนที่สามยังอยู่ในท้องเมียพี่อยู่เลย”
“ได้โปรดไว้ชีวิตพี่ด้วย เดี่ยวพี่จะเรียกน้องชายว่าท่านเลย”
'อะไรวะ! พวกเขาบ้าหรือว่าฉันมาผิดที่!' วาเรี้ยนพยายามออกห่างจากคนพวกนี้และมองไปรอบๆ
ตรงข้ามกับโฮโลแกรมมีโต๊ะที่สวยงาม ระบบของเขาชี้มาทางนี้ว่าเพื่อนร่วมทีมอยู่ และเขาก็เดินเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ
มีสี่คนนั่งอยู่รอบโต๊ะสีน้ำเงิน มีผู้ชายสองคนและผู้หญิงสองคน
'เอ๊ะ? พวกเขากำลังรอใครอยู่?' วาเรี้ยนไม่คิดว่าจะเป็นเขา
"สวัสดีครับ ผมชื่อวาเรี้ยนขอบคุณสำหรับโอกาส ผมจะทุ่มเทให้ดีที่สุดครับ" เขาแนะนำตัวและโค้งคำนับเบาๆ
ชายหนุ่มผมสีแดงกำลังดูข้อความของเขาและเหลือบมองเขาครู่หนึ่งแล้วไม่สนใจเขา ผู้ชายอีกคนหนึ่งตัวอ้วนโบกมือและพูดอย่างประชดประชันว่า "อ่า อ่า"
ผู้หญิงตัวเล็กของกลุ่มก็เมินเขา หญิงสาวในทีมผมสีน้ำตาลยิ้มให้เขาและพูดว่า “นั่งเถอะ เรากำลังรอกัปตันอยู่”
วาเรี้ยนยิ้มอย่างสุภาพและนั่งลง
การเผชิญหน้ากับคนพวกนี้ช่างน่าอึดอัดใจจริงๆ
'ครั้งหน้า ฉันจะทำภารกิจด้วยตัวเอง' เขาคิดกับตัวเอง
เขามองไปที่ทั้งสี่และเห็นว่าพวกเขาทั้งหมดยุ่งกับการดูระบบของพวกเขา
คนหนึ่งกำลังดูการดวลของผู้ปลุกพลังระดับสูงและศึกษา อีกคนกำลังอ่านหนังสือออนไลน์เกี่ยวกับอะบิซอล อีกสองคนที่เหลือกำลังตรวจสอบบันทึกล่าสุดของ "อันดับสมบัติ?"
วาเรี้ยนไม่พยายามรบกวนพวกเขาและเช็ครายละเอียดของภารกิจแทน
{ร่องรอยอะบิซอล:
อะบิซอลใช้อุโมงค์ข้ามมิติไป 2,300 ครั้งในเดือนที่ผ่านมาและเข้าสู่ดันเจี้ยนระดับต่ำมากมายบนโลก
พวกมันสามารถปกปิดตัวเองด้วยวิธีบางอย่างที่เราไม่รู้ แต่ด้วยเหตุผลที่พวกอะบิซอลเข้าสู่ดันเจี้ยนมากขึ้นเรื่อยๆก็ยิ่งอันตรายสำหรับนักผจญภัยมากขึ้นเท่านั้น
อะบิซอลมุ่งเป้าไปที่พวกอัจฉริยะโดยเฉพาะ จนถึงขณะนี้ มีผู้เสียชีวิต 302...303 ราย
ค้นหาว่า อะบิซอลซ่อนตัวอยู่ที่ไหนและมันทำได้อย่างไร}
จำนวนผู้เสียชีวิตได้รับการอัปเดตแบบเรียลไทม์และเพิ่มขึ้นทุกวัน
วาเรี้ยนนึกถึงคำพูดของผู้ตรวจการ
'มีข่าวลือว่านักเรียนนายร้อยของสถาบันฝึกทหารจักรพรรดิจะถูกส่งไปตรวจสอบเรื่องนี้'
'แต่ระดับ 5? นี้มันไม่มากเกินไปหน่อยหรอ?' เขาสงสัยและยังคงตรวจสอบรายละเอียดภารกิจต่อไป
{Mp ขั้นต่ำ: 3000
Mp พิเศษได้รับรางวัลตามผลงาน
Target: ดันเจี้ยนเวอร์จิน}
“หือ...” วาเรี้ยนตกใจ
ดันเจี้ยนเวอร์จิน!
ทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขาเกือบตาย
'ฉันเริ่มรู้สึกว่าภารกิจนี้จะมีลางไม่ค่อยดี...'
“เฮ้ น้องชาย ฉันจะเรียกเธอว่าวาเรี้ยน” ผู้หญิงผมสีน้ำตาลพูดและพูดต่อ “ภารกิจนี้อาจดูง่าย แต่ศัตรูทั้งหมดอยู่ที่ระดับ 5
พูดตามตรง เธอจะไม่ช่วยอะไรเลยและจะกลายเป็นภาระแทน แต่เนื่องจากกัปตันเป็นหนี้บุญคุณใครซักคน กัปตันเลยยอมให้นายเข้าร่วมทีมด้วย
ทำตามที่เราพูด ช่วยงานเราเท่าที่ทำได้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากครั้งนี้ให้ได้เยอะๆละ"
วาเรี้ยนรู้สึกไม่สบายใจในตอนแรก แต่ตระหนักว่าเธอเป็นเพียงคนซื่อตรง ไม่มีการใช้น้ำเสียงดูถูกเธอแค่พูดในสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ
“ผมจะพยายามไม่สร้างปัญหาให้ครับ” เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า
'ตอนนี้ผมอ่อนแอ แต่อีกไม่นานหรอก'
รุ่นพี่ผู้หญิงตรวจสอบระบบและยืนขึ้น
“งั้นก็ไปกันเถอะ กัปตันบอกว่าให้ไปเจอกันที่ตำแหน่งที่จะทำภารกิจเลย” เธอพูดแล้วพวกเขาก็ออกจากอาคารภารกิจทันที
พวกเขาขึ้นรถโฮเวอร์ที่เป็นสมบัติดวงดาว ซึ่งเร็วกว่ารถโฮเวอร์ปกติมาก และในเวลาไม่กี่นาที วาเรี้ยนก็พบว่าตัวเองอยู่หน้าประตูดันเจี้ยนที่คุ้นเคย
แต่มีบางอย่างเปลี่ยนไป ดันเจี้ยนได้รับการป้องกันอย่างเข้มงวดกว่าเดิมมาก วาเรี้ยนรู้สึกได้ถึงออร่าที่แข็งแกร่งเท่ากับระดับ 5
ประตูคริสตัลที่ปกคลุมไปด้วยอักขระ ประตูที่เกือบจะปลิดชีวิตเขา แต่ก็ได้ชีวิตใหม่จากการได้ออกจากประตูนี้เหมือนกัน
เขาหายใจเข้าลึกๆครั้งนี้เขาแตกต่างจากครั้งแรกที่มา
"ไปกันเถอะ" เสียงที่เย็นชาและเสียงนั้นเป็นของกัปตัน
วาเรี้ยนหันไปเห็น ซาร่าห์ รุ่นพี่ที่ตอนนั้นขี่บนมังกรน้ำแข็งตอนนี้อยู่ในชุดต่อสู้แบบเต็มระบบ...