173-174
1/4
Ep.173
“ในเมื่อเธอไม่เห็นด้วย งั้นคงต้องใช้กำลังบังคับ” หลี่หวู่ชางหัวเราะคลุ้มคลั่ง
วินาทีถัดมา ทั้งร่างเขาหายวับไปจากจุดเดียว
เห็นภาพนี้ ม่านตาของอันหยุนหลานหดลีบลงทันที
ลมหายใจต่อมา หลี่หวู่ชางปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าอันหยุนหลานในระยะประชิด สับขวานยักษ์ในมือลง เกิดแรงเสียดสีในอากาศก่อเป็นลมกรรโชกแรง
ท่ามกลางช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ มีดบินลอยจากมือของอันหยุนหลาน ปะทะเข้ากับด้ามขวานอย่างแม่นยำ
ติ๊ง!
ตามด้วยเสียงโลหะอันคมชัด มีดบินแหลกเป็นเสี่ยงๆในพริบตา อย่างไรก็ตาม ขวานยักษ์ของหลี่หวู่ชางได้เปลี่ยนทิศทางเล็กน้อยเพราะผลกระทบจากมัน เฉียงตัดลงด้านข้างของอันหยุนหลานแทน
บรึ้มมม!
บังเกิดเสียงคำรามดังสนั่น พื้นดินถูกตัดเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ ลากยาวออกไปหลายเมตร
อันหยุนหลานพ่นลมหายใจฮึ่ม ถีบตัวถอยอย่างแรง ขณะเดียวกันสีหน้าเธอซีดลงยิ่งกว่าเดิม
เพราะการควบคุมมีดบินเข้าสกัดกั้นการโจมตีของหลี่หวู่ชางเมื่อครู่ มันได้สูบพลังจิตที่พึ่งฟื้นฟูของอันหยุนหลานจนเหือดแห้งไปแล้ว อีกทั้งตัวมีดยังแหลกเป็นเสี่ยงๆ
ห้ามลืมนะว่าจิตวิญญาณของอันหยุนหลานนั้นเชื่อมโยงกับอาวุธ เมื่อมันพังทลาย จึงเกิดอาการปวดร้าวในใจ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ของผลกระทบทางจิต
หลี่หวู่ชางเห็นแบบนั้น ประกายดุร้ายสะท้อนในแววตาเขา มิได้สงสารคู่ต่อสู้ของตนเลยแม้แต่น้อย เร่งระดมโจมตีอีกครั้ง
เนื่องจากพลังจิตแทบไม่มีเหลือแล้ว บวกกับผลกระทบทางจิตและอาการบาดเจ็บภายใน ส่งผลให้อันหยุนหลานต้านได้อีกไม่กี่ลมหายใจก็หมดแรง ถูกหลี่หวู่ชางซัดเข้าเต็มรักจากเบื้องหลัง
ฟุฟฟฟ!
ในฐานะผู้ใช้พลังจิต ความแข็งแกร่งทางกายภาพของอันหยุนหลานจึงด้อยกว่าผู้ใช้พลังประเภทอื่นๆมาก
หนึ่งหมัดที่โดนนี้ อันหยุนหลานรู้สึกราวกับถูกรถยนต์ที่วิ่งชนอย่างแรง วิสัยทัศน์เกือบวูบดับลง เลือกพุ่งจากปาก อีกทั้งยังมีเสียงกร๊อบดังออกมา ดูเหมือนว่าซี่โครงจะหักไปหลายซี่!
ถูกชกอย่างแรง อันหยุนหลานร่วงลงกับพื้นทันที เกิดเสียงปุกพร้อมฝุ่นฟุ้งกระจาย
“ฮี่ ฮี่ เป็นผู้ใช้พลังจิตแต่ดันไม่เหลือพลังจิตให้ใช้ มาดูกันซิว่าเธอจะสู้ต่อยังไง” หลี่หวู่ชางเดินเข้ามาตรงหน้าอันหยุนหลาน เอ่ยด้วยรอยยิ้มหยาม
“โถ โถ ดูสภาพของเธอตอนนี้สิ ทั้งๆที่แค่ยอมรับปากว่าจะเป็นผู้หญิงของฉัน ก็คงไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานแบบนี้แท้ๆ”
“แค่ก” ได้ยินคำนี้ อันหยุนหลานไอออกมาสองครั้ง เลือดสีแดงหยดย้อยจากมุมปากเธอ สายตาแสดงชัดถึงความฉุนเฉียว
‘วันนี้ฉันต้องตกอยู่ในมือของเจ้าหมอนี่จริงๆน่ะหรือ?’ อันหยุนหลานอดคิดขึ้นมาไม่ได้ รอยยิ้มเศร้าโศกผุดขึ้นบนใบหน้าเธอ
แต่ในเวลานั้นเอง เสียงของคนรู้จักแว่วเข้ามาในหูเธอ ลมหายใจที่เดิมอ่อนแรงกระตุกวูบ รอยเลือดฝาดผุดขึ้นบนใบหน้าเธอ ราวกับว่ามันกลับมาสดใสอีกครั้ง!
“พี่ชาย ตรงนี้แหละ” เสียงใสของเด็กน้อยดังขึ้น
“อืม ฉันรู้แล้ว ... หืม? ดูเหมือนจะมีคนรู้จักอยู่ด้วย”
“คนรู้จัก? พี่ชาย งั้นรีบเข้าไปดูกันเถอะ” เสียงเด็กน้อยดังขึ้นอีกครั้ง
ได้รับฟังบทสนทนานี้ หลี่หวู่ชางเพ่งความสนใจไปยังทิศทางนั้นทันที เพราะท้ายที่สุดแล้ว ตัวตนที่สามารถหัวเราะพูดคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติท่ามกลางพื้นที่รกร้างเช่นนี้ พลังรบสมควรไม่เลวร้าย
--ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าหนึ่งในเจ้าของเสียงเป็นเด็ก!
2/4
Ep.174
อันหยุนหลานเมื่อได้ยินบทสนทนานี้ ความรู้สึกเหลือเชื่อวาบผ่านเข้ามาในแววตา นั่นเพราะเสียงนี้ช่างคุ้นเคย มันคือเสียงของชายคนหนึ่งที่ได้ตายไปแล้วสำหรับเธอ
ต่อมา ไม่ไกลจากป่าทึบ พงหญ้าสั่นไหว จากนั้น ร่างสองร่าง หนึ่งใหญ่หนึ่งเล็กได้ก้าวออกมา ปรากฏสู่สายตาของอันหยุนหลานและหลี่หวู่ชาง
หลี่หวู่ชางเดิมระวังตัวมาก แต่เมื่อเห็นว่าสองคนที่ออกจากป่าเป็นแค่วัยรุ่นกับเด็กสาวที่อายุไม่น่าจะเกิน 7-8 ขวบ เขาพลันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาในคราเดียว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่าเจ้าเด็กสองคนนี้ไม่รู้ว่าต้องโชคดีขนาดไหน ถึงบังเอิญรอดมาได้ ไม่ถูกพวกสัตว์กลายพันธุ์ในพื้นที่รกร้างจับกินเอา” หลี่หวู่ชางระเบิดเสียงหัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
“อันหยุนหลาน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” คล้ายไม่ได้ยินเสียงของหลี่หวู่ชาง เสียงหัวเราะเบาๆของชายหนุ่มดังขึ้น
“ฉู่เซวียน!” ได้เห็นใบหน้าอันคุ้นเคย อันหยุนหลานอุทานด้วยความประหลาดใจ
ในวันนั้น เธอและพวกเฉียวหลวนเห็นกับตา ว่าฉู่เซวียนถูกผู้แข็งแกร่งระดับลอร์ดลอบโจมตี
ซึ่งตอนนั้นฉู่เซวียนมีพลังรบอยู่แค่เลเวล 5 เท่านั้น มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เขาจะรอดชีวิต
หลังจากนั้น อันหยุนหลานรู้สึกโศกเศร้ากับการตายของฉู่เซวียนอยู่เป็นเวลานาน ไม่นึกฝันเลยว่าจะได้พบหน้าเขาอีกครั้ง
“ฉู่เซวียน?” เดิมหลี่หวู่ชางก็โกรธอยู่แล้วที่ถูกเมิน แต่เมื่อลองย้อนนึกพลางเอ่ยทวนชื่อนี้ ดวงตาเขาเป็นประกายขึ้นทันใด
นั่นเพราะหลี่หวู่ชางนึกออกแล้ว ว่าชื่อๆนี้คือเจ้าของฉายาเทพมรณะที่มีชื่อเสียงในฐานเทียนหัวเมื่อไม่กี่เดือนก่อน!
“แกคือฉู่เซวียนที่ครั้งนึ่งเคยถูกเรียกว่าเทพมรณะในฐานเทียนหัวใช่ไหม?” หลี่หวู่ชางเอ่ยขึ้น
เวลานี้ ฉู่เซวียนค่อยเบนสายตาไปยังชายร่างใหญ่ที่เขาเมินเฉยมาโดยตลอด เผยยิ้มออกมา เอ่ยปากว่า “ถ้าชื่อนี้มีแค่หนึ่งไม่มีสอง คนๆนั้นก็คงเป็นฉัน”
“ฉู่เซวียนรีบหนีไป นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!” อันหยุนหลานร้องเตือนด้วยน้ำเสียงที่ไม่เคยใช้มันกับหลี่หวู่ชางมาก่อน
“นังแพศยา! หุบปากซะ!” ได้ยินแบบนั้น หลี่หวู่ชางเหวี่ยงฝ่ามือ ตบฉาดเข้าที่ใบหน้าของอันหยุนหลานทันที
เกิดเสียงเพี๊ยะดังสนั่น ดวงตาข้างที่ถูกตบของอันหยุนหลานแดงก่ำ จับจ้องไปยัง หลี่หวู่ชางด้วยความโกรธแค้น
เห็นภาพนี้ ฉู่เซวียนขมวดคิ้วมุ่น ใบหน้าเขาเย็นชาลง
“พี่ชาย ฉันไม่ชอบเจ้าหมอนี่เลย” อี้อี้กระซิบคุยกับฉู่เซวียน
“โย่ว ทำไมทำหน้าแบบนั้น โกรธฉันหรอ?” สังเกตเห็นได้ถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่เซวียน หลี่หวู่ชางผุดยิ้มยียวน
ณ เวลานี้ หลี่หวู่ชางถือว่าอันหยุนหลานคือเกล็ดย้อนของเขา การที่จู่ๆได้เห็นอารมณ์ของเธอเปลี่ยนแปลงไปหลังจากพบหน้าฉู่เซวียน มันทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมาก
ในความคิดเขา ฉู่เซวียนเป็นแค่ผู้ชายที่โชคดี บังเอิญได้รับฉายาเทพมรณะ จนทำให้ อันหยุนหลานตกหลุมรักก็เท่านั้น
“แกสมควรตาย” ฉู่เซวียนกล่าวเสียงเย็น
ได้ยืนเสียงที่ฟังดูแสนจะหยิ่งผยองจากฉู่เซวียน แวบแรกหลี่หวู่ชางชะงักไปครู่หนึ่ง แต่แล้วก็หัวเราะออกมา
“เป็นแค่ผู้ใช้พลังเลเวล 4 กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้ต่อหน้าฉัน!” รอยยิ้มหยามผุดขึ้นบนใบหน้าหลี่หวู่ชาง พร้อมสาวเท้าก้าวออกไป ปลดปล่อยแรงกดดันในพริบตา
ในความเข้าใจของหลี่หวู่ชางที่มีต่อฉู่เซวียน ข้อมูลที่เขารู้ยังเป็นข้อมูลเดิมก่อนฝ่ายหลังออกจากฐานเทียนหัว
ในเวลานั้นความแข็งแกร่งของฉู่เซวียนยังอยู่ที่เลเวล 4 ขั้นปลาย ต่อให้ตัดผ่านได้สำเร็จอย่างมากสุดก็ยังอยู่แค่เลเวล 5 ขั้นต้น
ขณะที่หลี่หวู่ชางเวลานี้อยู่ที่เลเวล 5 ขั้นกลางแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะมั่นใจว่าตนย่อมชนะ
ในความเห็นของหลี่หวู่ชาง ตราบใดที่สามารถสังหารฉู่เซวียนต่อหน้าอันหยุนหลาน มันต้องสร้างผลกระทบต่ออันหยุนหลานได้อย่างมหาศาล
และเมื่อทำเช่นนั้น ไม่เพียงเขาจะได้ครอบครองร่างกายของอันหยุนหลาน แต่ยังอาจสามารถคว้าใจเธอมาครองได้อีกด้วย!