เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 44 : ปิศาจจากห้วงเหวลึก!
ตอนที่ 44 : ปิศาจจากห้วงเหวลึก!
ในอ้อมแขนของซวนหยานหราน หลินซวนกำลังสังเกตบรรพชนหลินจากระยะไกล
แต่เขาคงไม่มีทางรับรู้ได้ว่าตาแก่คนนั้นกำลังคิดสิ่งใดอยู่
ในตอนนี้ หลินซวนรู้สึกปวดใจพอสมควร นั่นคือบรรพบุรุษแซ่หลิน? ช่างเต็มไปด้วยความกดดัน
‘อย่างไรเสีย ข้าควรจะใช้เวลาบ่มเพาะให้มากยิ่งกว่านี้ อย่างไรเสียความแข็งแกร่งของเราก็นับว่าสำคัญที่สุด!’
เมื่อบรรพชนออกจากการกักตัวฝึกวิชา เพียงก้าวเดียวกลับสังหารนักฆ่าสกุลหวังทั้งหมด ช่างยิ่งใหญ่นัก
ในเวลาเดียวกัน ณ แดนรกร้างโบราณซึ่งห่างไกลจากตระกูลหลิน บางสิ่งที่ผิดปกติกำลังก่อตัวขึ้น
ดวงจันทร์และหมูดาวหายไปจากท้องฟ้า มีเพียงความมืดมิดไร้จุดสิ้นสุดทาทับไปทั่วทุกที่
“พวกเราจะเข้าไปจริงหรือ?”
สัตว์อสูรกว่าสิบตัวกำลังถกเถียงกับอยู่ด้านข้างของพื้นที่ว่างเปล่าแห่งหนึ่ง
ในหมู่อสูรเหล่านี้มีปักษานรกขุมเก้า เสือดำสามหัว และอสรพิษแมงป่องรวมอยู่ด้วย
เพียงตัวเดียวก็ปลดปล่อยกลิ่นอายทรงพลังและป่าเถื่อนออกมามากมาย
พวกมันล้วนเป็นอสูรเลื่องชื่อของแดนรกร้างแห่งนี้ทั้งสิ้น
แต่ละตัวครอบครองอาณาเขตกว้างใหญ่ และเป็นที่หวาดกลัวไปทั้งอาณาจักรฉีซาน
แต่ในเวลานี้ พวกมันกลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ก่อนเหลือบมองไปยังห้วงเหวลึกด้วยสายตาสั่นสะท้าน
“เหมือนว่าพวกเราจะไร้ทางเลือก”
ที่นี่คืออาณาเขตต้องห้ามของแดนรกร้าง
ในแดนรกร้างเก่าแก่นี้ พวกสัตว์อสูรทั้งหลายรู้รับทราบกันดีว่าบริเวณนี้นับว่าเป็นสถานที่ต้องห้าม มิควรเฉียดกรายเป็นอันขาด
เพราะที่แห่งนี้คือสัญลักษณ์แห่งความตาย หลายพันปีมาแล้ว ไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตใดกล้าพอจะก้าวเท้าเข้าไป
ไม่มีใครรู้ว่าสถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อใด แต่อย่างไรเสีย พวกมันล้วนรับรู้จากต้นตระกูลอสูรว่าแม้พวกมันจะสามารถไปยังที่ใดก็ได้ในแดนรกร้างที่กว้างใหญ่นี้ แต่มีเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ไม่ควรเสนอหน้าเข้าไป
มีข่าวลือกันมาว่าที่แห่งนี้มีปิศาจร้ายถูกผนึกอยู่ใต้ก้นเหวลึก
บ้างก็บอกว่าหุบเหวนี้ปลายทางของมันเชื่อมต่อกับขุมนรก!
มีกระทั่งว่าอันที่จริงแล้วข้างใต้นั้นเคยเป็นสมรภูมิของสิ่งมีชีวิตบรรพกาล แต่ยังคงมีบางส่วนที่รอดมาจากการสู้รบและหลับใหลอยู่ในนั้น
แต่นั่นก็เป็นเพียงตำนานเท่านั้น ไม่มีอสูรตัวใดรู้ความจริงว่าสิ่งใดกันแน่ที่ซ่อนอยู่ในก้นเหว!
คำกล่าวว่าที่นี่คือสัญลักษณ์แห่งความตายเป็นสิ่งที่พูดต่อกันมาเนิ่นนานจนนับเวลามิได้
จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อน บางอย่างก็ปะทุออกมาจากหุบเหวนั้นโดนไม่มีสัญญาณเตือน!
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดสัมผัสได้ถึงโทสะอันมากล้นที่พวยพุ่งออกมาจากภายในก้นเหวนั้น!
หมอกหนาสีดำระเบิดออก แล้วทันใดสิ่งมีชีวิตและไร้ชีวิตโดยรอบรัศมีแสนลี้ก็สลายกลายเป็นฝุ่นผง
หลังจากหมอกจางหายไป ก็ไม่เหลือสิ่งใดอีกเลย มีเพียงความว่างเปล่าที่ปรากฏตัวมาแทนที่
และแล้วก็มีสัญญาณบางอย่างมาจากใต้เหวลึก
“เขา” ต้องการให้อสูรปิศาจทุกตัวในแดนรกร้างมารวมกันที่นี่
บัดนี้ ด้านนอกของเขตต้องห้าม ปรากฏร่างของสัตว์ปิศาจมากมายที่พร้อมใจกันคุกเข่าลงกับพื้น
ก่อนจะได้รับคำสั่งให้เหยียบย่างเข้าไปในอาณาเขตต้องห้าม!
ในหมู่อสูรเหล่านี้ ตัวที่เล็กที่สุดมีความสูงราวสามร้อยฉื่อ และตัวที่สูงที่สุดมีขนาดถึงหนึ่งพันฉื่อ
ร่างกายของพวกมันดูราวกับภูเขาเดินได้ แต่ในสายตาของสิ่งมีชีวิตจากห้วงเหวแล้วนั้น อสูรเหล่านี้เป็นเพียงฝุ่นผงเท่านั้น
เหล่าสัตว์ปิศาจทำได้เพียงมองหน้ากันไปมา ก่อนจะกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงไปในลำคอ ความยิ่งใหญ่ของพวกมันที่เคยมียามอยู่ภายนอกครั้งปกครองอยู่ในดินแดนรกร้างหมดสิ้นไป เหลือเพียงลูกสัตว์ตัวน้อยๆ ที่เดินอย่างสั่นเทา
เหม่อมองไปยังหุบเหวลึกสุดหยั่งเบื้องหน้า ในใจพวกมันคิดเพียงว่าที่นี่ราวกับเชื่อมต่อลงไปยังขุมนรกโลกันตร์
พริบตาเดียวที่มอง วิญญาณของมันคล้ายถูกดูดลงไปยังก้นเหวนั้น!
“พวกเราไม่ควรอยู่ที่นี่ แต่ก็มิสามารถต่อต้านเจตจำนงของเขา”
เมื่อค้นหาในหมู่พวกมันก็พบว่าเสือดำสามหัวเป็นผู้กล่าวขึ้น
เสือดำตัวนี้นับได้ว่ามีชีวิตมายาวนาน
ในตอนนั้นเอง ใบหน้าของมันก็เศร้าหมองลงก่อนเอ่ยออกมาช้าๆ
“ข้าจะเข้าไปก่อนเอง!”
หลังพูดจบ เสือดำสามหัวตนนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกยาว ก่อนจะกระโจนเข้าไปยังห้วงเหวลึก
เห็นภาพเสือดำตัวนี้กระโดดลงไป เหล่าอสูรที่เหลือขบฟันแน่น เตรียมตัวเตรียมใจชั่วเสี้ยววินาที และทั้งหมดก็กระโดดตามลงไปยังห้วงลึกสุดหยั่งนั้นตาม!
แน่นอนว่าพวกอสูรปิศาจเหล่านี้ล้วงต้องรู้สึกหวาดเกรงยิ่ง การกระโดดลงไปในหุบเหวดำมืดนี้ราวกับพวกมันกำลังร่วงหล่นการสวรรค์ไปยังนรกอันไร้ที่สิ้นสุด
มิรู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าใด ก่อนจะพบว่าพวกมันตกถึงก้นบึ้งของเหวนี้ในที่สุด
ด้านล่างนั้นเงียบสงัดและมืดมิด ไร้ซึ่งสรรพเสียงใด มีเพียงบรรยากาศไม่น่าพิสมัยล่องลอยไปทั่วเท่านั้น
เหล่าอสูรทำได้เพียงค่อยๆ เปล่งแสงเลือนรางออกมาจากร่างกายเพื่อที่พวกมันจะได้มองเห็นสภาพแวดล้อม
ทันใดนั้น พวกมันก็คล้ายถูกถอนขนขอดเกล็ด!
เพราะสิ่งที่พวกมันเหยียบยืนอยู่นั้นหาใช่พื้นดินเช่นปกติไม่ แต่เป็นกองกระดูกมหาศาล!
กระดูกเหล่านี้ปกคลุมไปทั่วผืนดิน คล้ายมหาสมุทรสีขาว!
“สิ่งมีชีวิตจำนวนเท่าใดกันที่ตกตายอยู่ ณ ที่นี้?” อสูรบางตัวเอ่ยขึ้นอย่างยากลำบาก ลำคอของมันแห้งผากราวกับอยู่ในทะเลทราย
“รีบออกเดินทางกันเถิด ข้าสัมผัสได้ว่า”เขา“มิใช่ผู้ที่มีความอดทนมากนัก” มีบางตนเอ่ยขึ้นอย่างหวาดระแวง
พวกมันทั้งหมดพยักหน้าเห็นด้วย
ด้วยความช่วยเหลือจากแสงสว่างเล็กน้อย พวกมันกำลังมุ่งหน้าไปเรื่อยๆ อย่างเชื่องช้า
อันที่จริงแล้ว หากเป็นโลกเบื้องบน สถานที่ที่พวกมันปกครองอยู่ แสงย่อมมิใช่สิ่งจำเป็นในการมองเห็นของพวกมันอย่างใด
อย่างไรเสีย แสงนี้มิใช่เพื่อช่วยให้พวกมันมองเห็น แต่เพื่อให้รู้สึก “ปลอดภัย” ขึ้นมาบ้างเท่านั้น
ที่ด้านบน ในดินแดนรกร้างนั้น พวกมันคือราชา จ้าวแห่งแผ่นดิน ปกครองพื้นที่กว้างใหญ่ ยิ่งยงเกรียงไกร เข่นฆ่าชีวิตมานับไม่ถ้วน ไม่เคยจำเป็นต้องเกรงกลัวสิ่งใด
มาบัดนี้ กลับต้องการแสงเพียงน้อยนิดเพื่อกลบเกลื่อนความหวั่นเกรงในจิตใจ
ช่างดูเป็นการเย้ยหยันเหล่าอสูรปิศาจยิ่งนัก ท้ายสุดแล้วพวกมันก็สามารถหวาดกลัวความมืดได้เช่นกัน!
นี่แสดงให้เห็นว่าที่แห่งนี้น่าสะพรึงเพียงใดในความรู้สึกของพวกมัน
แกร่ก...
ราวกับเวลาผ่านไปชั่วกาลนาน เหล่าอสูรยังคงเดินย่ำอยู่ในแดนกระดูกขาวโพลนอย่างไร้จุดสิ้นสุด
โครงกระดูกที่อยู่มาแสนนานนั้นราวกับสามารถจะแตกหักกลายเป็นผุยผงได้ทุกเมื่อ
ในที่สุด ก็มีพวกมันตนหนึ่งเอ่ยบางอย่างออกมา
ในที่สุด หลังจากเนิ่นนานที่เดินทางโดยไร้จุดหมาย เบื้องหน้าพวกมันก็ปรากฏแสงสีทองเรืองรองขึ้น
ทันใดนั้น เหล่าอสูรร่างสั่นสะท้าน และเร่งฝีเท้าออกวิ่งเต็มความเร็วโดนพลัน!