ตอนที่แล้วKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 287 การปะทะกับราชาเอลฟ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 289 ร่างปฏิเสธเวทย์มนต์

King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 288 ทำให้มันแน่ชัด


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 288 ทำให้มันแน่ชัด

“เอาไปว่าเรื่องการต่อสู้ บ้าการต่อสู้หรือโครตบ้าการต่อสู้เอาไว้ก่อนแล้วกัน ตอนนี้ข้าต้องการคุยเรื่องอะไรให้มันชัดเจนหน่อยเพราะทางข้าเองก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้”

ทุกสายตาจ้องมองมาที่ผมแบบจริงจังมาก

“อันดับแรก ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราต้องทำให้มันแน่นอน อย่างที่ทุกคนรู้ข้านั้นได้หมั่นกับลาฟเชียร์ไปแล้วเมื่อสองปีก่อน แต่ว่า ที่ทำแบบนั้นก็เพราะมีเหตุผล-”

“เฮ้อ~~~~”

ทั้งสี่คนถอนหายใจออกมาพร้อมกัน

จากนั้นพวกเธอทั้งหมดก็มองหน้ากันแล้วพยักหน้าขึ้นลงเหมือนกับว่าให้เริ่มแผนอะไรบางอย่าง

อะไรของพวกนี้อีก ยังพูดไม่ทันจบเลยก็ถอนหายใจออกมาแล้ว???

“ท่านดรารอน์คะ”

ลาฟเชียร์พูดขึ้น

“ว่า”

“เรื่องนั้นพวกข้าทั้งสี่คนได้คุยกันแล้วระหว่างที่ท่านกำลังหลับอยู่”

คุย?

ไปคุยอะไรกันตอนไหน… ไม่สิ! ยิ่งกว่านั้นต้องถามว่าพวกเธอคุยเรื่องอะไรกันต่างหากแล้วผลสรุปที่คุยออกมาเป็นยังไง ตอนนี้ในหัวของผมเต็มไปด้วยคำถามแต่ก็ต้องพูดไปว่า

“อ่า บอกผลสรุปมาได้เลย”

ถึงตอนนี้จะถามอะไรไปมันก็ไม่ได้อะไรเพราะงั้นเข้าเรื่องเลยแล้วกัน

“พวกข้าทั้งสี่คนตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับท่าน!”

“เอ่ะ?!?!?!”

หลังอุทานตกใจกับสิ่งที่ได้ยินไปผมก็กวาดสายตามองอีกสามคนที่เหลือนอกจากลาฟเชียร์ แล้วภาพที่เห็นก็คือพวกนี้เอาจริงแน่นอน แต่แบบนั้นมันได้ด้วยหรอแต่งาน… ไม่สิ! ถ้าเป็นขุนนางหรือราชาการมีหลายคนมันก็ได้นั่นแหละ

แล้วเด็กที่จะเกิดมาละ!

ปวดหัวจริง! เรื่องนี้เอาไว้คิดหลังจากที่จบสงครามก็แล้วกันเพราะถ้าตายในสงครามที่จะถึงเรื่องพวกนี้มันก็ไม่จำเป็น คิดได้ผมก็หันไปที่ประตูห้อง

“ท่านแม่ช่วยเข้ามาหน่อยครับ”

ประตูเปิดออกมาแบบทันทีหลังจากที่ผมพูดไป

ท่าทางของเธอคงเตรียมตัวเข้ามาตลอดเวลาอยู่แล้วนั่นแหละ แล้วเรื่องนี้เองมันก็เกิดขึ้นเพราะเธอด้วยเหตุผลแบบนั้น เรื่องปวดหัวก็โยนให้เอรีน่าเป็นคนจัดการเลยแล้วกัน

ทันทีที่เอรีน่าเข้ามาในห้องผมก็ลุกขึ้น

“พวกเธอคุยกับท่านแม่ของข้าต่อเลย”

เอ่ะ?!?!?! …ดะ ดรารอน์ละ ลูกจะโยน… ไม่ ไม่ ลูกจะให้แม่จัดการหมดเลยเหรอ”

“ครับ”

“แบบนั้นมันไม่ดีหรอกมะ-”

“ไม่เป็นอะไรครับ ข้าเชื่อใจท่านอยู่แล้ว!”

หลังจากพูดประโยคสุดท้ายผมก็รีบเร่งฝีเท้าเพื่อเดินออกจากห้องทันที ถึงจะรู้ตัวว่าตอนนี้เอรีน่ากำลังส่งสายตาขอความช่วยเหลือตามหลังมาผมก็ไม่ได้สนใจอะไรสายตานั่น

หึหึ!

รับผลที่ตัวเองสร้างขึ้นมาไปสะเถอะ!

ถึงจะเป็นห่วงอยู่หน่อยๆ ที่ให้เอรีน่าจัดการ… ไม่สิ! ผมไม่ได้ห่วงหน่อยๆ แต่กำลังห่วงแบบสุดๆ เลยต่างหาก แต่ว่า มันก็ไม่มีทางเลือกเพราะยังไงสะเธอคงไม่ทำอะไรที่ทำร้ายผมหรอก

….

…..

หลังจากที่เดินออกมาจากห้องได้สักพักผมก็เดินมาถึงสนามฝึกซ้อมของคฤหาสน์ ที่ตอนนี้มีพวกทหารกำลังฝึกซ้อมกันอยู่แบบเป็นกลุ่ม แล้วที่ผมมานี่ก็ไม่ได้มาสู้หรืออะไร เพียงแต่ว่าเดินมาเพื่อหาตัวรับผิดชอบเรื่องของทายาทราชามังกรแทนต่างหาก

ใช่แล้ว!

ถึงตอนนี้ผมจะพยามทำเป็นไม่สนใจเรื่องทายาทราชามังกรที่โอรอสบอกมาในความฝัน มันเป็นความฝัน! อยากพูดแบบนั้นอยู่หรอก แต่คงทำแบบนั้นไม่ได้ แล้วในส่วนเรื่องทายาทเองผมก็ต้องเตรียมเอาไว้ด้วยเช่นกัน โดยตอนนี้คนที่ผมกำลังมองหาอยู่ก็คือ ธานอส!

เจ้าเด็กคนนี้เป็นลูกของทารอนซึ่งก็หมายความว่าตามสิทธิ์สายเลือดแล้วธานอสก็มีสิทธิ์ในตำแหน่งราชามังกรคนที่ 101 เช่นเดียวกัน หรือก็คือ ผมไม่จำเป็นต้องปวดหัวเรื่องนั้นอีกแล้วถ้าเอาธานอสไปรับตำแหน่งตรงนั้นแทน

ถึงจะรู้สึกผิดแต่นี้ก็เพื่อชีวิตแสนสุขของดรารอน์

“อ่าวๆ นั่นมันเจ้าองค์ชายบ้าการต่อสู้ที่ตื่นมาแล้วไปจัดการราชาเอลฟ์มาไม่ใช่เหรอ”

เสียงดังขึ้นมาจากด้านข้าง

ก็ไม่รู้หรอกนะทำไมเรื่องมันถึงได้ไว้ขนาดนั้น แต่ในหัวผมก็เห็นรูปของเอรีน่าลอยมาเลย

ส่วนคนที่กำลังพูดกับผมอยู่ตอนนี้ก็คือกริมเซอร์ หรือก็คือตาของผมเอง กริมเซอร์ที่พูดออกมาตอนนี้กำลังเดินตรงมาทางผมพร้อมรอยยิ้มอย่างชอบใจ

“ข้าไม่ได้บ้าการต่อสู้ครับแต่มันไม่มีทางเลือก”

ฮาฮาฮาฮา คนบ้าไม่ยอมรับว่าตัวเองบ้าหรอก”

รู้เลยว่าเอรีน่าได้คำคมอย่าง [ภาพจินตนาการไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นภาพจินตนาการ] มาจากใคร

“มันเป็นเรื่องจริงครับ แล้วข้าก็ไปเพียงคุยเท่านั้นไม่ได้ไปสู้อะไรสักหน่อย”

“ยังถ่อมตัวเหมือนเดิมเลยนะ ข่าวเรื่องที่เจ้าฟันแขนราชาเอลฟ์ขาดตั้งแต่ยังไม่ได้สู้มันกระจายรู้กันทั่วแล้ว ส่วนเรื่องที่เจ้าตบราชาเอลฟ์เหมือนแมลงและแพ้ในการโจมตีเดียวก็เช่นกัน”

โห่ว! ช่างรวดเร็วสะจริง

ไม่คิดเลยว่าเรื่องที่ผมไปจัดการมันจะรวดเร็วขนาดนี้ ถ้าขืนเป็นแบบนี้ชื่อเสียงขององค์ชายดรารอน์ก็รังแต่จะเพิ่มขึ้นแน่คิดผิดหรือถูกนะที่ไปทำแบบนั้น

ไม่สิ!

เรื่องนี้มันเป็นความผิดของเจ้าราชาเอลฟ์บ้านั่นต่างหาก แค่ปิดข่าวที่ตัวเองแพ้ไม่ให้รายงานออกมานอกประเทศมันลำบากขนาดนั้นเลยหรือไง

เฮ้อ~

แต่ช่างเถอะ มาเจอกริมเซอร์แบบนี้ก็พอดีเลย เล่าเรื่องที่โอรอสบอกให้ฟังไปเลยแล้วกันถ้าได้หมอนี่ช่วยพูดให้ธานอสก็คงไม่มีทางเลือกแล้วคงยอมรับตำแหน่งราชามังกรเอง คิดได้ผมก็เริ่มเล่าเรื่องที่สมควรเล่าให้กริมเซอร์ฟัง

เมื่อได้ฟังจบ

หน้าตาของกริมเซอร์ก็แสดงออกไม่ต่างจากลูกของตนทั้งสองคนเลย อ้าปากค้างกับเรื่องที่ได้ยินมาก ตามจริงก็คิดว่าหมอนี่จะตกใจน้อยที่สุดเพราะพอรู้เรื่องในห้องลับกับผมเมื่อตอนนั้นไปบ้างแล้วแต่คิดผิดเลย หมอนี่ตกใจยิ่งกว่าทารอนและเอรีน่าอีก

“จะ จะ เจ้าพะ พะ พูดระ เรื่องจริงงะ งั้นเหรอ”

นี่ไงสิ่งยืนยันว่าตกใจมากกว่าสองคนนั้น เหอะๆ

“เจ้าพูดเรื่องจริงงั้นเหรอ! …ท่านกำลังจะถามข้าแบบนี้ใช่ไหม?”

หงิก! หงิก! กริมเซอร์พยักหน้าขึ้นลงเพื่อเป็นคำตอบ

จากนั้นผมก็ปล่อยไอพลังเวทย์ออกไปพร้อมกับพูดว่า

“ท่านเชื่อหรือยัง”

ผลจากการปล่อยไอพลังของผมที่เหนือกว่าขั้นทำนานทำให้กริมเซอร์เผลอก้าวถอยหลังไปแบบไม่รู้ตัวประมาณ 2 ก้าว ทางด้านพวกทหารที่กำลังฝึกต่อสู้บนสนามฝึกซ้อมกันอยู่ต่างก็หยุดแล้วหันมองมาทางผมด้วยสีหน้าตกใจ

“พวกเจ้ามองอะไรกัน!!!”

กริมเซอร์ตะโกนใส่พวกทหารที่มองดู

หลังจากที่โดนตะโกนใส่พวกทหารก็เริ่มกลับไปฝึกกันอีกครั้งแบบไม่มีสติกันเท่าไหร่ ก็ช่วยไม่ได้หรอกเจอพลังขนาดนั้นเข้าไปก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา จะไปมีสติฝึกอะไรกันได้ไง

“ตอนนี้จะบอกไม่เชื่อก็คงไม่ได้แล้วละ พลังเจ้าเพิ่มมากกว่าขั้นตำนานแบบนี้”

“ครับ”

“ครับบ้าอะไรละ! ตอนนี้เจ้าต้องการอะไรกันแน่ทำไมถึงได้ปล่อยพลังแบบนั้นออกมา พลังของเจ้าตอนนี้มันต้องเก็บเอาไว้ก่อนไม่ใช่หรือไง”

กริมเซอร์พูดแบบใส่อารมณ์

น่ารำคาญจริง ก็เพราะเจ้าเองไม่ใช่หรือไงถ้าอธิบายไปโดยไม่แสดงให้ดูจะยอมเชื่อว่าเรื่องที่พูดมันเป็นเรื่องจริงง่ายๆ แบบนี้เหรอ เหอะ!

หลังได้ฟังกริมเซอร์อารมณ์ขึ้นใส่ผมก็ก้มหน้าลง

“ขอโทษด้วยครับ”

เฮ้อ~ ช่างเถอะๆ ถ้างั้นเจ้าช่วยบอกมาหน่อยว่าจะทำยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าเจ้าไปเป็นราชามังกรแล้วใคร-”

“เดี๋ยวก่อนครับ!” ผมชูมือขวาหยุดกริมเซอร์เอาไว้ “ข้าบอกตอนไหนจะไปเป็นราชามังกร”

เอ่ะ?!?!? ก็ถ้าเจ้าไม่ไปจะให้สุนัขตัวไหนไปเป็นละ”

สุนัข?

นี่เล่นเปรียบขนาดนั้นเลยเหรอ…

“หรือว่า….”

ยังไม่ทันได้พูดอะไรกริมเซอร์ก็เหมือนจะคิดอะไรออก

“ใช่แล้วครับ! ข้าจะให้ธานอสเป็นคนรับตำแหน่งแทน”

ถ้าเผ่ามังกรมันไม่ตายหมดในสงครามครั้งนี้ละนะ

ตามจริงผมก็แอบคิดอีกทางเลือกเอาไว้เหมือนกันซึ่งนั่นก็คือ การฆ่าให้หมด! แต่พอมาลองคิดใหม่ก็คงทำไมได้ เพราะเผ่ามังกรถึงจะแข็งแกร่งแต่ก็ยังมีเด็กและผู้หญิงที่ไม่เข้าร่วมการเก็บเกี่ยว ซึ่งก็แปลว่ายังไงก็ต้องมีคนปกครองพวกนั้นอยู่ดี

หลังจากบอกเป้าหมายไป กริมเซอร์ก็ส่ายหน้าไปมา

“เสียใจด้วยนะ แต่ความคิดนั้นข้าว่าไม่ไหวหรอก”

“มันจะไม่ไหวได้ยังไงละครับ ข้าคิดมาแล้วยังไงมันก็ต้องไหวสิ”

“เจ้าคงยังไม่รู้สินะ เรื่องเกี่ยวกับธานอส!”

ไม่รู้? ข้ายังไม่รู้อะไร???”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด