เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 43 : ความยิ่งใหญ่ของบรรพชนหลิน สังหารในก้าวเดียว!
ตอนที่ 43 : ความยิ่งใหญ่ของบรรพชนหลิน สังหารในก้าวเดียว!
ร่างสีดำมากมายปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป ไม่มีนักฆ่าแซ่หวังคนใดคาดคิดถึงสิ่งนี้!
พวกเขามั่นใจมากกับการที่จะลงมือสังหารต่อหน้าสมาชิกสกุลหลิน ไม่เพียงเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของตน แต่เชื่อถือในการปกปิดตัวตนจากทักษะซ่อนเร้นของพวกเขาเช่นกัน!
ทักษะปิดบังตัวตนของพวกเขานับว่าเป็นพลังระดับเทพสวรรค์ที่ส่งต่อมาจากบรรพชนสกุลหวังโดยตรง สามารถกลบกลิ่นอายและเก็บซ่อนทุกร่องรอยได้ทั้งหมดสิ้น
อย่าได้กล่าวถึงผู้บ่มเพาะระดับเดียวกัน แม้กระทั่งผู้อยู่ในระดับสูงกว่าขึ้นไปหลายดินแดนก็มิอาจจะพบเจอพวกเขาได้หากไม่ทำการค้นหาโดยละเอียดรอบคอบเพียงพอ
แต่บัดนี้ ไหนเลยยอดนักฆ่าแซ่หวังจะคาดคิดได้ว่าเพียงทารกตระกูลหลินคนหนึ่งจะเก่งกล้าจนสามารถเปิดเผยตัวตนของพวกเขาออกมาได้!
หวังก้านคุนและเหล่านักฆ่ามีเพียงความตกตะลึงบนใบหน้า แม้จะเป็นเวลาเพียงครึ่งวินาทีที่หลุดออกจากทักษะพรางตัวเท่านั้น แต่ช่วงเวลาเท่านี้ก็มากพอให้เกิดหลายสิ่งขึ้น
กลิ่นอายของผู้บ่มเพาะที่ไม่คุ้นเคยปรากฏขึ้นอย่างไร้ที่มาจากความว่างเปล่า แม้คนแซ่หลินทั้งหมดจะบ่มเพาะอยู่ แต่พวกเขาก็ค้นพบเหตุการณ์ผิดปกติได้ทันที
โดยเฉพาะกับระดับผู้อาวุโสตระกูลหลินทั้งหลาย ในวินาทีที่คนแซ่หวังทั้งหลายเผยตัวออกมา พวกเขาก็ลืมตาขึ้นในทันที
“นั่นใคร?”
หลินเปาลุกขึ้นทันใด สายตาเย็นชาของเขามองไปยังเหล่าคนที่เพิ่งปรากฏออกมา
กระแสแห่งแสงสายหนึ่งหมุนวนรอบตัวหลินเปาโดยพลัน ก่อนจะเปลี่ยนรูปร่างเป็นฝ่ามือที่กว้างหลายฉื่อและลอยขึ้นบนท้องฟ้า
แคร้ง!
กระบี่ในมือหวังก้านคุนสั่นสะเทือน และตัวเขาเองก็ถอยหลังออกไปหลายก้าว เขารับรู้ได้ถึงเลือดลมและพลังปราณที่ตีกลับขึ้นมาในอกก่อนจะทะลักออกมาจากมุมปาก
ผู้นำหวังมองไปยังหลินซวนอย่างมุ่งหมาย ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจทำบางอย่าง เขาหมุนตัวไปรอบด้านพร้อมคำรามออกมาเสียงดังลั่น
“หนี!”
ด้วยคำสั่งจากผู้นำ เหล่านักฆ่าทั้งหลายเตรียมตัวจะจากไปทันที
“คิดว่าพวกเจ้าจะหนีไปได้งั้นรึ!”
“นักฆ่าตระกูลหวัง!”
หลินเปาคำรามตอบ ใต้แสงจันทร์ ผมเผ้าหนวดเคราของตาแก่เปาบัดนี้ปลิวสะบัดด้วยแรงลมจากลมปราณของเขา
ในเวลาเดียวกัน ไม่เพียงแต่หลินเปาเท่านั้น แต่ตาแก่แซ่หลินคนอื่นก็มีสีหน้าอัปลักษณ์ออกมาเช่นกัน!
เพียงรับรู้ว่าคนเหล่านี้เป็นผู้ใด อาวุโสตระกูลหลินทั้งหมดก็เต็มไปด้วยโทสะพุ่งสูงเทียมฟ้า!!
พวกเขารู้แล้วว่านักฆ่าทั้งหลายมาที่นี่เพราะมีเป้าหมายเป็นหลินซวน
ในตอนที่ปรากฏการณ์ของหลินซวนปะทุขึ้น ตาแก่ทั้งหลายกำลังอยู่ในห้วงภวังค์ของการบ่มเพาะและซึมซับลมปราณ
เพราะเหตุนี้ทำให้เซียนน้อยของพวกเราเกือบได้รับอันตรายถึงตาย
ตาเฒ่าหลินทั้งหลายปรากฏร่องรอยความเสียใจขึ้นมาบนในหน้าของพวกเขา
“พวกเจ้าจะไปไหน!”
“อย่าได้คิดขยับ!”
ร่างของอาวุโสทั้งหลายบัดนี้เลือนรางจากความเร็วที่เพิ่มขึ้น ดูคล้ายภูตผียิ่ง
พวกเขาอัดกระแทกหมัดลมปราณเข้าใส่เหล่านักฆ่าที่โดนเปิดเผยตัว
เพียงลมปราณเล็กน้อยจากตาแก่พวกนี้ก็มากพอจะครอบคลุมไปทั่วร่างของคนแซ่หวังที่พลาดท่า
เห็นฉากการโจมตีของเหล่าคนแซ่หลิน หวังก้านคุนก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่างทันที ตาแก่หลินพวกนี้ทรงพลังถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? เหตุใดความแข็งแกร่งของสกุลหลินถึงเพิ่มขึ้นได้ภายในเวลาเพียงน้อยนิด?
อย่างไรก็ตาม ในห้วงวิกฤติ ก้านคุนมิได้มีเวลาให้ขบคิดนานนัก
“เร็วเข้า!”
คนแซ่หวังก่อร่างอักขระบางอย่างบนนิ้วมือของเขา ก่อนจะปรากฏเป็นระฆังในหนึ่งที่ก่อตัวขึ้นหว่างคิ้ว
ระฆังนี้ช่างเต็มไปด้วยพลังงานและความลึกล้ำ สลักลวดลายดอกไม้ ปักษา ปลา และแมลงโดยรอบ เพียงปรากฏตัวขึ้น ความปั่นป่วนก็เกิดตามมาโดยรอบทันที
ทันทีทันใด หวังก้านคุนก็ทุบลงไปยังหน้าอกของตัวเอง
“ย้ะ!!”
เขาพ่นเอาโลหิตชีพจรออกมาคำหนึ่ง ทำให้ระฆังใบเล็กนั้นดูดซับเอาโลหิตของเขาเข้าไปแล้วเปล่งแสงสีเลือกออกมา
จากนั้น พลังจากอย่างก็แผ่พุ่งออกมา กระแสพลังสีเลือดห้อมล้อมตัวระฆังเอาไว้ ก่อนจะดึงเอานักฆ่าตระกูลหวังโดยรอบเข้ามา
“ตราโลหิตหลบหนี?”
“อย่าได้คิดฝันถึงการออกไปจากที่นี่!”
เมื่อตาแก่หลินเปาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาตะโกนออกมาด้วยความเกรี้ยวกราดและยื่นมือไปด้านหน้า
ฝ่ามือเขาบัดนี้เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างเข้มข้นถึงขีดสุด
ใบมีดสังหารสีดำทมิฬสามเล่มปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า มีดสังหารเหล่านั้นเปล่งพลังปราณสีม่วงออกมาเป็นประกายราวกับไฟฟ้า คล้ายจะสามารถบดขยี้ทุกสิ่งในโลกหล้าได้ ทันใดนั้นมันก็พุ่งเข้าปะทะกับระฆังเลือดในทันที
เคร้ง!
ด้านนอกของระฆังเลือดกำลังสั่นสะเทือนอย่างไม่มั่นคง หวังก้านคุนจึงต้องพ่นชีพจรโลหิตออกมาอีกสามคำใหญ่ในคราเดียว
ดวงตาสีแดงเลือด แต่ใบหน้ากลับซีดเผือด คนแซ่หวังคำรามออกมาด้วยเสียงสั่น
“อย่าหวังว่าจะหยุดข้าได้!”
อย่างไรเสีย ก่อนผู้นำหวังจะได้เสริมพลังให้กับระฆังเลือดใบนั้น ความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาอย่างเป็นปริศนาอีกครั้ง
ลมปราณทรงอานุภาพนับไม่ถ้วนห้อมล้อมรอบกายเขา ก่อนจะปรากฏหลุมดำขึ้นภายในเกราะคุ้มกันของระฆังเลือด! ปิศาจเทาเที่ยจำนวนหนึ่งหลุดออกมาจากหลุดดำก่อนจะกัดหวังก้านคุนจมเขี้ยว!
“อ้ะ!”
หนวดเคราของก้านคุนสะบัดไปตามอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น โทสะทำให้เลือดเข้าตา
เขาหันกลับไปและมองเห็นดวงตาสงบนิ่งของหลินซวน
“เจ้าสวะน้อย!”
“บังอาจมาหยุดข้างั้นหรือ!”
ผู้นำหวังคำรามออกมาด้วยความโกรธท่วมท้น และพยายามจะสลัดเทาเที่ยที่กัดเขาอยู่ออกไปอย่างเต็มที่ แต่ช่างน่าสงสาร ไม่ว่าจะทำเช่นไร เจ้าปิศาจที่กัดเขาอยู่ก็ไม่ยอมหายไปไหน ตรึงเขาไว้กับที่เป็นเวลาราวครึ่งวินาที
แค่เพียงเท่านั้น คนแซ่หวังก็ตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราดและกำลังคิดว่าเมื่อเทาเที่ยตัวนี้ปล่อยปากออก เขาจะสามารถใช้ระฆังเลือดหลบหนีได้เสียที
แต่น่าเสียดาย เวลาเพียงครึ่งวินาทีที่เสียไปส่งผลร้ายแรงแก่เขาเสียแล้ว
บัดนี้ กระแสเสียงยิ่งใหญ่ดังขึ้นสร้างความปั่นป่วนให้บรรยากาศรอบข้างโกลาหล
“ในเมื่อมาเยี่ยมเยียนแล้ว ไยเจ้ารีบกลับนักเล่า?”
เสียงเย็นชาดังมาจากที่แสนไกล คล้ายกับสำเนียงแห่งเต๋าที่สะท้อนไปทั่วทั้งสวรรค์และพื้นดิน
ทันใดนั้น ความว่างเปล่าก็บิดตัวหมุนวน ชายชราท่าทางสงบนิ่งในชุดขาวก้าวออกมายืนอยู่เบื้องหน้าของเกราะระฆังเลือด
ใต้ฝืนฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว สายลมโหมกระหน่ำรุนแรง บรรพชนหลินปรากฏตัวขึ้น!
บรรพบุรุษหลินเพียงยกเท้าขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะเหยียบลงหนึ่งก้าวเล็กๆ
ตูม!
ราวกับดวงดาวตกกระแทกพื้นธรณี! แสงเจิดจ้าระเบิดออก และหมอกโลหิตก็ปะทุขึ้น! มันคือกลุ่มเลือดเนื้อปั่นผสมกับเศษกระดูก!
สายตาของบรรพบุรุษสกุลหลินช่างเปล่งประกาย เย็นชา คุกคาม และหยิ่งทระนง! เขาเพียงยื่นมือไปข้างหน้าก่อนจะเรียกเอาก้อนเนื้อชิ้นหนึ่งเข้ามาในอุ้งมือจากระยะไกล!
ในด้านของหวังก้านคุน การปกป้อง ค่ายกล หรือสมบัติสวรรค์ใดก็ไร้ความหมาย พลังของบรรพชนแซ่หลินยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น
ภายใต้การปรากฏตัวของบรรพบุรุษหลิน เหล่านักฆ่าของสกุลหวังถูกสังหารโดนทันที! เหลือเพียงหวังก้านคุนเดียวเท่านั้น และก้านคุนเองก็มิได้รู้สึกดีกับโอกาสที่ได้รับนี้เลย บัดนี้เขาเหมือนกันลูกไก่น้อย หมดสิ้นซึ่งหนทางต่อต้านและหลบหนี
“ข้านึกว่าหวังช่างเฉิงจะมาที่นี่ด้วยตนเอง” บรรพชนตระกูลหลินกล่าวด้วยท่าทีสงบ
ทันใดนั้นหวังก้านคุนก็ยื่นมือออกไปและคว้าจับเอาแขนของบรรพชนหลินเอาไว้ เขารวบรวมเอาพละกำลังทั้งหมดด้วยความรู้สึกเข้าตาจน
ดวงตาแสดงออกถึงความไม่ยอมแพ้และต่อต้าน เขายังมีหวัง!
ผู้นำแซ่หวังผายลมเสียแล้ว นักฆ่าทั้งหลายที่นำมาด้วยในวันนี้นับเป็นสุดยอดนักฆ่าตระกูลหวังแต่ก็ตกตายลงจนหมดแล้ว จะเหลือสิ่งใดช่วยเขาอีก? แต่เขาก็ยังเพียงคิดว่าหากสามารถโต้ตอบในตอนนี้ แม้จะทำอันตรายใดกับบรรพบุรุษแซ่หลินมิได้ ก็อาจจะเหลือหนทางให้ปกป้องตัวเองอยู่บ้าง
แต่ต้องทำเช่นไร? เขาต้องใช้วิธีการไหนให้ตัวเองรอดพ้นได้?
หวังก้านคุนได้เพียงขบคิดในหัวสมองอันน้อยนิดของเขา แล้วความสงสัยก็ผุดขึ้นมาในใจ เหตุใดคนตระกูลหลินถึงได้แข็งแกร่งขึ้นถึงเพียงนี้? นี่นับเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นใช่หรือ?
“อย่า อย่าฆ่าข้า! ข้าคือผู้นำตระกูลหวัง บิดาของหวังเถิงเฟย! ข้า...”
ก่อนที่คนแซ่หวังจะได้กล่าวจนจบ บรรพชนหลินก็คว้าคอเขาเข้ามาไว้ในฝ่ามือ
“อุ๊บ!”
หากเพียงขยับมือเล็กน้อย หวังก้านคุนย่อมต้องไปข้ามแม่น้ำเหลืองอย่างมิต้องสงสัย เนื้อตัวของเขาสั่นเทิ้มไปหมด
ทันใดนั้น เขาก็รวบรวมลมปราณก่อนจะสลายตัวเป็นหมอกควันที่กำลังจะจางหายไป
“เพียงเด็กน้อยบังอาจพูดเช่นนี้ต่อหน้าข้าอย่างนั้นรึ!”
บรรพชนสกุลหลินพูดออกมาอย่างเฉื่อยชา
ในเวลาเดียวกัน เขามองไปยังหลินซวนที่อยู่ไกลออกไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย
หลินซวนเกิดมาได้เพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้น แต่ปรากฏการณ์ที่เขาก่อขึ้นถึงขั้นสามารถหยุดหวังก้านคุนได้ถึงครึ่งวินาที
สร้างเป็นพรสวรรค์ที่น่าตกตะลึงยิ่ง
หากเขาเติบโตต่อไป ใครหน้าไหนจะสามารถเทียบกับสกุลหลินได้?