บทที่ 29 อย่าคิดว่าตัวเองเป็นกระต่าย!
ลู่เจ๋อโยนเหตุการณ์สัตว์ร้ายตัวใหญ่ทิ้งไป
เขาไม่มีพลัง ดังนั้นเขาไม่มีสิทธิ์คิดถึงมัน เขาต้องมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มพลังก่อน
พายุที่เกิดจากสัตว์ร้ายได้พัดหญ้าทั้งหมดในแถบนี้ออกไปทำให้มองเห็นได้ง่าย ไม่นานลู่เจ๋อก็พบโพรงกระต่ายอีกโพรง
ลู่เจ๋อแอบเข้าไปราวกับว่าเขากำลังกลับบ้านตัวเอง
ส่วนว่าเจ้าของจะอนุญาติหรือไม่?
ใครสน!
หลังจากเดินวน 2-3 รอบลู่เจ๋อก็ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของโพรง เขาควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจก่อนจะโผล่หัวออกไป
หลังจากเห็นสถานการณ์ภายใน ลู่เจ๋อก็เบิกตากว้าง
เขาพบว่าพื้นถูกปกคลุมไปด้วยขี้เถ้า และเหลือกระต่ายตัวใหญ่เพียง 6 ตัวเท่านั้น
กระต่ายตัวใหญ่ทั้ง 6 นอนราบกับพื้น
ลู่เจ๋อเดาว่ากระต่ายพวกนี้คงกลัวสัตว์ร้ายตัวใหญ่นั่นจนช็อกตาย เลยเหลือกระต่ายเพียง 6 ตัว
เขามองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นลูกแก้วแสงใด ๆ
ลู่เจ๋อขมวดคิ้ว ลูกแก้วแสงจะดรอปเมื่อเขาเป็นคนฆ่าเท่านั้นเหรอ?
ถ้างั้นเขาคงไม่สามารถบรรลุความฝันที่จะดูสัตว์ร้าย 2 ตัวฆ่ากันเองและรอเก็บของดรอปได้
ตัวเอกในนิยายมักจะเจอเรื่องแบบนี้ เขาเองก็อยากเจอเหมือนกัน
ลู่เจ๋อส่ายหัวแล้วหยุดคิดเรื่องนี้ เนื่องจากเหลือกระต่ายตัวใหญ่เพียง 6 ตัว เขาจะไม่เมตตาพวกมัน!
เขาเตะพื้นส่งร่างกายพุ่งออกไปราวกับลูกศร ตรงไปยังกระต่ายตัวที่ใกล้ที่สุด
โพรงกระต่ายนั้นกว้างขวางจนเขายืนตัวตรงได้ เขาชกไปที่คอของกระต่ายด้วยหมัดขวา
นักรบป้องกันตัวระดับ 5 ที่บรรลุความสมบูรณ์แบบทั้ง 5 ระดับ และมีเทคนิคการต่อสู้พื้นฐานที่สมบูรณ์แบบ พลังของเขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อวานมาก กระต่ายก็อ่อนแออยู่ก่อนแล้วจากแรงกดดันของสัตว์ร้ายตัวใหญ่ ดังนั้นเพียงหมัดเดียว ก็ฆ่ามันได้
กระต่ายตัวอื่น ๆ ลุกขึ้นร้องเสียงแหลมใส่ศัตรูอย่างกะทันหัน
ลู่เจ๋อยกยิ้ม วันนี้คงเป็นวันโชคดีของเขา
เมื่อมองดูกระต่ายเหล่านี้ ดูเหมือนว่าพวกมันจะต้านทานอะไรไม่ได้เลย พวกมันเปลี่ยนจากกระต่ายกินเนื้อเป็นกระต่ายกินหญ้า
ดังนั้นในโพรงกระต่ายที่มืดมิดนี้ เหตุการณ์โหดร้ายอย่างการทารุณผู้อ่อนแอจึงเกิดขึ้น
ผู้กระทำความผิด ‘ลู่เจ๋อ’ ส่งกระต่ายน่ารักสูง 1.5 เมตร 5 ตัวลงนรก
เขาไม่รู้สึกผิดเลย
เขายังหัวเราะได้!
กระต่ายตัวใหญ่แต่ละตัวจะดรอปลูกแก้วสีแดงขนาดใหญ่ 5 ลูกและลูกแก้วสีม่วงอีก 1 ลูก มีกระต่ายทั้งหมด 6 ตัว ดังนั้นเขาจึงได้ลูกแก้วสีแดง 30 ลูก และลูกแก้วสีม่วง 6 ลูก
ทำไมลู่เจ๋อจะไม่มีความสุข?
ด้วยลูกแก้วสีม่วงนี้ พลังจิตของเขาจะเพิ่มขึ้น 30%!
ลู่เจ๋อตาเป็นประกาย เขาคิดถึงศาสตร์เทพของหนานกงจิง ความแข็งแกร่งที่ระเบิดออกมา…
เขารู้สึกว่ามันยังมีช่องว่างให้พัฒนาได้มากกว่าเทคนิคการต่อสู้พื้นฐานที่สมบูรณ์แบบไปแล้ว
หลังจากเก็บลูกแก้วแล้ว ลู่เจ๋อก็ออกจากโพรงกระต่ายนี้และไปหาโพรงอื่น
ไม่นานลู่เจ๋อก็พบอีกหนึ่ง
มันใหญ่กว่าโพรงกระต่ายที่เขาเพิ่งจากมาเล็กน้อย เนื่องจากทางเข้าสูงประมาณ 1.7 เมตร ลู่เจ๋อหยุดคิด แต่ก็ยังตัดสินใจเข้าไป
สัตว์ร้ายตัวใหญ่ผ่านมา และความกดดันที่มันแผ่ออกมาก็ส่งผลต่อกระต่ายมากกว่าเขา แม้ว่าจะมีกระต่ายที่ทรงพลังอยู่ในนั้น เขาก็ยังสามารถหนีได้
ลู่เจ๋อเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง เขาข้ามทางโค้งก่อนที่จะเห็นพื้นที่กว้างขวาง
ลู่เจ๋อเลิกคิ้ว เขารู้สึกว่าอุโมงค์นี้สั้นกว่าครั้งก่อน
กระต่ายที่นี่ไม่ค่อยเก่งเรื่องขุดอุโมงค์ หรือว่าขี้เกียจเกินไป?
จากนั้นลู่เจ๋อก็มองเข้าไปข้างในอย่างระมัดระวัง
ฉากที่พื้นเต็มไปด้วยขี้เถ้า และกระต่ายตัวใหญ่พิการ 2-3 ตัวนอนอยู่บนพื้นไม่ปรากฏ
ทันทีที่ลู่เจ๋อแอบมองเข้าไป เขาก็เห็นดวงตาสีแดงเลือด 2-3 คู่มองมาที่เขา
ลู่เจ๋อ “???”
ถ้ำมืดมาก แต่เขาก็ยังมองเห็นได้ สิ่งมีชีวิตที่เป็นเจ้าของดวงตาไม่ใช่กระต่ายอย่างแน่นอน!
มุมปากของลู่เจ๋อกระตุก เขาหัวเราะและพูดว่า “ขอโทษที่รบกวน ผมจะไปแล้ว บาย!”
ภายใต้การจ้องมองของสิ่งมีชีวิตนั้น ลู่เจ๋อพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
มีเสียงคำรามดังขึ้นข้างหลังเขา ลู่เจ๋อสัมผัสได้ถึงความชั่วร้ายและความหิวโหยของพวกมัน
เขาเร่งความเร็ว
ทางเดินในโพรงสั้นมาก ไม่นานลู่เจ๋อก็ออกมาได้สำเร็จ
เขามองย้อนกลับไปก็พบสุนัขตัวใหญ่ที่สูง 1.6 เมตรอัพที่มีเกราะสีดำวิ่งออกมาทีละตัว
“สุนัขรู้วิธีขุดหลุมตั้งแต่เมื่อไหร่!
“โอ้ใช่ สุนัขจะขุดหลุมเพื่อซ่อนกระดูก แต่นั่นเป็นโพรงใต้ดิน!
“ศักดิ์ศรีของสุนัขอยู่ที่ไหน!
“อย่าคิดว่าตัวเองเป็นกระต่าย!”
เขาไม่กล้าเข้าไปในโพรงอีกต่อไป
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าการขุดหลุมเป็นความสามารถทั่วไปของผู้อยู่อาศัยในที่ราบนี้ นั่นไม่ได้หมายความว่าสิงโตและหมาป่าก็รู้วิธีขุดหลุมด้วยหรือ?
คิดแล้วลู่เจ๋อก็กังวลมาก
เมื่อสุนัขหุ้มเกราะ 4 ตัวออกมาจากโพรง ลู่เจ๋อก็ห่างออกไปกว่าร้อยเมตรแล้ว ดวงตาสีแดงเลือดของพวกมันฉายแววดุร้าย พวกมันคำรามและเร่งความเร็วไล่ตามลู่เจ๋อ
เมื่อเห็นสุนัขเข้ามาใกล้ ลู่เจ๋อก็ขมวดคิ้ว
พวกมันเร็วเกินไป ด้วยความเร็วในปัจจุบันของเขา แม้แต่นักรบระดับ 9 ธรรมดาก็ยังไล่เขาไม่ทัน แต่สุนัขกลุ่มนี้ตามเขาทัน
นี่คือความเร็วของหลิงหวู่แล้วใช่ไหม?
เห็นได้ชัดว่าพวกมันมีขนาดเท่ากัน สุนัขจะแข็งแกร่งกว่ากระต่ายได้ยังไง?
ไม่ได้การ!
ลู่เจ๋อขมวดคิ้ว พวกมันจะตามเขาทันในไม่ช้า
ดวงตาของเขาเป็นประกายขณะที่เขาเหยียบพื้นด้วยเท้าซ้าย และหักเลี้ยวขวาอย่างเฉียบขาด
เขามุ่งหน้าไปยังโพรงกระต่ายที่อยู่ไม่ไกล ความสูงของมันเพียง 1.5 เมตร และด้วยรูปร่างของสุนัข พวกมันจะต้องชะลอตัวลงอย่างมากข้างใน บางทีเขาอาจจะใช้ภูมิประเทศเพื่อจัดการพวกมันได้ หากสถานการณ์เลวร้าย เขาก็วิ่งออกจากหลุมอื่นได้เช่นกัน
สุนัขไม่คิดว่าลู่เจ๋อจะเลี้ยวอย่างกะทันหัน พวกมันวิ่งเลยไปหลายสิบเมตรก่อนจะกลับตัวเลี้ยวเข้าหาลู่เจ๋ออีกครั้ง
ลู่เจ๋อใช้เทคนิคท่าเท้าของเขาอย่างเต็มที่
วิ่งวิ่ง! ถ้าเขาเร็วพอ สุนัขพวกนั้นก็ตามไม่ทัน!
-----------------------------