ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 67 ของขวัญจากภรรยา (ฟรี)
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 67 ของขวัญจากภรรยา
คงหนิงฝันว่าพ่อแม่ทะเลาะกันอีกครั้ง
ในความฝันพ่อกับแม่ทะเลาะกันอย่างดุเดือด
ผู้เป็นแม่ที่มักมีใบหน้าอ่อนโยนอยู่เสมอ ได้แสดงใบหน้าที่ดุร้ายจนคงหนิงยังรู้สึกหนาวสั่น
คงหนิงยืนอยู่ด้านข้าง แต่ไม่สามารถก้าวขาออกไปเพื่อยับยั้งทั้งคู่จากการทะเลาะกันได้
พอทะเลาะกันเสร็จ แม่นั้นก็ไม่รู้ว่าไปไหน ใต้ต้นฉัตรจีนลมหวีดหวิวยามค่ำคืนมีเพียงพ่อที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียด กำหนังสือเล่มเก่าเอาไว้ในมือ
ถึงจุดหนึ่ง พ่อก็เหมือนจะรู้สึกว่าคงหนิงกำลังมองอยู่
จึงหันหน้ามาทางนี้
“หนิงเอ๋อ......”
“เทศกาลไหว้พระจันทร์!”
ริมฝีปากของพ่อขยับไปมา ราวกับกำลังพูดอะไรบางอย่างด้วยความกังวลใจ
อย่างไรก็ตาม คงหนิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นไม่ได้ยินอะไรเลย เห็นเพียงริมฝีปากที่ขยับอย่างต่อเนื่องราวกับพูดอะไรออกมา
ภาพแปลกๆ นี้ทำให้คงหนิงตกตะลึง
แต่ในขณะนั้นคงหนิงก็สังเกตเห็นว่ามีใครบางคนเดินเข้ามาจากทางด้านหลัง
นางหันศีรษะมาหาทันที ทำให้มองเห็นรอยยิ้มใจดีของแม่
“นี่มันก็ดึกมากแล้ว หนิงเอ๋อ ทำไมเจ้ายังไม่เข้านอน”
แม่ที่กำลังยิ้มแย้มก็ยื่นมือมาสัมผัสใบหน้าของคงหนิง
ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มนั่น ผิวหนังค่อยๆ หลุดร่อน เผยให้เห็นใบหน้าเน่าหนอนฟอนเฟะใต้เปลือกหน้า “ไปนอนซะ”
ผู้เป็นมารดาซึ่งกลายเป็นร่างกายเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นโชยราวกับซากศพ ยื่นมือเข้ามาหา
มือที่เต็มไปด้วยเส้นสีเขียวแปลกๆ สัมผัสเข้าที่ใบหน้าของคงหนิง
ฉับพลัน ความหนาวเย็นอันน่าสะพรึงกลัวก็แพร่กระจายไปทั่วร่างของคงหนิง
ทันใดนั้นเขาก็ปัดมือที่ประทับอยู่บนใบหน้าของเขาออก และลุกขึ้นนั่งด้วยความหวาดกลัว
“ออกไป!”
เสียงตะโกนด้วยความหวาดกลัวดังก้องอยู่ภายในห้องหอบ่าวสาว
คงหนิงนั่งอยู่บนเตียงด้วยความงุนงง ไม่เห็นมารดาของตนที่เน่าฟอนเฟะแม้แต่น้อย
เป็นซูหยานที่ยืนอยู่หน้าเตียงด้วยท่าทางตกใจ
ซูหยานที่สวมชุดสีม่วงชักมือกลับด้วยความประหลาดใจ หลังมือของนางกลายเป็นสีแดงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าถูกคงหนิงตบเข้าอย่างแรง
เพียงแต่นางเพิกเฉยความเจ็บปวดบนฝ่ามือนั้นแล้วถามด้วยความเป็นห่วง
“สามี? ท่านฝันร้ายอย่างนั้นหรือ?”
ซูหยานกล่าวอย่างนุ่มนวล “เมื่อตอนที่หยานเอ๋อเข้ามา ท่านก็ขยับตัวไปมา พูดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเทศกาลไหว้พระจันทร์กับเทศกาลเก้าคู่ หยานเอ๋อไม่สามารถปลุกท่านให้ตื่นขึ้นได้เลยแม้จะลองปลุกเท่าไหร่ก็ตาม.......สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นี่เป็นครั้งแรกที่หว่านเอ๋อเห็นว่าสามีฝันร้ายเช่นนี้”
ซูหยานถามด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวลและเป็นกังวล
คงหนิงมองไปที่ปีศาจสาวเบื้องหน้าและหันไปมองท้องฟ้าเบื้องนอก
ท้องฟ้าอันมืดมิดกำลังจะจากไป และเป็นเวลาที่ปีศาจสาวจะกลับมาในทุกๆ วัน
ขณะที่นั่งอยู่บนเตียง เหงื่อเย็นเยียบเข้าปกคลุมหลังของเขาจนเปียกโชก
อันที่จริงคงหนิงไม่ค่อยจะฝันร้ายเท่าไหร่
จิตใจของเขานั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง
แม้ว่าจะนอนร่วมเตียงกับปีศาจในทุกคืนวัน แต่ก็นอนหลับสบายไม่เคยตกอยู่ในฝันร้าย
แต่ตอนนี้กลับฝันร้ายขึ้นมาเสียอย่างนั้นโดยไม่ทราบสาเหตุ......
คงหนิงนั่งอยู่บนเตียง พูดอะไรไม่ออก
สำหรับผู้ฝึกตน มันจะมีสิ่งที่เรียกว่าห้วงฉุกคิดฉับพลัน
ฝันร้ายที่ไม่อาจคาดเดาที่มาที่ไป อาจจะเป็นของจำพวกนั้นหรือเปล่า?
เทศกาลไหว้พระจันทร์? เทศกาลเก้าคู่?
เป็นไปได้ไหมว่าในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์และเทศกาลเก้าคู่จะเกิดปัญหาขึ้นภายในเมืองนี้?
คงหนิงหายใจเข้าลึกๆ ปล่อยให้อารมณ์ค่อยๆ สงบลงเอง เขามองไปที่ปีศาจสาวที่อยู่เบื้องหน้าอีกครั้งแล้วพูดว่า
“ไม่มีอะไรหรอก อาจจะเป็นเพราะข้าพักผ่อนไม่เพียงพอเท่าไหร่ในช่วงสองวันมานี้ก็เลยฝันร้าย”
“ข้าจะไปอาบน้ำให้สบายตัวเสียหน่อย เจ้าก็พักผ่อนก่อนเถิด ยังอีกสักพักก่อนจะรุ่งสาง เจ้าน่าจะนอนพักได้ชั่วครู่”
คงหนิงแสร้งเป็นห่วงปีศาจสาว และวางแผนจะไปที่ลานหลังบ้านเพื่อชำระล้างเหงื่อตามร่างกายให้หมดไป
แต่ทันทีที่เขาลุกขึ้นมาจากเตียง ซูหยานก็ยิ้มแล้วเข้ามาจับมือของเขา “สามีอย่าเพิ่งรีบไป หยานเอ๋อนำของขวัญมาให้ท่านในคืนนี้ ท่านจะต้องประทับใจแน่เมื่อเห็นมัน”
ซูหยานเผยรอยยิ้มลึกลับบนใบหน้า
คงหนิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน
ของขวัญ?
นางปีศาจออกไปข้างนอกทุกคืน ไปหาของขวัญอะไรมาให้เขากัน?
ซูหยานจูงมือพาออกจากห้องหอ
จากนั้นคงหนิงก็ได้เห็นร่างดำมืดนอนแข็งทื่ออยู่ในลานที่มีแสงสลัวๆ
เมื่อเห็นคงหนิงและซูหยานออกมา ร่างนั้นก็ดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย พยายามตะโกนออกมา
อย่างไรก็ตาม ปากของมันถูกผนึกด้วยพลังบางอย่างจึงไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาเลย
คงหนิงมองไปที่ปีศาจสาวด้านข้าง ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เจ้าจับมนุษย์กลับมา?”
ซูหยานยิ้มพร้อมกับส่ายศีรษะ ปล่อยมือคงหนิงแล้วเดินไปที่ร่างตรงกลางลาน
กล่าวว่า “มันไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นปีศาจ”
“เจ้าไม่ได้บอกว่าอยากจะสังหารปีศาจด้วยมือของเจ้าเองหรอกหรือ? ช่วงนี้หยานเอ๋อก็คิดหาวิธีอยู่”
“แต่พวกปีศาจภายในเมืองเกาะกลุ่มกันแน่นแฟ้นมาก พวกมันไม่ให้โอกาสหยานเอ๋อเข้าถึงตัวตามลำพังเลย”
“ก่อนหน้านี้ หยานเอ๋อคิดว่าจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการของสามีได้ในเวลาอันสั้นเสียแล้ว จึงรู้สึกผิดเป็นอันมาก”
“แต่ไม่คาดคิด......ฮิฮิ......ขณะหยานเอ๋อกำลังกลับบ้านเมื่อครู่ ก็พบปีศาจตัวนี้กำลังวิ่งพล่านไปทั่วทั้งเมือง ดูตื่นตระหนกราวกับมันกำลังมองหาอะไรบางอย่าง”
“มันปรากฏตัวในที่ห่างไกล และไม่แข็งแกร่งพอ กลับกล้าอยู่ตัวคนเดียวให้หยานเอ๋อเห็น”
“หยานเอ๋อจะพลาดเหยื่อที่มาถึงมือเช่นนี้ได้เช่นไร?”
“หยานเอ๋อจึงจับมันมา นำมาเป็นของขวัญให้สามี”
ซูหยานหัวเราะ นั่งยองอยู่หน้าร่างที่กำลังดิ้นรน แต่ดูเหมือนมันจะถูดมัดอยู่ด้วยเชือกที่มองไม่เห็น ไม่สามารถเคลื่อนไหวอะไรได้
มือหนึ่งกดลงบนศีรษะของชายผู้นั้นเบาๆ
ทันใดนั้น ชายผู้นั้นก็ตัวกระตุกด้วยความเจ็บปวด
ใบหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียด
ดวงตาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ในที่สุดมันก็หยุดการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นตาแมวสีเหลืองซีด
ขนแมวสีดำประหลาดโผล่ออกมาจากร่างของมัน
ร่างกายของมันเริ่มขดงอ ฝ่ามือและฝ่าเท้ากลายเป็นกรงเล็บสัตว์ร้ายที่ทั้งใหญ่และแหลมคม
ในท้ายที่สุด สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าของคงหนิงก็ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอีกต่อไป แต่เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจที่มีแขนขาเหมือนมนุษย์ ทว่ามันเป็นปีศาจแมวที่น่าสะพรึงกลัว มีขนสีดำทั้งตัว เขี้ยวแหลมตรง ทั้งยังมีหางแมวงอกออกมาด้วย
ม่านตาของคงหนิงบีบตัวแน่นในทันใด
ปีศาจแมว?!
จิตสังหารที่ไม่อาจควบคุมได้ก็โผล่ขึ้นในจิตใจของเขา
“เจ้าบอกว่าคืนนี้มันวิ่งพล่านไปทั่วเมืองราวกับกำลังมองหาอะไรบางอย่างสินะ?” คงหนิงจ้องไปที่ปีศาจแมวตรงหน้าด้วยดวงตามืดมน
ทางไปสวรรค์มี กลับไม่ไป ดันเลือกทางลงไปสู่ขุมนรก!
ก่อนหน้านี้ คงหนิงและหว่านเอ๋อคิดว่าพวกเขาไม่สามารถหาเรื่องปีศาจแมวได้ในช่วงสั้นๆ นี้
แต่ไม่ได้คาดหวังว่าปีศาจแมวตนนี้จะถูกจับได้โดยซูหยาน......เฮอะเฮอะ......
ส่วนสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังค้นหาอย่างร้อนรนภายในเมือง คงหนิงไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องนี้ให้มากเลย
ปีศาจแมวตนนี้ไม่รู้เรื่องการตายของคุณหนูสามตระกูลสวี เพราะคงหนิงค่อนข้างมั่นใจกับการจัดฉากของตนเอง
หลังจากที่ปีศาจแมวกลับมาที่ห้องส่วนตัวของหญิงสาว มันก็เห็นความยุ่งเหยิงในที่เกิดเหตุ เสื้อผ้าและกระเป๋าหายไปจากตู้ ดูจากสภาพการณ์แล้วคุณหนูตระกูลสวีจะต้องแอบหนีไปกับลูกสาวของมันเป็นแน่
ไม่ได้คิดเลยว่าคุณหนูสามตระกูลสวีจะตายไปแล้ว
เมื่อเห็นสวีเมี่ยวอีหลบหนีไปพร้อมกับลูกสาวของตนเอง มันย่อมไม่ยินยอมอย่างแน่นอน ต้องวิ่งพล่านไปทั่วเมืองเพื่อค้นหาที่หลบซ่อนของแม่และลูกคู่นั้น
ยิ่งกว่านั้น จิตวิญญาณปีศาจโดยกำเนิดนั้นเป็นตัวตนที่แปลกประหลาด ปีศาจแมวตนนี้จึงไม่เคยบอกสหายปีศาจของมันเลย ไม่เช่นนั้นสวีไฉ่เว่ยจะไม่ถูกขังอยู่ภายในห้องส่วนตัวโดยไม่มีใครมาจัดการเช่นนี้
ดังนั้น หลังจากที่คู่แม่ลูกหายตัวไป ปีศาจแมวก็ไม่กล้าไปบอกปีศาจตนอื่น เลือกออกค้นหาโดยลำพัง
แล้วมันช่างโชคดีเหลือเกิน ที่บังเอิญไปพบกับซูหยานที่ต้องการจะจับปีศาจกลับบ้านพอดี.......
ฮิ......ฮิฮิ.......
มองไปที่ปีศาจแมวซึ่งกำลังดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
รอยยิ้มอันน่าสยดสยองก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคงหนิง
“ปีศาจแมว......ปีศาจแมว!”
“เป็นปีศาจแมวจริงๆ......ยอดเยี่ยมยิ่ง!!!”