500 - ในที่สุดก็ออกมา
500 - ในที่สุดก็ออกมา
น้ำแข็งที่เย็นยะเยือก พื้นที่กว้างใหญ่สีขาวไม่สามารถเทียบได้กับรอยยิ้มอันเย็นชาของเย่ฟ่าน เขายืนอยู่ตรงนั้นและจ้องมองเจียงอี้เฉินด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ
แต่ในสายตาของเจียงอี้เฉินมันเป็นรอยยิ้มของปีศาจร้าย ยอดฝีมืออาณาจักรสี่สุดขั้วสามคนที่ทำหน้าที่ปกป้องเขาถูกสังหารภายในกระบวนท่าเดียว!
หากเย่ฟ่านต้องการที่จะฆ่าเขา รับรองว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน
“ฮึ่ม”
เจียงอี้เฉินสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เขาพยายามหยิบร่มที่เป็นอาวุธซึ่งปู่ของเขามอบไว้ให้ป้องกันตัวออกมาโจมตีเย่ฟ่าน
เย่ฟ่านไม่ได้สนใจพลังโจมตีจากอาวุธชิ้นนั้น เพียงมือของเขาโบกสะบัดร่มสีดำก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ใบหน้าของเจียงอี้เฉินซีดขาวไร้สีเลือด ในอดีตเขาเกือบจะฆ่าเย่ฟ่านได้ด้วยคำสั่งง่ายๆเท่านั้น แต่ตอนนี้ชีวิตของเขากลับต้องมาตกอยู่ในมือของเย่ฟ่าน ชะตากรรมของเขาจะเลวร้ายแค่ไหนเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องพูดถึง
ในขณะที่เย่ฟ่านเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ แสงศักดิ์สิทธิ์ในร่างของเจียงอี้เฉินก็ถูกระเบิดออกมา สิ่งที่ตามมาด้วยเป็นภาพธรรมของสัตว์อสูรหลายร้อยตัวก็พุ่งเข้าหาเย่ฟ่าน
น่าเสียดายที่ทั้งหมดนี้ยังคงไร้ประโยชน์ เย่ฟ่านไม่ได้หยุดมันด้วยซ้ำ ร่างเซียนโบราณของเขาปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมาเพียงเล็กน้อย
“บูม” “บูม” “บูม...”
ภาพธรรมของสัตว์ร้ายหลายร้อยหลายพันตัวก็ถูกแสงศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านบดทำลายกลายเป็นฝุ่นละอองในเสี้ยวลมหายใจ
“เจ้า!”
เจียงอี้เฉินรู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาเห็นฉากนี้ ศัตรูยังคงเดินเข้ามาและไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของเขาแม้แต่นิด
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นเขาจึงได้แต่โยนน้ำเต้าสีม่วงขึ้นไปบนท้องฟ้า พลังทำลายล้างกันมากมายมหาศาลบดขยี้เข้าหาภูเขาขนาดใหญ่ของเย่ฟ่าน
น้ำเต้าม่วงนี้ทรงพลังมาก มันถูกสร้างขึ้นด้วยมือของปู่ของเขาเอง มันมีพลังมากจนเย่ฟ่านที่เดินเข้ามาด้วยความสงบยังต้องเปลี่ยนท่าทีอย่างรุนแรง
“บูม”
มือสีทองขนาดใหญ่ของเย่ฟ่านยื่นเข้าหาน้ำเต้าสีม่วง เสียงปะทะกันจากการโจมตีของทั้งสองระเบิดแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ให้กลายเป็นทะเลสาบเล็กๆในพริบตา
เจียงอี้เฉินกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่เขาวางไว้ในน้ำเต้าสีม่วงถูกทำลายไปแล้ว และอาวุธวิเศษของเขาก็เปลี่ยนเจ้าของในทันที
น้ำเต้าสีม่วงมีขนาดเล็กลงเหลือประมาณสามนิ้ว มันปรากฏบนฝ่ามือของเย่ฟ่าน สดใสราวกับผลึก และมีแสงสีม่วงทองกระจัดกระจายออกมาไม่หยุด
เจียงอี้เฉินเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เขารู้ว่าเย่ฟ่านจงใจทำแบบนี้ นี่เป็นการข่มขู่อย่างชัดเจน มันแสดงให้เห็นว่าเย่ฟ่านสามารถฆ่าเขาอย่างง่ายดายมากแค่ไหน
เจียงอี้เฉินใบหน้าซีดขาวและนอนหมอบอยู่บนพื้น เขารู้ว่าถ้าอีกฝ่ายต้องการจะฆ่าเขาไม่ว่าเขาจะตอบโต้อย่างไร เขาจะไม่มีทางรอดจากความตาย แต่ฝ่ายตรงข้ามทำเช่นนี้เพราะมีเจตนาบางอย่างแน่นอน
เย่ฟ่านก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเขาเป็นหนึ่งเดียวกับสวรรค์และปฐพี ด้วยจังหวะที่เป็นธรรมชาติและน่าสะพรึงกลัว ทุกๆย่างก้าวของเขาจะสั่นสะเทือนเจียงอี้เฉินจนกระอักเลือดคำใหญ่
“ฮ่าฮ่า...” เย่ฟ่านหัวเราะ
"ชัวะ"
แสงแวบวาบเย่ฟ่านหยิบเจียงอี้เฉินมาเก็บไว้ในน้ำเต้าสีม่วง บุคคลนี้มีภูมิหลังที่ดีและปู่ของเขามีความแข็งแกร่งไม่เป็นรองประมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์
เย่ฟ่านคิดจะเก็บเขาไว้ต่อรองสมบัติบางอย่างจากตระกูลเจียงในอนาคต
เย่ฟ่านหยิบหม้อวิเศษของเขาออกมาและทำการกวาดเอาอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้เจ้าของทั้งหมดกลับเข้าไปข้างใน หลังจากนั้นเขาก็กวาดเอาสมบัติล้ำค่าทั้งหมดที่อยู่บนพื้นพร้อมกับหายตัวไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
ดินแดนทางเหนือไร้ขอบเขต น้ำแข็งทอดยาวหลายหมื่นลี้ แม้จะใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนานแต่ในที่สุดเย่ฟ่านก็กลับมาถึงหมู่บ้านหินอีกครั้ง
“ฮ่าฮ่า เย่น้อยในที่สุดเจ้าก็กลับมา ข้าได้ยินมาว่าเจ้าทำอะไรบางอย่างในเมืองศักดิ์สิทธิ์ ช่างเป็นเดิมพันที่น่าทึ่งมาก!” ตู้เฟยเป็นคนแรกที่สัมผัสได้ถึงการมาถึงของเขา
เขาอยู่ในหมู่บ้านหินและได้รับข่าวจากหลี่เหอซุยเขารู้ว่าเย่ฟ่านจะต้องกลับมาภายในครึ่งเดือน และเขาก็ออกมาดักรออยู่ด้านนอกของหมู่บ้านหลายวันแล้ว
“ฮ่าๆๆ...” เย่ฟ่านก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“เข้าไปข้างในดีกว่า วันนี้ไม่เมาไม่เลิกเหรอ”
“เจ้าดำไปไหน?” เย่ฟ่านถาม
การที่เขาสามารถเล่นการพนันได้อย่างปลอดภัยในเมืองศักดิ์สิทธิ์ ก็สืบเนื่องจากตู้เฟยกับจักรพรรดิดำแกล้งทำตัวเป็นเขาและออกปล้นกลุ่มโจรในบริเวณนี้
“เจ้าสุนัขที่น่าตายตัวนั้นออกไปหาไล่กัดก้นหญิงสาวจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกแล้ว”
“มันทำแบบนั้นจริงๆ…” เย่ฟ่านไม่รู้จะพูดอะไรได้
“มาเถอะ พวกเรากินหม้อไฟกันดีกว่า ข้ามีเรื่องมากมายจะพูดกับพวกเจ้า”
ห้องนั้นร้อนอบอ้าวและกลิ่นเนื้อยั่วยวนก็ตลบอบอวลอยู่ในห้อง เย่ฟ่าน, ตู้เฟยและท่านปู่ห้านั่งอยู่รอบกองไฟและสนทนากันอย่างสนุกสนาน
“พี่เย่เมื่อไหร่เจ้าจะพาเราไปเมืองศักดิ์สิทธิ์?” หวังซู่และเอ้อหรงจื่ออิจฉาการเดิมพันอันยิ่งใหญ่ของเขามาก
ตู้เฟยบรรยายถึงความงดงามของเมืองศักดิ์สิทธิ์ให้พวกเขาฟังอยู่เสมอ มันกระตุ้นความสนใจของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา
แต่ในทันใดนั้น ทุกคนก็รู้สึกว่าบรรยากาศที่อันตราย มีเจตนาฆ่าอันน่ากลัวครอบคลุมทั่วทั้งห้อง
"พวกเจ้ากินเนื้ออะไรอยู่?"
จักรพรรดิดำไม่รู้ว่าปรากฏตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ในตอนนี้มันกำลังคำรามด้วยความโกรธ
“เนื้อลา!” ตู้เฟยตอบด้วยท่าทางสบายๆ
“มันเป็นเนื้อลาจริงๆ ยังมีลูกชิ้นเนื้อแกะด้วย” เอ้อหรงจื่อธิบายด้วยเสียงต่ำ
จักรพรรดิดำไม่ได้ตลกกับพวกเขา มันค่อยๆแยกเขี้ยวออกมาเตรียมจะลงมือโจมตีในทันที
“ข้าจะไปเอาฟืนมาเพิ่ม” ท่านปู่ห้าเป็นคนแรกที่ต้องการจะเอาตัวรอด
"ข้าจะไปเอาเนื้อแกะมาเพิ่ม" หวังซู่ต้องการวิ่งเช่นกัน
"มันเป็นเนื้อลาจริงๆ ไม่เชื่อลองดู" ตู้เฟยคีบเนื้อเข้าหาจักรพรรดิ์ดำ
หลังจากนั้นบ้านทั้งหลังก็เกิดความวุ่นวาย เสียงคำรามของทั้งคนและสุนัขดังขึ้นไม่หยุด
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยามเต็มในที่สุดสถานการณ์ก็สงบลง
“จักรพรรดิคนนี้ไม่ใช่เพื่อนเล่นของพวกเจ้า อย่าได้ทำเรื่องเช่นนี้อีก!”
“เจ้ารวบรวมต้นกำเนิดได้เท่าไหร่แล้ว?”เย่ฟ่านถามสุนัขสีดำตัวใหญ่
“ไม่น้อยเลยจริงๆ ข้ารีดไถต้นกำเนิดจากพวกสัตว์เลี้ยงมนุษย์มาได้เจ็ดแปดหมื่นจินแล้ว” จักรพรรดิดำมีท่าทางภาคภูมิใจในตัวเอง
"ข้า..." เย่ฟ่านไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี สุนัขที่น่าตายตัวนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
"ไอ้สาระเลวนี้ทำแต่เรื่องชั่วๆทั้งนั้น... " ตู้เฟยเสริมและอธิบายจากด้านข้าง
"วั่ง!"
ในท้ายที่สุดเย่ฟ่านก็หยิบออกมาต้นกำเนิดสวรรค์ขนาดเท่ากำปั้นโยนให้สุนัขสีดำตัวใหญ่จนดวงตาของมันเบิกกว้างราวกับไข่ห่าน
ต้นกำเนิดสวรรค์ที่ผนึกมังกรตัวน้อยสีทองแตกออกเป็นสามชิ้น แต่ละชิ้นมีขนาดเท่ากำปั้น หนึ่งชิ้นมอบให้ถิงถิงและชิ้นที่สองมอบให้กับสุนัขสีดำตัวใหญ่
จากนั้นเย่ฟ่านก็มอบชิ้นสุดท้ายให้ตู้เฟย ต้นกำเนิดสวรรค์เป็นสิ่งที่หายากมาก แม้แต่ผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ใช่ว่าจะมอบให้กับทายาทของพวกเขาได้ง่ายๆ
“วั่ง”
พยายามแย่งชิงเอาชิ้นส่วนของตู้เฟย
“ไอ้สาระเลว...”
สงครามครั้งยิ่งใหญ่ปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อความสงบกลับมาเย่ฟ่านก็ปลดปล่อยสัตว์อสูรตัวหนึ่งที่ลานบ้าน
“เจ้าไปได้มันมาจากไหน!”
เจ้าหมาสีดำตัวใหญ่กระโดดขึ้นอีกครั้งดวงตาของมันเปล่งประกายสดใสเป็นอย่างมาก
“เจ้ากล้าขี่มันหรือเปล่า” เย่ฟ่านต้องการมอบอสูรตัวนี้ให้กับตู้เฟย
"สัตว์ร้ายล่าขุมทรัพย์ไม่ได้มีไว้เพื่อขี่ แต่มีไว้สำหรับค้นหาขุมทรัพย์"
“มันเป็นอสูรของตระกูลเจียงเจ้าไม่สามารถเปิดเผยมันขึ้นกับโลกภายนอกได้” เย่ฟ่านเตือน
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เก็บมันไว้ก่อน”
หลังจากนั้นตู้เฟยก็กล่าวถึงยอดฝีมือรุ่นเยาว์คนหนึ่งที่ปรากฏตัวออกมาอย่างลึกลับในช่วงเวลานี้ เขาออกไล่ล่ายอดฝีมือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้ทุกคนแปลกใจมาก
“จักรพรรดิคนนี้รู้ดีว่าเขาเป็นใคร ข้าเห็นเขาเมื่อสองวันก่อน” จักรพรรดิดำกล่าวด้วยสีหน้ากระหยิ่ม
“เจ้าเห็นแล้ว เขาเป็นใคร” เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจ
“เขาเป็นผู้สูงส่งคนหนึ่ง โชคดีที่ข้าจดจำกลิ่นอายของเขาได้”
“เขาเป็นใครเลิกลีลาได้แล้ว!”
“ช่วงนี้ข้าไม่มีแรงเลย เอาต้นกำเนิสวรรค์มาให้ข้าอีกก้อนแล้วข้าจะบอกเจ้า”
“ดูเหมือนเจ้าจะต้องการความเจ็บปวดจริงๆ” เย่ฟ่านจับขาทั้งสองข้างของมันแล้วเขย่าอย่างรุนแรง
“ตำหนักเต๋าชั้นห้า!”
แม้ว่าเขาจะเตรียมจิตใจไว้แล้ว แต่ตู้เฟยก็ยังตกใจเป็นอย่างมากกับการพัฒนารวดเร็วเย่ฟ่าน
“ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้ ข้าบอกแล้ว มันเป็นเจ้าเด็กน้อยผังป๋อ”
“ผังป๋อ!” เย่ฟ่านดีใจมาก ในที่สุดพวกเขาพี่น้องก็จะได้พบกันอีกครั้ง
"เขาอยู่ที่ไหน?" เย่ฟ่านถาม
“เมื่อวานข้าเห็นเขาลงมือสังหารยอดฝีมือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงอยู่ใกล้ๆนี่เอง”
หัวใจของเย่ฟ่านเต้นระรัว ในที่สุดผังป๋อก็ฝึกฝนสำเร็จแล้ว เขารู้ว่าผังป๋อกำลังลงมือแทนเขาอยู่
“ท่านปู่ห้า นำข้าวของเครื่องใช้ของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์มา ครั้งนี้ข้ามีความมั่นใจมาก พวกเราจะเปิดมันทั้งหมด”
เย่ฟ่านพูดกับที่ปู่ห้าด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย