499 - รนหาที่ตาย
499 - รนหาที่ตาย
ถิงถิงน้อยในฐานะร่างจันทรามีเวลาอยู่ไม่กี่ปี นางไร้ญาติขาดมิตรคนพวกนี้จึงรังแกนางอยู่เสมอ
สิ่งเดียวที่พวกเขากลัวต่อผลที่ตามมาก็คือความเร็วในการฝึกฝนของถิงถิงนั้นน่าเหลือเชื่อเกินไป หากราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงไท่ซูสามารถแก้ปัญหาของนางได้ นับแต่นี้พวกเขาคงยากที่จะมีวันคืนที่ดี
“พวกเราแค่มากินข้าวเท่านั้นไม่ได้มีความหมายอื่น” หนึ่งในนั้นไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย
“ไสหัวไปเดี๋ยวนี้” ถิงถิงน้อยตะโกนด้วยความโกรธ
"อืม ไปกันเถอะ" ใครบางคนไม่ต้องการสร้างปัญหาเขาจึงเดินออกไปก่อน
“เด็กน้อยเจ้าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี ข้าจะรอดูวันที่เจ้าตาย”
ลมและหิมะส่งเสียงคำรามก่อนที่คนเหล่านั้นจะเดินออกไปจากโรงเตี๊ยม
แต่ตอนนี้ใบหน้าของเย่ฟ่านเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ ใครบางคนที่อยู่ด้านนอกคือคนที่เขารู้จัก เจียงอี้เฉินที่ไม่ได้เห็นมาหลายปีแล้วนั่นเอง
ในตอนที่เขาอยู่ภาคใต้ เขาถูกอัศวินของตระกูลเจียงไล่ล่าเป็นพันๆลี้ คนพวกนี้วางแผนที่จะเอาสมบัติล้ำค่าของเขาไป
ในเมืองเล็กๆที่ลุงเจียงและถิงถิงน้อยอาศัยอยู่ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนแจ่มชัดในใจของเย่ฟ่าน
เจียงอี้เฟยและเจียงไช่ซวนทำให้เย่ฟ่านประทับใจมาก มีเพียงเจียงอี้เฉินผู้นี้เท่านั้นที่ชั่วร้ายและไร้ความปราณี ไม่คิดว่าในที่สุดเขาจะมีโอกาสล้างแค้น
หลายปีผ่านไปในที่สุดเจียงอี้เฉินก็เปลี่ยนจากเด็กหนุ่มคนหนึ่งกลายเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา เขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีน้ำเงินและมีความเย่อหยิ่งเล็กน้อย
ในตอนนี้เขานั่งอยู่บนหลังสัตว์ร้ายตัวหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับเสือโคร่ง ขนของสัตว์สีฟ้าของมันเปล่งประกายสดใสและสะอาดมาก มันยังคงเป็นสัตว์ร้ายห้าสีตัวเดิมที่เขาเคยขี่เมื่อครั้งอดีต
"พวกเจ้าจะรีบไปไหน ดื่มสุราดับหนาวกันดีกว่า"
เจียงอี้เฉินกระโดดลงจากหลังสัตว์อสูรของเขาพร้อมกับเตะประตูอย่างแรง
“ในเมื่อข้าเลือกที่นี่ ก็ไม่มีเหตุผลที่พวกเจ้าต้องจากไป” เขามองดูถิงถิงน้อยด้วยรอยยิ้มเย่อหยิ่ง
“พี่อี้เฉินวันนี้พวกเราไม่เปิดร้าน”
ถิงถิงน้อยแม้ว่าจะเต็มไปด้วยความกลัวแต่นางก็ไม่ยอมให้ใครมารังแกปู่ของนางได้
"อืม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาดูเหมือนเจ้าจะมีความกล้าขึ้นไม่น้อย"
เจียงอี้เฉินพูดเบาๆโดยไม่สนใจว่าพวกนางจะต้อนรับหรือไม่
“พี่อี้เฉินวันนี้พวกเราไม่เปิดร้าน” ถิงถิงตัวน้อยยังคงย้ำคำเดิม
แม้ว่าเจียงอี้เฉินจะอยู่สายตระกูลเดียวกับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงไท่ซูแต่เจียงอี้เฉินก็ไม่ได้ให้ความเอ็นดูต่อถิงถิงน้อย เขาเย็นชามากและมีความเป็นศัตรูต่อนางด้วย
เย่ฟ่านมองดูการกระทำของเจียงอี้เฉินอย่างเย็นชา ในหลายปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าลุงเจียงจะอยู่ที่นี่ด้วยความยากลำบากจริงๆ
เจียงอี้เฉินตะโกนสั่งอาหารที่มีราคาแพงหลายสิบอย่างพร้อมกัน
"รีบไปเอามาให้หมด ข้าให้เวลาเจ้าครึ่งชั่วยามหากไม่ได้ข้าจะพังร้านนี้"
"วันนี้พวกเราปิดร้าน" ถิงถิงน้อยกระซิบ
"ข้าบอกให้เจ้าเปิดเจ้าก็ต้องเปิด เจ้าหนูรีบไปเอาอาหารมา”
เย่ฟ่านต้องการจะตบเจียงอี้เฉินให้ตายด้วยฝ่ามือเดียว แต่สุดท้ายเขาก็หักห้ามใจไว้
ถิงถิงรู้ว่านางไม่สามารถยั่วยุเจียงอี้เฉินได้เพราะเขามีสถานะสูงในตระกูลเจียง
ตระกูลเจียงถูกแบ่งออกเป็นสองสายหลัก หนึ่งคือตระกูลปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ที่เหมือนดวงอาทิตย์ตอนเที่ยง และอีกสายเป็นทายาทของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงไท่ซูที่เป็นพลังอันลึกลับของตระกูล
เจียงอี้เฉินเป็นทายาทของเจียงไท่ซู เขามีปู่ที่น่าทึ่ง ในเวลาเดียวกันเขาใกล้ชิดกับผู้คนของตระกูลปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์มาก ในบรรดาเด็กรุ่นหลังของตระกูลมีเพียงเจียงอี้เฟยเท่านั้นที่มีสถานะสูงกว่าเขา
“พี่อี้เฉิน” ถิงถิงน้อยกระซิบ
“อย่ามาเรียกข้าว่าพี่” เจียงอี้เฉิน ขัดจังหวะคำพูดของนางอย่างเย็นชาและพูดกับลุงเจียง
"ยืนอยู่เฉยๆทำไมไอ้โง่?"
ความสัมพันธ์ทางสายเลือดไม่ได้อยู่ในสายตาของเจียงอี้เฉิน เขาเพียงมองคนเหล่านี้เป็นเหมือนทาสรับใช้ของตระกูลเท่านั้น
“ตกลง รอเดี๋ยวข้าจะไปทำอาหารให้”
ลุงเจียงดึงถิงถิงน้อยออกไป ไม่ยอมให้นางพูดอะไรอีก เขากลัวว่าหลานสาวของเขาจะถูกทำร้าย
ทันใดนั้น ก็มีเสียงคำรามยาวจากนอกเมือง เจียงอี้เฉินและคนอื่นๆหน้าเปลี่ยนสี พวกเขาลุกขึ้นยืนและรีบบินออกไปทันที
“ถิงถิงเดี๋ยวข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง” เย่ฟ่านมองดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสายตาที่แจ่มชัด
“ไม่ การทำร้ายลูกหลานของตระกูลเจียงจะทำให้ท่านถูกไล่ล่าไปตลอดชีวิต” ถิงถิงน้อยส่ายหัวและพูดว่า “ไม่เป็นไร นอกจากเจียงอี้เฉินแล้ว พี่ชายและพี่สาวก็ใจดีกับข้าเสมอ”
เย่ฟ่านก็หัวเราะและพูดว่า “ข้าบอกว่าจะจัดการให้ก็คือจะจัดการให้ อย่าห่วงเลยข้าไม่คิดจะให้เขาตายง่ายขนาดนั้น หลังจากนี้ข้าจะมาเยี่ยมเจ้าอีก”
“พี่ใหญ่จะไปนานหรือเปล่า?” ดวงตาของถิงถิงน้อยแดงกล่ำคล้ายจะร้องไห้ออกมา
“ไม่ต้องห่วงข้าจะมาเยี่ยมเจ้าบ่อยๆ” เย่ฟ่านยิ้มและลูบหัวของนาง
หลังจากนั้นเขาก็เดินออกไปอย่างช้าๆ
แท้จริงแล้วเย่ฟ่านไม่ได้จากไปไหนเขารู้ดีว่าเจียงอี้เฉินมีแผนการร้ายบางอย่าง คนของเขาจึงคอยควบคุมสองปู่หลานให้อยู่ในสายตาตลอด
เจียงอี้เฉินรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของเขาและสองปู่หลาน เขารู้ว่าเย่ฟ่านจะต้องปรากฏตัวขึ้นสักวัน ดังนั้นเขาจึงเฝ้ารออยู่ที่นี่
“เจียงอี้เฉินผู้นี้คอยนึกถึงข้าอยู่เสมอ วันนี้ข้าจะทำให้ความปรารถนาของเขาเป็นจริง”
เย่ฟ่านเยาะเย้ยและเดินเข้าไปในทุ่งน้ำแข็งโดยมีแส้ศักดิ์สิทธิ์อยู่บนหลังของเขา เขาเข้าใจชัดเจนว่าเจียงอี้เฟยมีตำหนักอยู่ที่นี่ และคนที่ควบคุมตำหนักนี้คือเจียงอี้เฉิน
เกล็ดหิมะสีขาวกำลังโบยบิน เย่ฟ่านยืนเงียบๆบนทุ่งน้ำแข็งเป็นเวลาเจ็ดวัน เขาไม่ได้เข้าใกล้ตำหนักแห่งนี้และรอคอยให้เจียงอี้เฉินปรากฏตัวออกมารับความตายเอง
ในวันที่เก้ายอดฝีมือมากมายก็ปรากฏตัวออกมาจากตำหนักหลังใหญ่ พวกเขาขี่อยู่บนหลังของสัตว์อสูรขนาดมหึมา ผู้นำคือเจียงอี้เฉินและที่อยู่กับพวกเขามียอดฝีมืออาณาจักรสี่สุดขั้วหลายคน
เย่ฟ่านแสดงร่างกายที่แท้จริงโดยไม่ได้ซ่อนไว้หน้าของตัวเอง แส้ศักดิ์สิทธิ์ถูกสะพายไว้ด้านหลัง และเย่ฟ่านยืนอยู่ท่ามกลางหิมะที่ตกหนักอย่างสง่างาม
แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเย่ฟ่านจะเปลี่ยนไปบ้างหลังจากผ่านไปไม่กี่ปี แต่เจียงอี้เฉินก็ยังจำใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน
"เจ้านั่นเอง!" การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปในเวลานั้น
"ใช่ข้าเอง!" เย่ฟ่านตัดสินใจดำเนินการที่นี่เพื่อถิงถิงน้อยและลุงเจียง เขามารอเจียงอี้เฉินเป็นเวลาเก้าวันแล้ว
“ที่แท้เด็กน้อยที่อยู่ในบ้านของนางหนูนั่นก็คือเจ้า! ฮ่าๆๆไม่คิดว่าเจ้าจะรนหาที่ตายเอง!”
เขาเป็นคนดุร้ายและไร้ความปราณี วันนี้เขามีความรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ชื่อเสียงของเขาจะโด่งดังทั่วภาคเหนือ
“อย่าปล่อยให้มันรอดไปได้ ปราณปฐพีต้นกำเนิดของมันจะต้องเป็นของข้า!”
ในขณะนี้ยอดฝีมือเจ็ดคนก็รีบพุ่งตัวออกไปล้อมรอบเย่ฟ่านจากทุกทิศทาง
พวกเขาอยู่ในอาณาจักรตำหนักเต๋าขั้นที่สี่สามคน อีกหนึ่งคนอยู่ในอาณาจักรตำหนักเต๋าขั้นที่ห้า และอีกสามคนที่เหลือในคือยอดฝีมืออาณาจักรสี่สุดขั้ว
เย่ฟ่านไม่ได้พูดอะไรมาก วันนี้เขาตั้งใจจะฆ่าทุกคนอยู่แล้ว ต่อให้คนเหล่านี้อยู่ในอาณาจักรสี่สุดขั้วทั้งสิ้น ก็จะไม่มีใครรอดไปได้อย่างแน่นอน
"ฆ่า!"
เย่ฟ่านคำราม ทันใดนั้นภูเขาที่มีขนาดใหญ่ก็ตกลงมาจากท้องฟ้า ผู้ฝึกตนอาณาจักรตำหนักเต๋าขั้นห้าที่อยู่ใกล้เย่ฟ่านที่สุดไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมอันเลวร้ายได้
“พัฟ”
ร่างกายของเขาถูกบดขยี้เป็นเศษเนื้อภายในเสี้ยวลมหายใจ
เย่ฟ่านไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าแม้แต่น้อย เขาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและเผชิญหน้ากับอาวุธศักดิ์สิทธิ์สี่ชิ้นอย่างไม่ลังเล
“พัฟ” “พัฟ” “พัฟ*”
ผู้ฝึกตนของตระกูลเจียงถูกกำปั้นของเย่ฟ่านโจมตีกลายเป็นละอองเลือดถึงสามคนซ้อน
เย่ฟ่านบินเข้าหายอดฝีมืออาณาจักรขั้นสี่สุดขั้วสามคนสุดท้ายด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง
"ปัง" "ปัง" "ปัง"
หมัดทองคำของเย่ฟ่านโจมตีอย่างต่อเนื่องและร่างกายของยอดฝีมืออาณาจักรสี่สุดขั้วของตระกูลเจียงคนสุดท้ายก็แหลกละเอียดโดยที่เขาไม่มีโอกาสส่งเสียงร้องด้วยซ้ำ