บทที่ 72 ทดสอบความสามารถ
เฟลิกซ์ตัดสินใจทดสอบความสามารถของเขาใน UVR เขาไม่ได้ทำในยิมครอบครัว เนื่องจากเขารู้ว่าอุปกรณ์ในนั้นไม่สามารถรองรับพละกำลังที่เพิ่มขึ้นใหม่ของเขา หรือให้การวัดที่แม่นยำได้
แต่ใน UVR มีอาคารที่เรียกว่า ‘ศูนย์วัดความสามารถ’ ซึ่งสร้างขึ้นโดยเฉพาะเพื่อใช้ทดสอบความสามารถของบลัดไลน์เนอร์ ไม่สำคัญว่าความสามารถของคุณจะพิเศษหรือแข็งแกร่งเพียงใด ศูนย์สามารถให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นเพื่อให้ได้การวัดที่แม่นยำได้
...
15 นาทีต่อมา
เฟลิกซ์อยู่ในอาคาร เขายืนอยู่บนพื้นขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยมนุษย์ทุกประเภท ที่รอคิวเข้าห้องเพื่อทดสอบความสามารถต่าง ๆ ที่อยู่ในการครอบครองของพวกเขา
เฟลิกซ์ไม่ต้องการรอหลายชั่วโมง เขาจึงจ่ายค่าธรรมเนียม VIP เพื่อลัดคิวและขึ้นไปชั้นบนเพื่อใช้ห้องที่ดีที่สุด
หลังจากจ่ายเงินจำนวนมาก เขาก็ขึ้นลิฟต์และเข้าไปในห้องที่กำหนดไว้สำหรับเขา
ทันทีที่ก้าวเข้าไปข้างใน เสียงที่ซ้ำซากจำเจของ AI ก็ดังขึ้นในห้อง “คุณลูกค้าที่รัก คุณต้องการทดสอบความสามารถประเภทใด พลังกาย พลังธาตุ หรือพลังจิต”
"กายภาพครับ" เขาตอบ
“รับทราบ”
ทันทีที่ AI พูดจบ ทั้งห้องก็แปรเปลี่ยนเป็นห้องกว้างที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ จากนั้นเครื่องวัดที่แม่นยำทุกประเภทก็ถูกสร้างขึ้นทั่วสถานที่
มีเครื่องมือปกติที่วัดน้ำหนัก พละกำลัง ความคล่องตัว ความอดทน และอื่น ๆ
และก็มีเครื่องมืออื่น ๆ ที่มีการวัดความคม ความสามารถในการเจาะเกราะ และพลังทำลายล้าง สำหรับผู้ที่ได้รับความสามารถพาสซีฟที่เปลี่ยนแขนเป็นใบมีด หรือมือที่เปลี่ยนเป็นค้อน และความสามารถเชิงรุกทางกายภาพอื่น ๆ
เพราะไม่ได้หมายความว่า บลัดไลน์เนอร์จะไม่ปลดล็อกการกลายพันธุ์ที่มีพลังโจมตีทางกายภาพของสัตว์ร้ายที่เขาใช้
มีทุกอย่างอยู่ที่นี่ เมื่อต้องรับมือกับความสามารถจำนวนมาก
เฟลิกซ์ไม่สนใจเครื่องทดสอบส่วนใหญ่ เขาเพียงเดินไปที่เครื่องวัดแรงต่อยและสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นชกออกไปด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขาโดยไม่มีกั๊ก
เครื่องไม่ได้ขยับเขยื้อนหรือส่งเสียงดัง เพียงแต่ทำงานอย่างเงียบ ๆ และคำนวณแรงหมัด
เฟลิกซ์เงยหน้าขึ้นมองไปที่ค่าสุดท้ายที่แสดง 2100 BF สุดยอด!
“นี่เรื่องจริงเหรอ” เขาอุทานด้วยความไม่เชื่อ เขาไม่กล้าเชื่อว่าเขาจะทะลุ 2k จากพลังหมัดเพียว ๆ!
เพราะ 2100 BF หมายความว่าเขามีความแข็งแกร่งทางกายภาพเท่ากับบลัดไลน์เนอร์ขั้นที่ 2!
นี่คือหน่วยวัดที่ใช้ใน UVR สำหรับระบบสายเลือดของมนุษย์ BF มาจาก Bloodline Force ในขณะที่ 1,000 BF คือค่าพละกำลังของบลัดไลน์เนอร์ขั้น 1
ดังนั้นการที่เฟลิกซ์มี BF มากถึง 2100 ทำให้เขาเป็นสัตว์ร้ายที่สวมผิวมนุษย์ หากเป็นตามปกติ จากระดับการรวมสายเลือดในปัจจุบันของเขา เขาควรจะมีแค่ 150 BF เท่านั้น!
ถ้าเขาบอกใครก็ตามว่าเขาได้รับ 1950 BF จากสกิล ‘Super Strength’ ที่เป็นพาสซีฟจริง ๆ พวกเขาอาจจะกลอกตาและไม่สนใจเรื่องไร้สาระของเขา
1950 บ้าอะไร?
ตลก! บูสต์ของพาสซีฟ ‘Super Strength’ ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาคือ 900 BF! และนั่นมาจากสายเลือด Legend ระดับ 7!
เฟลิกซ์ก็รู้ ดังนั้นเขาจึงกำหมัดแล้วคลาย กำหมัดแล้วคลาย ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่กล้าเชื่อว่ามือขาว ๆ ของเขาจะมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถตบคนธรรมดาตายได้
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็รวบรวมสติและตัดสินใจทำการทดสอบต่อไป
เขาชกแบบมาตรฐาน 3 ครั้งโดยใช้พลังเพียง 50% ทว่าผลลัพธ์สุดท้ายคือการค่า 3 ค่าที่แตกต่างกัน
เฟลิกซ์ถอนหายใจหลังจากเห็นสิ่งนี้ เพราะเขารู้ว่าการควบคุมพลังของเขาค่อนข้างแย่และจำเป็นต้องปรับปรุง ไม่งั้นเขาจะสิ้นเปลืองพลังงานขณะที่ชกออกไปเหมือนลิง ที่แย่ไปกว่านั้น มันจะให้ทำร้ายผู้คนที่อยู่ใกล้เขาหากเขาควบคุมมันไม่ได้ในเสี้ยววินาที
คนธรรมดาและบลัดไลน์เนอร์ไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันในชีวิตจริงเพราะเหตุนี้
หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบแรงชก เขาตัดสินใจวัดกำลังขาและการป้องกันของเขา
เขาเดินไปที่เครื่องที่ติดตั้งแผ่นเตะ 5 อัน แต่ละอันมีความสูงเฉพาะเพื่อทดสอบเทคนิคขาที่เขาต้องการ
แต่เฟลิกซ์จดจ่ออยู่ที่แผ่นรองตรงกลางไม่สนใจแผ่นอื่น เนื่องจากเขาไม่รู้เทคนิกการต่อสู้ระยะประชิดใด ๆ
สไตล์การต่อสู้ของเขาเอียงไปทางพลังธาตุมากกว่าการต้อสู้ระยะประชิดด้วยพลังทางกายภาพ
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่ได้ตื่นเต้นมากนัก หลังจากพบว่าเขาได้รับพาสซีฟทางกายภาพก่อนหน้านี้ แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากได้เห็นพละกำลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่งสามารถเอาชนะใครก็ตามได้ด้วยความแข็งแกร่งอันโหดเหี้ยมโดยไม่ต้องพึ่งพาเทคนิคใด ๆ
เฟลิกซ์เตะแผ่นรองเตะด้วยแรงทั้งหมดของเขา แล้วถอยกลับรอให้ผลปรากฏ
ไม่กี่วิต่อมา 2800 BF ก็ปรากฏบนหน้าจอ
"ไม่เลว"
เขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจ เขาไม่แปลกใจกับตัวเลขนี้ เนื่องจากเขารู้ว่าการเตะเต็มแรงนั้นแข็งแกร่งกว่าหมัดเสมอ
แต่หมัดนั้นจะแข็งแกร่งกว่าประมาณ 6 เท่าเมื่อมีเทคนิคการต่อยที่เหมาะสม
โดยสรุป หมัดดีกว่าเตะในการต่อสู้ แต่การเตะมีพลังมากกว่าในแง่ของพลังเพียว ๆ ดังนั้นจึงสร้างสมดุลระหว่างข้อดีและข้อเสีย
เฟลิกซ์ไม่ได้อยู่หน้าเครื่องจักรอีกต่อไป แต่เดินตรงไปยังแท่นป้องกัน ซึ่งมีให้ทดสอบการป้องกันและการต้านทานของบลัดไลน์เนอร์ทุกโหมด
เฟลิกซ์ไม่ได้ลองทั้งหมด แต่เลือกเพียง 4 โหมด
1 สำหรับการป้องกันจากการโจมตีทั่วไป เช่น ต่อย เตะ และอาวุธไม่มีคม
2 สำหรับการป้องกันจากอาวุธหรือความสามารถที่มีคม
3 สำหรับการป้องกันทางจิตจากความสามารถทางจิต เช่น การควบคุมจิตใจ
4 สุดท้าย สำหรับการทดสอบต้านพิษ
เฟลิกซ์เลือกโหมดสุดท้ายเพียงเพื่อดูปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อพิษประเภทต่าง ๆ ไม่ใช่เพื่อดูว่าเขามีภูมิคุ้มกันทั้งหมดจริง ๆ หรือไม่ เนื่องจากต่อมพิษงูนั้นเพียงพอสำหรับเขาที่จะเข้าใจ โดยอาศัยประสบการณ์อันยาวนานของเขาในการจัดการกับพิษและสารพิษ
...
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เขาก็เสร็จสิ้นการทดสอบทั้งหมดและตระหนักว่าการป้องกันของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากตอนนี้เขาสามารถต้านทานการโจมตีเต็มกำลังของบลัดไลน์เนอร์ในอาณาจักรชำระล้าง ได้ด้วยการป้องกันทางกายภาพ
แต่สำหรับบลัดไลน์เนอร์ขั้น 1 และ 2 เขาต้องระวังพวกเขาให้ดี เนื่องจากการลอบโจมตีของพวกเขาเพียงครั้งเดียวอาจทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงการโจมตีทางกายภาพ สำหรับการป้องกันทางจิต เฟลิกซ์นั้นเปลือยกายอยู่ต่อหน้าพวกเขา พาสซีฟที่เขามีไม่ได้ครอบคลุมถึงความแข็งแกร่งทางจิตใจ
ในขณะเดียวกัน ภูมิคุ้มกันพิษก็เป็นเหมือนที่เขาคาดไว้ เนื่องจากไม่มีพิษใดส่งผลต่อเขาได้
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ พิษแต่ละชนิดมีรสชาติที่แตกต่างกัน บางชนิดมีรสชาติเหมือนน้ำส้ม บางชนิดเหมือนซอสบาร์บีคิว
นรก เขาเริ่มกังวลด้วยซ้ำว่าเขาจะระบุได้อย่างไรว่าเขาถูกวางยาพิษหรือไม่โดยใครบางคน เมื่อทุกอย่างมีรสชาติอร่อย
หลังจากการทดสอบรอบนี้ เฟลิกซ์ตัดสินใจกลับไปที่เครื่องทดสอบแรงหมัด และเริ่มฝึกควบคุมความแข็งแกร่งของเขาก่อนที่เขาจะถูกไล่ออกจากห้อง เขาจ่ายราคา VIP แล้วก็ต้องใช้ให้คุ้ม
1 ชั่วโมงต่อมา
เขาออกจากระบบ UVR อย่างพอใจกับประสบการณ์ทั้งหมดและพาสซีฟที่เขาปลดล็อก ซึ่งจะทำให้เขารังแกผู้เล่นระดับต่ำใน Supremacy Games ได้อย่างแน่นอน
--------------------------