บทที่ 459 เหมือนแมวน้อยที่ยังไม่หย่านม (ฟรี)
ตอนนี้เธออายุแค่สี่ขวบ ไม่ต้องใช้เงินมากขนาดนั้น ยิ่งกว่านั้นพ่อแม่คนไหนสบายใจที่จะให้เงินเด็กมากขนาดนี้❓
ซูเชิ่งจิ่งเดินเข้ามา เขาลูบผมนุ่มๆของเธอด้วยมือใหญ่ ดวงตาเขาดูอบอุ่นเป็นพิเศษ "ที่ป๊ะป๋าทำเงินได้เยอะมากในปีนี้ต้องขอบคุณลูก แน่นอนว่าป๊ะป๋าต้องการมอบอั่งเปาใบใหญ่ให้ลูก ลูกรู้งั้นเหรอว่ามันเท่าไหร่❓"
ซูจิ่วย่อมรู้ แต่เธอส่ายหน้าแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ และนับเลขที่เขียนไว้ในเช็คด้วยมือเล็กๆ "หนึ่ง สอง สาม ...ป๊ะป๋าทำไมเป็นศูนย์ทั้งหมด ไม่สิ มีอีก เลขหนึ่งอีกอัน❗️"
ซูเชิ่งจิ่งฟังเสียงน้ำนมของเธอ เขายิ้มออกมาทันที "นั่นคือหนึ่งล้าน ดังนั้นลูกสามารถซื้อของได้มากมาย แต่ป๊ะป๋าจะเก็บไว้ก่อน แล้วรอให้ลูกโตขึ้น ลูกสามารถซื้ออะไรก็ได้ตามที่ต้องการ โอเคไหม❓"
"โอเค~" ซูจิ่วพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ยื่นเช็คในมือให้เขา "ป๊ะป๋านี่เป็นเงินมากเกินไปป๊ะป๋าช่วยหนูเก็บไว้ก่อน และให้หนูเมื่อโตขึ้น"
เธอลังเลที่จะให้เงินหนึ่งแสนกับเขา แต่เธอยินดีให้เงินหนึ่งล้านกับเขางั้นเหรอ❓
ซูเชิ่งจิ่งหัวเราะ "ลูกรัก นี่เป็นหนึ่งล้าน ซึ่งมากกว่าที่ลุงเชิ่งให้ลูก ลูกไม่เต็มใจที่จะให้ป๊ะป๋างั้นเหรอ❓ กลัวว่าป๊ะป๋าจะเก็บไว้และไม่ยอมคืนให้ในอนาคตงั้นเหรอ❓"
"ไม่กลัว❗️เพราะป๊ะป๋าบอกว่าจะไม่โกหกเสี่ยวจิ่ว"
"…" ซูเชิ่งจิ่งสำลัก
โอเค เขาพูดอย่างนั้นและเกี๊ยวตัวน้อยก็จำได้อย่างชัดเจน และเธอยังเชื่อใจมากโดยไม่ต้องสงสัยเลย
เขาหัวเราะอีกครั้ง "อือ ป๊ะป๋าไม่โกหก เอาล่ะ ลูกง่วงหรือยัง❓ ไปอาบน้ำและเข้านอนกันเถอะ"
…
ตอนที่เธออาบน้ำและเข้านอน ก็เป็นเวลาตีหนึ่งแล้ว
สาวน้อยมานอนกับซูเชิ่งจิ่งวันนี้พร้อมกับหมอนและตุ๊กตาหมีน้อย เธอนอนอยู่ในอ้อมแขนของป๊ะป๋าเหมือนแมวน้อยที่ยังไม่หย่านม มุมปากเธออดที่จะยกขึ้นไม่ได้เห็นได้ชัดว่าเธออารมณ์ดีมาก
ซูเชิ่งจิ่งก็ยิ้มเหมือนกัน เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า "วันนี้มีความสุขไหม❓"
"แน่นอน หนูมีความสุขมากเพราะหนูได้รับอั่งเบาใบใหญ่และยังได้รับของขวัญด้วย ไม่สิ❗️"เด็กหญิงตัวน้อยเงยหน้ามองขึ้นไปที่เขาแล้วเปลี่ยนบทสนทนา "สิ่งที่มีความสุขที่สุดก็คือปีนี้หนูได้ฉลองปีใหม่กับป๊ะป๋า❗️"
เธอได้รู้แล้วว่าการที่ครอบครัวกำลังฉลองปีใหม่ด้วยกันเป็นอย่างนี้นี่เอง แตกต่างจากเดิมมากจริงๆ เธอรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่เรียกว่า "ครอบครัว"
ได้ยินสิ่งที่เธอพูด ซูเชิ่งจิ่งก็ผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เกิดความอบอุ่นขึ้นในหัวใจของเขา
เขานึกถึงอดีตของตัวเอง ตั้งแต่ออกจากบ้านตระกูลซู เขาก็ไม่เคยได้ใช้เวลาช่วงปีใหม่กับครอบครัว
เขายังจำได้เมื่อตอนที่ตัวเองออกจากวงการบันเทิง วันนนั้นใกล้ถึงวันตรุษจีนพอดี ขณะนั้นเขาอาศัยอยู่ในบ้านเช่าที่ย่ำแย่ทรุดโทรม บนโทรศัพท์มือถือผู้คนมากมายต่างต่อว่าด่าทอเขาด้วยคำพูดที่รุนแรงทุกรูปแบบ
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงประทัดอยู่นอกหน้าต่าง ผู้คนต่างจุดพลุดอกไม้ไฟอย่างต่อเนื่อง แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงบรรยากาศรื่นเริงเลย เขารู้สึกโกรธและเศร้าอยู่ตลอดเวลา เขาจึงใช้แอลกอฮอล์เพื่อให้ตัวเองมึนเมา
ปีใหม่ของปีนั้น เขาดื่มสุราจนเมามาย
เขากลายเป็นหนูในท่อน้ำเหม็น แม้แต่ซูกั๋วปังก็ยังดูถูกและเยาะเย้ยเขา ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่เคยมีความคิดที่จะกลับไปยังตระกูลซูอีกเลย ไม่ต้องพูดถึงการใช้เวลาช่วงปีใหม่กับชายชราจำพวกทานอาหารเย็นร่วมกันอะไรทำนองนั้น
ในความคิดของเขา มีเพียงเชิ่งเทียนสื่อและเกี๊ยวน้อยเท่านั้น ที่เป็นคนสำคัญสำหรับเขา
โดยเฉพาะเกี๊ยวน้อย เธอพูดกับเขาเสมอว่าเธอชอบป๊ะป๋ามากที่สุด ตราบใดที่ยังมีป๊ะป๋าอย่างอื่นก็ไม่สำคัญ เธอพึ่งพาเขาและเชื่อใจเขา ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีความจำเป็นและมีค่าเช่นเดียวกัน
บทที่ 460 สวัสดิการปีใหม่❗️
ซูเชิ่งจิ่งหัวใจรู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นพันครั้ง เขาดึงเกี๊ยวน้อยไว้ในอ้อมแขนและกอดเธอแน่น
นี่เด็กน้อยน่ารักคนนี้เรียกเขาว่าป๊ะป๋าและต้องการเขา
เขารู้สึกโชคดีจริงๆ
เกี๊ยวน้อยมีกลิ่นน้ำนมจางๆ ที่มีเฉพาะเด็ก ซูเชิ่งจิ่งใจอ่อนลงและพูดกับเธอว่า "วันนี้ป๊ะป๋าก็มีความสุขมากเหมือนกันที่ได้ฉลองปีใหม่กับลูกรัก"
เกี๊ยวน้อยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เธอกล่าวว่า "ป๊ะป๋าในอนาคตเราก็จะฉลองปีใหม่ด้วยกันอีกนะ❗️"
"โอเค" ซูเชิ่งจิ่งยิ้มและตอบตกลงในใจ เขากำลังคิดว่าเกี๊ยวน้อยยังเด็กอยู่ ไม่รู้ว่าการเติบโตขึ้นหมายความว่ายังไงและจะต้องเผชิญกับอะไร
เมื่อเธอโตขึ้นและมีผู้ชายที่เธอชอบ หลังจากที่มีครอบครัวเป็นของตัวเอง เธออาจจะทิ้งพ่อแก่ๆ คนนี้ไว้ข้างหลัง เขานึกไม่ออกเลยว่าตอนนั้นเขาจะรู้สึกอย่างไร
มันคงแย่กว่าการถูกคนนับไม่ถ้วนดูถูกในตอนนั้น...
ซูเชิ่งจิ่งไม่อยากคิดมันอีก เขาหลับตากอดเกี๊ยวน้อยไว้ในอ้อมแขนแน่น และหวงแหนเวลาทุกนาทีและทุกวินาทีที่อยู่กับเธอ
…
ซูจิ่วอยู่ในสภาวะตื่นเต้นอยู่เสมอ เธอตื่นขึ้นหลังจากหลับไปเป็นเวลานาน ขณะนี้เป็นเวลาเช้าแล้ว แสงแดดยามเช้าที่สดใสก็ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง นำความอบอุ่นมาสู่ฤดูหนาว
และเมื่อเธอตื่นแล้ว ซูเชิ่งจิ่งก็ตื่นเช่นเดียวกัน
เมื่อเขาลืมตาขึ้น เมื่อเห็นเกี๊ยวน้อยกระพริบตามองเชาด้วยดวงตาคู่โต เขาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ "ลูกรัก ทำไมตื่นเช้าจัง❓"
"เพราะหนูมีความสุข❗️" เกี๊ยวน้อยพูดอย่างร่าเริง เธอออกจากอ้อมแขนของเขาและหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาเปิดเวยป๋ออย่างชำนาญ
ซูเชิ่งจิ่งชินกับสิ่งนี้แล้ว เธอกดเข้าที่ช่องแสดงความคิดเห็น จากนั้นโชว์โทรศัพท์ให้เขาดู "ป๊ะป๋ามีหลายคนอวยพรปีใหม่ให้เรา❗️"
ซูเชิ่งจิ่งรับโทรศัพท์มา แน่นอนว่าเขาเห็นข้อความจากแฟนๆ มากมาย คำอวยพรปีใหม่ที่เรียบง่าย และเหล่าข้อความอีกนับหมื่น
ช่วงเวลารวมญาติครั้งนี้ ยังมีผู้คนมากมายที่คิดถึงเขาและเกี๊ยวน้อย เป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ และมัน...นานมากแล้วที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้
ซูจิ่วกลิ้งเข้าไปในผ้าห่มอุ่นๆ แล้วแนะนำเสียงแผ่วเบา "ป๊ะป๋า หนูอยากบอกสวัสดีปีใหม่แฟนๆ ที่คอยสนับสนุนพวกเรามาตลอด~"
ซูเชิ่งจิ่งตกใจ ใช่ เขาไม่ได้คิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำแต่เกี๊ยวน้อยกับคิดถึงเรื่องนี้ ดูเหมือนเขาจะเทียบกันเด็กน้อยอายุสี่ขวบไม่ได้เลยจริงๆ ดูเหมือนว่าเขาไม่มีจิตสำนึกในการเป็นดารา
เขาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "อือ ลูกพูดถูก” เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและใส่เสื้อผ้าใหม่ เพื่อบันทึกวิดีโอกล่าวคำอวยพรปีใหม่ให้กับเหล่าแฟนคลับ
ซูเชิ่งจิ่งเปลี่ยนไปสวมสูทลำลองที่หล่อเหลาและผูกผ้าพันคอสีแดงเป็นพิเศษ ทำให้ดูรื่นเริงเล็กน้อย
เด็กหญิงตัวเล็กก็เปลี่ยนเป็นชุดถักสีขาวและเสื้อคลุมสีแดงตัวเล็กๆ ใส่ผ้าพันคอสีแดงที่ซ่งหว่านชิวถักให้เธอ เธอรัดผมแกะและผูกโบว์สีแดงทั้งสองข้าง เธอดูเหมือนกับนางฟ้าตัวน้อย น่ารักเกินไปแล้ว❗️
ในห้องนั่งเล่น ซูเชิ่งจิ่งวางโทรศัพท์ไว้โดยให้กล้องหันเข้าหาเขาและนั่งเกี๊ยวน้อยที่นั้งอยู่บนตักของเขา พ่อและลูกสาวดูสนิทสนมกันมาก จากนั้นก็เริ่มบันทึกวิดีโอ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณแฟนๆ ที่สนับสนุนเขาและซูจิ่ว เขายังทักทายแฟนๆ ของเกี๊ยวน้อยด้วยและกล่าวคำอวยพรพร้อมกัน
หลังจากบันทึกเรียบร้อย โพสต์วิดีโอไปยังเวยป๋อ
แฟนๆ ของทั้งสองที่รอคอยสิ่งนี้มากนาน โดยเฉพาะแม่ๆ แฟนคลับของซูจิ่ว นี่ถือเป็นสวัสดิการปีใหม่❗️