ตอนที่ 485+486 จู้จี้
ตอนที่ 485 จู้จี้
“เพื่อขาลูกฉัน เท่านี้ถือว่าคุ้ม” ตู้ซื่อหัวตอบไปส่ง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น เงินทั้งหมดนั้นไม่ใช่เงินของเขา ผู้อาวุโสตู้ต่างหากเป็นคนจ่าย
ตู้ซื่อหัวรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากกับเงินจำนวนมหาศาลที่ถูกขอ แต่ตอนนี้รู้สึกดีมาก เมื่อรู้ว่าผู้อาวุโสตู้จะเป็นคนจ่ายให้ทั้งหมด ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้รับมรดกใด ๆ จากพ่อของเขาอยู่ดี อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการรักษาขาของลูกชาย
ความลำเอียงอย่างออกหน้าออกตาของผู้อาวุโสตู้นั้นน่าตกใจ แต่ตู้เฉินก็เป็นหลานชายเพียงคนเดียวของเขา เมื่อมีความหวังว่าตู้เฉินจะสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง ในที่สุดเขาก็ฝืนใจควักเงินจ่ายให้
ตู้ซื่อหัวพอใจมากกับผลลัพธ์ที่ได้ แม้ตระกูลตู้จะสูญเสียทรัพย์สินไปมากในคราเดียวก็ตาม ตราบใดที่มีโอกาสทำให้ตู้เฉินลุกยืนขึ้นได้อีกครั้ง ตู้ซื่อหัวไม่ลังเลใจที่จะทำทุกวิถีทาง
...
บรรยากาศภายในครอบครัวเหลียงเริ่มครื้นเครงขึ้นมาก หลังการจากไปของผู้มาเยือนที่ไม่มีใครต้องการต้อนรับ
โจวเหวยฉียืนยิ้มทั้งน้ำตา เหมือนคนโง่
เขาเข้าไปกอดลู่ชิงสี กอดเหลียงเยวื่อจือ แล้วหันหลังกลับมาวางศีรษะไว้บนไหล่ของเฉินซวีเหยา จากนั้นเขาก็เข้าไปหาย่าเหลียงและคุณนายเหลียง ทำตัวราวกับเด็กสามขวบ
“แล้วนายตัดสินใจได้รึยังว่าจะเป็นเหลียงเหวยฉี หรือลู่เหวยฉี?” หลัวเหลาหรุนถาม “คืนนี้นายต้องเลี้ยงพวกเรานะ ถือเป็นการฉลองการเริ่มต้นชีวิตใหม่!”
“แน่นอนอยู่แล้ว! เลือกเลยว่าจะกินอะไร ฉันจ่ายเอง!” โจวเหวยฉีรู้สึกดีขึ้นหลังจากตัดสินใจไปแล้ว เขามองเวลาพูดว่า “ฉันจะไปทำงานก่อน แล้วจะพาจ้านชิวเหอไปทานข้าวคืนนี้ด้วย”
“รีบลาออกให้เร็วที่สุด” เหลียงเยวื่อจือเรียกโจวเหวยฉีที่กำลังรีบเดินออกไป “นายไม่จำเป็นต้องทำงานที่นั่นอีกต่อไป ตอนนี้นายไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับตระกูลโจวแล้ว”
โจวเหวยฉีเกาศีรษะและถอนหายใจ “ได้ ได้! ตอนนี้ฉันจะไปหาชิวเหอก่อน ส่วนเรื่องนั้นไว้จะตัดสินใจทีหลัง”
ตามที่คาดไว้ เมื่ออยู่นอกการควบคุมของตระกูลโจว โจวเหวยฉีต้องเดินหน้าตามจีบคนที่เขาแอบชอบมาเป็นเวลานานทันที
“พี่เหลียง พี่มีแผนอะไรให้กับเหวยฉี?” เฉินซวีเหยาถาม “ถึงเขาจะจบจากวิทยาลัยเตรียมทหาร ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นประโยชน์หรือเป็นไปได้เลยที่เขาจะกลับเข้ากองทัพในตอนนี้”
เหลียงเยวื่อจือกล่าวต่อ “เขาต้องทำงานระดับล่างเล็ก ๆ ก่อน เราถึงจะสามารถเลื่อนตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นให้กับเขาได้” เหลียงเยวื่อจือพูดต่อ “ต้องให้พี่ใหญ่กับปู่ฉันเห็นความสามารถของเขาเสียก่อน”
“เปล่าประโยชน์เสียจริง! ปีแรกของเขาถูกปล่อยร้างเพราะพวกตระกูลโจว” หลัวเหลาหรุนพูดออกมา
“เยี่ยมจริง ๆ ที่เขาออกจากตระกูลโจว ดูพวกเขาสิเข้มงวดขนาดไหน? เหวยฉีถึงกลับไม่กล้าแม้แต่จะตามจีบคนที่ตัวเองชอบ” คุณนายเหลียงเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับถาดผลไม้หั่นเป็นชิ้น ๆ ก่อนจะพูดเสริมว่า “ถ้าเขายังอยู่กับตระกูลโจว รับรองว่าเขาต้องโสดไปตลอดชีวิตแน่”
เธอมองไปที่เฉินซวีเหยาและถามว่า “แล้วเธอล่ะ? จะแต่งงานเมื่อไหร่ ไม่รู้รึไงว่าแม่ของเธอเขากังวลแค่ไหน!”
“ป้าเหลียงอะ! แล้วพี่กู้ล่ะครับ? ทำไมผมถึงถูกจู้จี้อยู่แค่คนเดียว” เฉินซวีเหยาไม่ค่อยพอใจกับคำถามที่ไม่อยากจะตอบ
“กินแอปเปิลเข้าไปแล้วหุบปากซะ” ลู่ชิงสีผลักแอปเปิลสองสามชิ้นเข้าไปในปากของเฉินซวีเหยา เหลือบมองสายตาไปที่เหลียงเยวื่อจือและหลัวเหลาหรุนเล็กน้อยก่อนที่จะเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา
__
ตอนที่ 486 เราต้องคุยกัน
ลู่ชิงสีได้รับเงินจำนวนห้าแสนหยวนในบัญชีธนาคารของเขาในบัญชีของเขาในช่วงบ่ายแก่ ๆ เขาโอนเงินสี่แสนหยวนเข้าบัญชีธนาคารของโจวเหวยฉีทันที และมองเงินส่วนที่เหลือให้กับเจียงเหยาทันที อยู่ ๆ เขาก็คิดเรื่องการซื้อของในระหว่างการประมูลการกุศลและเตือนให้เจียงเหยาชำระเงินให้เร็วที่สุด
“ไม่นะ! นี่เจียงเหยาเป็นใหญ่ในบ้านแล้วในตอนนี้เหรอ!” เฉินซวีเหยาจิ้มข้อศอกของหลัวเหลาหรุนและถามว่า “แล้วครอบครัวของเธอล่ะ? เป็นพี่เหลียงหรือเธอ?”
หลัวเหลาหรุนแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำถามของเขาและเพิกเฉยต่อเขา
ในทางกลับกัน เหลียงเยวื่อจือครุ่นคิดกับคำถามที่ว่า “ผมยกอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดที่เป็นชื่อของผมให้คุณก็แล้วกัน แต่เพราะเรื่องงานบริษัท ผมคงไม่สามารถให้เงินสดทั้งหมดกับคุณได้ เอาเป็นว่าผมจะให้สิทธิ์คุณเข้าถึงทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมดของผมก็แล้วกัน”
หลัวเหลาหรุนเกือบสำลักเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอส่ายหน้า “ฉันไม่สนใจเรื่องพวกนั้นของคุณหรอก!”
เธอถือกล้วยในมือ แล้วขึ้นไปที่ชั้นบน
เหลียงเยวื่อจือขมวดคิ้ว จ้องมองไปมาระหว่างลู่ชิงสี เจียงเหยา และเฉินซวีเหยา เขานั่นอยู่ที่นั่นอย่างสงบและกินผลไม้สองสามคำ ก่อนจะรีบเดินขึ้นไปชั้นบน เห็นได้ชัดว่าเขาตามหลัวเหลาหรุนขึ้นไป
ก็แค่แสร้งทำว่าไม่สนใจ
“ฮ่า! ทำต่อไปเถอะ!” เฉินซวีเหยาหัวเราะ
“พูดดังกว่านี้ก็ได้นะ” เจียงเหยาชี้ไปที่เหลียงเยวื่อจือ ซึ่งจ้องมองมาที่เฉินซวีเหยาจากบันได เธอดึงลู่ชิงสีและเดินจากไป
พวกเขาพบกับนายพลเหลียงและนายพลเฉิน โดยมีเฉินเฟยถังในชุดลำลองเดินตามหลังนายพลเฉินมาด้วยอีกคน ขณะที่พวกเขากำลังจะจากไป
“จะไปแล้วเหรอ? เราต้องคุยกับนายเรื่องโปรแกรมการฝึกปฐมพยาบาลสำหรับทหาร เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ” นายพลเหลียงเรียกลู่ชิงสีเข้าไปหา เมื่อเห็นชายหนุ่มยังนิ่งไม่ดำเนินการอะไร นายพลเหลียงกล่าวเสริมว่า “เข้ามาสิ ใช้เวลาไม่นานหรอก”
ผู้อาวุโสเข้าไปในบ้านโดยทิ้งลู่ชิงสีที่ยืนนิ่งไว้เบื้องหลัง เขารู้สึกประหลาดใจที่พบว่าข่าวดังกล่าวไปถึงนายพลเหลียงและนายพลเฉินแล้ว
“ไปสิ” เจียงเหยาดันลู่ชิงสี
เธอกำลังจะตามลู่ชิงสีเข้าไปในบ้าน แต่ก็ถูกเฉินเฟยถังร้องเรียกเสียก่อน
“เจียงเหยา! เราคุยกันหน่อยสิ!”
เจียงเหยาหยุดเดิน เธอจะพูดเรื่องอะไร?
แต่เธอก็พยักหน้าและเดินเอามือล้วงกระเป๋าไปหาเฉินเฟยถัง “ฉันไม่ชอบอากาศ หวังว่าคงจะพูดสั้น”
เฉินเฟยถังรู้สึกประหลาดใจ เธอไม่คาดว่าจะเห็นความใจร้อนของเจียงเหยา
“ฉันได้ยินมาจากผู้อาวุโสว่าลู่ชิงสีส่งรายงานแนะนำให้คุณเป็นคนสอนสำหรับโปรแกรมการฝึกปฐมพยาบาล” เฉินเฟยถังเย้ยหยัน “ถ้าฉันจำไม่ผิด เธอยังเป็นนักศึกษาใหม่ในมหาวิทยาลัยนี่ ฉันไม่รู้ว่าคุณกล้าทำเรื่องแบบนี้มาจากไหน คงวางแผนนี้เพื่อจะให้ตัวเองมีเรื่องคุยโวตอนที่กลับไปมหาวิทยาลัยอย่างนั้นใช่ไหม”