King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 283 จินตนาการ
ตอนที่ 283 จินตนาการ
“เอ่ะ?!?!?”
อะไรไอ้น้ำเสียงและใบหน้าตกใจแบบนั้น ทางนี้สิที่ต้องตกใจที่ทำยังกับข้าไม่มีตัวตน
“ดะ ได้ยังไง ทะ ทำไมภาพจินตนาการวันนี้ถึงพูดได้ละ…”
ออ! นี่กำลังคิดว่าเป็นแบบนั้นอยู่เหรอ
ฟังจากที่พูดออกมาแล้วเธอคงคิดว่าผมไปภาพจินตนาการแบบหลายวันที่ผ่านมาสินะ รู้สึกผิดเลยแฮะที่เข้าใจผิดแล้วอารมณ์ขึ้นไปเมื่อกี้
“ข้าไม่ใช่ภาพจินตนาการนะครับ”
“เอ่ะ?!?!?! …พูดอีกแล้ว” สีหน้าของเอรีน่าดูเคร่งเครียดกว่าเก่ามา จากนั้นเธอก็สะบัดหน้าไปมาเพื่อเรียกสติ “ใจเย็นเอาไว้ก่อนเราอาจจะนอนไม่พอ”
ยังอีกนะ แต่เอาเถอะปล่อยไปแล้วกันเดี๋ยวกินอาหารเรียบร้อยเรื่องทั้งหมดมันก็คงแดงออกมาเอง เมื่อกี้อธิบายพวกในครัวก็เหนื่อยมากแล้วไม่อยากเหนื่อยเป็นครั้งที่สองหรอก
คิดได้ผมก็นั่งเงียบเพื่อรออาหารอีกครั้ง แต่ทางเอรีน่าก็ยังจ้องมองมาทางผมแบบสงสัยอยู่ให้เดาตอนนี้ผมว่าเธอต้องกำลังสับสนแล้วละ บางทีอาจจะสองจิตสองใจว่าดรารอน์ที่อยู่ด้านหน้าเป็นตัวจริงหรือภาพจินตนาการ
แต่ว่า
เมื่อมาลองคิดถึงความรู้สึกของเธอที่ลูกเป็นแบบนั้นไปต่อหน้ามันก็สะเทือนใจไม่น้อย ขนาดเมื่อชาติก่อนลูกชายของข้าตกม้ายกแทบคลั่งเพราะเป็นห่วง นี้เล่นสลบไปเจ็ดวัน เหอะๆ …แล้วยิ่งเธอเป็นคนแบบที่ว่าเป็นห่วงข้ามากด้วย คงสะเทือนใจพอสมควร
“เจ้าใช่จินตนาการไหม”
นั่งไม่นานในที่สุดเอรีน่าก็เริ่มคุยกับจินตการแล้ว
เมื่อได้โอกาสผมก็ยิ้มแล้วตอบไปแบบมั่นใจ
“ไม่ใช่ครับ!”
“นั่นสิจิตนาการจะยอมรับว่าตัวเองเป็นได้ยังไง มันก็เหมือนคนเมาไม่ยอมรับว่าตัวเองเมา”
ถามเพื่ออะไร นี่เธอถามเพื่ออะไร? อยากจะพูดออกไปแบบที่คิดจริงๆ แต่ก็ต้องอดทนเอาไว้แล้วพูดอย่างอื่นออกไป
“ครับ! รอก่อนเดี๋ยวท่านก็รู้”
“ไม่ต้องๆ” เอรีน่าส่ายหน้าแล้วสะบัดมือไปมา “เจ้าไม่ใช่ดรารอน์ตัวจริงหรอก เพราะดรารอน์ไม่มีทางยิ้มน่ารักๆ แบบนั้นให้ข้าแน่นอน”
ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกผิดกับเธอเลยจริงๆ พอมาลองคิดดูแล้วกำน่ารำคาญตลอดเลยเมื่อเจอกับเธอตั้งแต่ยังเป็นทารก แต่ว่า ที่ทำแบบนั้นมันก็เพราะเธอไม่ใช่หรือไงที่ชอบมาเล่นแก้มของข้าจนบวมไปหมด นี่ถ้าสมัยเป็นทารกดิวนีสันต์ไม่เรียกไปหาบ่อยข้าคงแก้มบวมตายแน่ๆ
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับเรื่องที่เอรีน่าพูดมา เพราะรู้สึกผิด
เมื่อนั่งได้ไม่นานพวกคนรับใช้ก็เข็นอาหารเข้ามาในห้องตามที่ผมได้สั่งเอาไว้
เร็วสมกับที่บอกไปจริงๆ หึหึ! ก่อนที่ผมจะเดินมาที่ห้องอาหารนี้ผมได้พูดกับพ่อครัวเอาไว้ว่า [ถ้าทำช้าจะเอาโทษเรื่องไข่ไหม้] เพราะแบบนั้นอาหารก็เลยมาเร็วกว่าปกติพอสมควรอย่างที่เห็น
“เอ่ะ??? ข้ายังไม่ได้สั่งอาหารเลยนะ”
เอรีน่าพึมพำ
ก็ไม่ได้สั่งนะสิคนที่สั่งมันนั่งอยู่ตรงนี้ไง แต่ถึงพูดไปตอนนี้เธอคงทำเป็นไม่สนใจหรือไม่เชื่ออยู่ดีเงียบเอาไว้ก่อนดีกว่า ตอนนี้ต้อง กิน! กิน! กิน!
“ใครเป็นคนสั่งให้พวกเจ้าเอาอาหารเข้ามา”
“ค่ะ?”
เมดที่เข็นอาหารเอ่ยตอบรับด้วยสีหน้าสงสัย หลังจากที่โดนเอรีน่าถามแบบนั้น
“ข้าถามว่าใครไปคนสั่งอาหาร?”
“ก็….”
เมดคนที่โดนถามเธอเบนสายตามาทางผมเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา
แค่พูดว่า [ท่านดรารอน์เป็นคนสั่ง] มันยากมากนักหรือไง นี่หรือว่าเมดคนนั้นยังคิดว่าข้าเป็นวิญญาณอยู่อีก เดี๋ยวเอาเรื่องที่เอาเสื้อผ้าที่ใช้แล้วไปขายให้กลุ่มนิยมดรารอน์มาเอาผิดเลยสะ รีบพูดความจริงให้เธอรู้ได้แล้ว และเอาอาหารมาวางบนโต๊ะ
“ทะ ท่านดรารอน์ไงคะ”
นั่นแหละ ตอบแค่นี้ตั้งแต่แรกมันก็จบแล้วจะทำให้ยุ่งยากเพื่ออะไร หลังได้ยินคำตอบจากเมดคนนั้นเอรีน่าก็มองมาทางผมอีกครั้ง แล้วทำตาเหมือนคนกำลังสงสัย
ดรารอน์เอง
ลูกของเธอไง รู้ตัวสักทีเถอะ
“เจ้าไม่ใช่จินตนาการจริงๆ เหรอ”
“ครับ!”
ยืนยันรอบที่สามแล้วนะถ้ามีรอบสี่จะไม่ตอบอีกละ-
ฟุ๊บ!
“ฮือ…. แม่นึกว่าลูกจะไม่ตื่นมาแล้วสะอีก ฮือ…”
เอรีน่าพุ่งเข้ามากอดผมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว แล้วเธอก็ร้องไห้ออกมาแบบว่าเป็นห่วงสุดๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะยังสงสัยอยู่ก็ตามว่าเธอมาเร็วขนาดนี้ได้ยังไง แต่ยังไงท่านแม่ของผมที่เป็นถึงองค์ราชินีของประเทศนี้คงไม่ได้กระโดดข้ามโต๊ะมาหรอก ไม่มีทาง…
หลังจากที่เธอร้องไห้กับผมไปประมาณ 10 นาที โดยระหว่างทนฟังเสียงร้องไห้ผมก็น้ำลายไหลกับอาหารไปด้วย แต่สุดท้ายเธอก็ยอมปล่อยให้ผมได้กินอาหารสักที
งับ!
งับ!
งับ!
ตั้งแต่ชาติก็พึ่งรู้ว่าอาหารมันอร่อยก็วันนี้แหละ อร่อย! หิว! กระหาย! ตอนนี้ผมไม่สามารถแยกออกแล้วว่าท่าทางของผมตอนนี้มันเป็นแบบไหน ได้แต่กินอะไรที่มันอยู่ตรงหน้าเท่านั้น แต่จะว่าไปแล้วเรื่องภาพลักษณ์ก็ช่างมันเถอะ เพราะยังไงในห้องนี้ก็มีเพียงเอรีน่าอยู่เท่านั้น
…
….
…..
หว่า~
อิ่มจริงๆ
เมื่อเริ่มกินได้ประมาณ 30 นาที ความรู้สึกสบายท้องของผมมันก็มาแล้ว อาหารด้านหน้าทั้งยี่สิบอย่างถึงมันจะไม่ได้หมดเกลี้ยงแบบที่ทาร์เลียเป็นคนกิน แต่ก็ถือว่าหมดราว 80% ของทั้งหมด
“อิ่มแล้วสินะ”
“ครับ!”
ผมตอบรับเอรีน่าแบบทันทีเมื่อเธอถามมา ตั้งแต่ที่ปล่อยผมไปสีหน้าที่เศร้าๆ แบบคนหมดแรงของเธอก็ดีขึ้นเยอะแถมตลอดเวลาที่ผมกินเมื่อกี้เธอก็เอาแต่มองอย่างเดียวเลย นี่สินะความรักของแม่!
เมื่อชาติก่อนผมแทบไม่ได้เจอมาด้วยซ้ำตั้งแต่เกิด เจอกันเพียงครั้งสองครั้งเพราะพวกรัชทายาทต้องแยกตัวฝึกตั้งแต่เกิด ก็ไม่รู้จะรีบไปไหน แต่พอผมเป็นราชาก็เลยยกเลิกฝึกแต่เกิดอะไรนั้นสะแล้วให้เด็กอยู่กับแม่ก่อน 5 ปี จึงเริ่มเอาเข้ามาฝึก แล้วผลการทำแบบนั้นก็คือ ระดับความสามารถของพวกองค์ชายตกลงไปเยอะกว่ายุคที่แยกเด็กออกมาแต่เกิดมาก
ในตอนนั้นมีพวกขุนนางหลายคนมาบอกให้ทำแบบเดิม แต่ผมก็สั่งเชือดไปจนหมดเพราะมันน่ารำคาญ…
“ลูกตื่นมาแล้วเห็นพวกสาวๆ พวกนั้นไหม?”
“ไม่เห็นครับ”
“เห๋~” สีหน้าของเอรีน่ายิ้มอ่อนๆ ตอนลากเสียง “ไม่เห็นจริงเหรอ? ถ้าลูกจะเลือกมากว่าลาฟเชียร์คนเดียวก็ได้นะ เพราะไม่ว่ายังไงขุนนางหรือราชาก็เลือกได้อยู่แล้ว”
นั้นละครับที่มันเป็นปัญหา เพราะทางนี้ไม่อยากเป็นขุนนางหรือราชาอะไรนั้นแล้ว
แต่จะว่าไปหลายคนมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรขนาดนั้น เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็จะได้แรงงานมาช่วยดูแลบ้านและทำให้การใช้ชีวิตแสนสุขของดรารอน์สะดวกขึ้นด้วย ในระหว่างที่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องดีอยู่นั้นผมก็ชุบคิดอะไรขึ้นมาได้ ถ้ามีพวกเธอไปด้วยมันก็สะดวกจริงๆ แต่ว่า เด็กที่เกิดมาละจะทำยังไง!!!
ไม่ ไม่
เรื่องนี้อย่าพึ่งไปคิดมันดีกว่า
“ว่าแต่ว่าเรื่องของเอ็ดเน่เป็นยังไงบ้างครับ”
“หลับอยู่จ่ะ!”
แหมดีจังเลย~
ไม่สิ! มันใช่เรื่องนั้นสะที่ไหน เอ็ดเน่จะหลับจะตื่นทางนี้จะไปสนใจทำไม ที่ข้าถามมันเป็นเรื่องของนกเพลิงต่างหาก เฮ้อ~ ใจเย็น ใจเย็น ใจยะ-
“ลูกกำลังพูดถึงเรื่องนกเพลิงใช่ไหม?”
นี่ไงก็รู้เรื่องไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมต้องตอบกวนตั้งแต่แรกด้วย ชิ!
แต่เอาเถอะ เข้าใจแบบไม่ต้องถามสำหรับเรามันก็ดีด้วย
“ครับข้ากำลังพูดถึงเรื่องนั่นแหละ”
หลังตอบไปสีหน้าของเอรีน่าที่กำลังยิ้มอย่างสดใส่อยู่ก็มีสีหน้าจริงจังทันที ไม่นะสีหน้าแบบนั้นลางสังหรณ์ของข้ามันบอกออกมาได้ทันทีเลยว่ามีเรื่องอีกแล้ว หวังว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอเพราะนกเพลิงนั้นนะ เพราะถ้ามันทำอะไรเธอละก็วันนี้มันได้เป็นนกที่โดนเพลิงทำให้สุขแล้วกลายเป็นนกเสียบไม้แน่!