เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 34 : เก็บค่าทำขวัญก่อนจากลา!
ตอนที่ 34 : เก็บค่าทำขวัญก่อนจากลา!
หลินซวนที่ไม่ได้รับรู้ความเป็นไปในแดนรกร้างใด ปราณวิญญาณฟ้าดินนั้นคงอยู่ในเมืองอู๋ตันราวหนึ่งชั่วยามก่อนจะค่อยๆจางหายไป ปรากฏการณ์ที่เกิดจากเนตรสวรรค์นัยน์ตาหยินหยางก็เช่นกัน ในอ้อมแขนของซวนหยานหราน หลินซวนเรอออกมาเล็กน้อยก่อนจะหลับไปในที่สุด
ราวสองเค่อถัดมา ทุกคนในเมืองอู๋ตันก็ตื่นจากสภาวะมึนงงที่ประสบอยู่ สมาชิกตระกูลเซียว หลินเปา และคนแซ่ซวนทั้งสองก็ได้หลุดออกจากความสับสนเช่นกัน
ในความรู้สึกของพวกเขาคล้ายกับทั้งโลกแยกออกเป็นสองส่วน เมื่อคนแซ่เซียวทั้งหลายหายจากอาการเหล่านี้แล้ว ก็พบกับสภาพของห้องโถงที่เป็นรูโหว่ และร่างของเซียวซุ่ยที่ฝังอยู่ใต้ซากกำแพง อีกทั้งเหมืองหินวิญญาณระดับสูงของพวกเขาก็โดนดูดพลังปราณไปจนแห้งเหือด!
อันที่จริงแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ทารกน้อยเช่นหลินซวนจะกลืนกินปราณวิญญาณทั้งหมดไหวด้วยตัวคนเดียวแต่ด้วยความช่วยเหลือของทักษะที่เขาเพิ่งได้รับมา ทำให้หลินซวนสามารถขโมย....เรียกค่าเสียหายเป็นปราณจากเหมืองตอบแทนได้แทบจะทั้งหมดที่ตระกูลเซียวมี หลังจากปราณวิญญาณฟ้าดินที่พัดกระหน่ำเพราะการดูดกลืนของหลินซวนได้ส่งผลให้สมาชิกสกุลเซียวได้บรรลุขั้นบ่มเพาะทุกคนเช่นกัน แต่ถึงกระนั้น การจ่ายออกด้วยปราณที่แทบจะเหือดแห้งไปจนหมดทั้งเหมืองนั้นดูจะมากเกินไป....
ในคราแรก คนแซ่เซียวทั้งหลายล้วนโห่ร้องออกมาด้วยความยินดีเมื่อพบว่าตนเองเลื่อนชั้นปราณขึ้นมา แต่ภายหลังเมื่อค้นพบราคาที่จ่ายออกไป พวกเขาทำได้เพียงร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือด!
นี่มันเกิดเหตุบัดซบอันใดกัน? พวกเขาเพียงต้องการกอดสัญญาหมั้นหมายกับตระกูลซวนไว้เพื่อจะช่วยพัฒนาสกุลเซียวของตนก็เท่านั้น
แต่บัดนี้ ไม่เพียงสัญญาหมั้นจะถูกยกเลิก แม้กระทั่งเหมืองหินวิญญาณระดับสูงเพียงแห่งเดียวของพวกเขาก็โดนดูดปราณภายในออกไปจนเทียบหมดสิ้น!
“อ้ะ ฮ่าๆ ขอบคุณสำหรับน้ำใจของพวกเจ้า” หลินเปาลุกขึ้นมาจากพื้นพร้อมหัวเราะด้วยความอายเล็กน้อย
ท้ายที่สุด คนแซ่หลินก็ล้วนแต่เป็นผู้ทระนงตนทั้งสิ้น แม้กระทั่งหลินเปาที่เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสก็ดูน่าอายเล็กน้อยที่เขาจะมานั่งบ่มเพาะในจวนของผู้อื่น
ตาแก่เปามาที่นี่ไม่เพียงเพื่อช่วยเหลือเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เท่านั้น แต่เขากลับได้รับปราณจากเหมืองของงตระกูลเซียวไปแทบทั้งหมดด้วย ถึงแม้ว่าคนที่ได้ผลประโยชน์ที่แท้จริงจะเป็นหลินซวนก็ตาม แต่แล้วอย่างไร? ทารกน้อยคนนี้ก็เป็นคนแซ่หลิน ดังนั้นก็ไม่ต่างจากเขาได้ประโยชน์เช่นกัน
ที่สำคัญกว่านั้น ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากเนตรสวรรค์นัยน์ตาหยินหยานยังส่งผลให้หลินเปาได้รับผลดีบางส่วนเช่นกัน….
ซวนชูและซวนหยานหรานค่อยๆลุกขึ้นมา เมื่อทั้งคู่ลืมตาขึ้นก็สัมผัสได้ถึงเรื่องน่าประหลาดใจบางอย่าง พวกนางเลื่อนขั้นลมปราณได้ภายในเวลาเพียงชั่วยามเดียวเท่านั้น! แถมยังได้รับการพัฒนาความสามารถในการมองเห็นขึ้นเล็กน้อยอีกน้อย! นี่เป็นเพราะเซียนน้อยแซ่หลิน? ทรงพลังเกินไปแล้ว!
“แค่กๆ ผู้นำเซียว อีกไม่กี่วันพวกเขาตระกูลหลินจะจัดงานฉลองครบรอบเดียวให้หลินซวน จึงได้ส่งเทียบเชิญไปยังตระกูลใหญ่ทั้งหมดในอาณาจักรฉีซานแห่งนี้”
“แม้ผู้อื่นไม่มาก็มิเป็นไร แต่พวกเจ้าสกุลเซียวต้องมา!” ตาแก่เปาดึงเอาบัตรเชิญขึ้นมาและส่งให้เซียวจ้าน
เซียวจ้านที่กำลังตกใจจนแทบสิ้นสติกับปริมาณปราณในเหมืองหินวิญญาณของตนอยู่นั้นยื่นมือออกไปรับบัตรเชิญด้วยท่าทางไร้สติ
“ไม่จำเป็นต้องนำของขวัญใด เพียงตัวคนมายินดีก็เพียงพอแล้ว อะแฮ่ม พวกเราได้รับของกำนัลชิ้นใหญ่แล้วในวันนี้ ถือเสียว่ามันเป็นของแสดงความยินดีสำหรับงานฉลองก็แล้วกัน...”
หลังกล่าวจบ แม้แต่ตาเฒ่าเปาก็มิกล้าจะอยู่ที่นี่ต่อไป ก่อนที่ตระกูลเซียวจะทันได้มีปฏิกิริยาใดกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลินเปาก็ลากตัวซวนชูและซวนหยานหรานออกไปจากอาณาเขตสกุลเซียวทันที!!
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ตระกูลเซียวที่ราวกับโดนทุบด้วยค้อนก็หายจากอาการมึนงงในที่สุด
“จะ เจ้าพวกสกุลหลิน!!”
“พวกเจ้าต้องชดใช้ให้เหมืองของเราก่อนที่คิดจะจากไป!!”
มองไปยังหลินเปาที่หนี....ที่เดินจากไปได้ครู่ใหญ่แล้ว ก่อนจะหันมามองรอบห้องโถงที่พังทลายไปส่วนหนึ่ง เซียวจ้านทำได้เพียงร่ำไห้อย่างเงียบงันเท่านั้น!
“ท่านผู้นำ เราควรทำเช่นใดดี?” ตาแก่คนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมาเสียงสั่นเทา
มือหนึ่งกำด้ามกระบี่แน่น ดวงตาแดงก่ำ โทสะปะทุจนแทบไม่สามารถจะเอ่ยคำออกมาได้อย่างชัดเจน
“พวกมันสมควรตาย....”
“อาศัยเจ้าหรือ?” เซียวจ้านร้องไห้แต่ไร้น้ำตา!! เขาทำได้เพียงนั่งลงอย่างหมดแรงบนพื้นเท่านั้น
เมื่อได้เห็นรุ่นเยาว์ตระกูลอื่นที่ไอปราณรอบตัวราวกับสายรุ้งแวววาว ช่างเป็นอัจฉริยะไร้เทียมทานยิ่ง ก่อนจะหันกลับมาของอดีตอัจฉริยะของตน พวกเขาทำได้เพียงรู้สึกผิดหวังยิ่งนัก
พวกเขาเคยคิดว่ามันจะยังมีโอกาสที่สองสำหรับเซียวซุ่ยอยู่ แต่มิคาดว่าเทียบกับตระกูลหลินแล้ว คนของพวกเขาจะห่างไกลกันถึงเพียงนี้....
ตาแก่ทั้งหลายของตระกูลเซียวทำได้เพียงทรุดลงบนพื้นตัวสั่นเทา เมื่อมองออกไปเจอเหล่าศิษย์ตระกูลเซียวทั้งหลายยืนออกันอยู่บริเวณโดยรอบ ความโกรธก็พุ่งขึ้นมากระแทกใจ ก่อนจะตะคอกออกไปเสียงดังลั่น
“พวกเจ้ารออันใดกันอยู่? รีบซ่อมกำแพงสิ!”
“อ้ะ ได้ขอรับๆ!”
....
ข่าวการถอนหมั้นของตระกูลเซียวบัดนี้แพร่กระจายไปทั่วเมืองอู๋ตันรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง รวมถึงสาเหตุของปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ที่ผ่านมาก็กลายเป็นที่พูดถึงเช่นกัน
“เจ้าได้ยินมาหรือไม่? ปรากฏการณ์ก่อนหน้านี้นั้นแม้จุดเริ่มต้นจะมาจากตระกูลเซียว แต่ต้นเหตุมิใช่คนสกุลเซียว!”
“นายน้อยแซ่เซียวผู้นั้น เซียวซุ่ย ล่าสุดโดนอัจฉริยะตระกูลซวน ซวนหยานหราน ถอนหมั้นแล้ว!”
“ความวุ่นวายก่อนหน้านี้หากมิใช่เพราะสกุลเซียว เยี่ยงนั้นควรเกิดจากคุณหนูซวนผู้นั้นใช่หรือไม่?”
“หืม! เพราะตระกูลซวน? นี่มิใช่ว่าสกุลเซียวช่างน่าสงสารเกินไปหรอกหรือ!”
“เฮ้อ ไม่ว่าจะเป็นเพราะผู้ใดก็ตาม แต่ก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่พวกเรามิอาจจะเทียบเคียงได้....”
“....”
หลังจากที่ชาวเมืองพูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสารกันไม่นานก็เข้าใจถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ภายหลังเมื่อสกุลเซียวมาได้ยินข่าวลือเหล่านี้ ความโกรธก็พุ่งปะทุในหัวใจของพวกเขา คนแซ่ซวนและแซ่หลินพวกนั้นทำเกินไปแล้ว!
“ตระกูลเซียวประสบกับความสูญเสียครั้งอย่างเข้าแล้ว”
ในป่าทึบซึ่งเป็นชายขอบรอยต่อของแดนรกร้าง แสงอาทิตย์สาดส่องบางเบา เงาร่างบางอย่างปรากฏขึ้นสามร่างด้วยกัน หนึ่งคือหลินเปา ส่วนอีกสองย่อมเป็นแม่นางซวนทั้งคู่ พวกเขาเพิ่งหลบหนี....เดินทางออกมาจากสกุลเซียวเมื่อครู่ก่อนหน้า