เกิดใหม่อีกครั้งกับการแย่ง ตอนที่ 104 ทำตาม
" ก็จริงอยู่ที่ตระกูลของข้าไม่มีเงินขนาดนั้น แต่ถ้าคิดกลับกันถ้าเรื่องนี้สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้ทหารได้ การที่จะลงทุนแบบทุ่มสุดตัวมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรคะ แบบท่านที่ไปกู้เงินจากสมาคมพ่อค้าเมื่อปีที่แล้วโดยเอาพื้นที่อณาเขตทางใต้ของเมืองเป็นของประกันเอาไว้ "
โห่ว!
เล่นเอาแปลกใจนิดหน่อยนะที่เธอสามารถคิดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ฟังจากที่อาเรียพูดออกมาก็คงจะไม่ได้ต่างจากทางผมสักเท่าไหร่หรอกที่จะเอาที่ดินที่เป็นเขตปกครองของตระกูลไปค้ำประกัน เพราะตามกฏของประเทศแล้วขุนนางสามารถซื้อหรือขายอณาเขตของตนเองให้กับคนอื่นได้ ซึ่งถ้าเหลืออณาเขตน้อยกว่าตามที่ประเทศระบุเอาไว้ขุนนางก็จะกลายเป็นสามัญชนหรือคนธรรมดาทันที แต่กลับกัน ต่อให้พวกที่รับซื้อที่เป็นพ่อค้าจะมีพื้นที่มากเท่าไหร่ก็เป็นได้แค่พื้นที่ทำกินเท่านั้นไม่นับว่าเป็นขุนนางเด็ดขาด
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นการซื้อขายที่ดินก็เกิดขึ้นตลอดเวลา เพราะพวกพ่อค้าเอาไปขายต่อให้ขุนนางที่สนใจแทนทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าได้กำไรง่ายๆ หรือถ้าขายไม่ได้มันก็ทำการเพราะปลูกแทนเรียกว่าได้กับได้ทั้งนั้น แต่ที่อาเรียพูดออกมาเมื่อกี้มันก็ยังมีสิ่งที่ขัดกันอยู่หนึ่งอย่าง
" เธอพูดแบบนี้แปลว่าจะทำแบบข้าสินะ? "
" ใช่คะ! ตามที่คำนวณดูอณาเขตของตระกูลของข้าก็คงเอามากู้ได้สัก 1,000 - 1,500 เหรียญทอง ได้แบบไม่ลำบากอะไร แถมยังมีผู้คนในอณาเขตเยอะอีกเพราะตระกูลของข้าไม่เคยขายชาวบ้านไปเป็นทาส ยังไงพวกสมาคมพ่อค้าก็ต้องการมันแน่! "
อาเรียตอบมาด้วยท่าทางที่มีความมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยม
แต่เอาตามจริงสิ่งที่เธอกำลังพูดออกมามันก็สมเหตุสมผลของมันอยู่เช่นกัน อณาเขตตระกูลของเธอขึ้นชื่อเรื่องจำนวนคนอยู่แล้วเพราะเป็นเพียงอณาเขตเดียวที่ไม่ขายคนของตัวเองเป็นทาสก่อนที่ผมจะเปลี่ยนกฏหมายใหม่ เลยทำให้มีแรงงานจำนวนมากอยู่ที่นั่น ถ้าขายก็คงมีพวกขุนนางที่มีอณาเขตรอบตระกูลของเธอพากันแย่งกันซื้อทันทีเลย
" ถ้างั้นก็มาเข้าเรื่องหลักแล้วกัน ก็จริงอยู่ที่เธอสามารถทำแบบนั้นได้ แต่ถ้าน้องของเธอยังอยู่ คนที่มีสิทธิ์ตรงนั้นในการตัดสินใจเอาอณาเขตมาเป็นหลักประกันก็คือหมอ- "
" เรื่องนั้นท่านไม่ต้องเป็นห่วงคะ ข้าสามารถจัดการได้! "
ระหว่างที่ผมกำลังจะถามอาเรียก็ตอบออกมาก่อนเหมือนกับว่ารู้เรื่องที่ผมจะพูดออกไปอยู่แล้ว แต่ก็นั่นแหละ! คนที่มีความสามารถแบบเธอเรื่องแค่นี้ต้องสามารถเข้าใจได้แน่นอน งั้นเรื่องนี้ปล่อยให้เธอเป็นคนจัดการเองดีกว่า ทางเราก็มาเริ่มตามแผนที่คิดเอาไว้ต่อเลย รู้ว่าอาเรียยังอยู่ช่วยงานแบบนี้ก็สบายใจขึ้นเยอะ เพราะถ้าต้องหาคนมาทำงานใหม่ก็ต้องสอนตั้งแต่ 1 ไม่สิ! ตั้งแต่ 0 ถึงจะถูก เพราะงานที่ผมวางรับบเอาไว้มันต่างจากการทำงานของคนปกติในโลกนี้มาก
จากนั้น
" เจ้าไปเตรียมรถม้าเอาไว้ด้วย เที่ยงนี้ข้าจะเดินทางไปสมาคมพ่อค้า "
ผมก็เริ่มออกคำสั่งต่อ
" เอ่ะ! องค์ชายจะไปช่วยข้าคุยกับ- "
" อย่าเข้าใจอะไรผิด! เรื่องการกู้และหาเงินให้กับทหารของตระกูลมันเป็นหน้าที่ของเธอ ข้าก็แค่มีธุระกับพวกมันอยู่แล้วเพราะต้องไปคุยเรื่องธุรกิจหลังจากนี้ "
" คะ... ค่ะ "
อาเรียตอบออกมาด้วยน้ำเสียงค่อยๆ จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปจากห้องทันที ตามจริงก็เป็นห่วงเธออยู่หรอกว่าจะสามารถเจรจากับกิลล์ได้ไหม เพราะถึงอาเรียจะเก่งเรื่องจัดการกับบริหารก็จริง แต่เรื่องการเจรจามันต่างออกไป ยิ่งถ้าไปเจรจาโดยทางนั้นรู้สิ่งที่เธอต้องการมีหวังเสียเปรียบเรื่องการกู้เกินความจำเป็นแน่
เพราะแบบนี้ถึงบอกทำเป็นไม่สนใจแต่ผมก็อยากไปฟังอยู่ดี เพราะยังไงกิลด์มันก็เป็นพ่อค้า มันต้องหาผลประโยชน์เท่าที่หาได้อยู่แล้ว เหอะๆ
ส่วนในเรื่องที่ผมต้องการจะคุยเองก็เป็นเรื่องที่วางแผนเอาไว้ก่อนแล้ว เพราะเวลานี้พวกสมาคมพ่อค้าเป็นพ่อค้าคนกลางที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ที่เป็นแหล่งร่วมอาหารอณาเขตทางเหนือ ถ้าไม่ทำข้อตกลงอะไรกับพวกมันเพิ่มสักหน่อยผมก็คงไม่อุ่นใจ ด้วยเหตุผลนี้มันก็เลยทำให้ผมต้องเดินทางเพื่อไปพบกับกิลด์ด้วยตัวเอง แลที่ไม่เรียกมันมาหาก็เป็นเพราะไม่อยากให้มันมีเวลาเตรียมตัวก่อนเดี๋ยวถ้ามันรู้ก่อนจะมีข้อเสอนอะไรมาอีก ผมก็เลยเลือกที่จะบุกไปเล ยและเริ่มกดดันให้มันตัดสินใจตรงนั้นแบบไม่มีเวลาให้คิดมาก!
##############
ณ ด้านหน้าตึกสมาคมพ่อค้า
หลังจากทีผมเดินทางมาก็พบกับพวกคนของสมาคมพอค้าจำนวนหลายสิบคนกำลังยืนอผมอยู่ โดยหลังจากที่เดินลงมาจากรถม้าพร้อมกับอาเรียพวกมันก็ก้มหัวลงเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ ตัวของกิลด์เองก็กำลังอยู่ในกลุ่มพวกสมาคมพ่อค้าที่กำลังก้มหัวอยู่เช่นกัน จากนั้นผมจึงเดินเข้าไปหามันทันที
เมื่อเดินถึง
" องค์ชายไม่ทราบว่าวันนี้ท่านมีธุระอะไรครับ ถ้าท่านต้องการเพียงแค่เรียกข้าให้ไปหาก็ได้ ทางข้าจะไปหาท่านทันทีไม่มีความจำเป็นที่คนระดับท่านต้องเดินทางมาเองแบบนี้หรอกครับ "
กิลด์มันก็เริ่มพูดออกมาด้วยใบหน้าปั้นยิ้มแบบที่พวกขุนนางชอบใช้กัน แต่ก็นะเพราะหมอนี่มันเป็นพ่อค้าจะหาความจริงใจกับคนอย่างมันไม่ได้หรอก ถ้าให้เดาตอนนี้มันก็คงกำลังสบถด่าผมในใจมากกว่าที่เดินทางมาอย่างนี้ เพราะมันก็น่าจะรู้ดีว่าผมเดินทางมาแบบนี้ก็คงไม่ได้จะมาเที่ยวเล่นหามันหรอก หึหึ!
" วันนี้ที่ข้ามามีธุระอยู่สองอย่าง เรื่องที่หนึ่งคนของข้าต้องการเจรจาอะไรบางอย่างกับเจ้า ส่วนเรื่องที่สองข้าจะมาคุยเรื่องการค้าขายระหว่างพวกเราในอนาคต เพราะตอนนี้เจ้าก็น่าจะเข้าใจดีแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่เมืองหลวงของประเทศพวกเรา "
" คะ... ครับองค์ชาย ...ถ้างั้นพวกเราก็เข้าไปคุยด้านในกันเถอะครับ! "