ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 49 ไม่เป็นที่ต้องการของใคร
วาเรี้ยน รู้สึกเจ็บปวดจากภายในร่างกายอย่างมาก กระดูกที่หัก กล้ามเนื้อฉีกขาด หลอดเลือดที่แตกก็ไม่สามารถหยุดเขาจากความต้องการที่จะยืนขึ้นของเขาได้
ชาร์ลลีหันกลับมาและเลิกคิ้ว ซาร่าห์และผู้คนต่างประหลาดใจ
“ฉัน” วาเรี้ยนรู้สึกเจ็บแสบร้อนจากลำคอในขณะที่เขาพยายามจะพูด
ผู้คนเงียบไม่มีใครพูดอะไรขณะฟังคำประกาศที่น่าขยะแขยงที่สุด
อันดับ 1 น่ะมีได้แค่คนเดียวถ้าจะต้องใช้อันดับ 1 ร่วมกับนายฉันขอตายดีกว่า ฉันจะเอาชนะนายและก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1
ชาร์ลลีอยู่ปีที่สาม ดังนั้นถ้าวาเรี้ยนจะทำตามที่เขาพูดจริงๆ เขาจะต้องเอาชนะชาร์ลลีให้ได้ก่อนที่ชาร์ลลีจะจบการศึกษา
ก่อนหน้านี้นักเรียนชื่นชมความกล้าหาญของวาเรี้ยนในการต่อต้านชาร์ลลี แต่ตอนนี้คำพูดของเขาดูเหมือนจะทำให้หลายคนไม่พอใจ
แม้แต่ซาร่าก็เงียบไป
ชาร์ลลีเป็นอันดับ 1 ตัวจริงอย่างเถียงไม่ได้ เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด เก่งที่สุด มีไหวพริบมากที่สุด
ระดับ 9 หลายคนและแม้แต่จักรพรรดิสองสามคนพูดในหลายโอกาสว่าเขาจะก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิที่อายุน้อยที่สุด
เขาเป็นระดับ 4 เมื่อตอนที่เขาเข้าร่วมสถาบันในปีแรก ภายในสิ้นปีที่สองเขาอยู่ในระดับ 6 ส่วนใหญ่คาดว่าเขาจะเข้าสู่ระดับ 7 ในเวลาไม่เกินสองปี
เขาอายุเพียง 22 ปีและระดับ 7 บางทีเขาอาจจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์
'เขาไม่มีทางทำได้' ทุกคนคิดขณะมองไปที่วาเรี้ยน
ชาร์ลลีมองดูวาเรี้ยน ต่อจากนั้นก็ดูซาร่าห์ก็ส่ายหัว เขาเริ่มมองเห็นชาร์ลพร่ามัวมากขึ้น ห่างออกไป 50 เมตร 60 70 ...จนหายไป
มีเพียงเสียงของคนที่มามุงเท่านั้นที่ยังคงอยู่ "ฉันหวังว่าทุกคนจะรู้ดีว่าถ้าคบหากับคนที่ท้าทายแซนเดอร์จะเป็นยังไง"
ทุกคนในฝูงชน รวมทั้งอาจารย์ตัวสั่น
มันจะกลายเป็นอีกเรื่องที่แตกต่างออกไปหากครอบครัวแซนเดอร์เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ครอบครัวแซนเดอร์เป็นผู้ปกครองโลกที่ไม่ได้สวมมงกุฎ จูเลียส แซนเดอร์ เป็นหนึ่งในจักรพรรดิที่อายุน้อยที่สุด
หลายคนในรุ่นนี้เชื่อว่าเขาจะเหนือกว่าจักรพรรดิคนอื่นๆและไปถึงจุดสูงสุดของมนุษย์ มีแม้กระทั่งลัทธิที่เชื่อว่าเขาจะเป็นผู้กอบกู้มนุษยชาติ
ไม่ผิดที่จะบอกว่า จูเลียส แซนเดอร์ อาจเป็นมนุษย์คนที่สำคัญที่สุดที่ต้องมีชีวิตอยู๋
เมื่อครอบครัวแซนเดอร์เติบโตขึ้น ประเด็นก็เปลี่ยนจากปัญหาของชาร์ลลี แซนเดอร์ เป็นปัญหาของแซนเดอร์
นักเรียนทุกคนอย่าไปร่วมทีมกับเขา ไม่มีใครยอมเสี่ยงชีวิตของพวกเขาโดยการร่วมทีมกับวาเรี้ยน
อาจารย์ซึ่งตอนแรกต้องการแอบช่วยวาเรี้ยนก็ล้มเลิกแผนไปเช่นกัน
ซาร่าห์มองไปที่วาเรี้ยนและส่ายหัวเธอจากไปอย่างเงียบๆ
แม้แต่อาดีร์ที่เข่าหักก็ยังคลานออกไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเพียงไม่กี่นาที มีเพียงวาเรี้ยนเท่านั้นที่ยืนอยู่ในทุ่งกว้าง
เขาสั่งการ "ขอความช่วยเหลือทางการแพทย์"
{การต่อสู้ของคุณเป็นเรื่องส่วนตัว คุณต้องจ่ายค่ารักษาด้วยตัวคุณเอง ปัจจุบัน MP ของคุณคือ 0}
วาเรี้ยนอ่านข้อความแล้วหัวเราะ
ลากร่างที่หักของเขาเข้าไปในหอพัก
ประตูห้องของหอพักของเขาเปิดออกและเมื่อเปิดเข้าไปเขาไม่เจอใครเลย เห็นได้ชัดว่าเพื่อนร่วมรุ่นของเขาไม่มีใครที่จะอยากแม้แต่จะคุยกับเขา
'ขอบคุณมากนะฉันจะได้ใช้ของส่วนกลางได้เหมือนของส่วนตัว'
วาเรี้ยนเข้าห้องน้ำและอาบน้ำ กระเป๋าสัมภาระของเขาถูกจัดเตรียมมาตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่บ้านโดยอิชช่าแล้ว
เขาหยิบกล่องยาออกมาและใช้การรักษาขั้นพื้นฐานกับบาดแผลของเขา แม้ว่าจะไม่หายทันที แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
นอกจากนั้น เขายังเป็นผู้ปลุกพลังร่างกายระดับ 2 เขาจะหายในไม่กี่ชั่วโมง
วาเรี้ยนปิดหน้าต่างด้วยคำสั่งและสูดหายใจเข้าลึกๆ
เขาทรุดตัวลงบนเตียงและนึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้
เป็นวันที่แย่ที่สุดในการเริ่มต้นสถาบันการศึกษา ก่อนที่เขาจะนอน การแจ้งเตือนก็ดังขึ้นในการสื่อสารของเขา
{คุณถูกลงโทษ 20 คะแนนสำหรับพฤติกรรมก้าวร้าวของคุณ ทุกวันพิเศษจะเพิ่มคะแนน MP หนึ่งคะแนน}
"นั่นคือสิ่งที่ฉันรอคอยที่จะได้ยินมาตลอด" วาเรี้ยนพูดด้วยน้ำเสียงประชด
เขาเหลือบมองเพดานและพยายามทำให้ตัวเองร่าเริง
เขาถูกแบนตั้งแต่มาวันแรก แม้ว่าเขาจะมองโลกในแง่ดี แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าเขาจะโดดเดี่ยวจากทั้งนักศึกษาและอาจารย์
เขาอยู่คนเดียวอีกแล้ว
วาเรี้ยนยิ้มให้กับตัวเอง บางทีเขาอาจจะบ้าไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้เสียใจอะไร
ถ้าเขาคุกเข่าลงขอโทษสิ่งต่างๆ ก็คงไปไม่ถึงขั้นนั้น แต่ถ้าเขาทำอย่างนั้นวาเรี้ยนที่เขารู้จักก็จะหายไป
ศรัทธาในตัวเขาพังทลายในคืนนั้น เขายังคงฝันถึงคืนนั้นบ้างบางครั้ง เขาไม่เคยลืมว่าเขาตัวแข็งทื่อด้วยความกลัวและไม่สามารถช่วยแม่ไว้ได้
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเลิกพยายาม
แม้ตอนนี้ แม้จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็มีบางครั้งที่เขาต้องการเลิกทุกอย่างและกลับไปสู่ความมืดมิดของเขา
ที่จะอยู่คนเดียวอีกครั้ง ที่จะไม่ลองทำอะไรอีก เพื่อโน้มน้าวตัวเองว่าเขาไม่สามารถทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้ ว่าความฝันของเขาเป็นเพียงความฝัน
วาเรี้ยนมีความคิดเหล่านั้นทั้งหมด แต่… มีบางอย่างในตัวเขาทำให้เขาต้องดำเนินต่อไป
ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นคำพูดสุดท้ายของแม่ของเขา แต่ตอนนี้เขาสามารถพูดได้ว่าส่วนใหญ่ของมันคือความปรารถนาที่จะมีชีวิตอีกครั้ง
คำพูดของเธอทำให้เขาได้รับแรงผลักดัน
เขาอยากจะเชื่อในตัวเองอีกครั้ง บางทีความฝันทั้งหมดของเขาอาจไม่ใช่แค่ภาพลวงตาของเขา
บางทีตลอดเวลาหลายปีที่เขาฝึกฝนอาจคุ้มค่า บางทีเขาอาจจะเป็นคนที่เขาภาคภูมิใจ
บางทีเขาอาจจะกลายเป็นผู้กอบกู้ อาจนำมาซึ่งความสงบสุข อาจจะ...
แต่วาเรี้ยนแค่ก้าวออกมาจากความซึมเศร้าแค่ก้าวเดียวหลังจากนั้นไม่นานเขาก็จะตกลงไปในห้วงความซึมเศร้าเหมือนเดิม สิ่งที่ทำให้เขาไม่เป็นแบบนั้นคือความก้าวหน้าและชัยชนะอย่างต่อเนื่องของเขา
ถ้าเขาล้มเหลว เขากลัวว่าเขาจะกลับไปเป็นแบบเดิม และครั้งนี้จะไม่มีอะไรดึงเขากลับมาได้
'ฉันต้องเข้มแข็ง' วาเรี้ยนให้กำลังใจตัวเอง
'ฉันมาไกลมากแล้ว ฉันไม่ต้องการที่จะนอนบนโซฟาโดยหวังว่าทุกอย่างเป็นเรื่องโกหกและหวังว่าปัญหาทั้งหมดของฉันจะได้รับการแก้ไขด้วยปาฏิหาริย์ การหายใจของวาเรี้ยนรุนแรงขึ้น
เขารู้สึกจุกในลำคอ เขานึกถึงความสิ้นหวังและความเหงาอย่างแท้จริงที่เขารู้สึก
'ฉันเชื่อในตัวเอง ฉันจะไม่ล้มเหลวอีกครั้ง ฉันจะไม่... ฉันจะไม่หยุดนิ่งเมื่อคนที่ฉันต้องการปกป้องกำลังตกอยู่ในอันตราย...ฉัน...' วาเรี้ยนค่อย ๆ หลับไป
ในเวลาต่อมาวาเรี้ยนพบว่าตัวเองตื่นอยู่ แต่ทุกอย่างก็มืดมิด เขาพยายามลืมตา เขาพยายามขยับร่างกาย
แต่ก็ไม่สามารถทำได้เหมือนกับมีโซ่มาล่ามเขาอยู่
“อ๊ะ!” ในที่สุดวาเรี้ยนก็สามารถลืมตาได้
เขาพบว่าตัวเองอยู่ในโถงทางเดินที่คุ้นเคย มันคือโถงทางเดินของโรงเรียนประถมของเขา
เด็กสองสามคนกำลังล้อมรอบใครบางคน
"เฮ้!" วาเรี้ยนมองด้วยความประหลาดใจเมื่อเด็กคนนั้นเดินผ่านเขาไป
เขามองดูตัวเองและรู้ว่าตัวของเขาโปร่งใส
“นายแพ้แล้ว”
“นายคือคนที่คะแนนห่วยที่สุดในห้อง”
"นายใช้เวลาทั้งวันในโรงยิม และไปเรียนสายทุกวัน"
อย่างไรก็ตามการเยาะเย้ยเหล่านั้นฟังดูคุ้นเคย
วาเรี้ย เดินไปหาเด็กๆที่อยู่รอบๆใครบางคนและดวงตาของเขาเบิกกว้าง
เขาเห็นตัวเองตอนที่อายุ 13 ขวบเขาถูกทุบตีและฟกช้ำทั้งตัว
มีเด็กประมาณ 5 คนอายุเท่าเขาที่มีบาดแผลต่างกันไป แต่พวกเขารวมตัวกันและด่าเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะล้มลง
“รีบออกไปซะ นายมันน่ารำคาญ”
“ไม่ใช่ว่านายจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ หรือเป็นเหมือนพ่อของนายหล่ะไปเป็นทหารแล้วตายอะ”
"ฮ่าๆๆๆ"
"ตี!"
วาเรี้ยนที่อายุน้อยก็ตบที่คางของเด็กแล้วผลักเขาออกไป
เสียงที่อ่อนวัยของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ "อย่าดูถูกพ่อของฉัน"
ฉากนั้นน่าเกลียดและกลายเป็นการทะเลาะวิวาทของวาเรี้ยนวัยเด็ก แม้ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแรงกว่าก็ตาม อย่างไรก็ตาม คู่ต่อสู้ของเขาทั้งหมดถูกน็อกเอาต์
"สัตว์ประหลาด..."
“นายมันไอ้คนไม่เอา”
“ก็แค่ต่อสู้ตลอดทั้ง”
เด็กๆ ที่ชมการต่อสู้วิ่งหนีไปและด่าเขา
วาเรี้ยนวัยเด็กไม่ได้ต่อยหรือด่าพวกเขากลับไปเพราะพวกเขาไม่ได้ด่าพ่อของวาเรี้ยน
เขาเดินออกจากอาคารเรียนและนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เขามองดูเด็กทุกคนที่อายุเท่าเขาเล่นกับเพื่อนๆ พูดคุยกันและหัวเราะอย่างมีความสุข
แต่เขาไม่มีใครเลย เขากัดฟันและกำหมัด
'ฉันจำได้แค่คร่าวๆ แต่... วันนั้นฉันอยู่ที่นี้จริงๆ เดาว่าฉันถูกลิขิตให้อยู่คนเดียว วาเรี้ยนตามแวเรียนวัยเด็กออกไปและส่ายหัว
หนุ่มวาเรี้ยนพึมพำ “ฉันจะอยู่คนเดียว…..”
จากนั้นความอบอุ่นก็โอบล้อมเขาขณะที่เขารู้สึกว่ามีคนกอดเขาจากด้านหลัง
“ฉันจะไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว” เธอพูด
วาเรี้ยนวัยเด็กหันกลับมา
ผมสีน้ำตาลยาวของเธอแตะคอของเขา และดวงตาสีทองของเธอจ้องมาที่เขา
วาเรี้ยนและวาเรี้ยนวัยเด็กต่างก็พูดพร้อมกัน
“เซีย!”