ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 48 ชาร์ลลี แซนเดอร์
วาเรี้ยนตกตลึงในขณะที่เขารู้สึกถึงพลังทั้งหมดที่เขาออกแรงไปในหมัด ถูกหยุดได้ด้วยนิ้วนิ้วเดียว
เขาก้าวถอยหลังเมื่อเห็นเจ้าของนิ้วนั้น
ชายหนุ่มอายุประมาณ 20 ปี เขาสูงแต่ดูรูปร่างไม่แข็งแรงมากนัก แต่วาเรี้ยนรู้สึกถึงอันตรายร้ายแรงจากเขา แม้แต่อะบิซอลขุนนางก็ยังไม่ให้ความรู้สึกแบบนี้กับเขา
ราวกับว่าชายหนุ่มผู้นี้ที่แก่กว่าเขาแค่สองสามปีเป็นสัตว์ประหลาดที่มีพลังมหาศาล
วาเรี้ยนถอยหลังออกมาและตั้งรับตามสัญชาตญาณ เสียงฝีเท้าของเขาเป็นเสียงเดียวที่ได้ยินในตอนนี้
ทุกคนต่างนิ่งสงบไม่มีใครเคลื่อนไหว
จากนั้นแรงกดดันของออร่าขนาดใหญ่ก็ลงมากดทับเขา วาเรี้ยนรู้สึกเหมือนถูกทับอยู่ใต้ภูเขาอันแสนหนักอึ้ง ทุกคนในที่เกิดเหตุรวมทั้งรุ่นพี่ไม่สามารถขยับได้
พวกเขาทั้งหมดรู้สึกหายใจไม่ออกและทรมาน
วาเรี้ยนเห็นว่านาร์ซิสมองดูชายหนุ่มด้วยหลากหลายอารมณ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความอิจฉาริษยา
“พยายามทำให้คนอื่นโดนหักคะแนนและก่อเรื่องทะเลาะวิวาท” ชายหนุ่มพูดช้าๆ แต่เสียงของเขาก้องอยู่ในหูทุกคน
เขามองไปที่อาดีร์ที่ยั่วยุนาร์ซิสในตอนแรก ใบหน้าของอาดีร์ขาวซีด และเขากำลังโดนแรงกดดันจากออร่ากดดันอย่างหนักจนเขาไม่สามารถขยับตัวได้
แต่ดวงตาของเขากำลังอ้อนวอนขอความเมตตา
"คุกเข่า" ชายหนุ่มกล่าวและเพิ่มแรงกดดันต่ออาดีร์
"ฟุบ"
"ตึง"
เสียงหัวเข่าของอาดีร์กระแทกกับพื้นอย่างแรง
"ขอโทษ" อาดีร์พยายามพูดออกมาแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม
"ฉัน... ฉันขอโทษ" อาดีร์มองไปที่ชายหนุ่ม แต่เมื่อเห็นใบหน้าของชายหนุ่มเขาก็เข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อและหันไปหานาร์ซิส
เขาก้มศีรษะและพูดซ้ำ "ฉันขอโทษ"
นาร์ซิสกำหมัดแล้วมองชายหนุ่ม "ชาร์ลลี ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนายสักหน่อย"
ชาร์ลลีส่ายหัวขณะที่เหลือบมองอาดีร์ "ฉันปล่อยให้น้องชายของฉันถูกใครก็ไม่รู้ชักใยไม่ได้"
นาร์ซิสเหลือบมองไปที่อาดีร์และเข้าใจวิธีการของอาดีร์ เขารู้สึกอับอายยิ่งกว่าเดิมเมื่อชาร์ลลีปรากฏตัว
เขามองไปที่ชาร์ลลีและเดินจากไป ร่างกายของเขาสั่นด้วยความโกรธและเดินเข้าไปในหอพัก
วาเรี้ยนตกตะลึงกับสิ่งที่พึ่งได้ยิน
ชาร์ลลี แซนเดอร์ ลูกคนแรกของตระกูลแซนเดอร์ อันดับแรกในรายการพลอยม่วง นักเรียนอันดับ 1 ที่แข็งแกร่งที่สุด
เขาเข้าใจด้วยว่าทำไมนาร์ซิสถึงเกลียดการถูกเรียกว่าที่สอง
และความคิดทุกอย่างของเขาก็ถูกหยุดลงเมื่อชาร์ลลีหันมาหาเขา
เขาเลิกคิ้วขึ้นและพูดว่า "นายไม่ได้มาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงหรือมีอำนาจ แต่นายมายุ่งกับสมาชิกในครอบครัวคนสำคัญของฉันอย่างนั้นหรอ"
วาเรี้ยนกัดฟันไม่ตอบ ผู้ชายคนนี้ตาบอดหรือยังไงฉันไปยั่วยุนาร์ซิสตอนไหน? ฉันมักจะอยู่ห่างจากปัญหาเสมอ
'ฉันพยายามที่จะไม่เข้าไปยุ่งกับปัญหาแต่ฉันก็มักจะลงเอยแบบนี้ตลอด' วาเรี้ยนคิด
แรงกดดันต่อทุกคนยกเว้นวาเรี้ยนถูกล้างออกไป
ผู้คนสามารถเคลื่อนไหวได้ แต่ไม่มีใครขยับ และนักเรียนก็เริ่มเข้ามามุงดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุกเข่า ขอโทษซะ” ชาร์ลลีพูดว่า
แทนที่จะรอคำตอบของวาเรี้ยนออร่าที่กดทับเขากลับกดทับเขาเพิ่มเข้ามาอีกและไหล่ของเขาก็ทรุดลง
วาเรี้ยนรู้สึกราวกับว่าเขาถูกหินก้อนใหญ่ทับลงมาเพื่อที่จะให้คุกเข่า
เขากัดฟันและทนต่อความเจ็บปวดจากกระดูกของเขา ขาของเขาสั่นและก่อนที่เขาจะรู้ตัวกล้ามเนื้อของเขาขาดและเส้นเลือดแตก
เลือดสีแดงไหลลงสวนสีเขียวจนเปลี่ยนเป็นสีแดง
วาเรี้ยนตัวสั่นจนควบคุมไม่ได้ในขณะที่เขาพยายามต้านทานแรงกดดัน แต่เขามองที่ชาร์ลลีตรงๆ ในดวงตา
เขาเห็นแต่ความเฉยเมย สำหรับเขาไม่สำคัญว่าใครผิด
'ฉันเข้าใจหล่ะ' วาเรี้ยนส่งพลังชี่เข้าไปในร่างกายเพื่อพยุงตัวเองขึ้นเมื่อเขาตระหนักว่าเขาคิดผิด
'ความปรารถนาแรกสุดของฉันคือการยุติสงครามกับอะบิซอลและนำสันติภาพกลับมา ฉันต้องการช่วยมนุษยชาติ'
แรงกดดันเพิ่มขึ้น และแผ่นหลังของวาเรี้ยนโค้งงอเขาไม่สามารถยืนตัวตรงได้อีกต่อไป ตอนนี้เขาไม่สามารถมองหน้าของชาร์ลลีได้ เขาไม่สามารถแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นได้
เขากัดฟันและนึกถึงความฝันในวัยเด็กของเขา — การขึ้นเป็นจักรพรรดิคนที่ 9 ถึงแม้ว่าความคิดนี้จะอยู่ในมุมลึกสุดของความทรงจำเขาก็ตาม
เขาอยากที่จะยอมแพ้แต่ว่าเขายังคงยืนหยัดและเลือกที่จะไม่ยอม ตอนนี้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาควรจะทำคือการขึ้นเป็นจักรพรรดิ แม้ว่าจะไม่มีใครเชื่อเขาว่าเขาจะทำได้ก็ตาม
“คุกเข่าลงไปดีๆก็ไม่เป็นไรแล้ว แกวอนหาเรื่องเองนะ” ชาร์ลลีพูดและแสงสีฟ้าล้อมรอบร่างกายของเขา
มือของเขากลายเป็นกรงเล็บหมาป่าและเขาเดินไปใกล้วาเรี้ยน
ขณะนี้ผู้ชมประกอบด้วยนักเรียนหลายร้อยคน รุ่นพี่อย่างน้อย 50 คน และแม้แต่... ครูสองสามคน
ไม่มีใครเข้ามาห้ามการต่อสู้นี้ ไม่มีใครแม้แต่จะเอยปากถาม
'ความแข็งแกร่ง... ความแข็งแกร่ง...' วาเรี้ยนรู้สึกว่าภายในของเขาปั่นป่วนภายใต้แรงกดดันและกระอักเลือดออกมา
'แม้ว่าฉันจะไม่ต้องการมีปัญหาฉันก็ยังถูกลากให้เจอกับปัญหาอยู่ตลอด อาจเป็นเพราะไอ้ระบบบ้านี่หรือความโชคร้ายของตัวฉันเอง แต่ถ้าฉันยังอ่อนแอแบบนี้ ฉันก็จะถูกกดขี่อยู่แบบนี้ตลอดไป"
'แล้วถ้าฉันเจอเซียล่ะ? ฉันไม่สามารถช่วยเธอด้วยกำลังที่มีอยู่ของฉันได้'
'ฉันต้องการความแข็งแกร่ง' วาเรี้ยนบอกตัวเองและกระอักเลือดออกมาอีกคำหนึ่ง
"แพละ"
"กร๊อบ"
กระดูกเท้าของเขาถูกบดขยี้และวาเรี้ยนรู้สึกว่าร่างกายของทรุดลง
แรงกดดันที่กดเขายังคงกดเขาลงไปเรื่อยๆ และเขายังคงต่อต้านมัน
“ก็ยังไม่ยอมคุกเข่าใช่ไหม?” เสียงอันเยือกเย็นของชาร์ลลีดังขึ้น
เขาหันไปหาอาจารย์และถามว่า “การลงโทษสำหรับการยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำอีกและจงใจก่อให้เกิดปัญหาคืออะไรครับ”
หญิงวัยกลางคนตอบทันทีว่า “ล้างคะแนน MP ของเขาทั้งหมดในกรณีเบาๆ แต่ถ้าหากมีอาชญากรรมร้ายแรงให้ไล่ออก”
“ใช่ ไล่เขาออกไป”
“ไล่ออก!”
ชาร์ลลีหันไปหาอาดีร์ที่คุกเข่าตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วถามว่า "แล้วใครติดสินบนนายให้ยั่วยุนาร์ซิส"
อาดีร์นึกอะไรออกและเขาชี้มือเปื้อนเลือดไปที่วาเรี้ยนและตะโกนว่า "เขาคนนั้น!"
“ผมแค่ทำตามที่เขาสั่งมา”
“ไล่นักเรียนคนนี้ออกไป เขาเป็นความอัปยศของสถาบันของเรา”
“ใช่ อยู่ดีๆใครก็ไม่รู้จะมาได้อันดับ 1 ในการสอบเข้าได้ยังไง มันต้องโกงแน่นอน! บางทีมันอาจจะสมรู้ร่วมคิดกับอะบิซอลด้วยซ้ำ”
ความคิดเห็นจากนักเรียนและอาจารย์กลายเป็นเรื่องเลวร้ายมากขึ้นทีละคน
วาเรี้ยนไม่ได้พูดอะไร แต่เขาจดจำเสียงของทุกคนที่ด่าเขาไว้ในความทรงจำไว้อย่างดี
“คุกเข่าลงซะถ้าไม่อยากโดนไล่ออก” ชาร์ลลีเพิ่มความกดดันต่อวาเรี้ยนเป็นสองเท่า
วาเรี้ยน ถูกบดขยี้และทรุดลง
"พอได้แล้ว"
แต่ก่อนที่เขาจะคุกเข่าลง มือขนาดใหญ่ที่ทำจากน้ำก็รั้งเขาไว้
เขาหันไปหารุ่นพี่สาวคนนึงซาร่าห์
เธอลงมาจากท้องฟ้าและมองดูผู้คนก่อนจะหันไปมองที่ชาร์ลลี
ดวงตาของเธอไม่ได้เหมือนกับดวงตาปกติ แต่ภายในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความยุติธรรม
“เราสามารถตรวจสอบว่านักเรียนคนนี้ติดสินบนเด็กคนนั้นจากบันทึกคะแนน MP ได้จริงไหมชาร์ลลี”
“นาร์ซิสกับผู้ชายคนนี้ต่างก็ทะเลาะวิวาทกันทั้งคู่ดังนั้นก็ปรับทั้ง 2 คนซะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงโน้มน้าวใจ
ทุกคนรวมทั้งซาร่าห์รู้ดีว่านาร์ซิสเป็นคนที่เก็บอาการไม่อยู่จนเป็นคนก่อเรื่องนี้ แต่นี่เป็นสิ่งที่เธอทำได้มากที่สุดให้ใกล้เคียงกับคำว่า "ความยุติธรรม" มากที่สุด
การลงโทษเพียงนาร์ซิสจะทำให้ชาร์ลลีไม่พอใจและจะไม่มีใครตรงนี้หยุดเขาได้
แทนที่จะถูกไล่ออก การปรับสักสองสามคะแนน MP ก็มากพอแล้ว
ชาร์ลลีเหลือบมอง วาเรี้ยนสักพักแล้วเขาก็ยิ้มให้ซาร่าห์
"ถ้าเธอพูดแบบนั้นว่าตามนั้นก็ได้" แรงกดดันต่อวาเรี้ยนหายไปและเขาหันหลังกลับและกำลังจะเดินจากไป
"ชะ-ชา-ละะ-ลลลี" เสียงอันแสนโหยหวนทำให้ผู้คนหันกลับมาสนใจอีกครั้ง พวกเขาหันกลับมาเห็นร่างที่เปื้อนเลือดค่อยๆ ลุกขึ้นยืน..