ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 47 ทำยังไงให้ไม่โดนไล่ออก
“นักเรียนนายร้อยมีวิธีไหนบ้างถึงจะโดนไล่ออกหรอครับ”
วาเรี้ยนถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม..
“เอ่อ…”
“ผู้ชายคนนั้นคือ…”
“ตรงต่อเวลา มันยากสำหรับนายสินะ ฮ่าๆ”
ีรุ่นพี่จ้องมองที่วาเรี้ยนชั่วครู่และเกือบจะหัวเราะ เมื่อเห็นว่าวาเรี้ยนเป็นเพียงระดับ 2 เขาจึงเลิกยับยั้งชั่งใจและเยาะเย้ยใส่
“มีสามกรณี
หนึ่งคือถ้า MP รวมของนายเป็น 0 หรือติดลบตอนสิ้นเดือน
สองคือถ้าสอบไม่ผ่านทุกเดือน
สามคือถ้านายกลายเป็นคนพิการหรือถูกลงโทษ
รุ่นพี่ดูเหมือนจะอธิบายอย่างไม่กักข้อมูล แต่น้ำเสียงของเขาเป็นการเยาะเย้ย
วาเรี้ยนไม่ได้ถูกสนใจเรื่องที่รุ่นพี่จะเยาะเย้ยเขา เขาแค่ต้องการคำตอบสำหรับคำถาม
'ตอนนี้ฉันมี 0 MP เลยต้องหา MP มาเพิ่มซักหน่อย นอกจากนี้การมี MP จะช่วยให้ฉันพัฒนาได้เร็วขึ้น'
คะแนน MP คือทุกอย่างของที่นี่ คุณสามารถซื้ออะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสมบัติดาวดาว ยาพิเศษ ยาอายุวัฒนะ แม้แต่การสอนพิเศษแบบตัวต่อตัวจากครูระดับสูงก็สามารถขอได้ถ้าหากว่ามีคะแนน MP พอที่เขาต้องการ
“ทำอย่างไรจึงจะได้คะแนน MP”
วาเรี้ยน ยกมือขึ้นและถามต่อ
“สิ่งที่นายทำจะทำให้นายได้รับคะแนน MP ได้สมมติว่านายฆ่าอะบิซอลลอร์ดนายจะได้รับคะแนน MP สองหรือสามคะแนนนี่แหละ
แต่ถ้านายลักพาตัวมันและใช้พวกมันเพื่อเจรจาและปล่อยตัวมนุษย์ที่โดนพวกมันจับขังไว้ นายจะมีได้คะแนนมากขึ้น” รุ่นพี่ลูบคางแล้วพูด
เขาพูดสรุปและนักเรียนก็พยักหน้า มีเพียงนาร์ซิสเท่านั้นที่ไม่สนใจ
จากนั้นเขาก็พูดต่อไปในหัวข้อการได้รับคะแนน MP ต่อ:
"คลาสของพวกเธอจะเริ่มวันพรุ่งนี้ หลังจาก 2 สัปดาห์ พวกเธอจะสามารถเริ่มทำภารกิจได้ ภารกิจคือที่มาของคะแนน MP ส่วนมากเลยหล่ะ หนึ่งภารกิจสามารถรับคะแนน MP ตั้งแต่สิบถึงร้อยได้เลยนะ"
เขาพูดและเห็นรุ่นน้องของเขาตื่นเต้น
และเขาก็พูดสิ่งที่ทำให้ทุกคนอึ้ง "25% ของนักเรียนที่นี่จะเรียนไม่จบ"
บรรยากาศเงียบไปพักนึง
'วาเรี้ยนไม่ได้อยู่ตอนที่ซาร่าห์พูดถึงเรื่องเปอร์เซ็นของการตาย'
วาเรี้ยนสงสัยเมื่อมองดูเหล่านักเรียนหน้าซีด
“ดรอปออกไป 2% ตาย 23%” เขาถอนหายใจ
รุ่นพี่กล่าวต่อ "จาก 23% นั้น 13% มาจากปีแรก 3% ในปีที่สองและ 7% จากปีที่สาม"
“ดังนั้น คนที่คอยดูแลพวกเธอจึงเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับภารกิจของพวกเธอ เธอจะต้องสร้างทีม ภารกิจที่ทำคนเดียวนะไม่มีทางเป็นไปได้”
เขาเหลือบมองวาเรี้ยนโดยไม่ตั้งใจและคนอื่นๆ ก็จับคำใบ้ของเขาได้
'มองอะไร? ฉันติดแบลคลิสต์แล้วสินะ' วาเรี้ยนเห็นการจ้องมองของพวกเขาและรู้ว่าความน่าเชื่อถือของเขานั่นไม่มีหลืออยู่แล้ว
ไม่มีใครจะเดิมพันชีวิตของพวกเขากับผู้ชายที่มาสถาบันทหารสายในวันแรก อันที่จริงมันไม่ได้เกี่ยวกับการมาสาย มันเกี่ยวกับความมุ่งมั่น เหตุผลนับพันไม่อาจนำชีวิตที่ตกต่ำกลับคืนมาได้
สายตาของนักเรียนคนอื่นบอกกับวาเรี้ยนว่าเขาจะไม่สามารถเข้าร่วมทีมไหนได้เลยสำหรับภารกิจแรกของเขา
ดังนั้นตอนนี้วาเรี้ยนไม่มีคะแนน MP เลยในตอนนี้ และต้องการคะแนน MP ก่อนวันที่ 45 เพื่อไม่ให้ถูกไล่ออก ที่มาหลักของคะแนนคือการที่ต้องทำภารกิจเป็นทีม จะไม่มีทีมไหนที่ต้องการเขาเข้าไปอยู่ด้วย นั่นก็หมายความว่าเขาไม่น่าจะหาคะแนน MP ได้จากการทำภารกิจ
'อย่ากังวลมากเกินไป ตอนนี้ทุกอย่างมันพังไปแล้ว ไม่มีอะไรจะพังไปได้มากกว่านี้แล้ว วาเรี้ยนพยายามคิดหาทางแก้ไข' เขาคิดให้กำลังใจตัวเอง
มีอีกสิ่งหนึ่งที่ฉันต้องการชี้แจงเกี่ยวกับการถูกไล่ออก 'การทดสอบ'
"ขั้นตอนการทดสอบเป็นอย่างไรครับ" เขาถาม
"เรามีเวลาเรียน 8 เดือนในหนึ่งปี 3 เดือนครึ่งสำหรับหนึ่งภาคเรียน"
“พวกเธอจะต้องจ่าย 20 คะแนนในวันสุดท้ายของทุกเดือนเพื่อเข้าร่วมการทดสอบรายเดือน เธอทุกคนต้องมีคะแนน MP อย่างน้อย 10 คะแนนจากการสอบเข้า เธอจะต้องได้รับเพิ่มอีก 10 คะแนนในภารกิจแรกของเธอ” เขาหัวเราะเยาะ
ปฏิทินสุริยคติมี 8 เดือนบนพื้นฐานของซากปรักหักพัง 8 แห่ง แต่ละเดือนมี 45 วัน จึงจำเป็นต้องจ่าย 20 คะแนนในวันที่ 45
เหล่านักเรียนเหลือบมองวาเรี้ยนโดยไม่ตั้งใจแต่คราวนี้มองด้วยความสงสาร
วาเรี้ยนดูสงบลงเล็กน้อย แต่ภายในเขาสาปแช่งอีแวนเดอร์ทั้งเก้าชั่วอายุคน
'ไม่มีเพื่อนคนไหนอยากที่จะร่วมทีมกับฉัน ฉันต้องการคะแนน 20 MP ภายในวันที่ 45 ดันนั้นฉันต้องทำภารกิจด้วยตัวคนเดียวเท่านั้น แต่การทำภารกิจคนเดียวก็เหมือนกับการฆ่าตัวตาย ฉันว่าคงจะไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้แล้วละ' เขาตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่ง
จากนั้นเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ และสงบสติอารมณ์ตัวเอง
'ฉันยืนอยู่หน้าประตูนรกตั้งหลายครั้ง โอกาสรอดชีวิตของแทบจะไม่มีทุกครั้งแต่ฉันก็ผ่านมันมาได้ กับไอ้แค่การทำภารกิจคนเดียวคิดว่าฉันจะทำไม่ได้หรอ'
แทนที่จะสิ้นหวังแต่เขากลับทำให้ตัวเองไม่กลัวที่จะสิ้นหวังและสู้ต่อไป
รุ่นพี่ยังคงพูดต่อไปและมีบัสมาอีกมาก นักเรียนและรุ่นพี่ที่นำทางพวกเขาก้าวลงจากรถและพูดคุยกันอย่างจริงจัง
ไม่นาน ก็มีนักเรียนร้อยคนและรุ่นพี่สิบคนอยู่หน้าอาคารหอพัก
วาเรี้ยนถูกทอดทิ้ง ในตอนนี้บทสนทนาที่อยู่รอบตัววาเรี้ยนเป็นเรื่อง กลยุทธ์ของทีม และอื่นๆ
เขาเดินไปที่ทางเข้าและเห็นรายชื่ออยู่บนจอโฮโลแกรม
มีสี่แถวอยู่ในโฮโลแกรม แถวแรกเป็นสีม่วง แถวสองเป็นสีเดียวกับเพชร แถวสามเป็นสีทอง และแถวที่สี่เป็นสีเงิน
แต่ละรายการมี 10 ชื่อ รายการสีม่วงมีขนาดใหญ่ที่สุดและมีแบบอักษรที่ต่างออกไปที่สุด
ชาร์ลี ซานเดอร์ 80k mp
วิลเลียมสัน 60k mp
ซาร่าห์ 56kmp
….
…
มีนักเรียนสองสามคนให้ความสนใจในรายชื่อและกำลังมองดู
“รุ่นพี่นี่หรือคะ?”
สาวสวยผมหางม้าถามอย่างน่ารัก
"นี่คือรายชื่อรายการอันดับ พลอยม่วง เพชร ทอง และเงิน ทุกคนในสถานศึกษาสามารถแข่งขันเพื่อจัดอันดับได้"
รุ่นพี่ซึ่งเป็นสาวตัวสูงตอบด้วยรอยยิ้มสดใส
"การจัดอันดับเหล่านี้ขึ้นอยู่กับคะแนนสะสมของเธอ" รุ่นพี่ในกลุ่มของวาเรี้ยนขัดจังหวะและจ้องไปที่สาวน่ารัก
"พวกที่อยู่ในรายการพลอยม่วงจะนับ 10 อันดับนักเรียนนายร้อยของสถาบันการศึกษาโดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นปีไหน รายการเพชรสำหรับปีที่ 3 เท่านั้น รายการทองสำหรับปีที่ 2 และเงินสำหรับปีแรก" เขาพูดออกมาดัง ๆ
คำพูดของรุ่นพี่ดึงดูดความสนใจของทุกคนในสนาม นักเรียนรวมตัวกันรอบโฮโลแกรม
หลังจากมองรายการพลอยม่วงกันไปสักพัก พวกปี 1 ก็เห็นรายการเงินของตัวเอง
วาเรี้ยน 510 mp
นาร์ซิส 130 mp
ไรอัน 100 mp
ชายคนหนึ่งกระซิบว่า "ชาร์ลลี แซนเดอร์เป็นพี่ชายของนาร์ซิสงั้นหรือ เขาเป็นที่ 1 โดยไม่มีข้อกังขาเลยสักนิดแต่นาร์ซิสก็เป็นได้แค่ที่สองละนะ"
คนปกติอาจไม่ได้ยินแต่ทุกคนเป็นคนที่พลังตื่นแล้ว และอย่างน้อยก็ระดับ 2 พวกพลังสายร่างกายทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถได้ยินได้ภายในระยะ 200 - 300 เมตร
“บูม!”
นาร์ซิสต่อยหมัดของเขาไปที่ไอ้คนที่พูดถึงชื่อเขาจนคนนั้นลอยไปชนกำแพง
“ไอ้ขยะ แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดชื่อของฉัน” นาร์ซิสยกกำปั้นขึ้นมาอีกครั้ง
ผู้คนรอบๆ นั้นออกห่างบริเวณนั้นทันที
ชายที่บาดเจ็บค่อยๆ ลุกขึ้นและถ่มน้ำลายลงบนพื้น
"แกหน่ะที่ 1 ยังไม่ได้นั่นหมายความแกจะแพ้แม่แต่เพื่อนรุ่นเดียวกันด้วยซ้ำ แกจะเอาตัวแกเองไปเปรียบเทียบกับพี่ชายของแกได้ยังไง"
'เวรเอ้ย แบบนี้ไม่ดีเลย ฉันไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ' วาเรี้ยนรู้สึกถึงความตึงเครียดในอากาศและมองไปรอบๆ
เขาเห็นหน้าของคนคนนั่นและรู้สึกคุ้นเคยมาก
อาดีร์!
เขาทะเลาะกับไรอันเมื่อวันก่อนและถูกปรับคะแนน เมื่อเขาเห็นอาดีร์ครั้งแรก เขาก็กำลังโต้เถียงกับนาร์ซิสแถมเขายังเยาะเย้ยนาร์ซิสหลังจากที่พวกเขากลับมา
'แล้วทำไมต้นเหตุของการทะเลาะกันต้องเป็นฉันด้วยเนี้ย?'
ไม่มีทางที่ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องบังเอิญ ตั้งแต่ออกจากหอประชุมจนมาถึงที่นี่ไม่มีใครพูดชื่อนาร์ซิสเลยสักคนแถมนาร์ซิสเองก็ไม่ได้สนใจคนรอบข้างด้วย
แม้จะลงจากรถบัสแล้วนาร์ซิสก็ถอดชุด VR ออกและยืนอยู่คนเดียวในมุม
เขาจะเป็นคนที่หาตัวเจอได้ง่ายมากเพราะทุกคนต่างรักษาระยะห่างจากเขามาก
เพราะว่าอาดีร์เห็นนาร์ซิสเลยเข้าไปยั่วโมโหทันทีหรอ?
'งั้นเรื่องทั้งหมดนี่ก็เกิดขึ้นเพราะอาดีร์เป็นคนต้องการให้เกิดหรอ? แล้วอาดีร์จะทำแบบนั้นไปทำไม?'
วาเรี้ยนเห็นนาร์ซิสเดินเข้ามาหาเขาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรอย่างมาก
"แก... แกคือเหตุผลที่ฉันถูกไอ้พวกโง่นี้มันดูถูก ที่พวกมันดูถูกฉันได้ก็เป็นเพราะแกคนเดียว"
'ไม่ นายมันเป็นคนงี่เง่าที่ตกหลุมพรางอาดีร์ อาดีร์ถูกปรับ MP ของเขาไปแล้วและเขาต้องการให้นายถูกปรับเหมือนกัน' วาเรี้ยนส่ายหัวเพราะไม่มีทางที่นาร์ซิสจะฟัง 'เหตุผล' ของเขา
วาเรี้ยนต้องการหลีกเลี่ยงการต่อสู้ด้วยเหตุผล 3 ข้อ
ข้อหนึ่งคือตอนนี้เขาไม่อยากโดนปรับคะแนนไปอย่างไร้ความหมายเพราะเป้าหมายของเขาคือคะแนน 20,000 MP
ข้อสองคือเขาต้องการที่จะเก็บพลังอวกาศของเขาเอาไว้เป็นไพ่ใบสุดท้าย
ข้อสามคือเขายังไม่ต้องการต่อสู้ตอนนี้ การต่อสู้กับนาร์ซิสยังไวไปเพราะเขาต้องการที่จะล้างแค้นเมื่อเขาสู้กับนาร์ซิสได้อย่างสูสีแล้วเท่านั้น
แต่ตอนนี้ปัญหานั้นมายืนอยู่ข้างหน้าเขาแล้ว เขาไม่สามารถสู้กับนาร์ซิสตัวต่อตัวได้
วาเรี้ยนใช้พลังชี่และพลังอวกาศของเขา
มีแสงสีน้ำเงินออกมาจากนาร์ซิสและยิงใส่วาเรี้ยนด้วยความเร็วสูง
"มา"
นาร์ซิสต่อยใส่วาเรี้ยนและวาเรี้ยนต่อยกัลบทันที
"ตู้ม"
ทำให้เกิดคลื่นสั่นสะเทือนจากการปะทะกันเป็นวงกว้างและทุกคนทำได้แต่ยืนดูไม่มีใครพูดอะไร
"....."
"....."
เหลือไว้เพียงความเงียบที่น่าขกลุก
นักเรียนทุกคนอ้าปากค้างเมื่อเห็นใครบางคนใช้นิ้ว 2 นิ้วขากคนละข้างหยุดหมัดของทั้ง 2 คนเอาไว้
*** *** ***