บทที่ 439 ทำลายความฝันของแฟนคลับสาวๆ (ฟรี)
เขาไม่มีพรสวรรค์ ถึงต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่น เหนื่อยมากกว่าคนอื่น แต่ไม่มีใครเห็นใจเขาเลย ในทางกลับกัน ผู้จัดการยังรู้สึกไม่พอใจเขา และมักจะตําหนิเขาเสมอ ในเรื่องการร้องเพลงหรือเต้นรําที่มันใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้❓
แต่เรื่องที่ทําให้เขาทนไม่ได้ก็คือ ผู้คนมักจะเอาเขาไปเปรียบเทียบกับซูเชิ่งจิ่ง โดยบอกว่าซูเชิ่งจิ่งเดบิวต์พร้อมกับเขา แต่ตอนนี้กลายเป็นที่นิยมมาก แล้วให้เขาไตร่ตรองตัวเองดีๆ
ทั้งยังบอกอีกว่าซูเชิ่งจิ่งดีกว่าเขาในทุกเรื่อง ถ้าเขาสามารถดีเท่าซูเชิ่งจิ่งครึ่งหนึ่ง บริษัทก็คงจะสนับสนุนเขาอย่างแน่นอน
แต่ซูเชิ่งจิ่ง กลายเป็นที่นิยมไม่ใช่เพราะใบหน้าของอีกฝ่ายหรือไง❓❗️
อีกฝ่ายยกเว้นใบหน้านั้น ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าเขาหรอก❓
แล้วคนพวกนั้น รู้ไหมว่าเขาพยายามหนักแค่ไหน❓
ตรงกันข้ามกับซูเชิ่งจิ่ง เขาทำอะไรบ้าง❗️
ในช่วงเวลานั้นเขารู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เขาอยากจะยอมแพ้ เขาทำได้เพียงซ่อนตัวอยู่ในมุมห้องแล้วร้องไห้คนเดียวอย่างเงียบๆ
เขายอมแพ้ทั้งแบบนั้น แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม หลังจากนั้นเขาทำได้เพียงฝึกร้องเพลงและเต้นรําต่อไปได้ ผ่านไปครึ่งปี ในที่สุดเขาก็เริ่มมีแฟนคลับจํานวนมาก แถมยังได้รับโฆษณาและบทละครต่างๆ อีกด้วย ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา
ยังไงก็ตาม แต่ยังมีซูเชิ่งจิ่งที่ขวางทางเขาอยู่ ทำให้โฆษณาและบทละครที่เขาได้รับมาเป็นของเหลือจากซูเชิ่งจิ่งทั้งหมด
ทุกครั้งที่มองดูซูเชิ่งจิ่งส่องประกายบนเวที มันทำให้เขาอยากจะดึงอีกฝ่ายลงมา ความคิดที่มืดมนนั้นเพิ่มขึ้นทุกวัน จากนั้นเขาก็ตัดสินใจจริงๆ ว่าไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม เขาจะดึงซูเชิ่งจิ่งให้ตกต่ำจนได้
ตราบใดที่ไม่มีอีกฝ่าย ก็จะไม่มีใครขวางทางเขาได้❗️
หลังจากที่ซูเชิ่งจิ่งจากไป ก็เป็นวันที่รุ่งโรจน์ที่สุดของเขา และเขาได้กลายเป็นดาราดังยอดนิยม แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า ซูเชิ่งจิ่งจะกลับมาจริง❗️
ไม่เพียงแค่กลับ นอกจากนี้ยังพาขวดน้ำมันน้อย* มาด้วย
(拖油瓶 ขวดน้ำมันน้อย ในภาษาจีนแปลว่าลูกติด)
เขาคิดแบบนั้น ซูเชิ่งจิ่งไม่สามารถกลับมาดังได้ เพราะหากดาราชายกำลังมีความรักก็จะทำให้สูญเสียแฟนคลับไป ไม่ต้องพูดถึงเรื่องมีลูกเลย
สิ่งนี้เป็นการทําลายความฝันของแฟนคลับสาวๆ
## ???
แต่ซูเชิ่งจิ่งเพียงแค่พิงขวดน้ำน้อย ก็สามารถกลับมาได้ทันที❗️
เหอะ...โชคดีจริงๆ
ฉินเฟิงกระตุกยิ้มที่มุมปากของเขาอย่างเยาะเย้ย ตัวเองทํางานหนักมาเป็นเวลานาน แต่ก็ต้องแพ้ให้กับความโชคดีของซูเชิ่งจิ่ง
เขารู้สึกเสมอว่าซูเชิ่งจิ่งเป็นที่นิยมในวงการบันเทิง มันขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์และโชค แต่ที่ไม่รู้ว่า คือเขาก็ทำงานหนักเหมือนกับอีกฝ่าย ความสดใสบนเวทีคือสิ่งที่เขาได้รับจากการฝึกฝนจนถึงเช้าตรู่ทุกวัน
แม้กระทั่งทักษะการแสดงละคร ยังเป็นเพราะเขาอ่านบทซ้ำแล้วซ้ำเหล่า เข้าใจเรื่องราวอย่างถี่ถ้วน รวมทั้งปรึกษารุ่นพี่และครูหลายคนในโรงเรียนสอนแสดง และรวมถึงตัวเองได้ไตร่ตรองและฝึกฝนซ้ำ ๆ
แม้ว่าจะมีข้อดีบางประการ แต่ซูเชิ่งจิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่ฉินเฟิงคิดเลย ถ้าไม่ทำอะไรทุกอย่างมันก็เปล่าประโยชน์
ฉินเฟิงหลับตาลง
คราวนี้เป็นเพราะเขาประมาทเอง โดยไม่ได้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าซูเชิ่งจิ่งถูกวางยาหรือไม่
เขาสามารถจินตนาการได้ว่าตัวเองจะต้องเผชิญกับอะไร แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่จะพูดอะไร เขาจึงทำได้เพียงหาวิธีแก้ไขเท่าที่จะทําได้...
ในขณะนั้นเองผู้หญิงคนนั้นก้มหน้าลงมาจูบเขา ทันใดนั้นประตูก็เปิดออกพร้อมกับนักข่าวสามคนบุกเข้ามา พวกเขามองไม่เห็นว่าชายที่ถูกกดบนโซฟาข้างในนั้นเป็นใคร ก็ถือกล้องแล้วถ่ายภาพทันที "แชะ แชะ"
บทที่ 440 สุดยอดบอส
หลังจากนั้น นักข่าวก็ส่งวิดีโอไปยังแฮ็กเกอร์ของฉินเฟิง ทันทีที่ได้วีดีโอ ชายคนนั้นไม่ได้ดูวิดีโอเลยด้วยซ้ำ เขารีบเชื่อมต่อโดยตรงกับหน้าจอขนาดใหญ่ในห้องจัดเลี้ยง
ตอนนี้ผู้นำของหลี่กรุ๊ป ซึ่งก็คือพ่อของหลี่โม่หานกำลังขึ้นมาบนเวทีเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ และทุกคนก็กำลังตั้งใจฟังอย่างมาก เพื่อที่จะทำให้เกิดความประทับใจที่ดีต่อสุดยอดบอส
ยังไงก็ตาม สิ่งที่ขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่ควรเป็นภาพของการกุศลของหลี่กรุ๊ป แต่จู่ๆ ก็มีภาพที่ไม่เหมาะสมถูกปล่อยออกมา❗️
"เฮ้ย❗️" พิธีกรร้องออกมา เมื่อพวกเขาเห็นผู้ชายและผู้หญิงกําลังก้มจูบกันอยู่บนโซฟา พวกเขาทั้งหมดตกใจ และสงสัยว่าตัวเองมองอะไรผิดไปไหม
เดี๋ยวก่อนนะ ผู้ชายคนนั้น ฉินเฟิงไม่ใช่เหรอ❓
ผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้านบนของเขา และทําในสิ่งที่เธอต้องการ ฉินเฟิงถูกมัดมือและเท้าไว้ แถมยังถูกเศษผ้าขี้ริ้วยัดในปากอีก แต่กลับไม่มีแม้แต่ท่าทางต่อต้าน เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขากำลังเล่นเกมกันอยู่❓
ไม่เคยคิดว่าเขาจะมีรสนิยมแบบนี้❗️
ผู้คนที่ดูอยู่ในขณะนั้นก็นึกไปถึงโซ่ แส้หรือเทียน ส่วนผู้ใหญ่ที่พาเด็กมาด้วยก็รีบปิดตาเด็กอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสาปแช่งคนเหล่านั้น
เกิดอะไรขึ้นกับฉินเฟิงกันแน่❓
อยากขนาดนั้นเลยเหรอ❓ ถึงได้ทําเรื่องไร้ยางอายขนาดนี้❗️
ซูเชิ่งจิ่งปิดตาของซูจิ่วได้ทันเวลา แต่ซูจิ่วกลับบอกว่าเธออยากดูมาก
อยากจะเห็นความอัปยศของฉินเฟิง เธอไม่อยากพลาด❗️
ยังไงก็ตาม เธอรู้ดีว่าพ่อจะไม่ปล่อยให้เธอมองแน่นอน เพราะมันไม่เหมาะสำหรับเด็กจริงๆ
พ่อของหลี่โม่หานเดินมาถึงหน้าจอใหญ่แล้ว ก็ได้ยินเสียงอุทานดังมาจากด้านล่าง ทำให้เขารีบหันหน้าไปมองข้างหลัง ทันทีที่เห็นภาพของสายตาก็ฉายแววความโกรธเกรี้ยวทันที "เกิดอะไรขึ้น❓❗️"
ผู้ชายคนนี้เป็นใคร❓ ใครเป็นคนเอารูปนี้ขึ้นมา นี่เป็นการต่อต้านเขางั้นเหรอ❓
เจ้าภาพก็สับสนเช่นเดียวกัน ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขารีบขอให้คนด้านหลังหยุดภาพ แล้ววิ่งขึ้นไปบนเวทีแล้วพูดกับพ่อของหลี่โม่หานด้วยความเคารพ "คุณหลี่ อย่าโกรธผมเลยนะครับ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือมีใครแกล้งอะไร❗️ คุณโปรดวางใจ ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนทำ ผมไม่ปล่อยไว้อย่างแน่นอน❗️"
พ่อของหลี่โม่หานหันมองไปที่ผู้ชายบนหน้าจอที่ดูเหมือนจะสนุกอยู่ ทำให้เขาคิดถึงลูกชายคนเล็กของตัวเองที่ยังนั่งอยู่ด้านข้าง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเห็นอะไรไปบ้าง แล้วถ้ามันทำร้ายสุขภาพจิตของอีกฝ่ายล่ะ❓
และซินเหยียนก็อยู่ด้วยเช่นกัน เด็กกว่าลูกเขาอีก เด็กไม่ควรดูอะไรแบบนี้❗️
ดังนั้นพ่อของหลี่โม่หานยิ่งโกรธมากกว่าเดิม เขาถามอย่างเย็นชาว่า "ชายหญิงไร้ยางอายพวกนี้มันเป็นใครกัน ❓❗️"
ผู้สนับสนุนถึงกับเหงื่อตก บรรยายกาศรอบตัวของพ่อหลี่โม่หานเต็มไปด้วยความอึดอัด ไม่กล้าเมินคําถามของอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงสามารถลดเสียงลงแล้วพูดว่า "ท่านประธานหลี่ ผู้ชายคนนั้นเป็นดาราดัง เขาคือฉินเฟิง ส่วนผู้หญิง ผมไม่รู้จัก"
พ่อของหลี่โม่หานตำหนิ "ดาราดังเหรอ❗️ แต่กลับไม่รู้จัดกาลเทศะแบบนี้❓ ทำเรื่องแบบนี้ ช่างเป็นการดูถูกงานการกุศลนี้จริงๆ❗️"
"ใช่ใช่ คุณหลี่ ผมไม่คิดว่าเขาจะทําแบบนี้เหมือนกัน ผมให้คนจัดการแล้ว คุณโปรดใจเย็นๆ"
เพราะงานการกุศลนี้มีการถ่ายทอดสด เพื่อให้ภาพนี้แพร่กระจายบนโลกออนไลน์ไปพร้อมๆ กัน ผู้ชมทั้งหมดเห็นฉากร้อนแรงของฉินเฟิงกับผู้หญิงในห้องรับรอง
ผู้ชมต่างก็ตกตะลึง
[เชี่ย❗️ นั่นฉินเฟิงเหรอ❓ เขากำลังทำอะไรน่ะ❓ ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะมีนิสัยแบบนี้❗️]