ตอนที่ 285 เหตุการณ์บนหอคอยชั้นสอง(ตอนฟรี)

หลังฟังคำอธิบายของเจอร์รี่ แอรีสก็รู้สึกเสียเสียใจเล็กน้อย เขาคิดว่าจะมีโอกาสได้ลงมือซะอีก แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่มองอีกฝ่ายออกไป

“ไม่ต้องห่วง จะมีโอกาสแน่”เจอรืรี่พูดกับพวกแอรีสด้วยรอยยิ้ม

มีราชาเทพขั้นสามช่วงกลางสองคน!

สมกับเป็นราชวงศ์หอกศักดิ์สิทธิ์

เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาเคาะประตูเขาวินาทีที่เขามาหอคอยชั้นสอง

มันดูเหมือนว่าเรื่องทั้งหมดต้องเกี่ยวกับอิค สายตาของเจอร์รี่ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา แต่สุดท้ายก็ยังไม่เลือกทำอะไร

ถ้าเขาต้องลงมือ  เขาจะเลือกวางกับดักและฆ่าคนเหล่านี้วินาทีที่อีกฝ่ายเข้ามายังที่ของเขา

วังนี้คือรางวัลที่มอบให้เขาโดยหอคอยไร้สิ้นสุด โดยธรรมชาติ มันย่อมมีค่ายกลปกป้องอยู่ เมื่อมันทำงาน ราชาเทพขั้นสองจะไม่อาจสร้างปัญหาได้เลย

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาฆ่าคนที่มา มันก็คล้ายกับการประกาศสงครามกับราชวงศ์หอกศักดิ์สิทธิ์ พอถึงตอนนั้น ทั้งสองฝ่ายจะไม่หยุดจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตาย

นั่นจะทำลายแผนการทั้งหมดของเขา

ถ้าเขาเริ่มสงครามกับราชวงศ์หอกศักดิ์สิทธิ์ ต่อให้เขาชนะ แต่สุดท้ายพลังของราชวงศ์ท้องฟ้าก็จะเป็นที่ล่วงรู้ไปทั่ว

สำหรับเจอร์รี่ นี่ไม่ใช่เรื่องดี ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งสำคัญสุดตอนนี้คือเพิ่มพลังเพื่อรับมือกับเขาวงกตบนชั้นสองต่างหาก

ถ้าเจอร์รี่เดาไม่ผิด สัตว์ประหลาดในเขาวงกตบนชั้นสองต้องมีพลังของราชาเทพขั้นสามเป็นพื้นฐาน มันไม่น่าแปลกที่จะมีราชาเทพขั้นสี่ด้วยซ้ำ

เหนือสิ่งอื่นใด ตอนเขาอยู่ในเขาวงกตบนชั้นหนึ่ง เขายังพบราชาค้างคาวที่มีพลังของราชาเทพขั้นสาม

เจอร์รี่รู้สึกว่าเวลานั้นกระชั้นกระชิด

ไม่เหมือนหอคอยชั้นแรก บนชั้นสองผู้ทดสอบทุกคนต้องเข้าเขาวงกตทุกเจ็ดวัน ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาต้องรอสักพักถึงกระตุ้นตราประทับบนหลังมือเพื่อออกได้

นี่เป็นข้อบังคับ สำหรับพวกที่เข้าเขาวงกตแล้วโดนสุ่มไปในรังของสัตว์ประหลาด พวกเขาทำได้แค่บอกว่าพวกเชาโชคร้าย

“เจ็ดวัน?”เจอร์รี่พึมพำกหับตัวเอง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเพิ่มพลังในเจ็ดวัน โชคดี ครั้งนี้ เจอร์รี่พาจูเลียน่ามาชั้นสองด้วย

ด้วยเขตแดนเวลาของจูเลียน่า มันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเวลาเจ็ดวันเป็นเจ็ดสิบวัน

“ต่อไป ทุกคนจะปิดประตูบ่มเพาะ หลังผ่านไปเจ็ดวัน เราจะให้ทุกคนบนชั้นสองรู้ถึงการดำรงอยู่ของพวกเรา”เจอร์รี่พูดกับพวกแอรีส และพลันกระตุ้นค่ายกลปกป้องบนห้องหิน ภายในเจ็ดวัน จะไม่มีใครเข้าห้องของเขาได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขา

นี่คือสิ่งที่หอคอยไร้สิ้นสุดกำหนดไว้เพื่อป้องกันผู้ทดสอบจากการถูกรบกวนตอนพวกเขาบ่มเพาะ แต่ทว่า เนื่องจากกฏของชั้นสองคือทุกคนต้องเข้าเขาวงกตอาทิตย์ละครั้ง การปกป้องบนห้องหินจึงจะอยู่แค่เจ็ดวัน

ตอนนี้ สองพี่น้อง ผู้ซ่อนอยู่ด้านหลังประตูพลันกลับหลังและมุ่งตรงไปวิหารเทพหลังได้ยินประโยคนี้

ด้วยเสียงดังสนั่น ราชวงศ์ท้องฟ้าผู้เพิ่งเข้าหอคอยชั้นสองได้เริ่มปิดด่านบ่มเพาะกันทันที

นี่ทำให้ผู้บัญชาการใหญ่ บัค ผู้นำเจตจำนงของฝ่าบาทแคลร์ในการเชิญชวนเจอร์รี่รู้สึกเหมือนเขากำลังโดนกีดกัน นอกจากนั้น อิค ลู่เจี้ยนกับคนกลุ่มใหญ่เองก็ถูกกันไว้ด้านนอกประตูเช่นกัน

นี่ไม่มีทางอื่น มันคือกฏที่ตั้งโดยหอคอยไร้สิ้นสุด เมื่อมันทำงาน ไม่มีประโยชน์อะไรที่พวกเขาจะยืนรอ

นี่ทำให้พวกอิคที่มาเยือนเจอร์รี่รู้สึกหน้าเสีย พวกเขาไม่คิดว่าชายคนนี้จะเด็ดขาดจนถึงขั้นเลือกปลีกวิเวกโดยไม่ไว้หน้าพวกเขา

ครั้งนี้ ด้านหน้าประตูของเจอร์รี่ ลู่เจี้ยนมองอิคด้วยใบหน้าแดงก่ำ เดิมที พวกเขาวางแผนมาดี แต่ใครจะไปคิดว่าหลังพวกเขามาแล้ว พวกเขาจะไม่สามารถเข้าประตูไปได้

“ท่านลู่ นี่ถือเป็นเรื่องดี!”อิคไม่กลัวเลย เขากลับพูดด้วยรอยยิ้มแทน

“เจ้าหมายความว่าไง?”ลู่เจี้ยนขมวดคิ้ว

“ฝ่าบาท ลองคิดดูให้ดีสิ ทำไมจู่ๆเขาถึงเลือกเก็บตัว?”อิคเดินไปพูด

“หยุดก่อน!ที่นี่มีคนเยอะไป กลับไปคุยกันดีกว่า”ลู่เจี้ยนหยุดเขา ตอนนี้พวกเขาพาคนมามากมายด้านหน้าบ้านคนอื่น และสิ่งสำคัญคือพวกเขายังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป

ถ้าคนอื่นมาเห็นพวกเขาในสภาพนี้จะเป็นยังไง?แถม  เขายังฟังคำแนะนำของอิค เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงความต่างชั้น เขาถึงกับนำราชาเทพขั้นสาม 10 คนมาด้วย ในหมู่พวกเขา ทั้งหมดยังล้วนเป็นราชาเทพขั้นสามช่วงสูง

เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงมีราชาเทพขั้นสามมากสุดแค่เก้าคน สิบคนนี้ก็มากเกินพอให้อีกฝ่ายกดดันแล้ว

อย่างไรก็ตาม ใครจะไปคิดว่าในท้ายที่สุด พวกเขากลับไม่แม้แต่จะได้เข้าประตู และทำได้แค่ยืนเหมือนคนโง่หน้าประตูบ้านคนอื่น?คนที่ไม่รู้คงคิดว่าพวกเขาเป็นตัวตลก

ในความเป็นจริง หลังลู่เจี้ยนจากไปพร้อมคนของเขา ฉากนี้ก็ได้กระจายไปทั่วหอคอยชั้นสองแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นไม่บ่อยนัก

ทุกคนรู้ว่าลู่เจี้ยนได้ส่งคนของเขามาเยือนผู้มาใหม่สองคน แต่ตอนนั้น มันไม่ถือว่าผิดปกติอะไรนัก

แต่ต่อมา แม้กระทั่งผู้บัญชาการใหญ่ของราชวงศ์หอกศักดิ์สิทธิ์ก็ยังมาเองเป็นการส่วนตัว ความหมายนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง

แม้ผู้ทดสอบบนชั้นสองจะต่างรู้ว่าการที่ลู่เจี้ยนสามารถมาถึงจุดนี้ได้เพราะพี่ชายของเขา แต่ก็มีน้อยคนที่จะใส่ใจเขา

ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ผู้ทดสอบเหล่านี้ก็ต้องยอมรับว่าคนที่อยู่ภายใต้ลู่เจี้ยนล้วนทรงพลัง อาจกล่าวได้ว่าพี่ชายผู้ทรงอำนาจของเขาได้คัดเลือกผู้พิทักษ์ให้เขาเป็นการส่วนตัว และในหมู่คนเหล่านั้น ผู้บัญชาการใหญ่บัคก็คือคนที่มีชื่อเสียงมากสุด

แม้กระทั่งทั้งหอคอยชั้นสอง พลังของผู้บัญชาการบัคก็ถือได้ว่าเป็นจุดสูงสุด ไม่เพียงเขาจะไปถึงจุดสูงสุดของราชาเทพขั้นสามแล้ว แต่ยังลือกันว่าบัคเข้าใจเขตแดนขั้นสองแล้วด้วย

ไม่มีผู้ทดสอบคนใดสามารถปราบบัคลงได้

แต่ผู้มาใหม่นี้กลับสามารถทำให้ผู้บัญชาการใหญ่บัคมาหาเป็นการส่วนตัวได้ นี่ยิ่งทำให้ผู้คนรับรู้ถึงความสำคัญของผู้มาใหม่

แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังเดาว่าผู้มาใหม่นี้เป็นใคร ลู่เจี้ยนก็นำคนกลุ่มใหญ่มาด้วยตนเองอีก

นี่ยิ่งทำให้เรื่องใหญ่โต