เกิดใหม่อีกครั้งกับการแย่ง ตอนที่ 95 ฝนธนูไฟ
ทางด้านของชไนน์เดอร์
เวลานนี้ไคเซอร์ที่นำกองเรือหลายร้อยลำก็ได้เดินทางมาถึงระยะที่พอสมควรในการยิงธนูเข้าไปโจมตีเกาะที่พวกคนเถื่อนเผ่ายาเกาอยู่กันแล้ว โดยเรือที่ชไนน์เดอร์เป็นคนนำตอนนี้ก็พากันกระจายตัวออกไปตามจุดต่างๆ ทั่วทั้งเกาะแบบล้อมเอาไว้ เพื่อเตรียมตัวโจมตี
พลธนูแต่ละคนต่างก็กำลังลุกยืนขึ้นเพื่อเตรียมโจมตี โดยเรือแต่ละลำตอนนี้ต่างก็มีถึงกองไฟเพื่อเตรียมจุดไฟให้กับลูกศรเอาไว้ด้วยลำละหนึ่งกอง
สำหรับการโจมตีด้วยธนูถ้าโจมตีด้วยการโจมตีแบบปกติก็คือศรไม่ติดไฟ หรือไม่มีอะไรเคลือบก็เท่ากับว่าเป็นการโจมตีที่เสียเวลาป่าว เพราะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับพวกเผ่ายาเกามากนัก เพราะแบบนี้การโจมตีด้วยธนูไฟมันจะต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะมันจะสามารถสร้างความเสียหายจำนวนมากให้กับพวกมันได้ ส่วนเหตุผลก็เพราะสิ่งปลูกสร้างบนเกาะที่เผ่ายาเกาอาศัยอยู่ต่างก็เต็มไปด้วยไม้ รวมถึงกำแพงป้องกััน มันก็เลยทำให้สามารถติดไฟได้ง่าย และได้รับความเสียหายเยอะ
" เตรียมตัวส่งสัญญาณ!!! "
ชไนน์เดอร์ตะโกนขึ้นมา จากนั้นทหารที่ยืนอยู่บนเรือด้านหลังก็ยกเครื่องส่งสัญญาณขึ้นมา สิ่งทีี่ทหารกำลังยกขึ้นมาในตอนนี้เป็นของรูปร่างคล้ายกับงวงของช้างแต่ขนาดของมันเล็กกว่านิดหน่อย ส่วนเสียงที่มันสามารถดังออกมามันน้อยตามขนาดของมันเลย หลังจากที่ทหารด้านหลังชไนน์เดอร์เริ่มเตรียมตัวพวกทหารที่อยู่บนเรือด้านหลังที่ถือตัวส่งสัญญาณอยู่ก็พากันยกเตรียมตามกันเป็นทอดๆ จนตอนนี้รอบเกาะต่างก็เตรียมเป้าเพื่อส่งสัญญาณแล้ว
" เริ่มโจมตีได้! "
ชไนน์เดอร์เริ่มออกคำสั่งโดยการเอามือขวาที่ชูอยู่ลง
จากนั้น
ปู๊น!!!!!!
ปู๊น!!!!
ปู๊น!!!
เสียงของเครื่องส่งสัญญาณก็ดังขึ้นมาตามกัน โดนเริ่มดังจากคนที่อยู่ด้านหลังของชไนน์เดอร์ก่อนเป็นเสียงลากยาวหนึ่งครั้ง จากนั้นเสียงก็ดังไปทั่วเรือที่กำลังรล้อมเกาะเอาไว้อยู่ แล้วพวกทหารพลธนูที่ได้รับสัญญาณยาวหนึ่งครั้งเพื่อเป็นการให้เริ่มการโจมตีก็พากันเอาปลายศรไปจุดไฟทำให้กลายเป็นธนูไฟ และเริ่มยิ่งโจมตีใส่เกาะด้านหน้าอย่างต่อเนื้อง
ลูกธนูที่โดนยิงจากพวกทหารต่างก็พุ่งเข้าไปแทบทุกทิศทาง บ้างก็โดนกำแพง บ้างก็เข้าไปในกำแพง โดยระหว่างที่โจมตีเข้าไปก็มีเสียงร้องออกมาจากด้านในกำแพงพร้อมกับควันสีดำที่ลอยขึ้นบนฟ้าอย่างต่อเนื้อง และไม่นาน กำแพงไม้ที่ถูกสร้างเอาไว้ตอนนี้ต่างก็โดนไฟลุกไหม้กันแทบทุกจุด
แต่ถึงสถาณการณ์จะเป็นแบบนัั้นพวกทหารพลธนูก็ยังไม่หยุดยิง ยังคงสาดกระสุนเข้าไปยังเกาะที่พวกเผ่ายาเกาอยู่กันอย่างต่อเนื้องแบบไม่หยุดพัก
...
....
.....
ในเวลาต่อมา
' น่าจะพอได้แล้วละมั้ง เท่านี้ก็ปล่อยพวกมันเอาไว้ให้สับสนและใช้กำลังรบบุกขึ้นโจมตีตามแผนที่องค์ชายวางเอาไว้ก็น่าจะสามารถจัดการกับพวกมันได้ทั้งหมด ' ชไนน์เดอร์คิดในใจขณะที่กำลังมองเกาะของพวกคนเถื่อนที่เต็มไปด้วยไฟ และกลุ่มควันสีดำที่ลอยขึ้นมาเป็นจำนวนมาก
จากนั้น
" หยุดโจมตี!!! "
ชไนน์เดอร์ก็ตะโกนไฟยังทหารส่งสัญญาณด้านหลังพร้อมกับชูมือซ้ายขึ้นมา ให้ทหารส่งสัญญาณเข้าใจว่าตัวเองต้องการออกคำสั่งให้หยุดโจมตี ทางทหารส่งสัญญาณเมื่อเห็นท่าทางของชไนน์เดอร์ด้านหน้าของตนก็เริ่มเป่าทันที
ปู๊น!!! ปู๊น!!!
รอบนี้เป็นการเป้าสองครั้ง จากนั้นเสียงเผ่าที่คล้ายกันก็ดังขึ้นมาต่อทำให้ในเวลาไม่นานฝนธนูไฟจำนวนมากที่พุ่งเข้าไปยังเกาะก็หยุดลง แล้วกองเรือเล็กที่ชไนน์เดอร์เป็นคนนำก็เดินทางกลับเข้าฝั่งตามแผนที่ได้วางเอาไว้ เพราถึงแม้ว่าตอนนี้พวกมันจะเสียหายหนักแล้วก็ตามแต่จะใช้ทหารที่มีเพียงดาบเล็กเอาไว้ป้องกันตัวอย่างพลธนูบุกก็ไม่ได้เพราะมันอันตรายเกินไป ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มถอยกันก่อนแล้วเอาทหารราบ อย่างทหารโรมันเป็นคนบุกกวาดล้างอีกครั้ง หลังจากที่ไฟบนเกาะที่กำลังลุกโชนอยู่ดับไป
###########
ทางด้านของเฮเลอร์
ณ จุดชายฝั่ง
หลังจากที่ผมออกคำสั่งกับออฟจบก็ได้เดินทางกลับมาดูการบุกของชไนน์เดอร์ต่อทันที ตอนนี้ด้านหน้าของผมจุดที่เป็นเกาะที่พวกเผ่ายาเกามันอยู่เต็มไปด้วยกองไฟและควันสีดำมากมายลอยขึ้นมา แล้้วพวกทหารที่อยู่บนเรือก็เริ่มถอยกันแล้วเช่นกันเพื่อมาเตรียมตัวในแผนการบุกขั้นต่อไป
นับว่าแผนการบุกครั้งนี้สำเร็จแบบที่คิดเอาไว้ ที่สามารถทำให้พวกมันเสียหายขนาดนั้นได้โดยทางกองทัพของผมไม่เสียคนไปเลยแม้แต่คนเดียว รวมถึงการถอยทัพเองก็เป็นเวลาที่เหมาะเจราะแบบที่คิดเอาไว้ ต้องแบบนี้สิ!
เท่านี้พวกมันก็คงจะเสียหายไม่ใช่น้อย และถ้าทางผมส่งทหารราบเข้าไปก็คงจะสามารถกวาดล้างพวกมันไม่ได้ยากอะไร เพราะตามที่ได้ข้อมูลมาบนเกาะนั่นส่วนมากคนที่อยู่จะเป็นเผ่ายาเกาบริสุทธิ์ ที่เป็นพวกคนของเผ่ามันเท่านั้นทำให้ส่วนมากก็คงไม่ใช่ทหารแต่เป็นเด็กกับผู้หญิงมากกว่า ถึงแม้จะรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้นกับพวกเด็กและผู้หญิงแต่มันก็ช่วยไม่ได้เพราะนี้มันคือสงคราม ความสงสารนี่แหละที่จะเป็นตัวทำให้ภายแพ้ เพราะงั้นการทำแบบนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไร หึหึ!
รหว่างที่ผมกำลังมองเกาะที่กำลังลุกไหม้ไปด้วยไปจากศรเพลิงของพวกทหารอยู่นั่น
" อะ... องค์ชาย... หอบ..หอ "
ก็ได้มีทหารหนึ่งคนวิ่งเข้ามาหาผมด้วยท่าทางที่กำลังเหนื่อยหอบ หลังจากที่หยุดด้านหน้าของผม ท่าทางของทหารตอนนี้คิดยังไงก็เหมือนกับว่าเกิดเรื่องอะไรที่มันร้ายแรงขึ้น หรือไม่ก็ต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากถึงได้มีท่าทางแบบนี้ จากนั้นผมก็เริ่มถามออกไปทันทีด้วยความสงสัยว่า " มีเรื่องอะไร ทำไมถึงได้รีบร้อนแบบนี้? "