ตอนที่แล้วเกิดใหม่อีกครั้งกับการแย่ง ตอนที่ 78 หนึ่งเดือนต่อมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่อีกครั้งกับการแย่ง ตอนที่ 80 ข้อเสนอ

เกิดใหม่อีกครั้งกับการแย่ง ตอนที่ 79 กองทัพฝั่งชไนน์เดอร์


ณ กองทัพฝั่งชไนน์เดอร์

เวลานี้ชไนน์เดอร์กำลังเดินสำรวจรอบค่ายเพื่อดูความพร้อมของพวกทหารอยู่ ตัวค่ายถูกรายล้อมไปด้วเต๊นท์สีขาวน้อยใหญ่มากมาย ตามทางเดินเองก็มีครกไฟตั้งเอาไว้ตามทางเพื่อให้แสงสว่างแก่ทหารภายในค่าย รวมถึงมีพวกทหารยืนตามทางเดินเว้นระยะห่างกันพอสมควรเพื่อรักษาความปลอดภัยเอาไว้

บริเวณด้านนอกค่ายเองก็มีพวกทหารถือโล่และหอก เดินตรวจตรากันเป็นกลุ่มตลอดเวลา ด้วยขนาดค่ายที่มีทหารหลายพันพักอยู่จึงมีขนาดใหญ่พอสมควรมันก็เลยมีทหารหลักร้อยคนเดินไปมาตลอดเวลาทำให้้ในค่ายไม่เงียบสงบเท่าไหร่

' นี่ก็ผ่านมาได้ 1 เดือน เข้าไปแล้ว ทหารเราเสียไปไม่เยอะในการรบก็จริง เพราะหมดไปเพียงร้อยสองร้อยคน แต่ว่า ที่กำลังเป็นปัญหากับกองทัพของเราตอนนี้ก็คืออาหาร ถึงแม้ว่าตอนนี้จะได้รับข่าวมาว่าองค์ชายเริ่มให้พวกเชลยทำงานกันบ้างแล้ว แต่พวกเชลยมันก็ยังเยอะอยู่ดี ' ชไนน์เดอร์คิดด้วยใบหน้าหนักใจขณะที่กำลังเดินอยู่บนถนนทางเดินในค่าย เพราะตอนนี้ด้วยการแยกกองทัพออกเป็นทั้งหมดสามทางทำให้เส้นทางการขนส่งต้องกระจายตัวไปหลายจุด ทำให้ของที่ส่งมาเองมันก็เลยไม่เยอะเท่าที่ควรแต่ก็ยังพอถูไถได้ถ้าไม่มีพวกเชลย ส่่วนเรื่องปัญหาเองก็ยังไม่หมดเพียงแค่การขนส่งอาหาร แต่ปัญหาด้านพวกเชลยเองก็เป็นปัญหาเหมือนกัน คำสั่งของเฮเลอร์ก็คือปฏิบัติกับพวกเชลยเหมือนกับคนปกติ เพราะคำสั่งแบบนี้ทำให้ชไนน์เดอร์ต้องแบ่งอาหารให้กับพวกเชลยที่เข้ามายอมแพ้แบบเท่าเทียม มันก็ทำให้อาหารขาดแคลนอย่างที่เป็นกังวลอยู่ตอนนี้

" แบบนี้ไม่ไหวแน่เลย เฮ้อ~

ชไนน์เดอร์พรึมพรัมออกมาด้วยท่าทางหนักใจ

แต่ระหว่างที่กำลังเดินอยู่ ก็มีพวกทหารวิ่งผ่านตัวไปด้วยท่าทางเร่งรีบแบบสุดๆ จากนั้น

ปู๊น!!! ปู๊น!!! ปู๊น !!!

เสียงสัญญารเตือนภัยก็ดังขึ้นมา ซึ่งตัวชไนน์เดอร์ก็รู้ถึงเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่ได้ยินสัญญาณที่กำลังดังขึ้นมาในตอนนี้ 3 ครั้ง " อะ... เจอแล้วท่านชไนน์เดอร์ หอบบบ!... " ทหารหนึ่งคนพูดขึ้นมาที่ด้านหลังของชไนน์เดอร์ด้วยท่าทางที่กำลังเหนื่อยหอบเพราะวิ่งมาอย่าสุดแรงในการตามหาตัวชไนน์เดอร์

" มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? "

" ต... ตอนนี้มีพวกคนเถื่อนปรากฏตัวด้านหน้าค่ายครับ เป็นกองทัพคนเถื่อนนับพันคน "

" ห่ะ!!! " ชไนน์เดอร์ร้องเสียงหลงเพราะความตกใจ ส่วนเหตุผลก็เพราะ ตั้งแต่แยกทัพเดินทางมา ถึงจะเจอกำลังรบขอพวกคนเถื่อนแต่ก็เจอเพียงหลักร้อยท่านั้นไม่เคยเจอกำลังรบขนาดนี้ ฟังจบชไนน์เดอร์ก็เริ่มตรงไปยังจุดที่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนที่ดังขึ้นมาทันทีด้วยหน้าตาตื่นตกใจ พร้อมกับทหารที่มารายงานตนด้วยความกังวลถึงจำนวนคนของพวกคนเถื่อนที่ปรากฏออกมาตอนนี้

....

.....

......

เมื่อเดินทางถึง

' นี่มันเอาจริงหรอเนี่ย กำลังรบขนาดนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าทหารของพวกเราเลย รู้แบบนี้น่าจะสั่งให้พวกทหารสร้างกำแพงแบบที่องค์ชายบอกเอาไว้ก็ดี อันตรายแน่รอบนี้ ' ชไนน์เดอร์ก็ยืนคิดด้วยหน้าตากำลังตกใจ และเคร่งเครียด หลังจากที่เห็นกำลังรบของคนเถื่อนด้านหน้าตอนนี้

สิ่งที่ชไนน์เดอร์เห็็นอยู่ด้านหน้าเป็นกำลังรบที่มากกว่าหนึ่งพันคนอย่างแน่นอน ผิดจากที่ทหารบอกไว้ พวกคนเถื่อนแต่ละคนต่างก็เป็นพวกทีมีอาวุธครบมือมากกว่าพวกที่เคยบุกตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาอย่างลิบลับ แต่ในระหว่างที่ชไนน์เดอร์กำลังมีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ ก็มีเรื่องที่ต้องทำให้แปลกใจปรากฏออกมาให้เห็น เพราะพวกคนเถื่อนด้านหน้าพากันโยนอาวุธลงกับพื้นกันหมด ท่าทางที่พวกคนเถื่อนแสดงออกมามันชวนทำให้คิดว่า ยอมแพ้! กันไม่มีผิด

" -นั่นมันอะไรกันพวกมันยอมแพ้เหรอ?!?! "

" -บ้าน่า... มันขนกำลังรบมากันขนาดนี้เพื่อที่จะยอมแพ้กันเนี่ยนะ! ไม่น่าใช่?!?!? "

" -นี่หรือว่าเป็นแผนการรบใหม่ของพวกมันที่จะไม่ใช้อาวุธในการสู้ แต่พวกมันจะสู้กับพวกเราด้วยมือป่าวกัน?!?! "

พวกทหารที่กำลังตั้งโล่ประจัญหน้ากับคนเถื่อนอยู่ต่างพากันซุบซิบออก โดยชไนน์เดอร์เองก็กำลังยืนทำหน้าอึ้งมองพวกคนเถื่อนด้วยความสงสัยและตกใจไม่ได้ต่างอะไรกับพวกทหารมากนัก เพราะยังไงตอนี้คิดยังไงมันก็ไม่เข้าใจถึงท่าทางแบบนั้นของพวกคนเถื่อนด้านหน้าเลย

จากนั้นก็มีคนเถื่อนหนึ่งกลุ่่มเดินออกมาจากกลุ่มทั้งหมด กลุ่มที่เดินออกมาต่างก็เป็นพวกที่สวมหนังสัตว์เอาไว้เต็มร่างกายแสดงถึงความแตกต่างทางด้านชนชั้นกับพวกที่เหลืออย่างชัดเจน ถ้าจะให้แยกแยะมันก็เหมือนกับสามัญชนกับพวกขุนนางไปเลยก็ว่าได้เพราะมันดูต่างออกไปมาก ส่วนตรงกลางวงของพวกที่เดินออกมาก็มีคนหนึ่งคนยืนอยู่ในกลุ่มพวกนั้น แต่โดนบังเอาไว้มิดเห็นเพียงผมสีขาวที่โผ่ลออกมาอย่างเดียวไม่เห็นคนด้านใน

' ท่าทางแบบนั้นมันต้องกำลังอยากคุยแน่ พวกที่ปกป้องคนที่อยู่ตรงกลางก็น่าจะป็นเพราะป้องกันลูกธนูของทางเรา แสดงว่าคนที่อยู่ตรงกลางวงล้อมแบบนั้นต้องยิ่งใหญ่พอตัวถึงได้นำกำลังหลายพันคนมาเจรจากับเราได้แบบนี้ ' ชไนน์เดอร์เริ่มประเมินสถาณการณ์จากภาพที่กำลังเห็นด้านหน้า ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อก็จริง และชไนน์เดอร์ก็ชูมือขึ้น และแบรมันออกเพื่อให้พวกพลธนูที่กำลัวง้างศรอยู่เอาลูกศรลง

พวกทหารเองเมื่อได้รับสัญญาณให้ลดอาวุธลงก็มองหน้ากันด้วยท่าทางหนักใจ แต่เนื้องจากด้วยเป็นคำสั่งของแม่ทัพอย่างชไนน์เดอร์ทุกคนก็ลดธนูลง จากนั้พวกทหารที่กำลังตั้งโล่และหันหอกไปอยู่ก็พากันกลับมายืนในท่ายืนตรงกันตามลำดับ โดยเอาโล่หันไปด้านหน้าเล็กน้อยในความสูงอยู่ระหว่างเอว หอกเองก็เอาตั้งเอาไว้ที่ด้านข้างลำตัวไม่ได้อยู่ในท่าพร้อมรบ

" ทหาร " ชไนนเดอร์หันไปพูดกับทหารด้านหลังของตน ที่เป็นคนรายงานเรื่องนี้ให้กับชไนน์เดอร์

" ครับ "

" ไปตามพวกคนเถื่อนที่เป็นเชลยที่มันสามารถพูดภาษาของพวกเรามาได้ 1 คน ข้าต้องการที่จะเอามันมาเป็นล่ามในการคุย "

" คะ... ครับท่าน " ทหารตอบรับคำสั่งด้วยน้ำเสียงมึนงงเล็กน้อย และคนที่กำลังตกใจไม่ได้มีทหารที่คุยกับชไนน์เดอร์คนเดียว เพราะพวกทหารที่ยืนอยู่ใกล้ต่างก็พากันมองมาด้วยแววตาแปลกใจด้วยเช่นกัน

' -ท่านชไนน์เดอร์ตอนแรกก็มีความคิดปกติอยู่หรอก แต่สงสัยอยู่กับองค์ชายมากก็เลยเปลี่ยนไปแล้วสินะ จะคุยกับพวกคนเถื่อนแบบนั้น '

' -นี่เอาจริงเหรอเนี่ย ท่านชไนน์เดอร์คนที่ไม่เคยไว้ใจคนเถื่อนะเหรอ!!! '

' -ท่านชไนน์เดอร์กำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ ปลดอาวุธ! เจรจา! ??? '

นี่เป็นความคิดบางส่วนของพวกที่กำลังมองชไนน์เดอร์ด้วยสีตาแปลกใจกัน ชไนน์เดอร์ผู้ไม่เคยไว้ใจคนเถื่อน หรือยอมอ่อนข้อให้ กับเลือกทางเจรจาแบบนี้ทำให้ทหารเกิดคำถามภายในใจกันขึ้นมาทันที แต่ถึงจะเกิดความแคลงใจหรือสงสัยกันยังไงก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา เพราะทุกคนล้วนต่างก็เชื่อใจในการตัดสินใจของชไนน์เดอร์ที่เป็นแม่ทัพของพวกตน และด้วยกฏในกองทัพอันเด็ดขาดของเฮเลอร์อย่างยศขั้น การที่ขัดคำสั่งมันก็เหมือนกับว่าต้องออกจากกองทัพทันที นี่จึงเป็นอีกสาเหตุที่พวกทหารไม่กล้าพูดขัดความคิดของชไนน์เดอร์ในตอนนี้นั่นเอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด