ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 40 แค่ผลลัพธ์เท่านั้น
“แก...แกไม่ตายได้ยังไงแกมีโชคขนาดนั้นเลยหรือไง แถมแกยังอยู่ที่ห้องทำงานผู้พันก่อนหน้านี้ด้วย ฉันว่าแล้วว่าทำไมฉันถึงไม่รู้จักแกทั่งๆที่แกไปห้องผู้พัน”
นาร์ซิสพูดอย่างดูถูกและนึกถึงตอนที่ไล่ล่าวาเรี้ยน ตอนนั่นมันยังเป็นขยะไร้ค่าอยู่เลยไม่ใช่หรือยังไง
นาร์ซิสไม่เคยจำชื่อคนที่สถานะต่ำกว่าเขาเลยสักครั้ง วาเรี้ยนเป็นคนเดียวที่ทำให้เขาจำชื่อคนที่สถานะต่ำกว่าเขาได้
"นักศึกษาวิทยาศาสตร์ เรามีการบรรยายสรุป" การประกาศขัดจังหวะการพูดคุยที่ตรึงเครียดนี้เอาไว้และไคล์ก็โบกมือให้วาเรี้ยน
ก่อนที่เขาจะจากไปเขากระซิบว่า 'นี่คือสถาบันทหาร ไม่ต้องกังวล นายไม่เป็นไรหรอกเพื่อน'
วาเรี้ยนรู้ดีว่าการต่อสู้ในสถาบันจะไม่ร้ายแรงมาก และเขาจะปลอดภัย แต่เขาก็ยังต้องการเอาคืนไคล์ที่ทำให้เขาเกือบซวย
'ฉันสาบานว่าฉันจะเอาคืนนายแน่' เขาสาบาน
“นายจะกลั่นแกล้งผู้ปลุกพลังระดับที่ต่ำกว่านายหรือ?” อาดีร์ก้าวเท้าเข้ามาขวางทางของนาร์ซิส
“นายกล้าจริงๆเหรอ อาดีร์ คาร์รอน” แสงสีฟ้าแวบออกมาและปกคลุมร่างกายของนาร์ซิส
อากาศก็หนักขึ้นและรัศมีออร่าแผ่กระจาย
อาดีร์เหลือบมองผู้คนและชี้นิ้วไปที่นาร์ซิสและรู้สึกว่ากำลังจะมีเรื่องสนุกๆเกิดขึ้น
มีคนคนนึงกำลังใช้ออร่าในร่างกายของเขา ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน หอกดินที่ทำจากผุดขึ้นจากดินและเล็งไปที่อาดีร์
“ไม่มีอะไรที่ฉันไม่กล้า นอกจากนี้คนที่ชื่อวาเรี้ยนได้ที่หนึ่งนั้นพิสูจน์ว่านายทำได้เป็นได้แค่อันดับสอง นายแพ้พี่ชายของนาย นายแพ้ให้กับใครก็ไม่รู้ที่ไม่มีแม้แต่ชื่อเสียงของครอบครัว นายจะไม่มีวันเป็นที่หนึ่ง”
อาดีร์ยิ้มอย่างมีเลศนัยและพูดออกมาดังๆ
"...จริงสิ นาร์ซิสแพ้ชาร์ลลีมาตลอด"
"ชาร์ลลีเป็นอันดับหนึ่งเสมอ"
"ฉันว่าคนที่ถูกกำหนดให้เป็นอันดับ 2 ก็จะเป็นอันดับ 2 ตลอดไป"
เสียงพึมพำดังขึ้นและนาร์ซิสรู้สึกว่าโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขามองไปยังพวกคนที่กำลังนินทาเขาและพร้อมจะโจมตีใส่
'คนพวกนี้สมควรตาย'
“บูม!”
ทันใดนั้นหอกดินก็พุ่งออกมาจากดินและผู้คนต่างก็มองมา
มีคนคนนึงอายุพอๆกับนาร์ซิส เขาเป็นคนที่เทอะทะและสูงกว่าผู้ชายทั่วไป และตอนนี้เขาก็พร้อมที่จะต่อสู้แล้ว
ในขณะนั้นเองเขาหยิบหอกดินด้วยมือของเขาและปาใส่อาดีร์
วาเรี้ยนเห็นแสงวาบอยู่ข้างหน้า และเห็นก้อนดินลอยอยู่สองสามก้อน
“บูม!”
หินแตกและกระจัดกระจายไปทุกทิศทุกทาง
“บูม!”
“บูม!”
คนคนนั้นกระโดดขึ้นไปบนก้อนหินที่ลอยอยู่และปาหอกใส่อาดีร์อีกครั้ง และเขาก็พุ่งเข้าใส่อาดีร์เพื่อที่จะต่อยใส่
“ฮึ่ม!” โล่ที่ทำจากหินหลายชั้นปรากฏขึ้นต่อหน้าอาดีร์เพื่อสกัดกั้นการโจมตี
"แตก"
"แตก"
หมัดของคนคนนั้นยังคงทำลายหินชั้นต่อไปเรื่อยๆ
จนหมัดของเขาทำลายชั้นสุดท้าย แต่เมื่อถึงเวลานั้นอาดีร์ได้ใช้ออร่าของเขาและแผ่นดินก็ยกเขาขึ้นไปสูง
“ไรอัน อัลเบิร์ต” นักเรียนคนหนึ่งอุทาน “เขาเป็นเพื่อนสนิทของนาร์ซิส… แต่สู้กันที่นี่จะดีหรอ ถึงแม้ว่าปู่ของเขาจะเป็นจอมพลก็เถอะ”
“ฮึก ฮึก” ไรอันยืนหอบและมีเลือดที่มุมปากของเขา
'ไรอัน อัลเบิร์ต... นั่นคือหลานชายของอัลเบิร์ตหรือเปล่า? สถาบันฝึกทหารจักรพรรดิเป็นศูนย์กลางของผู้มีความสามารถและมีภูมิหลังที่ดีที่สุด' วาเรี้ยนคิดและสังเกตสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
"แค่กๆ แค่ก" สีหน้าของอาดีร์ซีดขาว และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เปรียบในการต่อสู้
"รอฉันด้วยนาร์ซิส" เขาเช็คเลือดที่ปากและพูด และเดินออกไป
ก่อนจากไปเขาจ้องไปที่วาเรี้ยนด้วยตาขวาง
'นายโทษฉันไม่ได้นะนายเริ่มก่อนเอง'
วาเรี้ยนลองประมาณระดับพลังของพวกเขา
พวกเขาอยู่ที่ระดับ 3 และเริ่มก้าวหน้าไปนิดหน่อย ถึงตอนนี้เขาจะเป็นระดับ 2 แต่การสู้กับระดับ 3 ยังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาอยู่ดี
แต่เขาอาจจะพอมีลุ้นชนะได้ถ้าเส้นทางอวกาศของเขาไปถึงระดับ 2 และเขาจะสามารถเอาชนะพวกนั้นได้แน่ๆ ถ้าเขาเป็นระดับ 3 ทั้งร่างกายและอวกาศ
ไรอันพยักหน้าให้นาร์ซิสและเหลือบมองวาเรี้ยน เขาเดินออกไปด้วยท่าทีกระวนกระวาย วาเรี้ยนสังเกตเห็นว่ามือของไรอันกำลังสั่นอยู่นิดหน่อย
“ตอนนี้มีใครอยากสู้อีกไหม” นาร์ซิสยิ้มอย่างเย่อหยิ่งและพุ่งไปหาวาเรี้ยน
วาเรี้ยนกำลังจะเทเลพอร์ตและก็มีเสียงทำให้พวกเขาหยุด
"รวมพล!" เสียงที่เย็นชาและยังเด็กแต่หนักแน่นดังขึ้นและนาร์ซิสก็หยุดการโจมตี มันค่อนข้างตลกเมื่อเขาหยุดขณะที่เขาอยู่กลางการกระโดด
นักเรียนสองสามคนถ่ายภาพสองสามภาพและบันทึกลงในคลาวด์ของพวกเขา
'มันคือออร่าล็อค' วาเรี้ยนสังเกตเห็นการไหลของออร่าใกล้นาร์ซิส
นาร์ซิสอยู่ระดับ 3 ดังนั้นคนที่ล็อคเขาไว้ต้องมากกว่าระดับ 3 นั่นหมายความว่าต้องแก่กว่าพวกเรา
แต่เสียงเมื่อกี้ฟัง..ดูเหมือนจะเด็กกว่าเราอีกนะ
นักเรียนนายร้อยทุกคนรีบวิ่งไปเข้าแถว และทันใดนั้นทุกคนรู้สึกกดดันจนหายใจไม่ออก พวกเขาตั้งแถวให้ทุกแถวเท่าๆกันเป็นสี่เหลี่ยม
วาเรี้ยนหันกลับไปพร้อมกับคนอื่นๆ และเห็นหญิงสาวคนหนึ่งบินมาหาพวกเขาบนแผ่นน้ำแข็ง
เธอกำลังบินอยู่เหนือพื้นดินอย่างน้อยสองสามร้อยเมตรและเข้าหาพวกเขาด้วยความเร็วสูง
เธอกระโดดลงมา และทุกคนต่างเตรียมพร้อมรับแรงกระแทก
แต่ก่อนที่เธอจะถึงพื้น วาเรี้ยนเห็นเศษฟองอากาศอยู่ใต้เท้าของเธอ ฟองอากาศชะลอเธอทำให้เธอถึงพื้นอย่างสง่างาม
สิ่งที่คนอื่นเห็นว่าสวยงาม วาเรี้ยนเห็นว่านั่นคือการควบคุมออร่าได้อย่างชำนาณ
เขาเหลือบมองชื่อของเธอ 'ซาร่า'
'เธอลอยมาบนน้ำแข็ง ดังนั้นเธอจึงต้องเป็นผู้ปลุกพลังน้ำ อย่างน้อยก็ระดับ 5 โดยปกติมีเพียงปีที่สามเท่านั้นที่อยู่ในระดับ 5'
"ระยะเวลาการทดสอบที่สั้นลงส่งผลให้มีการร้องเรียนเข้ามามากมาย"
ซาร่าพูดช้าๆ แต่เสียงของเธอดูแปลกและเสียงของเธอก็ค่อยๆเริ่มดังขึ้น
'เสียงของเธอดูเหมือนจะถูกขยายให้ดังขึ้น เธอเป็นผู้ตื่น 2 พลังหรอ? เขาสงสัย
นักเรียนนายร้อยส่วนใหญ่ไม่สังเกตเห็นความแตกต่างและพยักหน้ากับคำพูดของเธอ
การทดสอบควรจะใช้เวลา 24 ชั่วโมง แต่ก็สิ้นสุดในไม่กี่ชั่วโมง แต่สถาบันยังคงต้องการคะแนนสะสม 10 คะแนนเพื่อเข้าร่วมสถาบัน
แน่นอนว่ามีการร้องเรียน แต่มีผู้สมัครหลายกลุ่มพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า 'ผลลัพธ์เท่านั้นที่สำคัญ'
“แต่คุณมีโอกาสที่สมบูรณ์แบบที่จะได้รับคะแนนมากขึ้นเมื่อเมืองอยู่ในความสับสนอลหม่าน ในการทดสอบปกติสิ่งเหล่านี้จะเป็นไปไม่ได้เพราะอะบิซอลลอร์ดจะฆ่านักเรียนทุกคนได้อย่างง่ายดาย โดยสถิติที่ดีที่สุดของการสอบเข้าคือการฆ่าอะบิซอลคอมมานเด้อเท่านั้น” เธอพูด
โดยโอกาสที่จะฆ่าพวกอะบิซอลไนท์ที่อ่อนแอมันก็แล้วแต่ว่าผู้เข้าสอบจะตัดสินใจกลับไปที่เมืองเพื่อฆ่ามันหรือไม่ ถ้าตัดสินใจที่จะไม่นั้นก็เป็นการตัดสินใจของพวกเขาเองโทษใครไม่ได้
'ถ้าเป็นการสอบเข้าแบบธรรมดา ฉันก็คงจะไม่ใช่นักเรียนกิตติมศักดิ์แน่ๆ' ฉันอาจจะไม่ไปถึงระดับ 2 ด้วยซ้ำ ซึ่งหมายความว่าฉันจะไม่ได้รับการยอมรับจากที่นี่ด้วยซ้ำ' วาเรี้ยนคิดและรู้สึกว่าถึงจะเจอกับอันตรายมากมายแต่ก็คุ้มค่าที่ได้เจอ
“เอาล่ะ สถาบันมีของขวัญให้กับทุกคนด้วย” เธอดีดนิ้วและกล่องสี่เหลี่ยมสีดำเล็กๆ นับร้อยก็พุ่งเข้าหาพวกเขา..