ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 39 คำขอ
“ผมต้องการตรวจสอบข้อมูลของนักเรียนนายร้อยชื่อเซียครับ ตอนนี้เธออาจจะเป็นนักเรียนนายร้อยหรือบางทีเธออาจจะเป็นทหารแล้ว แต่เธอได้เข้าร่วมสถาบันฝึกทหารจักรพรรดิแน่นอนนั่นเป็นข้อมูลเดียวที่ผมมีเกี่ยวกับเธอ”
วาเรี้ยนพูด 'คำขอ' ของเขาออกไป
"ฮะ?" เอริคขมวดคิ้วและหรี่ตาลง
วาเรี้ยนรู้สึกเหมือนถูกออร่าบีบตัวไว้นี่คือ "ออร่าล็อค" แบบเดียวกับที่อะบิสลอร์ดเคยใช้ใส่วาเรี้ยน
เนื่องจากระดับต่างกันมากอย่างมากวาเรี้ยนจึงทำอะไรกับออร่าล็อคนี่ไม่ได้
แต่เขาไม่ได้ตื่นตระหนก เขาพยายามรักษาท่าทางที่มั่นคงของเขา
เอริคใช้ออร่าล็อคใส่วาเรี้ยนไว้และเปิดเอกสารประวัติของวาเรี้ยน ซึ่งรวมถึงประวัติอาชญากรรม การต่อสู้ของวาเรี้ยนในเลออนฮอล์ การเผชิญหน้ากับอะบิซอลในดันเจี้ยน และเขายังตรวจสอบประวัติของพ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้วของเขาด้วย
วาเรี้ยนรู้ว่าคำขอของเขานั้นค่อนข้างที่จะเป็นไปได้ยาก
หากข้อมูลของนักเรียนนายร้อยถูกเปิดเผยต่อศัตรู นั่นจะเป็นอันตรายต่อเธออย่างมาก ดังนั้นหากวาเรี้ยนเป็นผู้ก่อการร้ายหรือมีความแค้นส่วนตัวกับนักเรียนนายร้อยชื่อเซียการเปิดเผยข้อมูลของเธอก็เท่ากับทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย
ไม่กี่นาทีผ่านไป ในที่สุดวาเรี้ยนก็รู้สึกถึงออร่าที่อยู่รอบๆ ได้คลายออก
“ประวัติของคุณค่อนข้างสะอาด แต่... ผมมีสิทธิ์ที่จะคิดได้ว่าคุณเป็นผู้ก่อการร้ายที่พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียนนายร้อย ฉันก็ยังสงสัยว่าการโจมตีบนเนินเขานั้นเกี่ยวข้องกับคุณหรือไม่ แล้วทำไมถึงขอคำขอร้องแบบนี้?” เอริคเคาะโต๊ะและเลิกคิ้ว
'เขาแค่กำลังทดสอบฉันอยู่สินะ'
“พ่อของผมเป็นทหาร และเขาเสียสละตัวเองในการทำสงครามกับอะบิซอลผมโตมาด้วยความอยากเป็นเหมือนเขา”
วาเรี้ยนกล่าวถึงเหตุผลที่เขาอยากเข้าร่วมตอนเด็กเพื่อสร้างความไว้วางใจ
“แม้แต่ในดันเจี้ยน ผมแทบจะไม่รอดถ้าเพื่อนของผมมาช้าไปนิดเดียว ผมคงตายไปแล้ว”
ในเหตุผลที่สอง เขาบอกเป็นนัยว่าถ้าเขาเป็นผู้ก่อการร้าย เขาคงไม่เจอกับสถานการณ์แบบนั้น
"ผมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเพื่อนที่ผมรู้จักไม่ถึงปี"
เหตุผลข้อสุดท้ายคือการพิสูจน์ตัวตนของเขาเอง
นั่นคือทั้งหมดที่เขาสามารถพูดได้
“หืม คุณอยากจะเข้าร่วมสถาบันฝึกทหารจักรพรรดิเพื่อเป็นทหารที่รับผิดชอบเรื่องการต่อสู้กับอะบิซอลทำไมคุณถึงต้องการสอบถามเกี่ยวกับใครบางคน?”
เอริคเคาะเก้าอี้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“มันเป็นเหตุผลส่วนตัว สิ่งที่ผมพูดได้ก็คือผมจะทำทุกวิถีทางสำหรับคำขอนั้น” วาเรี้ยนกล่าว
เอริคมองไปที่ดวงตาที่แน่วแน่ของวาเรี้ยนและตกอยู่ในห้วงความคิดสั้นๆ
'ในสถาบันนี้มีคนที่ชื่อเซียอยู่หลายคนเหมือนกันแต่มีไม่มากนัก ฉันสามารถปฏิเสธคำขอของเขาได้ แต่เขาอาจเข้าหากลุ่มผู้มีอิทธิพลในสถาบันอยู่ดี'
เขาหวนนึกถึงบันทึกส่วนตัวของวาเรี้ยนในการก้าวขึ้นเป็นระดับ 2 โดยใช้เวลาไม่กี่วัน และที่น่าประทับใจยิ่งกว่านั้นการเสียสละของเขาในดันเจี้ยนและเสี่ยงที่จะช่วยชีวิตเพื่อนในการสอบเข้า
'เขาอาจจะโชคดีที่ก้าวหน้าได้ไวขนาดนี้ แต่เขาตอนที่อยู่ที่ดันเจี้ยนเขาพลังยังไม่ตื่นด้วยซ้ำแต่ก็เสียสละตัวเองเพื่อช่วยเพื่อน ที่สำคัญที่สุดดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเด็กที่ซื่อสัตย์
น่าเสียดายถ้าเขาไม่รับราชการทหาร
แต่ฉันก็ไม่เห็นด้วยกับคำขอของเขาง่ายๆ เช่นกันการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียนนายร้อยเป็นกรณีร้ายแรง แต่ก็ ฮึ่มก็ได้!'
เอริคดีดนิ้วและพูดว่า "เอาล่ะ คำขอของคุณจะได้รับการยอมรับ"
"ขอขอบคุณครับท่าน" วาเรี้ยนยิ้มออกมาเขากำลังจะขอเอกสารตอนนี้ แต่ ...
“คุณลืมอะไรไปหรือเปล่า” เอริคยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดต่อ
"คุณสามารถขอได้และคุณจะต้องจ่ายคะแนนของคุณมา"
'อ่า นั่นสินะ ตอนนี้ฉันมี 510 MP ตามคำแนะนำ 1MP = 2kp นั่นคือเกือบ 1 ล้านคะแนนเครดิต ฉันสามารถซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่ได้' นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีเงินจำนวนมากขนาดนี้
วาเรี้ยนถามว่า "ผมมี 510 MP ผมควรจ่ายกี่ร้อย MP"
รอยยิ้มของเอริคกว้างขึ้นและเขาก็ส่ายหัว
'มันถูกกว่านั่นหรอครับ?'
วาเรี้ยนคิดแต่ไม่นานก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับวิธีที่เอริคกำลังยิ้ม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เจ้าเล่ห์พอๆกับหมาป่าที่กำลังเล่นกับเหยื่อ
"มันคือ 20,000 MP" เอริคพูดแล้วยิ้มออกมาอีกครั้ง
“2 หมื่น?!” วาเรี้ยนตกตะลึงนั่นคือ 40 ล้านนั่นมันมากเกินไปไหม?
"อ้อ และฉันลืมบอกไป รางวัลของคุณคือ 500 MP สูงที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา" เอริคตัดสินใจเปิดเผยสถิติ
“สิ่งที่คุณทำเป็นประโยชน์ต่อกองทัพมนุษย์จะได้รับรางวัลเป็นคะแนน นักเรียนนายร้อยมักจะได้รับมันหลังจากทำภารกิจ” เอริคอธิบาย
"โดยปกตินักเรียนนายร้อยทั่วไปจะได้รับ 1,000 MP ในปีแรก 5,000 ในปีที่สองและ 10,000 MP ในปีที่สาม"
วาเรี้ยน รู้สึกว่าขาของเขาสั่น
"อัจฉริยะที่ดีจะได้รับ 2,000 ในปีแรกและ 8,000 ในปีที่สองของพวกเขา 20,000 ในปีสุดท้ายของพวกเขา"
วาเรี้ยนแทบจะกระอักเลือดออกมา
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าเหตุใดเอริคจึงยอมรับคำขอของเขา หากการมองสามารถฆ่าคนได้ละก็เอริคคงตายไปแล้วพันเก้าครั้ง
เอริคมองไปที่วาเรี้ยนและเห็นว่าวาเรี้ยนกำลังมองด้วยสายตาไม่พอใจและโบกมือของเขา
“คุณรู้หรือไม่ว่าการเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับนักเรียนนายร้อยนั่นยากแค่ไหน นอกจากนี้คุณขอข้อมูลของนักเรียนนายร้อยทั้งหมดที่ชื่อเซียผมไม่ได้ถามคุณด้วยซ้ำว่าทำไมคุณถึงต้องการข้อมูลของพวกเขา ถ้าผมเป็นคุณผมคงได้แต่หัวเราะกับราคาขนาดนี้”
วาเรี้ยนกัดฟันและยิ้ม "ผมมีความสุขจริงๆครับ"
"ดีแล้วคุณควรจะมีความสุขนะ"
เอริคยิ้มเพื่อแสดงความอบอุ่นของเขา แต่นั่นทำให้วาเรี้ยนต้องการที่จะฝังเขาไว้ในโลงศพหลังจากได้ยินคำพูดนี้
วาเรี้ยนสูดหายใจเข้าลึกๆและกล่าวคำนับอย่างเป็นทางการ และเขารีบเดินออกจากห้องไป เพราะถ้าเห็นหน้าเอริคนานกว่านี้เขาคงจะต่อยเอริคแน่
เขาเคาเหตุผลที่เอริคตั้งราคาไว้สูงขนาดนั้นไว้ 3 ข้อ
หนึ่ง เพื่อให้ได้คะแนน mb มากๆ วาเรี้ยนจะต้องใช้เวลานานในสถาบันการศึกษา สิ่งนี้จะพิสูจน์ความจงรักภักดีของเขา ถ้าประวัติตอนเรียนของเขาขาวสะอาด คำขอของเขาก็จะได้รับการตอบรับ
สอง เพื่อจะได้คะแนน mb เขาต้องทำงานอย่างหนัก ยิ่งถ้าเขารีบแค่ไหนก็ต้องทำงานมากแค่นั้น นี่หมายความว่าสถาบันการศึกษาจะได้รับนักเรียนนายร้อยที่มีประสิทธิผลสูงและบางทีอาจเป็นผู้ปลุกระดับสูง
สาม คำขอแค่ถูกเลื่อนออกไปไม่ได้ถูกปฎิเสธ ดังนั้นวาเรี้ยนจะไม่สามารถบ่นกับฝ่ายบริหารได้
'จิ้งจอกเฒ่าผู้นี้... แผนการของเขาฉลาดมาก'
รอยยิ้มที่แข็งทื่อของวาเรี้ยนหายไปหลังจากที่เขาออกจากห้องและรอยยิ้มของเขาถูกแทนที่ด้วยการเยาะเย้ยแทน
'ท่านนายพลแค่เข้าใจผิดไปสิ่งหนึ่ง ฉันไปจากระดับ 0 เป็นระดับ 2 ใน 10 วัน ฉันไม่ได้พึ่งพายาคุณภาพสูงหรือผลไม้ล้ำค่า ฉันมีระบบ...' เขาเดินเตร่ในเส้นทาง
'ท่านคงคิดว่าผมจะใช้เวลาหลายปี แต่ผมจะทำมันให้ได้ภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า'
วาเรี้ยนไม่รู้ว่าต้องทำยังไง แต่เขารู้ว่าเขาจะทำมันให้ได้ เขาหมดศรัทธาในตัวเองในปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ทุกครั้งที่มีการต่อสู้ความมั่นใจในตัวเองของเขากลับมาแล้ว
เขาจะพยายามทำให้ดีที่สุด มันจะนานแค่ไหนกับการเก็บคะแนนให้ไปถึง 20,000 ก็ขึ้นอยู่กับดวงของเขา และโชคก็เข้าข้างเฉพาะคนที่พร้อมและคนที่มันเลือกที่จะช่วยเท่านั้น
สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นในการสอบเข้า เขาได้แต้มสิบแต้มจากความพยายามของเขาเอง และการที่เขาได้เอกสารมานั่นถือว่าเป็นโชคช่วยของจริงแต่ก็ต้องแลกมาด้วยความพยายามอย่างมาก ถ้าหากเขาไม่ตัดสินใจเข้าไปที่เมืองเขาก็จะไม่มีวันได้เป็นนักเรียนกิตติมศักดิ์แน่นอน
วาเรี้ยนถามระบบนักเรียนนายร้อยว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนในยานอวกาศและระบบก็ตอบกลับมาว่า
'ตอนนี้คุณอยู่ในบล็อคของพวกผู้บริหาร'
หลังจากที่เขาเดินต่อมาได้สักพัก ยานอวกาศก็มาถึงโลก และผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกก็ถูกย้ายไปที่วิทยาเขต
วาเรี้ยนตื่นเต้นและออกจากบล็อกของพวกผู้บริหารและออกจากยาน
มีฝูงชนมากมายกำลังจ้องมองโฮโลแกรม วาเรี้ยนเงยหน้าขึ้นและเห็นว่ามันคืออันดับในการสอบเข้า
การทดสอบข้อเขียน: (นักสู้)
วาเรี้ยน
นาร์ซิส
อาดีร์
ไรอัน
...
การทดสอบภาคปฏิบัติ: (นักสู้)
วาเรี้ยน
นาร์ซิส
ไรอัน
อาดีร์
…
“ฮ่าฮ่าฮ่า นาร์ซิสนายถูกฟ้ากำหนดให้เป็นคนที่สอง”
เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังดังขึ้นในฝูงชนและนักเรียนหันไปดูว่าใครเป็นคนพูด
อาดีร์ชี้ไปที่อันดับและเยาะเย้ยนาร์ซิส ใบหน้าของนาร์ซิสแดงก่ำ ซึ่งตอนนี้เขาโกรธจนตัวสั่น
"ใคร? วาเรี้ยน มันคือใคร?" เขาตะโกนแต่ไม่มีใครตอบ
'เวรแล้ว!' วาเรี้ยนตัดสินใจที่จะหนีแทนที่จะประกาศตัวออกไปและทำให้นาร์ซิสเสียหน้า
"วาเรี้ยน เพื่อนของฉันเป็นอันดับ 1 ในการทดสอบ! เพื่อนฉันเก่งที่สุด!" ไคล์กระโดดขึ้นจากรถโฮเวอร์ของเขาและคุยโว
'ไคล์บอกฉันทีว่าฉันไปฆ่าพ่อแม่แกหรือแย่งเมียแกหรอ? ทำไมแกชอบทำให้ฉันลำบากอยู่เรื่อยเลยไอ้เวรเอ้ย'
วาเรี้ยนรู้สึกอยากร้องไห้เมื่อเขาหันหลังกลับไปเห็นนาร์ซิสกำลังเดินเข้ามาหาเขา
'อึ้ย! มาแล้ว ห่าเอ้ย..'