ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 37 สถานการณ์ฉุกเฉิน
“ว..วา..แร..เรี้ยน”
ลมหายใจของวาเรี้ยนหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาวาร์ปไปทางเสียงที่แผ่วเบานั้นโดยไม่ลังเล
"วาเรี้..ย...ย..น..น..นนนน."
เมื่อเขาเข้าใกล้เสียงนี้มากเท่าไร หัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้นแต่มีแค่เสียงนั่นเท่านั่นที่อ่อนลง
"ฉันอยู่นี่" วาเรี้ยนมาถึงต้นเสียงแล้ว — กองบล็อคอดาแมนเทียทับถมตัวไคล์อยู่
'อะไรเนี้ย!'
พลังชี่ในร่างกายของเขาเดือดพล่าน และเขาผลักบล็อกออกไปเพื่อค้นหาเพื่อนของเขาที่อยู่ใต้ซากปรักหักพัง
ไคล์มีเลือดออกตั้งแต่หัวจรดเท้า แขนขาของเขาถูกบดขยี้ใต้ก้อนอดาแมนเทียและกระดูกก็หัก เขากำลังจะตาย
ตาของเขาปิดและเขาพูดคำเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก
"วะ..วา...วาร์..เรี้ย...น..นนน"
วาเรี้ยนอุ้มไคล์ขึ้นมาและสัมผัสได้ถึงชีวิตที่อ่อนแอมากของเขา
เหลืออีก {30 วินาที}
'ฉันจะช่วยนาย...' วาเรี้ยนปลดปล่อยออร่าทั้งหมดและใช้พลังอวกาศและพลังชี่ของเขาอย่างบ้าคลั่ง
วาเรี้ยน ใช้เทเลพอร์ตอย่างต่อเนื่องและเขาไปได้ไกลมาก แต่เขาก็ยังอยู่ห่างจากเขตชานเมืองพอสมควรอยู่ดี
{เหลืออีก 25 วินาที}
“บูม!”
“บูม!”
“บูม!”
ขณะที่เขายังคงเทเลพอร์ต ก็มีเสียงดังขึ้นในอากาศ และวาเรี้ยนก็รู้สึกว่ามีเรื่องไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้น
เสียงเหล่านี้… จะต้องเกิดจากความเร็วที่บ้าคลั่งของอะบิซอลขุนนางที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาแน่ๆ
“บูม!”
“บูม!”
วาเรี้ยนมาถึงใจกลางเมืองแล้วพยายามจะออกไปที่ชานเมืองให้เร็วที่สุด
เขารู้สึกว่าพลังชีวิตของไคล์กำลังจะหมดลง
{เหลืออีก 20 วินาที}
'ได้โปรด...'
จุดที่ยานจะมารับยังห่างออกไปอีกมากและวาเรี้ยนคาดว่าเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 25 วินาทีจึงจะไปถึงยาน
"ฉึก" บาดแผลของวาเรี้ยนจากการต่อสู้ของเขาเปิดออก และด้วยการใช้พลังอวกาศอย่างไม่มีหยุดพัก บาดแผลรุนแรงขึ้นจนสร้างครามเจ็บปวดให้กับเขาเป็นอย่างมาก
พลังของเขาค่อยๆ หมดลงและเขาสามารถใช้ได้อีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
วาเรี้ยนหันไปใช้การวิ่งแทนเพื่อเก็บครั้งสุดท้ายไว้ออกนอกกำแพงเมือง
วาเรี้ยนรู้สึกว่าบาดแผลบนร่างกายของเขาเปิดออกทุกแผล เขามีเลือดออกมาก แต่เขาก็ไม่สนใจและเร่งความเร็วขึ้นไปอีก
เขาเดินไปที่กำแพงเมืองโดยทิ้งรอยเลือดไว้ตลอดทางที่เขามา
“บูม!”
“บูม!”
“บูม!”
อากาศระเบิดดังขึ้น และอะบิซอลขุนนางก็เข้ามาใกล้มากขึ้นไปอีก
{เหลืออีก 15 วินาที}
ในช่วงเวลาคับขันแบบนี้ มีเพียงความคิดเดียวที่เกิดขึ้นในหัวของเขาตอนนี้
'ต้องช่วยไว้ให้ได้! ไคล์ต้องรอด! ครั้งนี้ฉันจะไม่พลาด!'
มีอะบิซอลไนท์เหลืออยู่แค่ไม่กี่ตัวและพวกมันเห็นวาเรี้ยนที่กำลังอุ้มไคล์เพื่อเอาตัวรอด
เมื่อมันเห็นแบบนั้นพวกมันเลยตะโกนมาว่า
“เพื่อนแกจะตาย ไอ้สารเลว! สมน้ำหน้า!”
“ยังไงพวกข้าก็จะตาย ดังนั้นข้าจะใช้ชีวิตนี้เพื่อถ่วงเวลาคุณจนกว่าอะบิซอลขุนนางของเราจะมาถึง”
“ใช่ ใช้ชีวิตของพวกข้าเพื่อทำให้แกตาย นั่นคือสิ่งเดียวที่ข้าอยากจะทำก่อนตาย”
วาเรี้ยนกัดฟันและวิ่งต่อไปในเส้นทางเดิม เขาใช้เส้นทางที่สั้นที่สุดไปที่กำแพง และเขาก็เกิดคำถามขึ้นกับตัวเองว่าจะทันไหม
แต่เขาก็เลิกคิดแบบนั่นเพราะถ้าเขายิ่งคิดก็จะยิ่งทำให้เขาช้าขึ้น
"ฆ่า!"
อะบิซอลไล่ตามไม่ทัน พวกมันจึงขว้างอาวุธด้วยแรงสุดแรงที่พวกมันจะใช้ได้
ทันใดนั้นวาเรี้ยนก็มาถึงกำแพงเมืองและใช้พลังอวกาศครั้งสุดท้ายข้ามกำแพง
"ตึง"
"ตึง"
อาวุธทั้งหมดชนเข้ากับกำแพง แต่มี 1 อันที่ไม่ชน
“อ๊ากกกกก” วาเรี้ยนปรากฏนอกกำแพงเมือง หอกพุ่งเข้าที่หน้าอกของเขาจากด้านหลังและแทงทะลุปอดของเขา
{เหลืออีก 5 วินาที}
ใบหน้าของวาเรี้ยนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด บาดแผลจากการต่อสู้ครั้งก่อนก็ฉีกขาดจนหมดและตอนนี้ยังมีหอกแทงทะลุปอดของเขาตอนนี้เขาเริ่มที่จะหน้ามืด
'ฉัน…' สายตาของวาเรี้ยนพร่ามัวแต่เขาเห็นกระสวยอวกาศที่มารอรับเขายังมีที่ว่างเหลืออยู่ ยานอยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร
“มะ..มา.รับ.ชะ.ฉัน” เขาพึมพำและการสื่อสารของนักเรียนนายร้อยก็สว่างขึ้น
กระสวยอวกาศที่อยู่ใกล้ที่สุดวิ่งเข้ามาหาเขา
'ไม่เพียงพอ…' วาเรี้ยนคิดและดึงพลังที่เขาไม่รู้ว่าเขามีอยู่
เขาพุ่งออกไปด้วยความเร็วที่ไม่เคยใช้มาก่อน เขาไปถึงกระสวยอวกาศแล้วกระโดดขึ้นไปบนนั้น
{เหลืออีก 3 วินาที}
“บูม!”
“บูม!
“บูม!”
คลื่นกระแทกในอากาศสั่นสะเทือนทำให้เกิดพายุเล็กๆ
"ไป!" วาเรี้ยนตะโกนและกระสวยอวกาศก็ขึ้นไปด้วยความเร็วสูงสุด
{เหลืออีก 2 วินาที}
ลมพัดเข้าใส่เขาอย่างแรงและวาเรี้ยนรู้สึกว่าลมหายใจของไคล์กำลังจะหมดลง
เขาบังคับตัวเองให้ตื่นและเห็นร่างสีดำอยู่ไกลๆ เขาเห็นมันกำลังเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วที่สูงมาก
แค่มันก้าวกระโดดเพียงครั้งเดียวก็มาได้หลายเมตร ความเร็วของมันทำให้เกิดคลื่นกระแทก และคลื่นกระแทกที่เกิดจากมันทำให้สิ่งก่อสร้างพังได้ในทันที
เขาเงยหน้าขึ้นบนยาวอากาศแลละเห็นมนุษย์อีก 2 คนนั่งอยู่
พวกเขาอยู่บนที่นั่งบนกระสวยอวกาศและเรากำลังจะไปถึงยานอวกาศที่พาพวกเขามา
มันคงจะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับกระสวยอวกาศได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียวหรอกนะ...
"ไอ้พวกมดปลวก" อะบิซอลขุนนางพึมพำและกระโดดขึ้นไปในอากาศ
มันกระโดดขึ้นมาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อและเกือบจะทันพวกเขาแล้ว
{เหลืออีก 1 วินาที}
วาเรี้ยนเห็นอะบิซอลขุนนางเข้าใกล้กระสวยอวกาศของเขาในชั่วพริบตา
เขาจับไคล์เอาไว้และปิดประตูกระสวยอวกาศทันที
{เหลืออีก 0 วินาที}
“บูม!”
“ตู้ม!”
ทันทีที่วาเรี้ยนปิดประตูหมัดของอะบิซอลขุนนางก็พุ่งเข้าใส่กระสวยอวกาศ
หมัดนั้นทำให้เกิดคลื่นกระแทกในอากาศ
คลื่นกระแทกนั่นเกือบจะทำให้กระสวยอวกาศเสียหายและคลื่นนั่นก็ทำให้ทุกคนบนกระสวยตัวสั่น
ในเวลาเดียวกัน กระสวยอวกาศก็พุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง มันทิ้งห่างอะบิซอลขุนนางในพริบตา
ทุกคนในกระสวยอวกาศรู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล พวกเขาทุกคนจับที่นั่งของตัวเองไว้แน่น
วาเรี้ยนและไคล์พร้อมคนอื่นๆ อีกสองคนถูกแรงจากการพุ่งกดทับไว้ที่เก้าอี้และโชคดีที่ AI ตรวจจับพวกเขาได้
"เริ่มการรักษาฉุกเฉิน" AI พูด วาเรี้ยนและไคล์ถูกนำตัวไปยังแคปซูลเพื่อรักษาอาการขั้นวิกฤตทันที
วาเรี้ยนรู้สึกว่าโลกทั้งใบกลายเป็นสีดำ และสติของเขาก็กำลังจะหลุดไป
จากนั้นก็รู้สึกสบายมากเหมือนกับว่าเซลล์ในร่างกายทุกเซลล์กำลังโดนรักษาพร้อมกัน
ความเจ็บปวดจากการต่อสู้ บาดแผลจากหอกที่แทงทะลุปอด บาดแผลที่ฉีกขาดทั้งตัว... ความรู้สึกทั้งหมดนี้หายไปภายในเวลาไม่นาน
เมื่อผ่านไปสักพักใหญ่ วาเรี้ยนเริ่มรู้สึกตัว
อุณหภูมิอันอบอุ่นของของเหลวบำบัดบนผิวของเขา ความมืดรอบตัวเขา กลิ่นอันหอมหวาน และร่างกายของเขาเบาหวิว
เขานอนอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่งและลืมตาขึ้นมา
“คะไคล์…”
ไคล์ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาหายเป็นปกติและใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยน้ำตา ไคล์รีบวิ่งเข้าไปกอดวาเรี้ยน
"ไม่!" วาเรี้ยนเอี้ยวตัวหลบการกอดของไคล์
"ตู้มมม"
ไคล์ตกลงไปในของเหลวที่รักษาวาเรี้ยน
"เพื่อน!" ไคล์ลุกขึ้นจากของเหลวและจ้องมองมาที่เขา
วาเรี้ยนจ้องไปที่ไคล์ชั่วขณะหนึ่ง
“นายไม่เคยกอดฉันเลยสินะ”
“ถ้าเป็นผู้หญิงสวยฉันอาจจะกอดก็ได้นะ จะว่าไปขอโทษนะที่ลืมนาย”
“แต่นายอุ้มฉันกลับมาได้ไม่ใช่หรือไง” ไคล์เถียง
วาเรี้ยนส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันแค่เอาศพของนายกลับมา นายแค่โชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่”
“จริงๆฉันจะมาดูว่านายยังมีชีวิตอยู่ไหมหน่ะวาเรี้ยน แต่ว่าฉันคุมการเทเลพอร์ตของตัวเองไม่ได้”
“นายคงรู้สินะว่าฉันเทเลพอร์ตตัวเองไปที่ไหน ฮ่าฮ่า ฉันเทเลพอร์ตตัวเองไปใต้ซากปรังหักพังบ้านั่น”
“ฮ่าฮ่า…”
ทั้งสองหัวเราะออกมาและถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ไม่เคยรู้สึกว่าจะมีใครพยายามเพื่อฉันขนาดนี้มาก่อนเลย
หลังจากไคล์พูดวาเรี้ยนก็ทำหน้าปกติแต่ไคล์เริ่มที่จะมีน้ำตาซึมออกมา
วาเรี้ยนกระซิบระบบนักเรียนนายร้อยว่า "เฮ้ ถ่ายภาพ 3 มิติ คุณภาพสูงสุด"
วาเรี้ยนวนรอบตัวไคล์รอบนึงและถ่ายภาพทุกมุมที่ไคล์ร้องไห้
'อืม... 20 รูป'
ไคล์ผู้น่าสงสารไม่รู้สถานการณ์และคิดว่าวาเรี้ยนทำเพื่อปลอบเขา
ขณะที่วาเรี้ยนวางแผนที่จะแอบบันทึกเสียงไคล์ตอนร้องไห้ ประตูก็เปิดออกและพันเอกเรน่าก็ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา
เธอเหลือบมองไคล์และจ้องมาที่วาเรี้ยน
“เขาต้องการพบคุณ”
*** *** ***