ตอนที่แล้วระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 35 หาสมบัติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 37 สถานการณ์ฉุกเฉิน

ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 36 ไคล์


“ไคล์!” ในที่สุด วาเรี้ยนก็จำได้ว่าลืมไคล์ไว้

เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีดำ กระสวยอวกาศสามลำอยู่เหนือเมืองแล้ว

ที่นั่งบินลงมาและเลือกผู้สมัคร มีโอกาสที่ผู้สมัครบางคนได้รับบาดเจ็บมากเกินไปและจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แต่เวลามากสุดที่พวกเขาสามารถให้ได้คือสิบนาที

แล้วพวกเขาจะส่งคนลงมาสู้กับอะบิซอลขุนนาง?

อะบิซอลขุนนางมีระดับ 6 และการต่อสู้ของระดับ 6 ด้วยกันจะทำลายที่นี้ไม่เหลือซาก จะมีผู้คนล้มตายอีกมากเลยนะถ้าเกิดการต่อสู้

ส่งผู้ปลุกพลังระดับ 8 มาสู้กับมัน?

ถ้าหากว่าพวกเขาสู้กันจริงๆ พื้นที่บริเวณรอบนี้ในรัศมี 2-3 กิโลเมตรจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยนะ

ฝ่ายบริหารรู้ดีว่าการต่อสู้ระหว่างผู้ที่มีระดับสูงด้วยกันเองจะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก

นั่นเป็นเหตุผลที่กระสวยอวกาศออกไปทันทีหลังจากที่ส่งพวกเขาลงมาแล้ว

ผู้ปลุกพลังสูงสุดในกระสวยอวกาศคือพันเอกเรน่า อย่างน้อยเธอก็เป็นผู้ปลุกพลังระดับ 5

ถ้ากระสวยอวกาศของเธอเข้าใกล้เมืองอีกต่อไปเจตจำนงแห่งอะบิสคงจะได้แจ้งอะบิซอลระดับ 5 หรือระดับ 6 ที่อยู่ใกล้เคียงและจะมีการต่อสู้ครั้งใหญ่

ที่นี่จะกลายเป็นสงครามแทนสนามสอบเข้านะ!

ดังนั้นกระสวยอวกาศจึงรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยอยู่เสมอ

ตอนนี้เนื่องจากอะบิซอลขุนนางระดับ 6 กำลังมาถึงแล้ว มันไม่สำคัญแล้วว่าพวกอะบิซอลระดับ 5 จะเข้ามาใกล้เมืองหรือไม่

'ฉันเลยไม่หวังว่าพวกเขาจะรอนานขึ้นเพียงเพราะนักเรียนหายไปคนนึง'

วาเรี้ยนสรุปและวิ่งไปที่เมืองด้วยความเร็วมากที่สุดที่เขาจะทำได้

เขาผ่านผู้สมัครที่กำลังบินกลับไปที่กระสวยอวกาศ พวกเขามองเขาด้วยอารมณ์สองอย่าง: ดูถูกหรืออิจฉา

บางคนมองว่าการกระทำของเขาเป็นการแสวงหาความตาย คนอื่นคิดว่าเขากำลังจะฆ่าอะบิซอลที่บาดเจ็บและได้รับคะแนน

แม้ว่าการประกาศจะระบุว่าอะบิซอลขุนนางจะใช้เวลา 10 นาทีกว่าจะมาถึง ไม่มีใครโง่พอที่จะอยู่ต่อจนนาทีสุดท้าย

"เร็วขึ้นอีก!" วาเรี้ยนส่งพลังชี่ไปที่ขาของเขาและเร่งความเร็ว ฝุ่นลอยขึ้นไปเต็มอากาศและเขาเคลื่อนไหวเร็วเหมือนลม

"เฮ้ ระบบนักเรียนทหาร! คุณช่วยตรวจสอบหน่อยได้ไหมว่าการสื่อสารของ ไคล์ คิสแมต อยู่ที่ไหนมันเป็นเหตุฉุกเฉิน!"

{ขออภัยเป็นอย่างสูง คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ค้นหาการสื่อสารอื่นๆ}

"คุณไม่มีสิทธิ์การเข้าถึง"

วาเรี้ยนถอนหายใจและไปถึงเมือง ตอนนี้เมืองอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เท่าที่ตามองเห็น มีเพียงไฟ ความตาย และการทำลายล้าง

ผู้สมัครบางคนที่ล้มเหลวในการฆ่าอะบิซอล ตอนนี้พบว่าอะบิซอลไนท์อ่อนแอและพยายามที่จะได้รับคะแนนสำหรับการทดสอบ แต่ส่วนใหญ่กลับถูกอะบิซอลไนท์ฆ่าทั้งเป็น

“ตายซะ ฮ่าฮ่าฮ่า! พวกขยะ”

วาเรี้ยน ได้ยินเสียงที่คุ้นหูเหมือนเคยได้ยินมาก่อนและมองไปในทิศทาง ดวงตาสีดำของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง และเขารู้สึกโกรธจนแถบจะระเบิดความโกรธออกมา

เขาเห็นเด็กหนุ่มคนนึงจากระยะไกลมากที่กำลังจะผลักให้ไคล์ตกลงไปตายจากที่สูง นั่นคือ 'นาร์ซิส แซนเดอร์'

นาร์ซิสกำลังสนุกสนานในขณะที่เขาฆ่ามนุษย์และฆ่าอะบิซอลโดยไม่คำนึงถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น

'ฉันจะให้แกได้ชดใช้แน่' วาเรี้ยนสาบานว่าจะแก้แค้นเมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้น การต่อสู้กับนาร์ซิส ณ ตอนนี้นี้ไม่มีประโยชน์อะไร

และไคล์กำลังจะตาย. . .

วาเรี้ยนเข้าไปในเมืองและสั่งระบบนักเรียนนายร้อยของเขาว่า

"ตะโกนคำว่าไคล์ให้สุดเสียง อย่าหยุดจนกว่าฉันจะสั่ง"

{เข้าใจแล้ว} ระบบตอบและตะโกนด้วยน้ำเสียงของวาเรี้ยน

“ไคล์!”

“ไคล์!”

เมืองอยู่ในซากปรักหักพัง เลือดสีแดงและสีเขียวย้อมพื้นด้วยลวดลายแปลกๆ ศพของมนุษย์และอะบิซอลกระจัดกระจายไปทุกที่

ดูเหมือนว่าพลเมืองอะบิซอลปกติจะอพยพด้วยวิธีบางอย่างอย่างลับๆแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงพวกผู้สมัครและอะบิซอลไนท์

'ทำไมเขาถึงไม่ตอบ? หรือว่าเขา...'

วาเรี้ยนใช้สายตาของมหามนุษย์และตรวจสอบศพที่เขาทำได้แต่ก็ไม่เจอไคล์

“บ้าเอ้ยยย”

เขาตบหน้าอกของตัวเองและระบบยังคงตะโกนด้วยเสียงของวาเรี้ยนขณะที่เขาเดินเข้าไปในเมืองลึกเข้าไปอีก

เหลืออีก {7 นาที โปรดกลับไปที่กระสวยอวกาศทันที}

การสื่อสารยังคงตะโกนต่อไป แต่แทนที่จะเป็นไคล์กลับกลายเป็นที่สนใจของอะบิซอลไนท์

อะบิซอลไนท์ได้ละทิ้งความหวังในการมีชีวิตอยู่

ไม่ว่ายังไงชะตากรรมเดียวเท่านั้นที่รอคอยพวกมันหลังจากที่เมืองถูกทำลายและอะบิซอลลอร์ดที่เป็นเจ้าเมืองตายแล้วมีเพียงอย่างเดียวที่รอพวกมันอยู่ – ความตาย

ดังนั้นพวกมันจึงละทิ้งความอยากมีชีวิตและโจมตีมนุษย์อย่างบ้าคลั่ง พวกมันมีความปรารถนาเพียงอย่างเดียว ฆ่ามนุษย์ไปให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะตาย

"อ๊าาา"

"ช่วยด้วย!"

คำวิงวอนของมนุษย์คนนึงดังก้องไปทั่วทั้งเมืองเนื่องจากการโจมตีที่ไม่คิดชีวิตของพวกอะบิซอลไนท์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ผู้ที่กลับมาโจมตีอะบิซอลไนท์ที่อ่อนแอที่หวังว่าจะได้รับคะแนนจะมีโอกาสตายสูงมากกว่าเดิมหลายเท่า

แม้แต่ผู้สมัครชั้นยอดสองสามคนก็ยังตกเป็นเหยื่อการโจมตีแบบนี้ของพวกมัน

แน่นอนว่าวาเรี้ยนก็ตกเป็นเป้าของพวกมัน

“ฆ่าไอ้เวรนี่!” อะบิซอลไนท์ตะโกนและปาหอกและยิงธนูใส่เขา

เมื่อมองดูหอกและลูกธนูที่พุ่งเข้ามา วาเรี้ยนคิดในใจ: 'ฉันไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนี้'

เขาเหลือบมองไปทางเนินเขาและใช้พลังอวกาศของเขา

เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาถูกดึงเข้าสู่ความมืดและในชั่วขณะต่อมา เขาก้าวขึ้นไปบนพื้นดินห่างจากตำแหน่งเดิมและไปทางเนินเขา

เขาคุมจุดหมายในการเคลื่อนย้ายได้อย่างง่ายดาย!

'ถ้าถึงระดับ 3 อาจจะเทเลพอร์ตไปถึงเนินเขาได้เลยสินะ'

เขาเลิกประหยัดออร่าและเทเลพอร์ตหลายครั้งและไปถึงเนินเขา

“ไคล์!”

การสื่อสารยังคงตะโกนขณะที่เขาวนเวียนอยู่บนเนินเขา

เหลืออีก {5 นาที โปรดกลับไปที่กระสวยอวกาศทันที}

วาเรี้ยนเห็นว่าแม้แต่นักเรียนชั้นยอดก็เริ่มจากไป แม้แต่คนที่กระตือรือร้นที่สุดก็กำลังจะกลับไปแล้ว ไม่มีใครอยู่ในพื้นที่ลึกเท่าวาเรี้ยนแล้ว ยกเว้นคนที่ตายแล้ว

อะบิซอลไนท์บ้าคลั่งและเกรี้ยวกราดมากยิ่งขึ้น สิ่งนี้เพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตได้ในไม่กี่วินาที

สิ่งเดียวที่โชคดีคือไม่มีทั้งอะบิซอลและมนุษย์อยู่ใกล้เนินเขา

'บอกตามตรง ตอนนี้ฉันอยู่ในจุดที่อันตรายที่สุดแล้ว'

วาเรี้ยนพยายามค้นหาซากศพมนุษย์รอบๆ เนินเขา

เขาดีใจที่ไม่เจอไคล์ แต่ผิดหวังที่เขาไม่รู้ว่าไคล์หายไปไหน

ในที่สุดวาเรี้ยนก็กลับไปที่ถนน

“ไคล์!”

มันเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดอย่างแน่นอน

"มีมนุษย์!"

"ฆ่า!"

“เจ้าพวกมนุษย์! พวกมันทำลายเมืองของเรา!”

วาเรี้ยนแสดงเครื่องหมายสันติภาพ ซึ่งเป็นนิ้วกลางและเคลื่อนตัวออกห่างจากพวกเขา

เหลืออีก {3 นาที}

'ระบบ ถ้าอันตรายที่ฉันเผชิญทั้งหมดเป็นเพราะแก ทำไมไคล์ต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วย'

วาเรี้ยนถามด้วยความหงุดหงิด

[มนุษย์ก็ตายกันเป็นเรื่องปกติ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ความผิดคุณทุกครั้ง]

'แน่นอนว่ามันเป็นความผิดของฉัน ฉันสูญเสียทุกคน'

วาเรี้ยนกำหมัดของเขาและทำการเคลื่อนย้ายต่อไปเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น

ระบบนักเรียนทหารของเขายังคงตะโกนแต่เวลาหมดลง เขาไม่เห็นความหวังใด ๆ แต่เขาก็เดินต่อไป

เขาสามารถเลือกที่จะเชื่อว่าไคล์ได้กลับเข้าไปในกระสวยอวกาศแล้วก็ได้ บางทีเขาอาจทำแต่โอกาสก็มีน้อย ถ้าหากเป็นไคล์ที่เขารู้จักต้องรอเขาอยู่นอกเมืองแน่

เขาตายแล้วงั้นหรอ?

แต่ฉันก็ตรวจสอบศพส่วนใหญ่แล้วแต่ก็ไม่มีใครเหมือนไคล์เลย บางทีฉันอาจจะตรวจสอบพลาดไปหรือเปล่า อาจจะ…

ตอนนี้เขาต้องเลือกแล้ว

ว่าเขาจะเลือกที่จะทำตามความปรารถนาของแม่และความฝันในวัยเด็กของเขาหรือจะตามหาเพื่อนคนสำคัญของเขา?

ความฝันของเขาสำคัญและนำเขาออกจากความมืดมิด แต่ไคล์ก็มีความสำคัญสำหรับเขาเช่นกัน

ในปีที่ผ่านมา เมื่อเขาแยกตัวออกจากโลกและพยายามเอาชีวิตรอด

ไคล์ก็เข้ามาในชีวิตของเขา เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้กำลังใจเขา และแม้ว่าวาเรี้ยนจะเย็นชาใส่อย่างต่อเนื่อง เขาก็ไม่เลิกที่จะพยายามและทำให้เขา "ปกติมากขึ้น"

อันที่จริง มีหลายวันที่วาเรี้ยนตื่นจากฝันร้ายที่แม่ของเขาเสียชีวิต ไคล์ก็ได้ช่วยใช้เวลาอยู่กับเขาและช่วยเขาให้พ้นจากความมืดมิดของตัวเอง

ไคล์เป็นคนที่ขอให้มายาแนะนำเขาให้รู้จักกับแกเร็ธเพื่อนในครอบครัวของพวกเขา นั่นคือวิธีที่วาเรี้ยนหลุดพ้นจากช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตของเขา ไคล์เป็นคนที่ไม่ชอบขอความช่วยเหลือ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นแฟนของเขาก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ฉันพึ่งเคยเห็นไคล์ขอร้องคนอื่นเพียงแค่ครั้งเดียวที่เคยเห็นนั่นคือ

เขาขอให้มายาแนะนำวาเรี้ยนให้รู้จักกับแกเร็ท เพื่อนของครอบครัวเธอ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้วาเรี้ยนกลายเป็นผู้ฝึกสอนในเลออนฮอล์

ตอนนั้นวาเรี้ยนไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ และไคล์ไม่เคยเอาเรื่องนี้มาพูดทวงบุญคุณเขา

แต่ในที่สุดเขาก็รู้ความจริง วาเรี้ยนทั้งรู้สึกขอบคุณและรู้สึกผิด เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าไคล์ช่วยชีวิตเขาไว้

ตอนนี้เขาต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบาก: ชีวิตของเพื่อนที่ดีที่สุดหรือความปรารถนาสุดท้ายของแม่?

วาเรี้ยนเจ็บปวดข้างในอย่างมาก

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาถอนหายใจ “ระบบหยุดตะโกนชื่อเขาสักที”

เหลืออีก {2 นาที}

เขามองดูกระสวยอวกาศในอากาศและเนินเขาที่อยู่ไกลออกไป

"บ้า!"

เขากัดฟันวิ่งไปที่เนินเขา

ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง และตะโกนออกมา "ไคล์! ไอ้สารเลว! นายอยู่ที่ไหน!"

"ไอ้เวรเอ้ย...! นายอยู่ที่ไหนนนนนนนนนนน!"

วาเรี้ยน ค้นหาทุกที่ที่เขาจะหาได้และในที่สุดก็เข้าไปในพื้นที่ที่เขาพึ่งเคยเข้าไป

เขาเข้าไปในสิ่งก่อสร้างภายในเนินเขา ด้วยความพยายามครั้งสุดท้าย

เขาได้เพ่งความสนใจไปที่การมองเห็นและการได้ยินขณะเดินผ่านเพดานที่พังและทางเดินที่เสียหาย

เขาหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับเขา

แต่ปาฏิหาริย์ก็ไม่ได้เกิดขึ้น แต่เวลายังคงเดินต่อไป

{เหลืออีก 1 นาที}

“ไคล์!”

{เหลืออีก 55 วินาที}

วาเรี้ยน รู้สึกว่าร่างกายของเขาเย็นและฉากสุดท้ายก่อนที่แม่เขาจะตายก็ลอยเข้ามาในหัว

'ช่วยเซีย'

“ขอโทษคะครับแม่...” วาเรี้ยนพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

เขากำลังจะออกจากสิ่งก่อสร้างภายในเนินเขาและเขาก็ได้ยินอะไรบางอย่างที่แผ่วเบามาก:

“ว..วา..วา..เรี้ยน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด