ตอนที่ 469+470 คุกเข่าอย่างไม่น่าดู
ตอนที่ 469 คุกเข่าอย่างไม่น่าดู
ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร นางโจวรู้ดีว่าเธอต้องคุกเข่าและขอโทษอย่างจริงใจ
“มันดูไม่ดีเลย ใช่ไหมครับ” ลู่ชิงสีหัวเราะเยาะ “ที่นี่มีคนอยู่เยอะ จะให้พวกคุณมาคุกเข่าก็ดูไม่ดีเกินไป ครั้งนี้ฉันจะปล่อยตระกูลโจวไปก็แล้วกัน”
เมื่อฟังแต่ละบรรทัด จะทราบว่าลู่ชิงสีต้องการให้นางโจวและโจวหนิงคุกเข่าต่อไป หากไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะเป็นการสร้างความโกลาหลให้ที่นี่
โจวฉางข่างและตู้ซื่อหัว ช่วยตู้หร่งเจิ้นให้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินคำพูดของลู่ชิงสี ถ้าไม่ใช่เพราะตู้ชื่อหัวกระตุ้น โจวฉางข่างก็อยากจะเพิกเฉยต่อโจวหนิงที่ยังคงร้องไห้อยู่
ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ ถ้าเพียงแต่เธอสงบสติอารมณ์ให้ได้มากกว่านี้เสียหน่อย พวกเขาจะไม่ต้องมาก้มตัวต่ำและขอโทษอยู่อย่างนี้
“คุณชายลู่ คุณนายลู่ เรื่องของเทวแพทย์..” ตู้ชื่อหัวถามขึ้น
“สองเงื่อนไข” ลู่ชิงสีไม่ได้มองดูพวกเขาด้วยซ้ำ “เรื่องแรก ตระกูลโจวต้องตีพิมพ์ประกาศในหนังสือพิมพ์รายใหญ่ทุกฉบับในเมืองจินโด เพื่อประกาศยุติความสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างโจวเหวยฉีกับตระกูลโจว โจวเหวยฉีจะไม่ใช่ลูกชายของนายโจวอีกต่อไป เรื่องที่สอง เงินสดห้าแสนหยวน”
ห้าแสน....
เจียงเหยาสำลักชาของเธอ ลู่ชิงสีโหดเหี้ยมจริง ๆ เธอวางแผนที่จะขอเงินเพียงแสนเดียวเท่านั้น
ตระกูลตู้และตระกูลโจวต่างพูดไม่ออกในเงื่อนไขที่ลู่ชิงสีวางไว้
ด้วยการประกาศตัดความสัมพันธ์ ตู้ชื่อหัวและโจวฉางข่างจึงรู้แล้วว่านี่คือแผนของลู่ชิงสีที่วางไว้สำหรับโจวเหวยฉี ให้เขาได้ออกจากตระกูลโจวได้อย่างสมบูรณ์ พวกเขามีลางสังหรณ์ว่าลู่ชิงสีคงมีแผนดี ๆ มากมายสำหรับโจวเหวยฉีในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ลู่ชิงสีต้องการเงินห้าแสนหยวนด้วยเหรอ!
ห้าแสน+
“มันออกจะมากเกินไปหน่อย...” ตระกูลตู้มีวิธีที่จะหามาจ่าย แต่ถ้าเทวแพทย์ต้องการมากกว่านี้สำหรับเขาล่ะ ผู้อาวุโสตู้จะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ด้วยไหม
“ฉันจะบอกความลับให้กับคุณ เทวแพทย์มั่นใจมากว่าการผ่าตัดจะราบรื่น” เจียงเหยามองไปที่กลุ่มคนที่กำลังลังเลด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ “อีกอย่างเทวแพทย์ยังเป็นคนดีอีกด้วย เมื่อเธอตกลงที่จะผ่าตัด เธอไม่เรียกเก็บเงิน เราก็อยากจะรู้ด้วยว่าระหว่างตู้เฉินกับเงินครึ่งล้านหยวน คุณยังจะลังเลที่จะจ่ายหรือเปล่า?”
เจียงเหยาไม่ได้มั่นใจที่จะยกย่องตัวเอง
“ตัดสินใจได้แล้ว ก็ค่อยโทรมาบอกก็แล้วกัน อีกอย่างเทวแพทย์จะออกจากเมืองจินโดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” ลู่ชิงสีโบกมือของเขาอย่างหงุดหงิด
ทั้งสองครอบครัว ยกเว้นโจวเหวยฉี ออกไปทันที
เจ้าของร้านนำอาหารเข้ามาเสิร์ฟหลังจากที่ผู้มาเยือนจากไปอย่างกะทันหัน เธอวางถาดลงพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าและหันไปสนใจกับลูกค้ารายอื่นในบริเวณใกล้เคียงต่อทันที
“หยุดมองได้แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับชิวเหอของคุณ?” เจียงเหยาตบไหล่ของโจวเหวยฉีและผลักอาหารไปตรงหน้าเขา “ไหนบอกว่าไม่ได้กินอะไรมาไง? นี่ ยกให้คุณ”
__
ตอนที่ 470 ห้าแสน
โจวเหวยฉีได้สติและอธิบายเพิ่มว่า “ไม่ใช่นะ ก็แค่เห็นว่าเขายิ้มสวยดี คล้าย ๆ กับการชื่นชมสิ่งสวยงามนั่นล่ะ อีกอย่าง เธอยังไม่ใช่ชิวเหอของฉันสักหน่อย”
“ขอบคุณที่อธิบาย” เจียงเหยาหัวเราะแห้ง ๆ จากนั้นเธอก็หันไปถามลู่ชิงสีว่า “คุณวางแผนที่จะปล่อยตัวนายโจวเมื่อไหร่คะ?”
“พรุ่งนี้” ลู่ชิงสีมองไปที่โจวเหวยฉี “ตอนแรกฉันอยากให้นายเป็นคนตัดสินใจ แต่ฉันรู้ว่ากว่าถ้ารอให้นายตัดสินใจก็คงใช้เวลานาน ฉันรอไม่ไหวหรอก เลยให้สิทธิ์คนอื่นในการตัดสินใจแทน”
“พี่ลู่...” โจวเหวยฉีถอนหายใจ
“ขอโทษนะที่ต้องพูดตรง ๆ แต่นายยังเทียบกับสุนัขที่โจวหนิงเลี้ยงในตระกูลโจวไม่ได้เลย” ลู่ชิงสีพูดออกไปตรง ๆ เพราะยังไงเสียคำพูดเหล่านี้ก็คือความจริง “ถ้าพ่อของนายตัดสินใจให้นายอยู่ในตระกูลโจวต่อ ฉันจะแปลกใจมาก”
โจวเหวยฉีไม่ได้พูดอะไร เขาก้มหน้าและเคี้ยวคุกกี้ที่เจ้าของร้านเพิ่งยกมาเสิร์ฟ
เขาจะพูดอะไรได้? เขาถูกละเลยและถูกทิ้งไว้ข้างหลังเสมอ เขาจะหวังอะไรได้อีก
“อิ่มแล้ว ก็ไปให้พ้น” ลู่ชิงสีรู้สึกหงุดหงิดเมื่อดูการแสดงออกบิด ๆ เบี้ยว ๆ ของโจวเหวยฉี
เมื่อตระหนักว่าตัวเองเป็นกอขอคอ โจวเหวยฉีจึงหยิบคุกกี้หนึ่งกำมือ ดื่มชาในแก้วที่ตัวเองถือ ก่อนจะเดินจากไป
พระอาทิตย์ยามบ่ายส่องแสงจ้า ทำให้ใบหน้าของเจียงเหยาเป็นสีแดงสด หลังจากที่โจวเหวยฉีจากไปแล้ว เธอพิงไหล่ของลู่ชิงสี และกล่าวว่า “เราควรเรียกเหวยฉีกลับมานะคะ จะได้เล่นเกมได้กันสามคนได้”
เมื่อเห็นลู่ชิงสีกำลังเอื้อมมือออกไปหยิบโทรศัพท์มือถือ เจียงเหยาก็รีบหยุดเขาและพูดว่า “ฉันแค่ล้อเล่น นี่คุณเอาจริงเหรอ?”
ลู่ชิงสีทำได้อยู่แล้ว การจะโทรหาโจวเหวยฉี เป็นเรื่องง่าย ๆ อยู่แล้ว
“นางโจวและโจวหนิงต้องโกรธเราแล้วแน่ ๆ” เจียงเหยาไม่สามารถหยุดคิดเกี่ยวกับการแสดงออกของโจวหนิง เธอคิดว่ามันดูตลก “เมื่อวาน เหวยฉีกับซวีเหยาถามฉันด้วยล่ะ ว่าทำไมไม่โกรธ แม้แต่เฉินเฟยไป่ยังถามคำถามเดียวกันกับฉันเลย คุณรู้ไหมว่าฉันตอบพวกเขาไปว่ายังไง? พวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากฉัน ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะคุกเข่า คำพูดของโจวหนิงนี่เข้าตัวดีจริง ๆ”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่น่าสมเพชของนางโจวและโจวหนิง ทำให้เจียงเหยาอารมณ์ดีทีเดียว เธอนึกถึงวิธีที่พวกเขาปฏิบัติต่อโจวเหวยฉีเมื่อวาน และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
“เพราะงั้น ห้าแสนนั้นใช้เหวยฉีได้ไหม?” เจียงเหยาถาม
“ถ้าเหวยฉีต้องออกจากตระกูลโจว พวกเขาต้องเอาทุกอย่างที่ให้เขาก่อนหน้านี้คืนแน่” ลู่ชิงสีรู้ดีว่าตระกูลโจวจะทำอะไร แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ให้อะไรกับเหวยฉีมากนัก แต่อย่างน้อยลู่ชิงสีก็ต้องการได้รับค่าชดเชยสำหรับความยากลำบากและความอยุติธรรมทั้งหมดที่โจวเหวยฉีต้องเผชิญต้องหลายปีที่ผ่านมาที่อยู่ในตระกูลโจว
“ห้าแสนไม่ใช่เงินจำนวนมาก แต่ก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย” เจียงเหยากล่าว
“ถ้าเป็นครอบครัวทั่ว ๆ ไป เงินห้าแสนเป็นจำนวนเงินที่พวกเขาได้แต่ฝันเหมือนกับพ่อแม่ชาวนาชาวไร่ของฉัน ชั่วชีวิตนี้จะไปหาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน แต่สำหรับตระกูลโจว ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเองบ้านหรือรถยนต์หรูไปจำนอง”