ตอนที่ 467+468 ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ตอนที่ 467 ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
นั่นเป็นสัญญาณของโจวฉางข่าง ที่บอกให้นางโจวและโจวหนิงก้าวไปข้างหน้าและกล่าวขอโทษทันที
“คุณนายลู่ เราเสียใจมาก เราไม่รู้ว่าคุณเป็นใครและดูถูกคุณ ยกโทษให้พวกเราเถอะนะคะ” นางโจวผลักลูกสาวที่ดูอารมณ์เสียมาก
“คุณนายลู่ ฉันขอโทษค่ะ เมื่อคืนฉันทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่” โจวหนิงกล่าวขอโทษอย่างแห้ง ๆ เธอกำลังคิดว่าถ้าเธอได้แต่งงานกับเฉินเฟยไป่ แม้แต่ลู่ชิงสีก็ไม่สามารถหือกับเธอได้อีก
ตู้ชื่อหัวกล่าวเสริมว่า “คุณชายลู่ คุณนายลู่ หนิงเธอยังเด็ก ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ให้โอกาสเธอสักครั้งเถอะนะครับ”
เจียงเหยาเกือบสำลักชาเมื่อเธอได้ยินคำพูดนั้น
เธอคิดไปถึงตอนอยู่ในกองทัพ คุณนายเก๋อ เคยพูดว่าเก๋อเวินเวินยังเด็ก เพื่อหาข้ออ้างสำหรับพฤติกรรมของเธอ
แบบนั้นก็พอได้ เพราะยังไงเก๋อเวินเวินเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ
แต่นี่โจวหนิงอายุมากกว่าเจียงเหยาเสียอีก และพวกเขายังกล้าบอกว่าเธอยังเด็กและยังไม่บรรลุนิติภาวะ?
“เด็ก? อายุเท่าไหร่คะ? สามขวบ? หรือน้อยกว่านั้น?” เจียงเหยาหัวเราะและมองไปที่โจวหนิงด้วยความรังเกียจ “คุณหนูโจวดูอายุมากกว่าฉันเสียอีก จะบอกว่าคุณหนูโจวยังเด็กได้อยู่อีกเหรอคะ? พวกคุณยังเด็กและไม่บรรลุนิติภาวะ?”
โจวเหวยฉีไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นค่าป่าเถื่อนเช่นนี้จากเจียงเหยา เขาถึงกับคายผลไม้ในปากออกทันที พยายามอย่างเต็มที่ที่จะกลั้นหัวเราะ
“พวกเราก็ขอโทษแล้ว คุณยังจะต้องการอะไรอีก!” โจวหนิงร้องออกมา ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำตา เธอยืนที่นี่วางตัวเองลงในขณะที่ลดตัวลงให้แล้ว ในขณะที่ผู้หญิงตรงหน้าเธอกลับทำตัวสูงส่งและทรงพลัง เธอสูญเสียการควบคุมตัวเองและตะโกนว่า “นี่มันมากเกินไปแล้วนะ! ต้องการให้แม่กับฉัน คุกเข่าลงขอโทษด้วยเลยไหมล่ะ”
“หนิง!”
“โจวหนิง!”
ทุกคนที่อยู่ด้านหลัง หน้าซีดกันไปเป็นแถว
“ฉันไม่คิดว่ามันเป็นความคิดที่ไม่ดีอะไรนะ” ลู่ชิงสีตอบอย่างเย็นชา
เจียงเหยากล่าวเสริมว่า “ทำไมคุณไม่ทำอย่างนั้นล่ะ? บางทีฉันอาจจะยกโทษให้คุณจริง ๆ ถ้าคุณคุกเข่าลง”
“เราไม่จำเป็นต้องยอมรับคำขอโทษของคุณนี่” เจียงเหยากล่าวอย่างจริงจัง จากนั้นเธอก็หันไปหาโจวเหวยฉี พร้อมหยิบเมล็ดทานตะวันในมือของเขา “อากาศแบบนี้เหมาะกับการนั่งรับแสง พูดคุยกับเพื่อน ๆ ! อ้อ ต้องไม่ลืมเมล็ดทานตะวันอร่อย ๆ ด้วย!”
“กำลังสนุกกับชีวิตล่ะสิ! เมื่อวานซวีเหยากับฉันไปดื่มกัน เมามากด้วย เช้านี้ตื่นแทบจะไม่ไหว นี่ก็เพิ่งตื่นเมื่อกี้นี้เอง” โจวเหวยฉีไม่ได้กินเมล็ดทานตะวัน แต่เขาเลือกผลไม้แทน เขาถามว่า “จะกลับเมืองจินเมื่อไหร่”
โจวเหวยฉีมองไปที่โจวฉางข่างและพรรคพวก เมื่อเขาถามคำถาม เพื่อเตือนให้คนอื่น ๆ รู้ว่าลู่ชิงสีและเจียงเหยากำลังจะออกจากเมืองจินโดในไม่ช้า
__
ตอนที่ 468 คุกเข่าลง
หากพวกเขาใช้เวลามากจนเกินไป พวกเขาอาจจะสูญเสียความตั้งใจที่วาดหวังไว้
“พรุ่งนี้เช้า” ลู่ชิงสีตอบ “ยังมีงานรออยู่อีกมาก”
นางตู้รู้สึกตื่นตระหนกเมื่อได้ยินคำตอบของลู่ชิงสี ถ้าเขากลับไปที่กองทัพ ตระกูลตู้จะไม่สามารถพบเขาได้อีกเลย เพราะพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์กับกองทัพ
“คุณชายลู่ เหตุการณ์เมื่อวานเป็นความผิดของหร่งเจิ้นและหนิง พวกเขาดูหมิ่นพวกคุณ คุณเห็นว่าอย่างไร คุณชายลู่? คุณจะให้อภัยพวกเขาได้ไหมครับ?” ตู้ชื่อหัวกังวลเช่นกัน เขาสามารถเพิกเฉยต่อสภาพการณ์ของนายโจวได้ แต่เขาไม่สามารถเพิกเฉยกับสวัสดิภาพของลูกชายเขาได้ เขาต้องการพบกับเทวแพทย์จริง ๆ
“คุณหนูโจวพูดเองไม่ใช่เหรอ? ว่าจะคุกเข่า ขอโทษภรรยาฉัน”
ลู่ชิงสีดูหงุดหงิด “ถ้าอยากจะขอโทษก็ทำสิ ถ้าไม่อยากทำก็กลับไปซะ!”
อารมณ์ของลู่ชิงสีเริ่มมาคุขึ้น เขาไม่มีความอดทนสำหรับคนที่ปฏิบัติไม่ดีต่อภรรยาของเขา
“ถ้าไม่อยากขอโทษก็กลับไปซะ อย่ามาให้เสียเวลาที่นี่ ใช้เวลานี้ไปหาทนายดี ๆ เพื่อพ่อของคุณหนูโจวจะได้ถูกปล่อยตัวเร็ว ๆ จะดีกว่า” เจียงเหยาหันหลังให้พวกเขาและยังคงเพลิดเพลินกับสภาพอากาศที่น่ารื่นรมย์ต่อไป
เธอไม่ใช่คนโหดเหี้ยม เธอไม่สามารถยืนหยัดต่อทัศนคติที่ถือตัวเอาตัวเองเป็นใหญ่ของโจวหนิงได้
อีกอย่างโจวเหวยฉีก็ยังอยู่ที่นี่ เขามีสิทธิ์ทั้งหมดในการขอโทษแทนตระกูลโจว!
นางโจวยังคงลังเลและไม่เต็มใจ แต่เมื่อได้ยินการพูดถึงนายโจว ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น
พวกเขาเข้าใจดีว่าหาก นางโจวและโจวหนิงไม่คุกเข่าขอโทษ ก็ไม่สามารถทำให้กับนายโจวได้ และพวกเขาก็ไม่มีวันได้พบกับเทวแพทย์ด้วย
โจวฉางข่างต้องการให้บทเรียนนี้กับน้องสาวของเขา อย่างไม่มีวันลืม! เธอเป็นตัวภาระ! เขาสามารถเพิกเฉยต่อชะตากรรมของตู้เฉินได้ แต่เขาไม่สามารถทิ้งพ่อไว้ตามลำพังได้ ถ้านายโจวถูกส่งตัวเข้าคุก แสดงว่าตระกูลโจวก็ถึงจุดจบแล้ว
เขาเกลียดลู่ชิงสี แต่เขาจะสามารถทำอะไรได้? นี่คือความจริง มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่มีอำนาจควบคุมผู้อ่อนแอ เขาไม่เคยทำแบบเดียวกันกับคนที่อยู่ใต้ตระกูลโจวหรอกหรือ?
การสังเกตปฏิสัมพันธ์ของลู่ชิงสีและเจียงเหยา กับโจวเหวยฉี ทำให้โจวฉางข่างตระหนักว่าลู่ชิงสีปฏิบัติต่อโจวเหวยฉีเหมือนกับน้องชายของเขาเอง เขาทำสิ่งนี้เพื่อโจวเหวยฉี น่าเสียดายที่ตระกูลโจวไม่เคยปฏิบัติต่อโจวเหวยฉีเป็นอย่างดี เขาคงไม่ช่วยพวกเขาแน่
“คุกเข่าลง หนิง!” โจวฉางข่างเร่งเร้า
นางโจวมองดูลูกชายของเธอที่ดูน่ากลัวและคุกเข่าลงทันที เธอดึงโจวหนิง “คุกเข่า! รู้ใช่ไหม ถ้าไม่ทำจะเกิดอะไรขึ้น! ตระกูลโจวได้จบแน่ เมื่อถึงเวลานั้นเธอจะไม่ได้เป็นอะไรเลย!ไ
โจวหนิงที่กำลังร้องไห้อยู่ถูกโจวฉางข่างและนางโจวผลักลงมา แม้ว่าเธอจะลังเลใจ แต่เธอก็รู้ว่าเมื่อพ่อของเธอติดคุก ในที่สุดเธอก็จะสูญเสียสิทธิ์ที่จะทำตามใจชอบไปเสียทั้งหมด
“คุณชายลู่ คุณนายลู่ เราเสียใจมากสำหรับเรื่องเมื่อวาน มันเป็นความผิดของเรา ที่แสดงท่าทางที่ไม่สุภาพมากขนาดนั้นออกไป โปรดยกโทษให้ตระกูลโจวของเราสักครั้งเถอะ!” นางโจวร้องคร่ำครวญออกมา เธอร้องไห้เพราะสามีของเธอถูกพาตัวไป เพราะการกระทำที่หุนหันพลันแล่นของเธอเมื่อวานนี้ ทำให้เกิดความทุกข์ยากมากมาย รวมไปถึงความอัปยศอดสูและน่าขายหน้าที่ต้องการคุกเข่าลงในตอนนี้ด้วย