ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 34 เผือกร้อน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 36 รางวัลใหม่

MDB ตอนที่ 35 จัดฉากสร้างแพะ


กำลังโหลดไฟล์

หวังจีเข้าใจอย่างเป็นธรรมชาติว่าเกาเจียงหมายถึงอะไร เพราะมันน่าละอายจริง ๆ ถ้าคำพูดนั้นออกมา

ทันใดนั้น เกาเจียงก็นึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้เกี่ยวกับการเปลี่ยนอาจาร์ของหลู่เสี่ยวหยุน จู่ ๆ เขาก็คิดขึ้นมาได้และเขาก็พูดว่า

“หัวหน้า พวกเราไม่ใช่ผู้ประเมินทางการเพียงสองคนในสมาคมนี้...”

ทันใดนั้น ดวงตาของหวังจีก็พลันสว่างขึ้นเมื่อนึกเรื่องนี้ขึ้นได้

"เจ้าพูดถูก เราไม่ใช่ผู้ประเมินทางการเพียงสองคนในสคมคมนี้ เอาล่ะ! ย้ายสิ่งเหล่านี้ไปที่ห้องประเมินหลักและเรียกหลินจินมา!”

...

หลินจินงีบหลับอย่างมีความสุขตลอดทั้งบ่ายเพราะไม่มีใครรบกวนเขา เขาจึงเพิ่งตื่นในตอนเย็น

หลังจากทานอาหารและดื่มชาแล้ว เขาก็ไปตรวจดูเต่าบกและอสูรน้ำหมึก เขาตระหนักได้ว่าชีวิตของเขาช่างผ่อนคลายเพียงใด

ส่วนจ้าวหยิงกับหลู่เสี่ยวหยุนได้เดินทางกลับไปก่อนที่ฟ้าจะมืด

หลินจินตั้งใจจะกลับบ้านด้วย เขาหยิบภาพวาดที่กู่เมียงจงมอบให้เขาจากตู้หนังสือ แน่นอนว่า เขาไม่สามารถทิ้งของมีค่าดังกล่าวไว้ในสมาคมได้และต้องนำมันกลับบ้าน

ด้วยม้วนภาพวาดในมือ จากนั้นก็เดินทางกลับบ้านพร้อมกับเสี่ยวฮั่ว

ขณะที่เขากำลังก้าวออกนอกธรณีประตู เขาถูกหยุดโดยผู้ประเมินฝึกหัดที่หวังจีส่งมาหาให้เขา...

ณ ห้องประเมินผลสมาคมฯ เมื่อหลินจินเข้ามาหวังจีและเกาเจียงก็อยู่ที่นั่นแล้ว พวกเขาต่างไม่พอใจเมื่อเห็นหลินจิน โดยเฉพาะหวังจี เขาตั้งตัวเป็นศัตรูอย่างเต็มที่ เขาต้องการเพิกถอนตำแหน่งของหลินจินและไล่เขาออกไปเพื่อที่เขาจะได้แนะนำเจียเฉียนให้มาแทนที่หลินจิน

เมื่อนึกถึงนางฟ้าผู้มีเสน่ห์นี้ หวังจีรู้สึกรุ่มร้อนและกระชุ่มขึ้นมา เขารู้สึกว่าตัวเองอ่อนวัยไปหลายปี แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้เชยชมแม่ยอดหญิง แต่เมื่อเรื่องนี้คลี่คลายแล้ว เธอจะตกเป็นของเขาทันที

สำหรับเกาเจียง ในตอนแรกเขารู้สึกดูถูกหลินจินเท่านั้นแต่ชายผู้นั้นกลับเหิมเหริมนำพาลูกศิษย์ของเขาไปอย่างโจ่งแจ้งและตั้งคำถามถึงการประเมินของเขา สิ่งนี้ทำให้เกาเจียงมีอคติอย่างมากต่อหลินจิน

ดังนั้น ชายทั้งสองจะไม่เป็นมิตรกับผู้มาใหม่อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม หลินจินค่อนข้างสงบและทักทายพวกเขาที่ทางเข้า

“หัวหน้าวัง! ผู้ประเมินเกา! มีเรื่องอะไรให้ข้าช่วยงั้นหรือ?”

ชายทั้งสองไม่ใส่ใจที่จะตอบกลับ พวกเขาเรียกเขาให้เป็นแพะรับบาปเท่านั้น

“หลินจิน เจ้ามาช้าเกินไปแล้ว! เมื่อไหร่เจ้าจะเปลี่ยนนิสัยขี้เกียจสันหลังยาวของเจ้า!” หวังจีโวยวายทันทีเพราะรำคาญหลินจิน

‘ฉันมาช้า?’

แต่หลินจินไม่ได้มาช้าอะไรเลย เขามาทันทีหลังจากที่ได้รับเรียก เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะนำภาพวาดของกู่เมียงจงกลับไปเก็บที่บ้านด้วยซ้ำ

“ข้าเรียกเจ้ามาที่นี่เพื่อมอบหมายงานให้เจ้า เจ้าจงไปประเมินไข่สัตว์ทั้ง 9 ใบนั่น เจ้ามีเวลาแค่หนึ่งคืนเท่านั้น แม้เจ้าจะไม่ได้นอนทั้งคืน เจ้าก็ต้องส่งรายงานผลการประเมินภายในเช้าวันพรุ่งนี้” พูดเสร็จ หวังจีก็หาว วันนี้เหนื่อยมากโดยเฉพาะในช่วงบ่าย

“ข้ากำลังกลับบ้าน แล้วเจ้าล่ะ ผู้ประเมินเกา?” หลังจากสั่งการเสร็จแล้ว หวังจีก็เพิกเฉยต่อหลินจินและหันไปหาเกาเจียงแทน

แม้เกาเจียงเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาแต่เขาคือนายน้อยของตระกูลเกา เขาสมควรได้รับความเคารพจากเขา

“ข้าก็จะกลับเหมือนกัน วันนี้ข้ามีอาหารเย็นมื้อสำคัญที่ข้าพลาดไม่ได้” เกาเจียงตอบ

จาก ชายทั้งสองก็จากไป โดยไม่สนใจแม้แต่จะมองหลินจิน

หลินจินเหลือบมองไปที่ไข่สัตว์วิเศษและเดินเข้าไปหาพวกมัน

เขาไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่าหวังจีกับเกาเจียงสมรู้ร่วมคิดกัน ไม่จำเป็นต้องใช้สมองคิดให้มากมาย เขาก็รู้ว่าทั้งสองผลักภาระอันยิ่งใหญ่ให้เขาแบกรับ

ไข่ทั้ง 9 ใบที่ยังไม่ได้ประเมินถูกวางไว้ด้วยกัน ขณะที่ไข่ที่ประเมินอีก 2 ใบถูกวางไว้ข้าง ๆ รายงานการประเมินที่เตรียมไว้ทั้งสองฉบับ

หลินจินสามารถบอกได้อย่างง่ายดายว่า จากไข่ทั้งหมด 11 ใบ มีเพียง 2 ใบ ที่ได้รับการประเมิน ส่วนอีก 9 ใบ พวกเขาอาจจะไม่มีเวลาพอที่จะประเมินมันหรือไม่ก็พวกเขาไม่สามารถประเมินได้เลย หากลูกค้าดูชื่อที่ลงนามในรายงานการประเมิน บทลงโทษก็จะถูกส่งมาถึงเขา

“เจ้าคนโง่เขลาเหล่านั้น พวกเขาคิดว่าฉันยังเป็นหลินจินคนเดิมอยู่อีกงั้นเหรอ?” หลินจินยิ้ม

หลินจินคนก่อนไม่สามารถประเมินไข่เหล่านี้ได้และไม่อาจหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาและกลายเป็นแพะรับบาปในที่สุด อย่างไรก็ตามหลินจินคนใหม่มีพิพิธภัณฑ์สัตว์วิเศษ ในโลกนี้ที่ปกครองโดยสัตว์วิเศษ พลังของเขาสามารถทำให้แม้แต่สรวงสวรรค์พังทลายเลยก็ยังได้

หลินจินอยู่คนเดียวในห้องโถงใหญ่อันเงียบสงัด เขาเดินไปดูไข่สัตว์วิเศษ บอกตามตรง นอกเสียจากว่ามันคือไข่ ไม่มีอะไรอื่นที่เขาบอกได้

แต่ด้วยการสัมผัสเพียงเล็กน้อย พิพิธภัณฑ์ก็ถูกกระตุ้นทันที

“ไข่กลายพันธุ์ บันทึกการรวบรวม 1 /10”

...

นอกห้องโถงของหวังจี เขากำลังมอบหมายงานให้กับผู้ประเมินฝึกหัด

“เจ้าไปเตรียมของขวัญ พวกมันจะต้องเป็นการประดิษฐ์ตัวอักษรและภาพวาด นำไปวางไว้ในห้องโถง สิ่งเหล่านี้จะเป็นของขวัญสำหรับพ่อบ้านจั่ว ดังนั้นพวกมันจะต้องสมบูรณ์แบบ”

ผู้ประเมินฝึกหัดรับงานที่ได้รับมอบหมายและเดินออกไป

หวังจีรู้ว่างานนี้ เขาทำได้ไม่ดี เขาประเมินไข่กลายพันธุ์ได้เพียง 2 ใบ เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงต้องมอบของขวัญบางอย่างให้กับพวกเขา อย่างน้อย ๆ จั่วเหวินถังจะช่วยพูดบรรเทาความโกรธเคืองของเจ้าเมืองให้ไม่มากก็น้อย

ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาอย่างโชกโชน หวังจีรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อแก้ไข้สถานการณ์นี้

หลังจากนั้นเขาก็หันไปที่ห้องประเมินและยิ้มเยาะก่อนจะเดินออกไป

เขาไม่รู้เลยสักนิดว่าหลินจินรู้สึกเบิกบานราวกับเด็กได้ของเล่นใหม่

...

ไข่กลายพันธุ์ บันทึกหมายหนึ่ง

ไม่ต้องสงสัยเลยเลยว่า สำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์วิเศษ นี่ถือเป็นหมวดหมู่ใหม่ ความตื่นเต้นของหลินจินเกิดจากการรู้ว่าพิพิธภัณฑ์มักให้รางวัลสำหรับบันทึกใหม่

เช่นเดียวกับครั้งแรกที่เขาบันทึกสัตว์วิเศษหลายร้อยตัว ทางพิพิธภัณฑ์ได้มอบทักษะ 'การกำราบสัตว์วิเศษ' ให้เขา สิ่งนี้ทำให้เขาสามารถเชื่องสัตว์ร้ายทุกตัวที่อยู่ในระดับหนึ่งถึงระดับสาม เว้นแต่สิ่งมีชีวิตนั้นจะมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว

หลินลินได้ลองและทดสอบทักษะนี้มาหลายครั้งแล้ว โดยแต่ละครั้งก็ประสบความสำเร็จ มันช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของเขาได้อย่างดีด้วย

ส่วนบันทึกของสัตว์หายาก เช่น กิ้งก่าหินสายเลือดมังกรทอง โกลดี้ ไก่แดงสายเลือดอีกาทองคำและอสูรน้ำหมึก เมื่อบันทึกเกินสิบครั้ง เขาได้รับรางวัล 'รูปแบบพลังงานอสูร ส่วนแรก'

มันเป็นทักษะเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงเพื่อฝึกฝนขั้นแรกของการสร้างพลังงาน

ผลลัพธ์ของการฝึกฝนเห็นได้ชัดจากการที่เสี่ยวฮั่วตะปบสิงโตวายุของหลู่หยุนเหอถึงสามครั้ง ก่อนที่เจ้าสิงโตจะร้องไห้

ถ้าเขาบันทึกสัตว์หายากมากกว่านี้ พิพิธภัณฑ์น่าจะมอบรางวัลส่วนต่อ ๆ ไปให้เขา เมื่อเสี่ยวฮั่วฝึกฝนเสร็จสิ้น มันก็จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ หลินจินรู้ดีว่าหนึ่งในวิธีวิวัฒนาการต่อไปของเสี่ยวฮั่วคือการฝึกฝนรูปแบบพลังงานอสูรถึงส่วนที่หก จากนั้นมันก็สามารถพัฒนาเป็นระดับสี่ได้

แม้ว่าศักยภาพของเขาจะไม่เพียงพอ นี่เป็นส่วนที่ดีที่สุดของรูปแบบพลังงานอสูร ปัจจุบันทักษะนี้เป็นทักษะที่ดีที่สุดที่มนุษย์รู้จัก ถ้าหลินจินจะเผยแพร่ความรู้อันนี้ไปทั่วโลก เขาอาจจะเริ่มการปฏิวัติการฝึกฝนของสัตว์วิเศษก็เป็นได้

ด้วยสิ่งเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ารางวัลของพิพิธภัณฑ์นั้นน่าทึ่งเพียงใด ตอนนี้หมวดหมู่ 'ไข่กลายพันธุ์' ใหม่ปรากฏขึ้นแล้ว หากหลินจินบันทึกไข่ครบทั้ง 10 ใบ เขาก็สามารถสร้างรางวัลรูปแบบใหม่ได้

หลินจินจะไม่คาดหวังและตื่นเต้นได้อย่างไร? เขาคงกำลังจะตายจากความอยากรู้

เขาสัมผัสไข่ที่กลายพันธุ์ตัวแรกและพิพิธภัณฑ์ก็ปรากฏตัวอย่างและแผ่นหิน หลังจากดูอย่างระมัดระวัง หลินจินก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง

ไข่กลายพันธุ์: ระดับหนึ่ง สามารถฟักเป็นตั๊กแตนตำข้าวคมวายุได้

คุณสมบัติ: ธาตุทอง

วิธีการฟักไข่: 3 วิธีคือ…

วิธีการเลี้ยงดู: ด้วยการเลี้ยงดู มันมีโอกาสที่จะเพิ่มระดับเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิต มี 2 วิธีคือ…

วิธีสร้างพันธสัญญาโลหิต: 5 วิธีคือ…

หลินจินอ่านข้อมูลของไข่ใบนี้ที่มีเนื้อหามีมากมายมหาศาล เขาไม่จำเป็นต้องเขียนทั้งหมด แค่เลือกส่วนหนึ่งจากแผ่นหินมาก็เพียงพอแล้ว มันก็จะถือว่าเป็นการประเมินที่สมบูรณ์แบบ

หลินจินหยิบพู่กันเพื่อเริ่มเขียนเนื้อหาโดยไม่ให้เสียเวลา

หลังจากที่เขาทำเสร็จแล้ว หลินจินก็ประทับตราของเขาและย้ายไปสัมผัสไข่ที่กลายพันธุ์ใบต่อไป

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด