ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 27 มีทางเดียวเท่านั้น
“ขยะระดับ 1 เมื่อแกเข้ามายุ่งกับงานของฉัน เพื่อนแกก็จะตายด้วย แกจะต้องตายด้วยน้ำมือของฉัน นาร์ซิส แซนเดอร์”
วาเรี้ยนมองไปที่ไคล์ ไคล์พยักหน้าด้วยสีหน้าเครียด เขาเข้าใจว่าวาเรี้ยนกำลังบอกให้เขาทำให้ดีที่สุด พวกเขาอาจตายได้ แต่ต้องตายอย่างทรมานแน่
ดังนั้นไคล์จึงส่งออร่าไปยังดาบเพื่อเตรียมพร้อมในการต่อสู้
หายใจเข้าลึกๆ เขาตะโกนว่า "เคะ—"
มีอะไรบางอย่างดึงเขาและไคล์รู้สึกว่าตัวของเขาลอยไป เมื่อฝุ่นฟุ้งขึ้น เขาเห็นร่างของนาร์ซิสลดน้อยลงในระยะไกล จากนั้นเขาก็รู้ว่าวาเรี้ยนดึงเขาและรีบไปที่เมือง
"ฉัน-ฉันคิดว่าเราจะสู้กับมันซะอีก" เขาพึมพำเบาๆ
"นายมันบ้า! การต่อสู้กับระดับ 3 เป็นตั๋วไปนรกแน่นอน" วาเรี้ยนตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
ไคล์เก็บดาบของเขาเข้าไปในแหวนและมองไปยังร่างของนาร์ซิสที่อยู่ไกลออกไป พวกเขาเข้าใกล้เมืองแล้วและอยู่ห่างจากกำแพงเมืองเพียงหนึ่งกิโลเมตร
“เด็กนั้นไม่ได้ตามเรามา บางทีเขาอาจรู้ว่าการต่อสู้ใกล้เมืองจะดึงดูดความสนใจมากเกินไป” ไคล์พูดพร้อมกับปล่อยวางลงเล็กน้อย
เขากระพริบตาและเห็นว่านาร์ซิส… หายไป
“ฉันกลั..—”
“บูม!”
วาเรี้ยน เหวี่ยงไคล์ไปข้างหน้าแล้วกระโดดไปด้านข้าง หินก้อนเล็กๆ พุ่งออกไปทุกทิศทุกทางเนื่องจากการกระแทกอย่างแรงที่ทำร้ายวาเรี้ยนและไคล์
"หลบได้ดีนี่ แต่สิ่งเดียวที่ฉันไม่อยากสู้ด้วยคืออะบิซอลลอร์ด แม้แต่อะบิซอลคอมมานเด้อก็ยังเลเวล 3 หัวของมันคือตั๋วนักเรียนกิตติมศักดิ์ของฉัน"
นาร์ซิส แซนเดอร์ ก้าวออกมาจากฝุ่นที่คะคลุ้งและมองลงมาที่พวกเขาด้วยรอยยิ้มที่เหยียดหยาม
วาเรี้ยนกัดฟันและมองกลับไปที่ประตูเมือง พวกอะบิซอลที่เฝ้าระวังอยู่ได้รับการแจ้งเตือนจากความโกลาหลและส่งอะบิซอลไนท์ 6 ตัวมายังหน้าประตู
อะบิซอลสวมชุดเกราะแสงสีแดงซึ่งแตกต่างกับผิวสีเทาของพวกมัน พวกเขาทั้งหมดมีรอยสักสองรอยบนคางซึ่งบ่งบอกถึงระดับของพวกเขา — ระดับ 2 ซึ่งมีชื่อว่าอะบิซอลไนท์
วาเรี้ยนรีบวิ่งไปหาไคล์และอุ้มเขาขึ้นมา เขาวิ่งหนีออกจากพวกอะบิซอลไนท์และปล่อยให้มันโจมตีนาร์ซิสแทนและเขารีบวิ่งเข้าหากำแพงเมือง
กำแพงเมืองยิ่งเข้าใกล้ยิ่งดูงดงามมาก มีอะบิซอลไนท์อย่างน้อยสองสามร้อยตัวจากการกวาดสายตาของเขา
แม้ว่าจะถูกไล่ตามโดยผู้ปลุกพลังเมอร์เฟอร์ระดับ 3 แต่วาเรี้ยนก็ไม่เคยคิดที่จะเข้าไปในนั้น นั่นจะเป็นการฆ่าตัวตาย
เขาหวังว่าอะบิซอลไนท์อย่างน้อยจะสามารถขัดขวางนาร์ซิสได้จนกว่าเขาจะคิดวิธีที่ทำให้เขาและไคล์ปลอดภัยได้
การมาถึงของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอะบิซอลไนท์ที่ปกป้องกำแพงเมืองตามที่ตั้งใจไว้ อะบิซอลไนท์วิ่งเข้ามาหาพวกเขา
วาเรี้ยนไม่ได้กังวลเกี่ยวกับอะบิซอลไนท์เขากังวลเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่อยู่ข้างหลังเขาต่างหาก เขามองย้อนกลับไปและรู้สึกว่าเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น
หัวของอะบิซอลไนท์ทั้ง 5 กลิ้งอยู่บนพื้น และตัวที่หกก็กำลังจะตาย
'ปีศาจ!!'
วาเรี้ยนกัดฟันมองไปข้างหน้า 'ฉันจะจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ย แต่ตอนนี้ฉันต้องรอดอย่าฆ๋าพวกฉันเลย'
“น่าสนใจ แกไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของแก” เสียงน่ารำคาญของนาร์ซิสดังมาจากด้านหลัง
วาเรี้ยนรู้ว่านาร์ซิสอยู่ห่างจากพวกเขาเพียงไม่กี่สิบฟุต
แต่เขาไม่ได้หันหลังกลับและวิ่งอย่างสุดกำลัง แม้จะมีค่าความต่างของพลังเขาพอจะวิ่งหนีได้ทันอยู่แต่เนื่องจากเขากำลังอุ้มไคล์อยู่เขาจึงลดความเร็วลง จริงๆแล้วนี่คงเป็นการกระทำนี่โง่มาก
อย่างไรก็ตามวาเรี้ยนไม่เสียใจกับที่เขาอุ้มไคล์อยู่ เขาล้มเหลวในการช่วยคนที่สำคัญที่สุดของเขามาครั้งนึงแล้ว เขาไม่อยากล้มเหลวอีก
“มนุษย์! ให้ตายสิ!” กลุ่มอะบิซอลไนท์สิบตัวเพิ่งปิดระยะและเข้าสู่ระยะโจมตี
“ฮ่าฮ่าฮ่า! มันน่าเบื่อเกินไปที่จะฆ่าพวกแกด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว ก็ได้ฉันจะให้ความหวังแกแล้วฉันก็จะทำให้พวกแกสิ้นหวัง”
นาร์ซิสไม่ได้ตามพวกวาเรี้ยนไปและมองไปยังอะบิซอลไนท์ที่กำลังใกล้เข้ามา
ความหวังเดียวของแกที่จะอยู่รอดจากฉันคือการเข้าใกล้เมือง แต่การเข้าใกล้เมืองหมายความว่าอะบิซอลจะฆ่าพวกแกแทนฉัน แกจะทำอย่างไงไอ้ขยะระดับ 1 แกจะให้ฉันฆ่าหรือแกจะวิ่งเข้าไปในเมืองให้พวกนั่นฆ่า "
ไคล์หลุดจากมือของวาเรี้ยนแล้วพูดว่า "ฆ่าฉันก่อน"
เขาส่งสัญญาณด้วยมือของเขาหลังจากหลุดออกมา 'ไป!'
วาเรี้ยนรู้สึกเหมือนเตะไคล์ที่หัว แน่นอนว่าไคล์เป็นผู้ปลุกพลังอวกาศ ระดับ 1 และเขามีข้อได้เปรียบตามธรรมชาติในการหลบเลี่ยงการเคลื่อนย้ายที่ต่ำ
แต่… มอร์เฟอร์ระดับ 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างนาร์ซิสมีประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลม แม้ว่าไคล์จะสามารถเคลื่อนย้ายและหลบการโจมตีครั้งแรกได้ เนื่องจากความเร็วในการตอบสนองที่ต่ำของเขา เขาจึงโจมตีนาร์ซิสก่อนที่เขาจะสามารถเคลื่อนย้ายได้อีกครั้ง
แม้ว่าเขาจะหลบได้ แต่ในที่สุดเขาก็หมดแรง ออร่าของระดับ 1 นั้นเทียบไม่ได้กับระดับ 3
"ฉันยอมถูกอะบิซอลฆ่ายังจะดีซะกว่าถูกไอ้เด็กเวรนี่ฆ่า" วาเรี้ยนกลับมาแบกไคล์อีกครั้งและไม่ยอมให้เขาดิ้นหลุดไปได้ในครั้งนี้
"ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันจะทำให้ความปรารถนาของแกเป็นจริง จงรู้สึกเป็นเกียรติซะ" นาร์ซิสหัวเราะออกมาดัง ๆ และกวัดแกว่งดาบของเขา
แสงสว่างวาบวาบและรัศมีอันแหลมคมตัดผ่านอากาศ ตัดอะบิซอลไนท์ขาดเป็น 2 ท่อน
อะบิซอลไนท์ที่เหลือก็เกร็งตัวและรวมกลุ่มเพื่อจัดการกับนาร์ซิส
วาเรี้ยนวิ่งไปที่ประตูเมืองและสมองของเขาพยายามคิดหาทางแก้ไข
เขารู้ว่านาร์ซิสจะไม่ถูกพวกอะบิซอลไนท์หยุดไว้ได้ โอกาสเดียวที่จะหยุดเขาด้วยอะบิซอลไนท์คือการลากมาอย่างน้อย 50 ตัวใกล้ประตูเมืองและปล่อยให้พวกมันโจมตีนาร์ซิสต่อให้เป็นระดับ 3 ก็ต้องลำบากแน่
แต่… นั่นคงเป็นเพียงจินตนาการนาร์ซิสเป็นคนหยิ่งแต่ไม่ใช่คนโง่
ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาจะฆ่าวาเรี้ยนและไคล์และหลบหนีโดยไม่ต้องต่อสู้
"ฉับ"
"ฉับ"
"ฉับ"
เสียงหั่นเนื้อด้วยดาบดังมาจากด้านหลัง
“ไม่มีทาง…” วาเรี้ยน อยู่หน้ากำแพงเมืองแล้ว เขาอยู่ที่ปลายถนน
อะบิซอลไนท์สามสิบตัวพุ่งเข้ามาหาเขา
"ฉับ"
นาร์ซิสสังหารอะบิซอลไนท์ตัวสุดท้ายและพุ่งเข้าใส่พวกเขา
วาเรี้ยนมองไปที่ไคล์และพูดว่า "มีทางเดียวเท่านั้น..."
ไคล์แข็งทื่อ "มันจะนำเราไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่าเสมอ"
"ฮ่าฮ่า ไอ้ขยะ ฉันจะมอบความตายให้พวกแก"
“มนุษย์ข้าจะผ่าพวกแกออกเป็น 2 ท่อน!”
เสียงของนาร์ซิสและอะบิซอลไนท์ทำให้กระดูกสันหลังของไคล์สั่นกลัว เขาเข้าใจสถานการณ์ที่พวกเขาอยู่
"ไม่เป็นอะไร" เขาพยักหน้าและจับไหล่ของวาเรี้ยน
ในเวลาเดียวกัน ดาบของนาร์ซิสและหอกจากอะบิซอลไนท์ก็เข้ามาหาพวกเขาในชั่วพริบตา
“บูม!”
พื้นดินถูกแยกออกจากกันเป็นเวลา 5 เมตร และหอกก็แทงทะลุพื้นและตกลงไปลึก ฝุ่นเต็มอากาศบดบังการมองเห็น
“ฮึ่ม!” นาร์ซิสเหวี่ยงดาบของเขาสองครั้งและลมมหึมาก็พัดฝุ่นออกไป
เขาอยากจะหัวเราะเยาะซากศพของพวกขยะ แต่ครู่ต่อมา ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง
ไม่มีร่องรอยของ ไคล์ และ วาเรี้ยน!