57 - เขาสามารถกลับบ้านได้เลยหรือเปล่า
57 - เขาสามารถกลับบ้านได้เลยหรือเปล่า
หลังจากที่หัวหน้าแผนกพิเศษออกไปหลี่ไหลฟู่ผู้ซึ่งอยู่ในความกดดันตลอดเวลาในที่สุดก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
จู่ๆ มังกรตาเดียวที่ปะปนกับคนป่วยทางจิตกลับกลายเป็นผู้นำแผนกพิเศษ นี่มันเรื่องบ้าอะไร?
"เป็นผู้นำซะเปล่า ชาดีๆแบบนี้ก็ไม่รู้จักดื่มให้หมด"
หลี่ไหลฟู่หยิบถ้วยชาของชายตาเดียวขึ้นมาก่อนจะดื่มคำเดียวจนหมด
ใบชาพวกนี้มีราคาแพงมากไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้มันเสียทิ้งอย่างเปล่าประโยชน์
จากนั้นเขาก็ไตร่ตรองด้วยความระมัดระวัง
มีเหตุขนอะไรที่ผู้นำแผนกพิเศษให้ความสนใจต่อผู้ป่วยจิตเวชคนนึง
หรือมันมีเรื่องราวที่ซับซ้อนจริงๆ?
ภายในวอร์ด.
หลินฟ่านมองลงไปที่ผ้าพันแผลที่พันรอบตัวเขา เขารู้สึกอึดอัดมาก เขาต้องการฉีกผ้าพันแผลออก แต่ทันทีที่พยาบาลเดินเข้ามาเธอก็รีบกรีดร้องด้วยความตกใจ
“ไม่ คุณทำอย่างนั้นไม่ได้ ร่างกายของคนได้รับบาดเจ็บอย่างหนักถ้าคุณเปิดผ้าพันแผลมันจะทำให้แผลของคนอักเสบอีกครั้ง...”
"อะไร!"
พยาบาลจ้องเขม็งด้วยความไม่เชื่อ เธอเห็นว่าไม่มีรอยไหม้ที่ใต้ผ้าพันแผล ร่างกายของหลินฟ่านเรียบลื่นราวกับเด็กทารก
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
"อะไร!"
“หมอคะ รีบมาดูนี่เร็ว!”
พยาบาลตะโกนออกมาจากหอผู้ป่วย
หลินฟ่านและผู้เฒ่าจางมองไปที่พยาบาลที่วิ่งออกไปด้วยความสงสัย
“เราต้องระวัง เธออาจจะสติไม่ดี”
"ใช่ผมรู้"
อย่างรวดเร็ว.
หมอและพยาบาลกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา
พยาบาลที่มีสมองไม่ดีชี้ไปที่หลินฟ่านและพูดว่า
“หมอ ดูสิผิวหนังของเขาหายเป็นปกติแล้ว!”
หมอขมวดคิ้ว เขารู้สึกสงสัยในคำพูดของพยาบาล คุณก็เป็นพยาบาลมาหลายปีแล้วยังจะพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้อีก?
หลินฟ่านนอนเงียบๆบนเตียงในโรงพยาบาลและจ้องมองที่เพดานอย่างว่างเปล่า เขาคุ้นเคยกับฉากของกลุ่มคนที่อยู่รอบตัวเขามานานแล้วและรู้ว่าต้องทำอย่างไร
อย่าขยับหรือส่งเสียง
ให้พวกเขาคุยกันไปซักพักก็พอ
หลังจากนั้นก็มีเสียงอุทานด้วยความตกใจ
“ปาฏิหาริย์ นี่คือปาฏิหาริย์” หมอคนนั้นหน้าแดงก่ำ
เขาถอดผ้าพันแผลออกจากร่างของหลินฟ่านและไม่พบรอยแผลสักนิดเดียว มันทำให้เขาเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก
ในประวัติศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ เรื่องเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
"คุณทำได้อย่างไร?" หมอถาม
หลินฟ่านกระพริบตาและพูดเบาๆว่า
"มันคือวิธีการฝังเข็มอันยอดเยี่ยมของเหล่าจาง"
แพทย์มองไปที่ผู้เฒ่าจางที่เงยหน้าขึ้นอย่างมีชัย
"ใช่ มันเป็นฝีมือของผมเอง ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือผมสามารถช่วยคุณได้ แต่ก่อนอื่นเข็มที่คุณเอาไปจากผมเอามาคืนด้วย"
ผู้เฒ่าจางมองดูหมออย่างเศร้าใจ
เขาไม่ต้องการอะไรนอกจากเข็มพวกนั้น
พยาบาลกระซิบข้างหูหมอ: "หมอ อย่าลืมว่าพวกเขาป่วยทางจิต คุณไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่พวกเขาพูดได้"
“ใช่ เมื่อกี้นี้ผมลืมไปจริงๆ” หมอรู้สึกว่าเขาโง่มากที่เชื่อคำพูดของผู้ป่วยทางจิต
ณ ขณะนี้.
หัวหน้าแพทย์ที่ช่วยเหลือหลินฟ่านก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นสถานการณ์ยุ่งเหยิงเขาก็ขมวดคิ้วแล้วถามว่า
“พวกคุณมารวมตัวกันที่นี่เพื่ออะไร”
“หัวหน้าครับรีบมาดูนี่เร็ว มันเป็นปาฏิหารทางการแพทย์” พยาบาลชายอีกคนพูดอย่างตื่นเต้น
หัวหน้าแพทย์ได้ยินแบบนั้นยิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีก เขาจึงทำการตรวจร่างกายของหลินฟ่านด้วยตัวเอง
“เป็นยังไงบ้างครับหัวหน้า” หมอคนก่อนหน้านี้กล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น
หัวหน้าแพทย์ยังคงตกตะลึงไม่หาย สภาพร่างกายของหลินฟ่านมันน่าเหลือเชื่อมากเกินไป มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
แม้แต่หลินฟ่านก็ไม่รู้
หัวหน้าแพทย์ต้องการบอกว่านี่อาจเป็นปาฏิหาริย์ แต่เมื่อเขาเห็นร่างของรองผอ.หลี่ ท่าทางของเขาก็จริงจังขึ้น
หลี่ไหลฟู่เดินเข้ามาอย่างเงียบๆเขาต้องการฟังว่าคนพวกนี้จะพูดถึงเขาว่าอย่างไรจึงไม่ได้เปิดเผยตัวออกมา
หัวหน้าแพทย์กล่าวว่า “รองผอ. เป็นผู้ทำการผ่าตัดเมื่อวานนี้ คุณอาจไม่ทราบว่ารองผอ.หลี่มีตำแหน่งเป็นมือศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งในโรงพยาบาลของเรา นี่ไม่ใช่ปาฏิหาริย์ทางการแพทย์แต่เป็นฝีมือการรักษาของรองผอ.หลี่”
“ไม่คิดว่าทักษะทางการแพทย์ของรองผอ. จะดีถึงขนาดนี้” พยาบาลและหมอทุกคนก็ไหลไปตามน้ำ
“รองผอ.ยอดเยี่ยมจริงๆ ถ้าผมมีความสามารถสักครึ่งหนึ่งของเขาคงกลายเป็นหมอที่เก่งที่สุดในโลกไปแล้ว”
หลี่ไหลฟู่ยืนอยู่ที่ประตูด้วยความสุข แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็รักคำพูดเหล่านี้
หลี่ไหลฟู่ยืนอยู่ที่ประตูและไอสองสามครั้งเพื่อส่งสัญญาณว่าอย่ายกยอแบบนี้ ฉันได้ยินหมดแล้ว แม้ว่าฉันจะมีความสามารถ แต่ฉันก็ไม่ชอบให้ใครมายกยอ
เสียงไอของเขาดึงดูดความสนใจของทุกคน
หัวหน้าแพทย์มองไปที่รองผอ.หลี่ด้วยความประหลาดใจ และรีบวิ่งไปทำความเคารพก่อนคนอื่น
"รองผอ. คุณอยู่ที่นี่"
"ใช่." หลี่ไหลฟู่พยักหน้าและเดินมือไขว้หลังเข้ามาในห้อง
“ผมเพิ่งมาถึงไม่รู้ว่าพวกคุณคุยอะไรกัน”
แพทย์และพยาบาลรอบๆตระหนักได้ทันที
ที่แท้หัวหน้าแพทย์มองเห็นรองผอ.ยืนอยู่ที่ประตูเขาจึงไม่ลังเลที่จะกล่าวคำพูดประจบสอพลออย่างไร้ยางอาย
ในขณะเดียวกันก็มีคนมากมายที่รู้สึกเสียใจเพราะพวกเขาไม่มีโอกาสได้พูดอะไรเลยเมื่อสักครู่นี้
“รองผอ. รีบมาดูนี่ครับ คนไข้ที่คุณรักษาด้วยตัวเองฟื้นตัวแล้ว ร่างกายของเขาไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย”
หัวหน้าแพทย์ก็อยู่ในกลุ่มเพื่อนของรองผอ.หลี่ เขารู้อยู่แล้วว่ารองผอ.หลี่กำลังจะเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนใหม่ ถ้าเขาเกาะแข้งเกาะขารองผอ.หลี่ให้ดี เขาอาจจะกลายเป็นรองผอ.คนใหม่ก็ได้
เมื่อแพทย์ที่อยู่รายรอบได้ยินสิ่งที่หัวหน้าแพทย์พูด ทุกคนต่างก็ยกย่องอยู่ในใจ บางทีนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งสามารถเป็นหัวหน้าแพทย์ได้ในขณะที่พวกเขาเป็นเพียงหมอตัวเล็กๆ
"ตกลง?"
หลี่ไหลฟู่รู้สึกประหลาดใจและก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบ เมื่อเขาเห็นร่างของหลินฟ่านเขาประหลาดใจและยินดี
“ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของเขา เขาสามารถออกจากโรงพยาบาลได้หรือไม่?”
เงียบ!
บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงผายลม(คำพูดไร้สาระ)เงียบสนิททันที!
รองผอ.หลี่สงบนิ่ง เขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นในเรื่องนี้เท่าไหร่
หากว่าหลินฟ่านสามารถกลับบ้านได้ในวันนี้เลยจะเป็นเรื่องที่ดีมากแค่ไหน
เขากำลังคิดว่าจะตามหานักข่าว 2-3 คนเพื่อให้เขียนข่าวยกยอเขาสักหน่อย บางทีตำแหน่งผู้อำนวยการอาจมาถึงเขาเร็วกว่าที่คิด
“รองผอ. เรายังไม่ได้ตรวจร่างกายให้เขาเลย สิ่งที่เห็นอาจจะเป็นเพียงลักษณะที่ปรากฏทางภายนอกเท่านั้น” หัวหน้าแพทย์เตือนแล้วพูดว่า
"แม้ว่าเขาจะเป็นปกติแล้ว แต่หากเราปล่อยให้ผู้ป่วยที่เคยบาดเจ็บขนาดนั้นกลับบ้านภายในวันเดียว เรื่องนี้คงไม่เป็นผลดีกับพวกเราสักเท่าไหร่"
หลี่ไหลฟู่ไม่ได้หมายความอย่างอื่น
สิ่งที่เขากลัวที่สุดตอนนี้คือหลินฟ่าน
เขาหวังจริงๆว่าจะส่งผู้ป่วยทั้งสองคนกลับไปที่โรงพยาบาลจิตเวชชิงซานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้