56 - หลี่ไหลฟู่ผู้ลื่นไหล
56 - หลี่ไหลฟู่ผู้ลื่นไหล
7 มีนาคม!
แดดจัด.
ลมแรง อากาศดี เหมาะกับการเดินทาง
ณ หอผู้ป่วย รพ.กลาง
หลินฟ่านตื่นขึ้นมาและเห็นใครบางคนที่กำลังเฝ้ามองเขาอยู่ตลอดเวลา
เขาจำได้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใครและเขาต้องการยิ้มทักทาย แต่ชายตาเดียวดูเหมือนไม่อยากจะผูกมิตรกับเขา
ถูกต้อง.
ชายตาเดียวมาโรงพยาบาลอีกครั้ง แม้เขาจะสาบานไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ป่วยทางจิตทั้งสอง แต่เขาครุ่นคิดทั้งคืนรวมทั้งสูบบุหรี่หมดไปสามซอง
สุดท้ายเขาไม่สามารถอดกลั้นได้เขาจึงมาที่โรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการของหลินฟ่าน
"สวัสดี เจอกันอีกแล้วนะ"
หลินฟ่านนั่งตัวตรง เหยียดมือออก และผ้าพันแผลที่พันรอบตัวเขาก็แตกกระจาย
ชายตาเดียวขมวดคิ้ว เขาถูกไฟฟ้าดูดทำไมยังขยับตัวได้?
เขาไม่เจ็บแผลเหรอ?
ชายตาเดียวไม่สนใจหลินฟ่าน มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีมิตรภาพกับผู้ป่วยจิตเวช เขามาที่นี่เพราะสนใจร่างกายที่แปลกประหลาดของหลินฟ่านเท่านั้น
หลินฟ่านชอบการจ้องมองของอีกฝ่าย มีเพียงเพื่อนเท่านั้นที่จะมองหน้ากันเป็นเวลานาน
เขามองชายตาเดียวด้วยรอยยิ้ม
ผู้เฒ่าจางตื่นขึ้นและร้องเรียกให้ดื่มสไปรท์ แต่เมื่อเห็นชายตาเดียวปรากฏตัวในโรงพยาบาลเขาก็ยิ้มอย่างมีความสุข จากนั้นเขาก็หันไปมองหลินฟ่าน ทั้งสองคนหัวเราะออกมาเบาๆ
อีกด้านหนึ่งจางหงหมินกำลังป้อนอาหารเช้าให้กับลูกสาว เมื่อเห็นสถานการณ์ข้างๆ มันทำให้มือของเขาสั่นเล็กน้อย
เขากลัว
ชายตาเดียวนั้นผิดปกติอย่างแน่นอน หากเป็นคนปกติ ไม่มีทางที่เขาจะจ้องมองหลินฟ่านที่เป็นผู้ป่วยทางจิตได้นานถึงขนาดนี้
อย่างช้าๆ ในที่สุดท้ายตาเดียวก็ไม่สามารถทนสายตาของพวกหลินฟ่านได้
“คุณมาที่นี่เพื่อให้โอกาสผมอีกครั้งเหรอ? ไม่ต้องกังวลคราวนี้มันจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน”
ผู้เฒ่าจางต้องการช่วยคนดีคนนี้จริงๆ แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ใช่เพื่อนกัน แต่เขารู้ดีว่าชายตรงหน้าเขาเป็นคนดี ตราบใดที่เป็นคนดีเขาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเสมอ
ชายตาเดียวเหลือบมองผู้เฒ่าจาง ความหมายชัดเจนมาก
ถ้ากล้า ก็ลุกขึ้นมา...
“ผมรู้ว่าคุณยังไม่เชื่อผม แต่สาเหตุของความล้มเหลวครั้งก่อนคือดวงตาอีกข้างของคุณยังไม่บอด ถ้าคุณทำให้ตาบอดทั้งสองข้างแล้วรักษาด้วยวิธีการของผม ดวงตาของคุณจะงอกขึ้นมาใหม่แน่นอน”
ผู้เฒ่าจางพูดอย่างจริงจัง มันไม่เหมือนเรื่องตลกเลยสักนิด
เมื่อผู้ป่วยทางจิตพูดอย่างจริงจังเช่นนี้ แสดงว่าเขาหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ
ชายตาเดียวสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับความโกรธ
เขาโกรธมาก
แม้แต่ผู้ป่วยทางจิตยังคิดว่าเขาเป็นคนป่วย?
“ผมว่าคุณควรจะเชื่อเขาอีกสักครั้ง เขาน่าทึ่งจริงๆ” หลินฟ่านช่วยผู้เฒ่าจางพูดสิ่งดีๆ และเขาหวังว่าเพื่อนของเขาจะช่วยชายตาเดียวให้หายเป็นปกติได้
ชายตาเดียวไม่อยากพูดอะไรอีก
ราคาของการเชื่อในครั้งนี้คือการทำให้ตาดีที่เหลือเพียงข้างเดียวของเขาบอด ถ้าเขาเชื่อแสดงว่าสมองของเขาอาจจะป่วยจริงๆ
ใช่ ฉันไม่ควรอยู่ที่นี่
คนพวกนี้บ้าเกินไป มันไม่สามารถสื่อสารกับพวกเขาได้อีกแล้ว
เขาลุกขึ้นและจากไปทันที
ผู้เฒ่าจางก้มศีรษะด้วยความหงุดหงิด "ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เชื่อผม"
หลินฟ่านปลอบโยน "นั่นคือการสูญเสียของเขา"
"ใช่." ผู้เฒ่าจางพยักหน้า "ตอนนี้ผมกระหายน้ำ"
"ผมก็เหมือนกัน"
“อ๊ะ! กล่องเข็มของผมหายไป คนเลวพวกนั้นขโมยไปอีกแล้ว”
หลินฟ่านหยิบโค้กและสไปรท์ออกจากตู้ มันเป็นโค้กและสไปรท์จริงๆซึ่งเป็นรสชาติที่ไม่ถูกปากของพวกเขา
"ดื่มอะไรหน่อยเถอะ"
"ตกลง."
…………….
สำนักงานรองผู้อำนวยการ
หลี่ไหลฟู่นอนบนเก้าอี้อย่างสบายๆและดื่มชา ในตอนนี้เขาเป็นถึงรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล มันทำให้เขาไม่มีโอกาสได้ลงมือบ่อยสักเท่าไหร่
แต่การช่วยเหลือหลินฟ่านให้กลับมาจากความตายนั้นทำให้เขาภูมิใจตัวเองเป็นอย่างมาก
ฉันชื่อหลี่ไหลฟู่ ดาบอันล้ำค่าที่ถูกซ่อนอยู่ในฝัก
หากถูกชักออกมาไม่มีอะไรที่ฉันตัดไม่ขาด
ก๊อกๆๆ
"เข้ามา"
หลี่ไหลฟู่เห็นชายตาเดียวเดินเข้ามา เขาดูคุ้นเคยเล็กน้อย
เอ๊ะ! นี่ไม่ใช่คนที่เข้ารับการรักษาพร้อมกับผู้ป่วยจิตเวชทั้งสองเมื่อไม่กี่วันก่อนหรือ?
เขารีบตื่นตัวขึ้นมาทันทีและกล่าวว่า
“ใช่ คุณเอง คุณหนีไปโดยไม่ได้จ่ายเงิน ตอนนี้คุณยังกล้ามาที่นี่อีก”
ชายตาเดียวเหลือบมองหลี่ไหลฟู่ ก่อนจะโยนเอกสารกองใหญ่ลงบนโต๊ะทำงาน จากนั้นเขาก็เดินไปชงกาแฟให้กับตัวเองก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตรงข้ามหลี่ไหลฟู่
หลี่ไหลฟู่คิดว่าอีกฝ่ายกำลังจะหยิบปืนขึ้นมา แต่สุดท้ายเขาก็รู้ตัวว่าตัวเองคิดมากเกินไป เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก
หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกโกรธ ชายตาเดียวคนนี้ไร้มารยาทเกินไป!
นี่คือสำนักงานของรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลาง อย่างน้อยก็ควรให้เกียรติกันหน่อย การกระทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?
ชายตาเดียวยกขาขึ้นมาวางพาดบนโต๊ะด้วยท่าทางเรียบเฉย ซึ่งมันทำให้หลี่ไหลฟู่โกรธมากขึ้นไปอีก เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปหาชายตาเดียวเพื่อเอาเรื่อง
ป๊อก!
บัตรประจำตัวของชายตาเดียวถูกโยนลงบนโต๊ะ
หลี่ไหลฟู่ก้มหยิบบัตรใบนั้นขึ้นมาดูและใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่คิดว่าท่านผู้นำจะมาที่โรงพยาบาลของผมได้ ท่านผู้นำชอบดื่มชาหรือไม่ ใบชาที่ผมสะสมไว้คือของที่ดีที่สุด”
เขาไม่รอความยินยอมจากชายตาเดียว เขารีบเดินไปชงชาเองโดยวางถ้วยน้ำชาร้อนบนโต๊ะกาแฟต่อหน้าชายตาเดียวแล้วยืนนิ่งเหมือนพลทหารที่รอนายพลออกคำสั่ง
ชายตาเดียวหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบและพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“อืม ชาดีจริงๆ”
หลี่ไหลฟู่รู้สึกปลื้มปิติและสูดลมหายใจอย่างหอมกรุ่น
“ดีใจที่ท่านผู้นำชอบ ท่านผู้นำทำงานเพื่อพวกเราชาวเอี๋ยนไห่มาหลายปี ตราบใดที่ผมพอจะช่วยเหลืออะไรได้ผมก็ยินดีช่วยเสมอ”
ถ้าฮ่าวเหรินเห็นท่าทีของหลี่ไหลฟู่ตอนนี้ เขาจะต้องเยาะเย้ยว่าหลี่ไหลฟูเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์อย่างแน่นอน
“ผมต้องการทราบข้อมูลร่างกายของหลินฟ่านทุกด้าน ในการผ่าตัดนี้คุณเป็นคนลงมือเองไม่ใช่เหรอ” ชายตาเดียวถามอย่างตรงไปตรงมา
หลี่ไหลฟู่กล่าวอย่างนอบน้อมว่า "โปรดวางใจ ผมจะให้คนของผมนำเอกสารขึ้นมาทันที"
หลังจากนั้นไม่นาน
หลี่ไหลฟู่ก็วางไฟล์ข้อมูลลงบนโต๊ะและกลับไปยืนที่เดิมอย่างนอบน้อม
ชายตาเดียวรู้สึกพอใจรองผู้อำนวยการคนนี้มาก
เขาหยิบแฟ้มขึ้นมาแล้วตบไหล่หลี่ไหลฟู่เบาๆ
"คุณเป็นคนดีจริงๆ"
หลี่ไหลฟู่รู้สึกปลื้มปิติและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง: “เป็นเกียรติที่หลี่ไหลฟู่ได้มีโอกาสรับใช้ท่านผู้นำ”
ชายตาเดียวจากไปพร้อมกับแฟ้มนั้น และเมื่อเขาเดินไปที่ประตู เขาหันศีรษะแล้วถามว่า
“ผมยังไม่ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลเลย เท่าไหร่?”
หลี่ไหลฟู่พูดด้วยสีหน้าตะลึงงัน “ค่ารักษาพยาบาลอะไร ค่ารักษาพยาบาลที่ไหน? การที่พวกเรามีโอกาสได้รักษาท่านผู้นำถือเป็นเกียรติของพวกเราแล้ว”