55 - ราชาปีศาจคิงคองผมเขียว
55 - ราชาปีศาจคิงคองผมเขียว
ชายตาเดียวกระแทกโทรศัพท์ด้วยความโกรธ เขาได้รับข่าวจากโรงพยาบาลจิตเวชชิงซานแล้ว
เขาไม่อยากเจอผู้ป่วยจิตเวชทั้งสอง แต่มีคนให้ความสนใจกับสถานการณ์ที่นั่น
เมื่อปีนขึ้นไปบนกล่องไฟแรงสูง ร่างกายทั้งหมดถูกไฟฟ้าดูดจนร่างกายไหม้เกือบทั้งหมด สำหรับคนทั่วไปพวกเขาคงต้องตายอย่างแน่นอน แต่หลินฟ่านนอนอยู่ในโรงพยาบาลเท่านั้น
เขายังคงมีชีวิตอยู่ เขาดื่มได้ กินได้ และยังขับถ่ายเหมือนคนทั่วไป
ชายตาเดียวตกใจมาก สถานการณ์ของฝ่ายตรงข้ามคืออะไร? ทำไมถึงมีความสามารถเช่นนี้? แอนติบอดีของร่างกายแข็งแรงมากหรือไม่?
กระแสไฟฟ้าของกล่องไฟฟ้าแรงสูงไม่มีใครทนได้ต่อให้เป็นสัตว์ประหลาดระดับ 6 ก็ตาม ไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดาเลย
แต่ที่น่ากลัวที่สุดก็คือเขาไม่เพียงแต่รอดชีวิตเท่านั้น บาดแผลที่เกิดจากไฟไหม้ยังหายอย่างรวดเร็วอีกด้วย
“ฉันควรไปโรงพยาบาลจิตเวชไหม”
เขาครุ่นคิดอยู่ลึกๆ และจู่ๆก็สะดุ้งกับความคิดนี้ เขามีความคิดแบบนี้ได้ยังไง?
ช่างเป็นความคิดที่ไร้สาระจริงๆ
เขาจะไม่ไปหาผู้ป่วยทางจิตทั้งสองไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม
……………
กลางคืน!
ในเวลา 21:00 น
ตัวเมืองเอี๋ยนไห่ยังคงคึกคักและมีร้านค้าบนถนนสกปรกที่มีไฟเปิดอยู่ เจ้าของร้านยืนอยู่หน้าประตู มองไปสุดถนนทั้งสองข้างที่ไม่มีลูกค้าเดินผ่านแม้แต่คนเดียว
เขาคิดว่าเขาควรปิดร้านได้แล้ว
เนื่องจากข่าวทีวีออกอากาศว่าสิ่งชั่วร้ายซ่อนอยู่ในเมืองเอี๋ยนไห่ ถนนที่มืดมิดบางแห่งจึงไม่มีแขกผ่านไปมาในตอนกลางคืน
จ้าวจินหลงยืนอยู่ที่ประตูร้าน มองไปที่ประตูด้วยความเศร้าเล็กน้อย
ร้านตัดผมอินเทรนด์!
วันนี้ธุรกิจไม่ค่อยดีเขาหาเงินได้ไม่กี่หยวนเท่านั้น
เขาเรียนการตัดผมมาตั้งแต่อายุ 13 และมีความชำนาญในด้านนี้ตอนอายุ 18 ปีด้วยเงินที่เขาสะสมมาหลายปีจึงเปิดร้านตัดผมตามความฝันได้
แต่สุดท้ายความฝันและความจริงก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
จ้าวจินหลงปิดไฟในบ้าน ยืนอยู่ที่ประตู ดึงประตูม้วนลงเพื่อที่จะกลับบ้านไปดื่มเบียร์สัก 2 กระป๋อง
แม้ว่าวันดังกล่าวจะไร้ความหมาย แต่เขาก็รู้สึกพอใจกับชีวิตแบบนี้
ว้าว!
จ้าวจินหลงดึงประตูม้วนลงมา แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเย็นวาบจากข้างหลัง และเงาสีดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่ประตูม้วน
มือของเขาที่ถือกุญแจกำลังสั่น เมื่อนึกถึงข่าวที่ออกอากาศทางทีวี เขาก็รู้สึกว่าตัวเองโชคร้ายจริงๆ
เขาต้องการที่จะมองย้อนกลับไป
แต่เขาไม่สามารถรวบรวมความกล้าได้
เขากลัวว่าเมื่อหันกลับไปเขาจะถูกปีศาจกลืนกินในคำเดียว
จ้าวจินหลงยืนอยู่จุดนั้น ขาของเขาสั่น เหงื่อหยดจากหน้าผากของเขา เขามองไปด้านข้างและเห็นมือที่มีขนยาวใหญ่จับประตูของเขาอย่างรุนแรง
พละกำลังนี้ไม่ใช่ของคนอย่างแน่นอน
น้ำตาแห่งความหวาดกลัวของเขาเริ่มไหลลงมาแล้ว และเขาอ้อนวอนว่า
“พี่ครับ ผมไม่อร่อย และผมน่าสงสารมาก ได้โปรดอย่าทำกับผมแบบนี้เลย ผมทำงานหนักทุกวัน ผมตื่นนอนตอนหกโมง เช้า ทำงาน กลางคืนเข้านอนได้ ถึงจะเป็นอย่างนั้นรายได้ก็แทบจะไม่พอเลี้ยงชีพตัวเองด้วยซ้ำ ให้โอกาสผมเถอะ”
ปัง!
มือใหญ่ยกประตูม้วนขึ้น
จ้าวจินหลงไม่กล้าหันศีรษะ หลังของเขาเย็นชา เขาอยากจะมองย้อนกลับไปหลายครั้ง แต่เขาไม่กล้าที่จะทำแบบนั้น
และ…
เขาถูกผลักเข้าไปในร้านด้วยกำลังมหาศาล
จ้าวจินหลง เอียงศีรษะและเห็นในกระจกว่าสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่คืออะไร มันเป็นกอลิล่าที่แข็งแรง
อะไร! ฉันเป็นลม
เขาล้มลงกับพื้นและสิ้นสติไปโดยสิ้นเชิง
"ฮะ..."
กอริลลาชั่วร้ายมองไปที่มนุษย์ซึ่งนอนอยู่บนพื้นด้วยความขบขันโดยไม่ได้ทำอะไร
กอลิล่าชั่วร้ายมาที่เมืองเอี๋ยนไห่เพื่อหลบซ่อนตัว ก่อนหน้านี้มันอยู่ที่ทิเบตแต่กลับถูกใครบางคนจับตัวมาเป็นสัตว์เลี้ยงในสวนสัตว์ซึ่งทำให้มันโกรธมาก
มันเป็นถึงคิงคองผู้ยิ่งใหญ่จะถูกจับตัวไปเป็นสัตว์เลี้ยงได้อย่างไร
แม้ว่ามันจะเต็มไปด้วยความโกรธ แต่มันก็ไม่ได้ทำอะไรมนุษย์พวกนั้น มันเพียงแค่ย่องออกมาและซ่อนตัวอยู่ในเมืองท่ามกลางผู้คนมากมาย
เนื่องจากร่างกายมีความคล้ายคลึงกับมนุษย์และช่วงเวลาออกหาอาหารของมันมักจะเป็นเวลากลางคืนจึงไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น
มันแตกต่างจากสิ่งชั่วร้ายอื่น มันไม่ชอบทำร้ายคน มันไม่กินคน มันชอบทำให้ตัวเองสวยงาม
แต่สิ่งเดี๋ยวที่มันไม่พอใจคือมันเป็นลิงหัวล้าน ซึ่งมันรู้สึกเจ็บปวดใจเสมอเมื่อมองเห็นตัวเองในกระจก
ในวันนี้มันเพียงผ่านมาเท่านั้น แต่แล้วสายตาของมันก็เหลือบไปเห็นวิกสีเขียวที่อยู่ในร้าน มันรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และมันก็รีบวิ่งเข้ามาที่นี่ทันที
กอลิล่าชั่วร้ายหยิบวิกสีเขียวมาใส่หัวพร้อมกับเบ่งกล้ามที่หน้ากระจกด้วยความสุข
"ฮะ!"
กอริลลาคิงคองมีความสุขมาก หลังจากนั้นมันก็หยิบเอากุญแจรถสกู๊ตเตอร์ของจ้าวจินหลงออกไปด้วย
ก่อนที่มันจะเดินขึ้นรถมันเกาตูดอยู่ 2-3 ครั้งพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะขบขัน
ในตอนนี้จ้าวจินหลงแสร้งทำเป็นสลบไป
เขารู้สึกโชคดีที่กอริลลาไม่ได้สังเกตเขาเลย ดูเหมือนลิงหัวล้านตัวนี้จะสนใจเพียงแค่วิกผมสีเขียวของเขาเท่านั้น
โชคดีจริงๆ
ต่อมาเมื่อเขาเห็นลิงกอริลลาขี่รถสกู๊ตเตอร์ของเขาออกไปในสภาพที่ยางหลังแบนสนิท เขาก็ลืมการเสแสร้งและกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
"อ๊ะ! ไม่ รถของฉัน"
จ้าวจินหลงเหยียดมือออกอย่างสิ้นหวังราวกับกำลังพูดว่า เสี่ยวเม่ย... อย่าทิ้งฉันไป
เขาหยิบมือถือออกมาแล้วโทรแจ้งตำรวจโดยตรง
"เฮ้! คุณตำรวจครับ กอริลลาเพิ่งหยิบเอาวิกผมสีเขียวและขโมยรถมอเตอร์ไซค์ของผมไป ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมพูดจริงๆ"
จ้าวจินหลงรู้สึกอึดอัดมาก
“คุณเสพยาหรือเปล่า?”
“ผมไม่ได้เสพยา ผมเปิดร้านตัดผม พวกคุณรีบมาช่วยผมเร็ว มันกำลังขี่รถผมไปแล้ว”
………
ในถนนที่มืดมิด
กอลิล่าที่มีวิกผมสีเขียวกำลังขี่รถไฟฟ้าอยู่บนถนน ไม่ทราบว่ามันมีทักษะการขับรถมาจากไหนแต่เห็นได้ชัดว่ามันมีความชำนาญไม่น้อย
ผมสีเขียวน้องมันปลิวไปตามสายลมทำให้มันส่งเสียงหัวเราะไม่หยุด
โลกมนุษย์นั้นดีจริง
มันชอบชีวิตแบบนี้มาก
แต่มันก็รู้ว่ามนุษย์กำลังออกไล่ล่ามัน มันจึงทำได้เพียงออกมาใช้ชีวิตยามค่ำคืนเท่านั้น
แต่แล้วที่ด้านหน้าถนนอันมืดมิด มีตั๊กแตนตำข้าวชั่วร้ายปรากฏตัวขึ้น ร่างของมันสูงกว่าหนึ่งเมตร และขาหน้าคู่นั้นของมันน่ากลัวเหมือนเคียวยมทูต
ตั๊กแตนตำข้าวสร้างเสียงที่มีลักษณะคล้ายการเสียดสีของโลหะ นี่ไม่ใช่เสียงที่มนุษย์จะได้ยิน แต่เป็นเสียงการสื่อสารที่มีลักษณะเฉพาะสำหรับสิ่งชั่วร้าย
"เจ้าเป็นสิ่งชั่วร้ายแต่เจ้าพยายามจะใช้ชีวิตในโลกมนุษย์ เจ้าไม่ใช่พวกเรา จงตายซะ!"
ตั๊กแตนตำข้าวชั่วร้ายโจมตีกอริลลาคิงคองอย่างรวดเร็ว ความเร็วนั้นเร็วมาก และเคียวคมก็ต้องการผ่ากอริลลาคิงคองออกเป็นสองส่วน
บูม!
เสียงระเบิดดังกึกก้องและไฟท้ายของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็หายไปในความมืดอย่างไร้ร่องรอย
ตั๊กแตนตำข้าวนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น แม้กระทั่งตอนที่มันกำลังจะตาย มันก็ไม่เข้าใจว่าชีวิตของมันจบลงแบบนี้ได้อย่างไร