เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 29 : เพียงแรกลืมตา เนตรสวรรค์ก็ปรากฏขึ้น!
ตอนที่ 29 : เพียงแรกลืมตา เนตรสวรรค์ก็ปรากฏขึ้น!
“อย่าได้คิดเหยียบผู้อื่นยามเขาล้มลง!”
เมื่อคนตระกูลเซียวได้ยินเช่นนี้ ร่างกายของพวกเขาก็สั่นสะท้าน รู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจพร้อมแรงโกรธที่ปะทุขึ้น!
คำพูดของเด็กหนุ่มคนนี้คล้ายกับค้อนด้ามใหญ่ที่ทุบลงไปในจิตใจของพวกเขา ทำให้ชีพจรเต้นแรงด้วยความบ้าคลั่ง!
“ฮ่าๆ...”
“ฮ่าๆๆๆ!”
“กล่าวได้ดี!”
“สมที่เป็นบุตรชายของข้า!!”
ทันใดนั้นเซียวจ้านก็หัวเราะขึ้นมาอย่างไม่หวั่นเกรงสิ่งใด
คนแซ่เซียวทั้งหลายบัดนี้มองไปยังนายน้อยของพวกเขาที่เคยดูเหมือนคนไร้ค่ามานานกว่าสามปี บัดนี้พวกเขามองเห็นประกายคมกล้าบางอย่างในตาของเซียวซุ่ย และรู้สึกราวกับว่าในที่สุดอัจฉริยะของตระกูลเซียวก็ได้กลับมาผงาดอีกครั้ง!
แต่กลับกันนั้น ซวนหยานหรานยังคงนิ่งเฉย และกล่าวอย่างเย็นชาออกมา
“แล้วอย่างไร? ข้าจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันนั้นก็แล้วกัน”
“ไม่จำเป็นต้องให้เจ้ารอคอย!” เซียวซุ่ยเงยหน้าขึ้น ดวงตามีแววโทสะอยู่ในนั้น
“ซวนหยานหราน เจ้าจงจดจำไว้!”
“วันนี้ มิใช่เจ้าที่เดินทางมายังตระกูลเซียวเพื่อยกเลิกการหมั้นหมาย!”
“แต่เป็นตระกูลเซียวของข้าที่ไม่ต้องการเจ้า ซวนหยานหราน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวซุ่ย เด็กสาวก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
นางเพียงคิดว่านางได้อธิบายทุกอย่างตามความจริงไปจนหมดสิ้นแล้ว ไม่คิดว่าเซียวซุ่ยนอกจากจะเข้าใจเจตนาของนางผิด เขายังตั้งตัวเป็นศัตรูกันถึงเพียงนี้
หากให้กล่าวตามตรง ซวนหยานหรานไม่คาดคิดเสียด้วยซ้ำว่าเซียวซุ่ยจะทำตัวอหังการได้ถึงเพียงนี้ในสถานการณ์นี้
แน่นอนว่านางมิได้โกรธเคืองอันใด มีแค่ความตกใจอยู่บ้างเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อจะมิให้ตนเองต้องอับอายต่อหน้าคนทั้งตระกูล เขากล้าถึงขนาดจะกล่าวคำพูดผายลมออกมาเยอะแยะถึงเพียงนี้...
เด็กสาวหรี่ตาลง หากเซียวซุ่ยโตขึ้น เขาอาจจะกลายเป็นยอดอัจฉริยะผู้หนึ่งในรุ่นเดียวกัน แต่แล้วอย่างไร?
นางเพียงกอดหลินซวนแน่น และในแววตามีแค่รูปลักษณ์ของชายหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่ท่ามกลางดวงดารามากมายสลักลึกกลางใจเท่านั้น เทียบกันแล้ว ลูกเต่าแซ่เซียวผู้นี้จะนับเป็นตัวอันใดได้?
“อยากให้ข้าช่วยเขียนสัญญายืนยันหรือไม่?” ซวนหยานหรานกล่าวถามขึ้นด้วยเสียงยานคาง
“มิจำเป็น!” เด็กหนุ่มแซ่เซียวกล่าวตอบ เขาเพียงบิดข้อมือและล้วงเอาพู่กันกับกระดาษออกมาจากในแขนเสื้อเพื่อเขียนหนังสือยกเลิกการหมั้นหมายเท่านั้น
อันที่จริงแล้ว เซียวซุ่ยเตรียมตัวเพื่อวันนี้มาอย่างยาวนาน! ก่อนซวนหยานหรานจะเดินทางมาที่นี่ เขาก็ได้ตระเตรียมหนังสือยกเลิกสัญญาเอาไว้ก่อนแล้ว!
เห็นเหตุการณ์เป็นเยี่ยงนี้ สกุลเซียวทำได้เพียงมองหน้ากันไปมา ดวงตาลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ ในที่สุดอัจฉริยะของพวกเขาก็ได้กลับมาแล้ว!
“เซียวซุ่ยแห่งสกุลเซียว และซวนหยานหรานแห่งสกุลซวน ก่อนหน้านี้ต่างมีสัญญาหมั้นหมายต่อกัน หากแต่เพราะความมิซื่อตรงของซวนหยานหราน บัดนี้พวกเขาทั้งคู่จึงยกเลิกสัญญาหมั้นนี้ลงเสีย!”
“หลังจากนี้ เจ้าสามารถจะแต่งให้แก่ใครก็ได้ตามปรารถนา และพวกเรามิเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป!”
“มิต้องกลัว ข้าจะมอบหนังสือยกเลิกสัญญาฉบับนี้ไว้เป็นหลักฐานยืนยัน!”
เซียวซุ่ยยิ้มอย่างใจเย็นและยกพู่กันขึ้นตวัด
เพียงมีหนังสือยกเลิกสัญญานี้และข่าวลือที่แพร่ออกไป สกุลเซียวของเขาย่อมหลุดพ้นจากการนินทาได้อย่างสง่างาม มิต้องเสียชื่อเสียงจากการ “ยินยอมต่อผู้มีอำนาจมากกว่า” และ “เป็นตระกูลไร้ประโยชน์”!
แต่ในขณะเดียวกัน ชื่อเสียงของตระกูลซวนและซวนหยานหรานย่อมต้องพังยับเยิน! ผู้คนกว่าครึ่งของอาณาจักรแห่งนี้ย่อมต้องประณามสกุลซวนจนมิเหลือชิ้นดี พวกแซ่ซวนจะต้องกลายเป็นศัตรูของคนมากมาย!
แม้จะยิ้มแย้มอยู่ภายนอก แต่อันที่จริงแล้วเซียวซุ่ยกำลังกดเก็บความโกรธไว้อยู่ภายในใจ!
‘สกุลเซียวของข้าใช่พวกเจ้าจะมาบีบเล่นได้ตามใจหรือ!’
เมื่อเห็นเนื้อความในหนังสือยกเลิกสัญญาที่เซียวซุ่ยเขียนขึ้นมา ซวนชูกลับใบหน้ามืดครึ้ม แม้จะอยากฉีกเจ้าสวะน้อยนี้ให้เป็นเศษซากมากเพียงใด นางก็ทำได้เพียงหยุดตัวเองเอาไว้แล้วสงบใจลงเท่านั้น
ในอีกด้านหนึ่ง สีหน้าของซวนหยานหรานยังคงไม่ทุกข์ร้อนใดๆ แม้นางจะโมโหไม่น้อยเพราะเซียวซุ่ย แต่ก็มิได้มีความคิดจะหยุดเขาไม่ให้เขียนหนังสือยกเลิกที่น่าอับอายนั่น
สมาชิกตระกูลเซียวทั้งหลายมองฉากละครตรงหน้าด้วยรอยยิ้มสาแก่ใจยิ่ง และนั่งคอยให้เซียวซุ่ยเขียนหนังสือสัญญาอย่างใจเย็น แต่แล้ว เด็กหนุ่มแซ่เซียวกลับนิ่งค้างอยู่ในท่ายกพู่กันขึ้นราวกับจะเขียนบางอย่างอยู่เป็นเวลานาน
ไม่เพียงเท่านั้น บัดนี้สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด ราวกับใบหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อครู่เป็นเพียงภาพฝัน
กลิ่นอายทรงพลังรอบตัวเขาสลายหายไปโดยสิ้นเชิง ร่างกายสั่นสะท้านราวกับใบไม้ต้องลม เกิดอันใดขึ้น? ใยเขาจึงไม่เขียนหนังสือสัญญานั้นต่อ??
กลางห้องโถงของตระกูลเซียว ผู้คนมากมายล้วนเต็มไปด้วยความสับสนกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
มีเพียงไม่คนเดียวเท่านั้นที่ดูราวกันไม่ได้รับผลกระทบใดๆ หลินซวนยังคงนอนนิ่งอยู่ในห่อผ้าของตนคล้ายกำลังหลับฝันดี
ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็สั่นน้อยๆ ก่อนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ! นัยน์ตาใสกระจ่างคู่หนึ่งปรากฏขึ้นภายใต้การสังเกตของเซียวซุ่ย!
เพียงสบตากับทารกน้อย เซียวซุ่ยราวกับถูกพาไปยังยุคบรรพกาลและได้เห็นต้นกำเนิดของสวรรพสิ่ง!
ทุกสิ่งล้วนพร่าเลือน ขณะเดียวกัน เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในความคิดของหลินซวน
[ภารกิจสำเร็จ:การลืมตาครั้งแรก!]
[ตำนานเล่าว่ามีเทพบรรพกาลผู้หนึ่งนามว่าเจี่ยน กำเนิดมาพร้อมเนตรสวรรค์ หยินหยางแตกออกเป็นสอง และแยกจากกัน!]
[ในช่วงปฐมกาล ดวงตาเพียงหนึ่ง แต่ม่านตาแบ่งออกเป็นสอง ตาคู่นี้จะทำให้เจ้าของได้มองเห็นหนทางสู่การเป็นผู้ไร้เทียมทาน เช่นนี้แล้วยังต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใดอีก?]
[ติ๊ง! ได้รับทักษะ : เนตรสวรรค์]
[ติ๊ง! ได้รับทักษะ : นัยน์ตาหยินหยาง]
หลินซวนที่มิได้สนใจเหตุการณ์ภายนอกแต่อย่างใด เมื่อเขาสามารถลืมขึ้นมาได้ครั้งแรก ระดับการบ่มเพาะของเขาก็เพิ่มขึ้น!
ทำงานหนักย่อมได้รับผลตอบแทน!
ในที่สุด หลังจากพยายามดูดซับปราณม่วงรอบดวงตาอยู่นาน เขาก็สามารถจะเปิดเปลือกตาได้เสียที!
ในที่สุด เขาก้จะสามารถมองโลกใบนี้ด้วยตาของตัวเองจริงๆได้เสียที!