เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 28 : เจ้ามันไม่คู่ควร!!
ตอนที่ 28 : เจ้ามันไม่คู่ควร!!
เพียงจบประโยคนี้เท่านั้น ไม่เพียงแต่ซวนหยานหรานหรือซวนชูเท่านั้น แม้กระทั่งตาแก่หลินเปาเองก็ใบหน้ามืดครึ้มทันที!
“ไอ้หนู หัดใช้สมองเจ้าคิดก่อนจะพ่นสิ่งไร้สาระออกมา!” หลินเปาเอ่ยขึ้นและมอองไปยังเซียวซุ่ย
จิตสังหารบางเบาปรากฏขึ้นในแววตาเขา รัศมีข่มขู่ล้อมรอบกายของเซียวซุ่ยทันที!
แต่อย่างไรก็ตาม ตรงข้ามกันตาแก่หลิน เซียวซุ่ยไม่เพียงไม่พูดสิ่งใด เขายังกล้าพอจะยืนอยู่เบื้องหน้าผู้อาวุโสเช่นหินเปาอย่างไม่เกรงกลัวใดๆอีกด้วย ดวงตามีเพียงประกายเย็นชาและสงบนิ่ง!
“เจ้าหนูนี่....” หลินเปาหรี่ตาลงและรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
สีหน้าเด็กหนุ่มไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ทั้งที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับจิตสังหารของหลินเปา จากนั้นจึงสูดลมเข้าปอดแล้วหันกลับไปถามซวนหยานหรานด้วยเสียงต่ำลึก
“ซวนหยานหราน เจ้ามาที่นี่เพื่อจะยกเลิกสัญญาหมั้นหมายจริงใช่หรือไม่? เจ้ามิรู้หรือว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นหากเจ้าทำเช่นนั้น?”
“อันที่จริงแล้ว ไม่ว่าสิ่งจะเกิดกับข้า เซียวซุ่ยผู้นี้ ข้าก็ยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อันใด แต่สกุลเซียวของข้าย่อมมิสามารถให้เจ้ามารังแกได้!!”
ซวนหยานหรานขยับตัวเล็กน้อย ในแววตามีความเย็นชาแฝงอยู่อย่างบางเบา
“ผู้อื่นจะเยาะเย้ยเจ้า? หากสกุลเซียวแข็งแกร่งมากพอยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง แล้วใยพวกเจ้าจึงพยายามยื้อสัญญาหมั้นหมายไว้สุดแรงเกิดเช่นนี้? ท้ายที่สุดแล้ว พวกเจ้าก็เพียงแค่ต้องการอาศัยร่มเงาคิดเอาเพียงผลประโยชน์จากตระกูลซวนเท่านั้น!”
ข้ารู้ดี ในฐานะอัจฉริยะแห่งตระกูลซวนแล้ว เจ้าจะทนหมั้นกับชายที่มีแต่ข่าวลือว่าตกต่ำและยอมแพ้ต่อการบ่มเพาะไปแล้วได้เยี่ยงไรกัน? เส้นทางของเราแยกจากกันมาเนิ่นนานแล้ว และพวกเราไม่มีทางจะลงเอยกันได้” เซียวซุ่ยกล่าวอย่างเฉยชา
เพียงได้ยินประโยคของเด็กหนุ่ม ทุกคนที่อยู่ในห้องก็นิ่งค้างไป เจ้าหนุ่มผู้นี้....
“ซุ่ยเอ๋อร์....เจ้า” เมื่อได้ยินคำพูดของบุตรชาย เซียวจ้านก็ได้เพียงเจ็บปวดในหัวใจ แม้อยากจะเอ่ยบางออย่าง แต่ก็ถูกบุตรชายขัดเสียก่อน
เซียวซุ่ยเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆ ในตาเปล่งประกายบางอย่างออกมา
“ถึงแม้ข้าและเจ้าจะเห็นตรงกัน แต่ใช่ว่าผู้อื่นจะเห็นเช่นเดียวกับเรา”
“ในสายตาของผู้อื่น เจ้ามาที่นี่เพื่อถอนหมั้นในวันนี้นับว่าเป็นการเยาะเย้ยสกุลเซียว”
“การกระทำของเจ้าในวันนี้จะทำให้ชื่อเสียงของสกุลข้าตกต่ำลงถึงที่สุด”
มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าตระกูลเซียวย่อมไม่ต้องการให้เกิดการถอนหมั้นขึ้น เพราะพวกเขาต้องการจะใช้ประโยชน์จากการได้เป็นพันธมิตรกับสกุลซวน
ซวนหยานหรานเพียงส่ายหน้าและเอ่ยออกมา “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้ามิได้ต้องการถอนหมั้นเพราะเจ้ากำลังกลายเป็นคนไร้ค่า หากอยู่ภายใต้สถานการณ์ปกติแล้วล่ะก็ ต่อให้เจ้าจะกลายเป็นคนธรรมดา ไม่หลงเหลือลมปราณใดๆ ข้าก็หาได้สนใจไม่ ข้า ซวนหยานหราน มิใช่คนที่จะเหยียดหยามผู้อื่นแค่เพราะเขาไม่สามารถบ่มเพาะปราณได้”
“ความจริงแล้ว เหตุผลที่ข้าต้องการจะถอนหมั้นนั้น....”
ใบหน้าของเด็กสาวสงบนิ่ง เมื่อต้องตอบคำถามนี้ นางมิได้เอ่ยออกมาในทันทีทันใด กลับกัน นางเพียงลงสายตาลงมามองทารกน้อยในอ้อมกอด น้ำเสียงอ่อนโยนกล่าวออกมา
“เจ้าสงสัยใช่หรือไม่ว่าทารกน้อยคนนี้เป็นบุตรข้าหรือเปล่า?”
“เขาเป็นบุตรของผู้นำตระกูลหลินแห่งเมืองต้าหยาน หลินเฮ่า และคนจากตระกูลซวน ซวนยู่”
ก่อนหยุดไปชั่วครู่ นางก็เงยหน้าขึ้นแล้วพูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
“และเขาก็เป็นคนที่ข้ารัก...”
“ข้าต้องการยกเลิกสัญญาหมั้นมิใช่เพราะต้องการดูถูกเจ้า เซียวซุ่ย แต่เพราะข้ามีคนในใจแล้ว ข้าต้องการเพียงได้สนับสนุนเขา และไม่อยากถูกผูกมัดด้วยสัญญาใดๆอัน ข้ามิอยากจะต้องพลาดโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับเขา!”
“ผายลม!”
เมื่อเซียวซุ่ยได้ยินซวนหยานหรานกล่าวดังนั้น เขาถึงกับพูดไม่ออก มีเพียงคนแก่แซ่เซียวผู้หนึ่งลุกขึ้นและถลึงตาใส่เด็กสาว
“เจ้าทารกนี่ยังเล็กถึงเพียงนี้ คงเพิ่งเกิดได้ไม่กี่วันเสียด้วยซ้ำไป! มันจะไปทำสิ่งใดได้ เจ้าถึงกล้าบอกว่าหลงรักมัน ผายลมแล้ว!”
ไม่ใช่แค่ตาแก่คนเมื่อครู่เท่านั้น แต่สมาชิกตระกูลเซียวที่เหลือก็เต็มไปด้วยโทสะเมื่อได้ยินคำกล่าวของเด็กหญิงแซ่ซวนผู้นี้
ต่อให้นางต้องการจะถอนหมั้นหรือยกเลิกสัญญาใดก็ตาม ก็สมควรที่จะหาข้ออ้างอื่นที่สมเหตุสมผลกว่านี้!
หลงรักทารก? นี่มันเรื่องล้อเล่นอันใดกัน? ช่างเป็นข้ออ้างที่ดูถูกสกุลเซียวเป็นอย่างยิ่ง! คนแซ่เซียวทั้งหมดกำลังกรุ่นโกรธจนแทบกระอักเลือด!
จริงอยู่ที่พวกเขาอยากจะยืมมือสกุลซวนเพื่อสร้างฐานอำนาจให้ตระกูลตัวเองเลยมิต้องการจะยกเลิกสัญญาหมั้นหมาย
เพื่อมิให้สัญญาถูกยกเลิก พวกเขาถึงขั้นแอบลอบปล่อยข่าวลือออกไปเสียด้วยซ้ำ แต่ถึงกระนั้น ครานี้ตระกูลซวนก็หยามหน้าพวกเขามากเกินไป!
แต่ระหว่างที่คนแซ่เซียวทั้งหลายกำลังเป็นฟืนเป็นไฟ แม้กระทั่งเซียวจ้านที่สุภาพมาจลอกยังกำหมัดแน่น แต่แล้วเซียวซุ่ยกลับก้าวออกมา
สีหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง ราวกับทุกสิ่งเป็นเพียงสายลมพัดผ่าน
ย่อมแน่นอนว่าเขามิได้เชื่อถือในคำพูดของซวนหยานหรานเลยแม้แต่น้อย และยังแอบคิดด้วยว่าอันที่จริงแล้วเด็กสาวผู้นี้กำลังดูถูกเขาอยู่ แต่การกล่าวออกมาว่าตกหลุมรักทารกผู้หนึ่ง? นี่นับเป็นเรื่องโง่งมอันใดกัน?
“ซวนหยานหราน เจ้าต้องการจะถอดหมั้นภายในวันนี้ใช่หรือไม่?”
เด็กหญิงพยักหน้า “ในเมื่อข้ามีคนในใจแล้ว และไม่ต้องการจะถูกผูกมัดด้วยสัญญาแต่งงานนี้อีก สกุลซวนจะชดใช้ให้ตระกูลเซียวของเจ้าด้วยเหมืองหินวิญญาณระดับสูงสองแห่ง”
เมื่อได้ยินดังนั้น เด็กหนุ่มแซ่เซียวเพียงยิ้มออกมาก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย
“เหมืองสองแห่ง? ซวนหยานหราน เจ้าคิดจริงหรือว่าสกุลเซียวของข้ายากจนถึงขั้นต้องรีบงับเอาเศษเนื้อที่เจ้าโยนมาให้?”
“สัญญาปากเปล่านี้มิได้มีลายลักษณ์อักษรแต่แรก ข้า เซียวซุ่ย ก็มิได้ต้องการมันเช่นกัน!”
ได้ยินคำพูดของบุตรชาย เซียวจ้านที่นั่งอยู่ก็รีบลุกขึ้นมาอย่างลุกลี้ลุกลน
“ไม่ ซุ่ยเอ๋อร์! สัญญาหมั้นหมายนี้มิอาจยกเลิกได้! ไม่เช่นนั้นแล้วร่างกายของเจ้า....”
“ท่านพ่อ!” เซียวซุ่ยหันมากล่าวกับบิดาเสียงหนักแน่น เขามองไปยังพ่อของตนที่กำลังเต็มไปด้วยความกังวล
“ข้าสามารถแก้ปัญหาของตัวเองได้ ท่านมิต้องเป็นกังวล”
“ยิ่งกว่านั้น การจะหวังพึ่งผู้อื่นเพื่อเติบโตย่อมไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง!”
“แม้ตอนนี้ข้าจะเป็นตัวไร้ค่า แต่แม่นางซวนผู้นี้ก็มิได้คู่ควรกับข้าเช่นกัน!”
“อย่างไรก็ตาม ในเมื่อพวกเจ้ามาที่นี่เพื่อถอนหมั้นในวันนี้ ข้า เซียวซุ่ย ก็มีบางอย่างที่อยากกล่าวกับตระกลซวนเช่นกัน!”
เด็กหนุ่มผู้นั้นค่อยๆหันมามองไปยังซวนหยานหรานและซวนชู ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“การเปลี่ยนแปลงย่อมต้องเกิดขึ้นเสมอ เมื่อกงล้อแห่งชะตากรรมหมุนวนไปข้างหน้า จงอย่าได้คิดจะเหยียบย่ำผู้อื่นตอนที่เขาล้มลง!”