ตอนที่แล้วระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 9 อะบิซอล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 11 ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย

ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 10 สู้กับอะบิซอล


'ระดับ 0? จริงจังปะเนี้ย?' วาเรี้ยนคิดขณะวิ่ง พวกเขาอยู่ไกลจากทางออกและมันจะเป็นเรื่องยากที่จะออกไป

“ฉัน-ฉันบอกคุณแล้วว่าเราเข้าไปลึกเกินไป” ไคล์หอบหายใจและวิ่งไปข้างเขา ถ้าเทียบกันแล้วมายาเหนื่อยหน่อยกว่าเพราะรองเท้าสมบัติดวงดาวของเธอ

"อะบิซอล.." มายาถึงกับสะอื้นไห้

วาเรี้ยนเหลือบมองไปข้างหลังและเห็นทีมของอาเธอร์กำลังต่อสู้กับพวกอะบิซอลทำให้ไม่มีอะบิซอลตัวไหนตามพวกเรามาได้ แต่วาเรี้ยนรู้สึกไม่สบายใจ

'ฉันหวังว่าเราจะสามารถไปถึงทางออกก่อนที่จะมีอะไรจะเกิดขึ้น' เขาสูดลมหายใจและเห็นว่าไคล์กำลังจะพูดเรื่องบางอย่างอีกครั้ง

“ไคล์หุบปากแล้ววิ่ง!” วาเรี้ยนเร่งฝีเท้าเพื่อจะทำให้ความไม่สบายใจหายไปเมื่อออกไป

พวกเขาทิ้งระยะห่างออกมาจากทีมของอาเธอร์จนตอนนี้แทบจะมองไม่เห็นทีมของอาร์เธอร์แล้ว

มายาและไคล์หยุดวิ่งสักพักเพื่อที่จะหายใจเพราะพวกเขาสองคนวิ่งต่อไม่ไหวแล้ว วาเรี้ยนจึงต้องหยุดตาม

“ทำไมต้องอะบิซอลด้วย” มายาร้องลั่น

“ถะ-ถ้ามีตวนึงหลุดมาละ” ไคล์พึมพำ

“พวกเขาจะไม่เป็นไรใช่ไหม?” เธอมองกลับไปทางทิศที่วิ่งมา

“ช่วยไม่ได้แล้วมันไม่ปลอดภัย แค่วิ่งต่อไปจนกว่าจะถึงทางออก”วาเรี้ยนดุและกำลังจะวิ่งต่อ

“นายว่าพวกมันจะตามเรามาไม่ได้ใช่ไหม” ไคล์จับหน้าอกของเขาและหายใจเข้าสั้น ๆ

"ด้านหลัง!" วาเรี้ยนตะโกนใส่ไคล์

'บูม!'

ไคล์เทเลพอร์ตในนาทีสุดท้าย มายาตกใจกลัวเมื่อเห็นอะบิซอลโผล่ออกมา

อย่างไรก็ตามวาเรี้ยนสังเกตเห็นอะบิซอล

ลักษณะทางกายภาพที่เหมือนมนุษย์มันเป็นเพศชาย

มันอยู่ในชุดต่อสู้สีแดงเลือดหมูและแขนซ้ายของมันมีเลือดไหลออกมาเต็มไปหมด ที่สำคัญที่สุดมันมีรอยสักอันเดียวที่คางหมายความว่ามันเป็น –อะบิซอลระดับ 1

'มันมาจากกลุ่มใหม่' ไคล์พูด

“เราไม่สามารถเอาชนะมันได้ถ้าเราสู้เราจะถูกฆ่า” วาเรี้ยนกัดฟันและทุบถุงมือของเขา

เขาไม่ได้คาดหวังว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ การต่อสู้กับอะบิซอลนั้นแตกต่างจากการต่อสู้กับศัตรูตัวอื่นๆ

แม้ว่าอะบิซอลจะมีแค่แขนเดียวและบาดเจ็บอยู่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกเราได้เปรียบ

เราต้องฆ่ามันให้เร็วที่สุดไม่งั้นพวกเราอาจจะต้องเจอกับพวกอะบิซอลตัวอื่นอีก

“พวกเจ้าจะตายกันหมด”อะบิซอลพูดด้วยภาษามนุษย์และเพิ่มความหวาดระแวงของทั้งสามคน

อะบิซอลไม่ใช่สัตว์เวทมนตร์ พวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่เทียบเท่ามนุษย์ในด้านสติปัญญาและแข็งแกร่งกว่าผู้ถูกปลุกพลัง

พวกเขาปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้และเริ่มโจมตีมนุษย์ในปี 400 และเกือบจะเอาชนะมนุษย์ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะหินเวทมนตร์พังและเจตจำนงของสวรรค์ มนุษยชาติคงจะต้องพินาศ

อะบิซอลเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อมวลมนุษยชาติ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคืออะบิซอลทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ล้วนเป็นนักรบ

"ปล่อยให้ฉันจัดการเอง" มายาคลิกที่แหวนอวกาศของเธอ และต่อมาปืนสีส้มก็ปรากฎขึ้นในมือของเธอและยิงไปที่อะบิซอล

ลูกไฟถูกยิงที่อะบิซอลซึ่งมันหลบได้อย่างง่ายดาย

ปืนเป็นอาวุธล้ำค่าที่มีพลังเต็มรูปแบบของสัตว์เวทมนตร์อัคคีระดับ 1 อย่างไรก็ตาม มายาเองก็ไม่สามารถใช้มันได้อย่างชำนาญเพราะขาดประสบการณ์

“ฮ่าฮ่า น่าสมเพศ” อะบิซอลหัวเราะและต่อมาวาเรี้ยนก็พยายามจะหาช่องว่างเตะไปที่มัน ซึ่งมันหลบได้และจะโต้กลับทันที

วาเรี้ยนกลิ้งไปบนพื้นหลังจากพลาดการเตะและหลบการเตะโต้กลับของมันได้

'บูม!'

ดินสีแดงระเบิดขึ้นไปในอากาศจากแรงเตะ

"ตาย!"ไคล์รีบวิ่งไปข้างหลังอะบิซอลและพยายามแทงดาบน้ำแข็งของเขาเข้าไปด้านหลังของอะบิซอล

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ดาบจะแทงลงไปลึกอะบิซอลต่อยไคล์แต่ไคล์สามารถหลบได้โดยการเทเลพอร์ตอีกครั้ง อย่างไรก็ตามน้ำแข็งได้แช่แข็งตัวอะบิซอลไปชั่วขณะหนึ่ง

'อุ๊ย!' ลูกไฟของมายาเกือบจะโดนอะบิซอลที่ใบหน้าก่อนที่มันหันหลังของมันมารับลูกไฟแทน

ลูกไฟชนไหล่ของมันและชุดของอะบิซอลถูกไฟไหม้ ไฟแผดเผาผิวสีเทาของมัน และมันตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด

“ไอ้หนูโสโครกนี่” เขาดึงดาบน้ำแข็งออกมาและพยายามเหวี่ยงมันใส่มายา

มันไม่ได้ผลสมบัติค่าสถานะต้องผูกมัดกับบุคคลที่ใช้มันเท่านั้น สำหรับคนอื่น มันเป็นแค่ดาบธรรมดา

"ข้อผิดพลาดของพวกไม่มีประสบการณ์" วาเรี้ยนปรากฏตัวด้านหลังของอะบิซอลและคราวนี้เตะไปเจ้าโลกของอะบิซอลได้สำเร็จ

“ฮึก..” อะบิซอลทรุดตัวลง และวาเรี้ยนก็ใช้ความคมของดาบของไคล์ฟันหัวของอบิสซอล

“เราโชคดีที่มันได้รับบาดเจ็บอยู่” วาเรี้ยนถอนหายใจอย่างโล่งอกและมองดูเพื่อนๆ ของเขามายาไม่เป็นไรเพราะเธอต่อสู้ระยะไกลแต่ไคล์อยู่ที่ไหน ไคล์?

"ฉันอยู่นี่!"

วาเรี้ยนหันกลับมาและเห็นไคล์เทเลพอร์ตเข้าไปในโพรงกระต่ายปีศาจ

"ดึงฉันออกไปที"วาเรี้ยนและมายารีบวิ่งไปหาเขาและดึงเขาออกมา

“ฉันจะไม่แปลกใจเลยถ้านายจะทำให้ตัวเองถูกฆ่าโดยการเทเลพอร์ตได้” วาเรี้ยนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและยื่นดาบให้

“ทะทะ-ทำไมฉันทำเหมือนคนอื่นไม่ได้” ไคล์ถอนหายใจและหยิบดาบ มันฉายแสงเป็นสีน้ำเงินเมื่อเจ้าของของมันเป็นคนถือ

ไม่ว่าทุกคนจะชอบหรือไม่ก็ตาม สหภาพแรงงานได้บังคับให้ทำการผูกมัดสมบัติ เนื่องจากพวกเขาผูกขาดสมบัติดวงดาว พวกเขาจึงกำหนดเงื่อนไขแบบนี้

นี่หมายความว่าบุคคลอื่นไม่สามารถยืมสมบัติและไม่สามารถขโมยได้เว้นแต่เจ้าของดั้งเดิมจะเสียชีวิตหรือเลิกผูกมัด

คำพูดของพวกเขาคือ "ก้าวไปสู่สังคมที่ไม่มีการโจรกรรมและเคารพในทรัพย์สินส่วนบุคคล เราจะลบแรงจูงใจในการขโมย"

สหภาพแรงงานถือว่าทำสำเร็จ พวกเขาหยุดการโจรกรรมทั้งหมด แต่ยังมีการฆาตกรรมอยู่ ถึงอย่างนั้นก็เถอะความจริงที่ว่าการฆาตกรรมเพิ่มขึ้น 50% ทันทีนั้นสหภาพก็เถียงไม่ออก ขอบคุณสหภาพแรงงาน

“ไปเถอะ อะบิซอลตัวนี้มันมาจากกลุ่มใหม่ มันไม่ใช่ตัวสุดท้ายแน่” วาเรี้ยนกระตุ้นพวกเขาและทุกคนก็เร่งฝีเท้าและวิ่งไปที่ทางออก

ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างจากทางออกเพียงไม่กี่กิโลเมตร อันที่จริงเราสามารถออกจากดันเจี้ยนได้เมื่อคุณไปถึงสุดขอบของดันเจี้ยน

“ฉันจะขอโทษพวกนายทีหลัง จากเราออกไปได้แล้วแต่ตอนนี้เดินหน้าต่อไป” วาเรี้ยนเร่งเร้าและเร่งฝีเท้า

เขาโทษตัวเองที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยง

มายาอยู่ข้างหลังเขา และไคล์วิ่งตามพวกเขาไปด้วยความยากลำบาก

พวกเขาไม่ได้โทษวาเรี้ยนแต่พวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถหยุดให้วาเรี้ยนเลิกการตำหนิตัวเองได้

“มนุษย์!” เสียงแหบๆพูดออกมา แต่วาเรี้ยนก็ไม่มองย้อนกลับไปเพราะตอนนี้เขาสนใจแค่ต้องออกไปให้ได้เท่านั้น

"เกือบถึงแล้ว"วาเรี้ยนเริ่มสามารถมองเห็นสุดขอบของดันเจี้ยนได้ ดูคร่าวๆแล้วคงต้องวิ่งอีกสัก 10 นาที ถึงจะออกไปได้

ระบบนิเวศทั้งหมดสิ้นสุดลงที่สุดขอบดันเจี้ยนและมีกำแพงสีขาวทำหน้าที่เป็นม่านขนาดยักษ์ปกคลุมดันเจี้ยน

เมื่อสัมผัสสิ่งกับหมอกนั้นเราจะสามารถออกไปได้ อะบิซอลจะไม่ตามมาแต่ถึงมันตามมา

ยามที่เฝ้าหน้าประตูก็จะจัดการมัน พวกเขายังต้องออกไปขอกำลังเสริมเพื่อช่วยอาเธอร์ด้วย

วาเรี้ยนรู้สึกถึงลมกระโชกแรงและมองไปข้างหลัง วาเรี้ยนตกใจมากเมื่อเห็นอะบิซอลไล่ตามพวกเขามาเร็วกว่าที่คิด

พวกเขาไม่สามารถไปถึงทางออกได้ทันเวลาแน่นอนและจะต้องต่อสู้ แต่อะบิซอลตัวนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บเหมือนครั้งก่อน

ไคล์และมายาเป็นนักสู้มือสมัครเล่นแถมวาเรี้ยนพลังก็ยังไม่ตื่น ไม่มีทางที่พวกเขาจะเอาชนะมันได้

'มีเพียงสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำได้' วาเรี้ยนหยุดและกำลังจะตะโกนแต่ไคล์ก็ชิงตะโกนออกมาก่อน

"พวกนายไปซะ!" ไคล์หยุดวิ่งแล้วหันหลังให้กับพวกเขา “เรียกกำลังเสริมมา ฉันทนได้สักสองสามนาที”

วาเรี้ยนเห็นว่ามือของ ไคล์ยังคงสั่นด้วยความกลัว แต่เขาก็ไม่ขยับเขยื้อนและตะโกนว่า “ไปเดี๋ยวนี้!”

ไคล์เป็นเด็กฝึกหัดอวกาศระดับ 1 ในขณะที่มายาเป็นผู้ปลุกพลังจิตระดับ 1 ถ้าดูจากทุกคนที่อยู่ที่นี่ เขามีโอกาสรอดมากที่สุด

แต่กว่ากำลังเสริมจะมา โอกาสที่เขาจะรอดนั้นคงจะน้อยนิดจนแทบจะไม่มี แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเพราะเขาคิดว่านี้คือสิ่งที่เขาควรทำ

'ไม่เป็นไรเจอกันครั้งหน้าฉันจะพยายามทำตัวน่ารำคาญใส่นายน้อยลงนะ'

วาเรี้ยนรีบวิ่งไปหาไคล์และโยนเขาให้มายา

"ฉันมีโล่สมบัติและมันจะสามารถปกป้องฉันได้เป็นเวลา 10 นาที ไปกันเถอะ" เขาตะโกนขณะที่เปิดแหวนอวกาศ

โล่เล็กๆ ปรากฏขึ้นในมือของเขาและมีบาเรียล้อมรอบตัวเขา

มายากัดริมฝีปากและพยักหน้าให้เขา น้ำตาคลอเบ้า “อย่าตายนะ”

ไคล์และมายารีบวิ่งไปที่ทางออกด้วยความเร็วสูงสุด

อะบิซอลอยู่ตรงหน้าวาเรี้ยนในวินาทีถัดมา เขาเหลือบมองที่บาเรียของวาเรี้ยนและหัวเราะเบาๆ

“แกหลอกพวกเขา ฉันรู้จักผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของสหภาพแรงงาน” หลังจากพูดจบก็ต่อยใส่วาเรี้ยนทันที

บาเรียสามารถทำอะไรเพื่อหยุดหมัดได้เลย วาเรี้ยนหลบหมัดของอะบิซอลไปเรื่อยๆ และอะบิซอลก็พูดขึ้นมาว่า

บาเรียนั้นเป็นของปลอม มันทำได้แค่ฉายแสง เขาทำได้แค่หลอกเพื่อน ไม่ใช่ศัตรู ฮ่า ฮ่า

วาเรี้ยนเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่จะตัดสินชีวิตและความตายของเขา

*** *** ***

ไม่มีท่าทีว่าความช่วยเหลือจะมาเลย

ไม่มีมนุษย์คนอื่นในบริเวณใกล้เคียง ควันนั้นบ่งบอกว่าทีมของอาเธอร์ยังสู้อยู่

ทีมของอาเธอร์ก็ไม่สามารถมาช่วยพวกเขาได้เพราะฝั่งนุ้นก็แทบจะเต็มกลืนแล้วเหมือนกัน

“ไม่มีใครมาช่วยแกหรอก หัวหน้าหน่วยของเรากำลังจับหัวหน้าทีมของแกอยู่ เร็วๆนี้เราจะฆ่าพวกแกทุกคน

แกอาจเคยฆ่าฉันเพื่อนที่บาดเจ็บก่อนหน้านี้ได้ สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันว่าแกฆ่าตัวตายซะดีกว่าจะได้ไม่ต้องถูกฉันฆ่าแบบไร้ความปราณี"

อะบิซอลพูดพร้อมกับมองเข้าไปในดวงตาของวาเรี้ยน

วาเรี้ยนรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ อะบิซอลและมนุษย์ต่างก็มีความเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ไม่มีทางที่จะได้ตายอย่างสงบสุขหรอก ถ้าหากมนุษย์กับอะบิซอลสู้กันจะมีแต่การตายที่ทรมาน หรือถ้าไม่ตายก็ต้องสูญเสียอวัยวะ

วาเรี้ยนวิ่งหนีอย่างสุดแรง

“เวรเอ้ย!” อะบิซอลตามติดวาเรี้ยนทันที

ระยะทางถูกปิดในพริบตา และวาเรี้ยนกลิ้งไปทางขวาเพื่อหลบหนีจากหมัดของอะบิซอล

'บูม!'

พื้นดินแตก และวาเรี้ยนได้วิ่งไปในทิศทางตรงกันข้าม

ตอนนี้เขาเลือกไม่ได้ว่าจะไปที่ไหน เขาอ่านการโจมตีของอีกฝ่ายไม่ออก

'บูม!'

'บูม!'

'บูม!'

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด