เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 26 : เจ้าทำได้เพียงตกลงเท่านั้น แม้จะไม่ต้องการก็ตาม!
ตอนที่ 26 : เจ้าทำได้เพียงตกลงเท่านั้น แม้จะไม่ต้องการก็ตาม!
ซวนหยานหราน? เด็กน้อยคนนี้คือซวนหยานหราน? เมื่อได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของทุกคนในห้องโถงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ตระกูลเซียวและซวนมีสัญญาหมั้นหมายระหว่างกันอยู่ โดนคู่หมั้นคือเซียวซุ่ย บุตรชายของเซียวจ้าน และซวนหยานหรานจากสกุลซวนผู้นี้!
ทั้งที่พิธีแต่งงานนั้นชัดเจนว่ายังต้องรอเวลาอีกหลายปีถึงจะสามารถจัดขึ้นได้ แต่บัดนี้ ซวนหยานหรานมาปรากฏตัวที่นี่ นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน? ยิ่งกว่านั้น นางยังอุ้มทารกแรกเกิดมาอีกด้วย ใบหน้าของคนตระกูลเซียวมืดมนลงกว่าเดิม
แน่นอนว่าด้วยอายุเพียงเท่านี้ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่ทารกน้อยในห่อผ้านั้นจะเป็นบุตรของซวนหยานหราน แต่ถึงกระนั้น ทำไมนางถึงพาเด็กน้อยคนนี้มาด้วย? นี่มิใช่ว่าเป็นการแสดงออกถึงการดูถูกพวกเขาหรอกหรือ? บรรยากาศในห้องเริ่มเต็มไปด้วยความกดดัน
“โอ้ เป็นหลานหยานหรานเองอย่างนั้นหรือ? ฮ่าๆ หญิงสาวนั้นเช่นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเมื่อโตขึ้น อย่าได้โกรธเคืองท่านลุงเซียวที่สายตาฝ้าฟางผู้นี้เลย ข้ามิสามารถจดจำเจ้าได้จริงๆ” เซียวจ้านที่ตกตะลึงไปชั่วครู่ตอบซวนหยานหรานกลับไปเมื่อเขาได้สติ ทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดเมื่อครู่ให้หายไป
“อืม...อย่างที่คิดไว้ แม้จะยังเยาว์วัย แต่ความสง่างามของเจ้าก็ฉายชัดออกมา อีกทั้งระดับการบ่มเพาะยังไปถึงขั้นที่สองของดินแดนปรับปรุงปราณแล้วใช่หรือไม่? เทียบกับข้าแล้ว ช่างน่าขายหน้ายิ่งที่ใช้เวลาถึงสามสิบปีเพื่อบ่มเพาะไปให้ถึงระดับเดียวกัน!”
เซียวจ้านยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดูสุภาพนุ่มนวลไร้ความโกรธเคืองใดๆ
แต่ถึงอย่างนั้น คนแก่เช่นหลินเปากลับสัมผัสได้ถึงประกายเย็นเยียบวาบผ่านอยู่ในแววตา เซียวจ้านผู้นี้....
“ท่านลุงเซียว ท่านกล่าวล้อเล่นข้าแล้ว หยานหรานผู้นี้หรือจะทัดเทียมท่านได้?” ซวนหยานหรานเพียงยิ้มออกมาบางเบา
“เฮ้อ หลานสาวตัวน้อย เจ้ามิรู้อะไร คราที่ข้าได้ยินว่าเจ้าเลื่อนระดับสู่ดินแดนปรับปรุงปราณเมื่อหลายปีก่อน ท่านลุงผู้ย่อมต้องการไปแสดงความยินดีกับเจ้าด้วยตนเอง เพียงแต่ในตอนนั้นสกุลเซียวกำลังพบกับปัญหายุ่งยากบางประการอยู่ ต้องขอโทษเจ้าแล้ว” เซียวจ้านยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น
“ไหนเลยข้าจะกล้าพอขอให้อาวุโสเช่นท่านลำบากเดินทานมาเพื่อแสดงความยินดีกับผู้เยาว์เช่นข้าได้กันเจ้าคะ? เป็นข้าเสียอีกที่ควรจะเดินทางมาที่นี่เพื่อพบกับท่าน” หยานหรานยังคงโต้ตอบกับเซียวจ้านด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ฮ่าๆๆ ช่างสมกับเป็นอัจฉริยะแซ่ซวนยิ่ง เต็มเปี่ยมไปด้วยมารยาทที่น่าประทับใจ” เซียวจ้านหัวเราะออกมา
หากแต่มองเห็นว่าเซียวจ้านผู้นี้กำลังเป็นฝ่ายควบคุมบทสนทนา ซวนชูขมวดคิ้วเล็กน้อย และต้องการจะเอ่ยบางอย่างออกมา แต่ถูกหยุดด้วยตาแก่เปาเสียก่อน ตาเฒ่าเพียงยิ้มแล้วส่งกระแสปราณเอ่ยกับนาง
“ช้าก่อน แม่หนูน้อยของเจ้ามิได้เคี้ยวง่ายถึงเพียงนั้น”
ตามที่คาดไว้ เมื่อเซียวจ้านพูดจบ ก่อนที่เขาจะได้กล่าวสิ่งใดขึ้นมาอีก ซวนหยานหรานก็ยืนขึ้นและเอ่ยขึ้น
“ท่านลุงเซียว อันที่จริงแล้วข้ามีบางสิ่งอยากปรึกษากับท่านสักเล็กน้อย”
เพียงกล่าวจบ สมาชิกตระกูลเซียวทั้งหลายก็เริ่มส่งสัญญาณบางอย่างและหรี่ตามองนาง
พวกเขาล้วนตระหนักได้ดีถึงสถานการณ์ของตัวเองในปัจจุบันนี้ ก่อนหน้านี้ ตระกูลเซียวย่อมมีอัจฉริยะรุ่นเยาว์ เซียวซุ่ย ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถอันล้นเหลือ สามารถจะนำพาอนาคตของตระกูลให้รุ่งโรจน์และกู้คืนชื่อเสียงที่เสียไปของพวกเขาได้
แต่แล้ว สามปีก่อน จู่ๆเซียวซุ่ยกลับยอมแพ้ต่อการฝึกฝนไป ไม่เพียงไม่สามารถเลื่อนขั้นลมปราณได้เท่านั้น หากแต่ระดับการบ่มเพาะก็ถดถอยลงไปเช่นกัน บัดนี้ ระดับของเขาเหลือเพียงแค่ขั้นที่สามของแดนปรับปรุงกายเท่านั้น
ตระกูลเซียวที่ทุ่มเททุกสิ่งเท่าที่มีเพื่อจะรักษาเซียวซุ่ยก็ไร้ผล ในคราแรก เซียวจ้านคิดว่าตระกูลซวนคงไม่ยอมเสียชื่อเสียงเพื่อจะถอดหมั้นเป็นแน่ เขาอาจจะสามารถใช้สมบัติของสกุลซวนเพื่อรักษาบุตรชายของตนได้
เซียวจ้านหรี่ตาลง และยืนขึ้นเต็มความสูงของตน แต่ดูเหมือนตระกูลซวนก็มิใช่เหล่าคนโง่งม บรรยากาศในห้องโถงตอนนี้ฟุ้งกระจายได้ความอึดอัด
สายตามากมายจ้องมองมายังหยานหรานอย่างโหดเหี้ยม ความกดดันทั้งหมดตกลงบนบ่าเล็กๆของเด็กสาวตัวน้อยคนนี้
ซวนหยานหรานเพียงสูดหายใจเข้าลึกเต็มปอด มองหน้าหลินซวนในอ้อมแขน ก่อนจะลุกขึ้นยืนเช่นกัน
นางยืนขึ้นทั้งๆที่แขนยังคงกอดหลินซวนไว้อยู่ ก่อนจะโค้งตัวลงให้แก่เซียวจ้านแล้วกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกผิดอย่างเปี่ยมล้น
“ท่านลุงเซียว ข้ามาที่ตระกูลเซียวในครั้งนี้เพื่อยกเลิกสัญญาหมั้นหมาย”
“โลกหล้ากว้างใหญ่ โอกาสมากมายยังคงคอยอยู่ภายภาคหน้า ข้ามิต้องการจะผูกมัดตนเองไว้กับการแต่งงาน”
“เหล่าผู้บ่มเพาะควรได้เลือกทางเดินชีวิตด้วยตนเอง ไม่ใช่ถูกผูกมัดด้วยสัญญาแต่งงานเช่นนี้”
“ข้ามาที่นี่เพื่อขอร้องให้ท่านลุงเซียวโปรดเห็นใจ ยกเลิกการแต่งงานเสียเถิดเจ้าค่ะ”
“ข้า หยานหราน จะยอมรับผลที่ตามมาทุกอย่างเอง”
“ขอให้ผู้นำสกุลเซียวเห็นด้วยกับการตัดสินใจของข้าในครั้งนี้”
ซวนหยานหรานพยายามที่จะทำตัวสุภาพนอบน้อมและขอความเห็นใจอย่างถึงที่สุด มิได้ใช้น้ำเสียงที่ขู่เข็ญบังคับใดๆ มีเพียงการอ้อนวอนจากเด็กสาวคนหนึ่ง หวังเพียงความเมตตาจากตระกูลเซียวเท่านั้น ยิ่งกว่านั้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ตัวนางเองไม่เคยยอมรับสัญญาแต่งงานในครั้งนี้ตั้งแต่รู้ความเลยด้วยซ้ำ
....
ทางด้านตระกูลเซียวนั้น พวกเขามั่นใจในที่สุดว่าเด็กสาวคนนี้มาที่นี่เพียงเพื่อยกเลิกสัญญาหมั้นหมายเท่านั้น!
เพียงหยานหรานกล่าวจนจบ สีหน้าของสกุลเซียวทั้งหมดก็ดำคล้ำทันที
มองไปที่หยานหรานและหลินซวนในอ้อมแขน ห้องโถงแห่งนี้เต็มไปด้วยความเงียบเพียงเท่านั้น
ใบหน้าของเซียวจ้านบัดนี้ช่างน่าเกลียดยิ่ง เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่มีตาแก่แซ่เซียวบางคนยื่นจมูกเข้ามาในบทสนทนานี้
“สัญญาหมั้นหมายนี่ได้ตกลงกับมาเนิ่นนานแล้ว อาศัยสิ่งใดเจ้าจึงคิดว่าจะสามารถยกเลิกมันได้ดังใจหวัง?”
“มิรู้หรือว่าการยกเลิกสัญญานี้จะส่งผลเยี่ยงไรกับตระกูลซวน? เพื่อจะรักษาสัญญาให้คงอยู่ หลายปีมานี้สกุลเซียวเราได้ช่วยเหลือคนแซ่ซวนไปมากมายเพียงใด? คิดว่าจะมาก็มา จะไปก็ไป เห็นพวกเราตระกูลเซียวเป็นตัวตลกหรือ?”
ใบหน้าของซวนหยานหรานบิดเบี้ยวเช่นกัน จริงอยู่ที่นางมีความผิดจากความต้องการที่จะยกเลิกสัญญาหมั้นหมายนี้ แต่ถึงกระนั้น สัญญานี้ก็เป็นเพียงสัญญาด้วยวาจาเท่านั้น ไม่ได้มีลายลักษณ์อักษรใดๆเขียนเป็นสัญญาเอาไว้ทั้งสิ้น!
ครั้งเซียวซุ่ยยังเป็นอัจฉริยะตัวน้อยของอาณาจักรฉีซาน มีตระกูลมากมายต่างต้องการจะแต่งงานกับเขาทั้งสิ้น และสกุลเซียวก็มิได้ปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมดไปเสียทีเดียว!
มาบัดนี้ เมื่อเซียวซุ่ยกลายเป็นคนไร้ค่าและหมดหวังในตัวเอง ตระกูลเซียวยอมต้องอยากกอดเอาสัญญาหมั้นหมายกับตระกูลซวนเอาไว้ยิ่งชีพ!
ซวนหยานหรานหน้างอง้ำ และซวนชูก็มองเห็นถึงผลประโยชน์ที่ตระกูลเซียวต้องการได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ในเมื่อสกุลเซียวมิต้องการจะจะเสียประโยชน์ไป ซวนชูจึงเริ่มหรี่ตาและเอ่ยบางอย่างออกมา
“ผู้นำเซียว ย่อมแน่นอนว่าเป็นความผิดของตระกูลซวนเราที่ผิดสัญญาก่อน ข้าจึงอยากมอบเหมืองหินวิญญาณระดับสูงสองแห่งเพื่อเป็นสิ่งปลอบขวัญพวกท่าน ท่านจะว่าอย่างไร?”
ซวนชูยังคงอ่อนน้อมและไม่ได้บังคับขู่เข็ญใดๆในน้ำเสียงแม้เพียงเล็กน้อย อันที่จริง เรียกได้ว่านางให้ข้อเสนอที่ดีมากทีเดียวเป็นการแลกเปลี่ยนเสียด้วยซ้ำไป นางกำลังกล่าวถึงเหมืองหินวิญญาณระดับสูงถึงสองแห่ง!
ได้ยินข้อเสนอนี้ ไม่เพียงแค่ตระกูลเซียวเท่านั้น แม้แต่ตาแก่หลินเปาก็ยังตกใจไปด้วยเช่นกัน!
เหมืองหินวิญญาณล้ำค่าเพียงใดน่ะหรือ? ต่อให้เป็นสกุลหลินที่เปรียบเสมือนผู้นำของอาณาจักรฉีซานแห่งนี้ก็ตาม พวกเขายังมีเหมือนหินวิญญาณระดับสูงไว้ในครอบครองแค่เพียงสามสิบแห่งนั้น!
ส่วนของสกุลซวน ย่อมมีเพียงสิบห้าเหมืองเท่านั้น!
ตระกูลทั่วไปบางตระกูลไม่มีแม้แต่เหมืองหินวิญญาณระดับสูงในการครอบครองเลยเสียด้วยซ้ำไป!
มาบัดนี้ตระกูลซวนยอมจ่ายถึงสองเหมืองด้วยกัน ช่างเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ยิ่งนัก!
“เพียงเหมือนเหล่านี้จะเทียบได้กับคำนินทาที่พวกเราจะได้รับหรือไร!” เซียวจ้านแค่นเสียงออกมาพร้อมทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา
“มิใช่ว่าสกุลซวนพาอาวุโสแซ่หลินมาที่นี่เพื่อข่มขู่พวกเราหรอกหรือ!” เมื่อเซียวจ้านกล่าวประโยคนี้ออกมา ซวนชูและหลินเปาก็เริ่มหรี่ตาลงด้วยความไม่พอใจทันที
หลินเปาเริ่มอารมณ์เสียขึ้นมาเสียแล้ว เขาหมดความอดทนที่จะฟังคำพูดไร้สาระจากเซียวจ้าน และพร้อมจะมอบ ‘เหตุผล’ ที่ดีในการตัดสินใจยอมรับข้อเสนอแก่เจ้าหนูเซียวผู้นี้อย่างสาสม แต่กลับโดนซวนชูขวางเอาไว้เสียก่อน
“ท่านหลินเปา นี่เป็นเรื่องระหว่างเราตระกูลซวนและเซียวเท่านั้น มิต้องให้ฝ่ามือท่านแปดเปื้อนหรอกเจ้าค่ะ” ซวนชูกล่าวออกมาอย่างเฉยชา จากนั้น นางก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังเซียวจ้านและเริ่มพูดออกมา
“ผู้นำแซ่เซียว ท่านต้องการสิ่งใด?”
บัดนี้ สกุลเซียวไม่สามารถจะเก็บซ่อนความโลภของตนได้อีกต่อไป เซียวจ้านตะคอกออกมาพร้อมยกหมัดขึ้นขู่
“เหมืองหินวิญญาณระดับสูงสิบแห่ง!”
“สัญญาหมั้นหมายถึงจะยกเลิกได้!”
สิบเหมือง? เมื่อได้ยินคำขอหน้าไม่อายของสกุลเซียว ซวนชูหัวเราะออกมาด้วยความโกรธทันที! นี่เจ้าลูกเต่าเซียวผู้นี้คิดสิ่งใดอยู่? เหมืองหินวิญญาณไร้ค่าถึงเพียงนั้นหรือไร? คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่คับฟ้าอย่างนั้นหรือ?
หากตระกูลซวนต้องการจะถอนหมั้น ต่อให้คู่สัญญาเป็นใครก็ตาม มันก็มินับว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพวกเขาที่จะต้องเกิดการใช้กำลังขึ้น!
แต่ตระกูลซวนกลับมิต้องการบีบบังคับผู้อื่นเช่นนั้น พวกเขาเพียงต้องการใช้วิธีการอย่างสันติในการตกลงและแลกเปลี่ยนด้วยข้อตกลงที่มูลค่ามากเพียงพอเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกันขึ้น โดยมิคาดคิดว่าตระกูลเซียวจะโง่งมถึงเพียงนี้
ซวนหยานหรานที่ยืนอยู่ มาบัดนี้นางเข้าใจทุกอย่างได้กระจ่างแล้ว ตาแก่เซียวผู้นี้ต้องการจะกอดสัญญาหมั้นหมายเอาไว้ไม่ยินยอมปล่อยเหมือนหมาหวงชิ้นเนื้อ! เหมืองสิบแห่งที่ร้องขอนั้นมันเป็นจำนวนมากเกินครึ่งหนึ่งของทั้งหมดที่ตระกูลซวนมีเสียด้วยซ้ำ!
เด็กสาวเริ่มโมโหมากขึ้นเรื่อยๆ ช่างประเสริฐยิ่งที่นางได้รู้เรื่องนี้ก่อนที่จะต้องแต่งเข้าตระกูลเซียว!
ซวนหยานหรานไม่หลงเหลือความอ่อนน้อมใดๆอีกต่อไป และเริ่มต้องการจะทุบตีผู้คนขึ้นมาเสียแล้ว
เด็กหญิงกอดหลินซวนแน่นขึ้น เงยหน้าขึ้นมา น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชายิ่ง
“หัวหน้าตระกูลเซียว ข้ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
“ท่านต้องยกเลิกสัญญาหมั้นหมายในวันนี้ ไม่ว่าจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม!”