ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ ตอนที่ 2 วาเรี้ยน (1)
เสียงที่อ่อนล้าแต่มุ่งมั่นของวาเรี้ยน ก้องกังวานไปทั่วดวงจันทร์ "ความหวังในจิตวิญญาณของฉันจะคงอยู่ตลอดไป"
“ฮึ่ม!” เสียงทุ้มดังขึ้นและในวินาทีต่อมา ดวงจันทร์ก็สั่นสะเทือน
วาเรี้ยนขมวดคิ้ว และพลังจิตของเขาก็ปกคลุมดวงจันทร์ทั้งดวงในทันที
ทหารทุกนายในฐานทัพพุ่งขึ้นไปในอากาศและยิงไปที่ดวงจันทร์พร้อมกัน
วินาทีถัดมา ดวงจันทร์ก็แหลกสลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
บูม!
บูม!
วาเรี้ยน กระพริบตาหลังจากดวงจันทร์แหลกสลายและเทเลพอร์ตขึ้นไปเหนือดวงจันทร์หลายร้อยไมล์
เศษซากจากดวงจันทร์กระจายออกไปทุกทิศทุกทาง
“มนุษยชาติจะไม่ล่มสลาย!”
ทหารที่เพิ่งถูกส่งไปยังสถานีอวกาศใช้พลังที่ถูกปลุกขึ้นเตรียมที่จะทำลายส่วนที่เหลือของดวงจันทร์
สถานีอวกาศที่เป็นแนวป้องกันสุดท้าย หากเศษซากดวงจันทร์ตกลงมาที่โลก
โลกก็จะถึงกาลอวสารโดยสมบูรณ์ แต่พวกเขาได้รับบาดเจ็บเกินกว่าจะป้องกันได้
'อันที่จริง มนุษยชาติจะไม่ล่มสลาย' วาเรี้ยน เหลือบมองไปที่เศษซากดวงจันทร์
ซิ!
ราวกับว่าพวกเขาถูกบดบังด้วยพลังที่มองไม่เห็น พวกเขาทั้งหมดหยุดแล้วเขาก็ดีดนิ้ว
เป๊าะ!
สายฟ้าผ่าลงมาจากอวกาศ มันเหมือนเป็นสัญญาณของการล่มสลาย
ฟ้าที่ผ่าลงมาเปรียบเสมือนกับความพิโรธของพระเจ้าได้กระทบเศษซากที่กระจัดกระจายและแผดเผาเศษซากของดวงจันทร์ให้เป็นเถ้าถ่าน
“ผู้กอบกู้!”
"จักรพรรดิ!"
"ไร้เทียมทาน!"
มนุษยชาติทั้งหมด ตั้งแต่ดาวพุธถึงดาวเสาร์
มนุษย์ทุกคนตั้งแต่คนที่พลังยังไม่ตื่นจนถึงคนที่มีพลังระดับ 9 ต่างส่งเสียงเชียร์เขาท่ามกลางสงครามที่ตัดสินความเป็นอยู่ของมนุษยชาติ
วาเรี้ยนอยากได้ยินคำเหล่านั้นเสมอ แต่กว่าเขาจะรู้ตัวว่าโดนอะไรเข้าไปมันก็สายเกินไปแล้ว
ประสาทสัมผัสของเขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่เอวของเขาพอเขาหันไปดูเขาพบว่ามีบาดแผลลึกไปถึงหัวใจ
แต่เขายังไม่ทันที่จะพยายามกดบาดแผลด้วยซ้ำบาดแผลของเขาก็ถูกรักษาภายในทันที
วาเรี้ยน เกร็งและจ้องมองไปไกลๆ
“แกเป็นมนุษย์ที่น่ารังเกียจคนหนึ่งปีที่แล้วฉันคิดว่ามีเพียงมนุษย์สองคนนั้นเท่านั้นที่จะสร้างปัญหาได้”
เสียงทุ้มดังขึ้นเมื่อเงาปรากฏขึ้นมาจากที่ที่ไกลห่างออกไป
วาเรี้ยนกำหมัดแน่น และพื้นที่รอบๆก็เริ่มบิดเบี้ยว พื้นที่ถูกปิดกั้นเพื่อไม่ให้อาวุธนิวเคลียร์นั้นระเบิด แต่!
กรี๊ด!
การปรากฏตัวของเขาทำให้พื้นที่บิดเบี้ยว เขาทำลายข้อจำกัดด้านพื้นที่และมาถึงตัวของวาเรี้ยน
จักรพรรดิอะบิซอลถามด้วยน้ำเสียงสนุกสนานและสงสัย
"ในเวลาเพียงปีเดียว แกเปลี่ยนจากคนที่พลังยังไม่ถูกปลุกมาเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดได้อย่างไร"
*** *** ***
เมื่อปีก่อน
“ข้าจะไม่เมตตาเพียงเพราะพลังของเจ้ายังไม่ตื่น”
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับมองลงไปที่วาเรี้ยนที่อยู่ข้างหน้า
"นั้นมันเป็นความคิดของเจ้าข้าไม่ต้องการความเมตตา" วาเรี้ยนตอบด้วยและเริ่มตั้งท่าการต่อสู้ รูปร่างผอมเพรียวของเขาสะท้อนขึ้นมาจากพื้นผิวเวทีที่ขัดมัน
ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไรฝูงชนที่นั่งรอบเวทีก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น เลออนฮอลล์ไม่ใช่ที่ที่ได้รับความนิยมในการเอามาดวลกัน แต่วันนี้เป็นข้อยกเว้น
หุ่นยนต์แม่บ้านเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ผู้ชมขณะที่พวกเขาจ้องไปที่หน้าจอโฮโลแกรม 3 มิติขนาดใหญ่
มันกำลังถ่ายทอดภาพที่ทำให้เห็นว่ามีคู่ที่กำลังต่อสู้กันอยู่ด้วยความตั้งใจอย่างมาก
แมทช์นี้ไม่เหมือนกับการดวลของผู้ถูกปลุกพลังตามปกติ
ผู้ปลุกพลังร่างกายระดับ 1 ถูกวาเรี้ยนมาท้าดวลซึ่งวาเรี้ยนตอนนี้ยังไม่ถูกปลุกพลังด้วยซ้ำ!
นี้เป็นการท้าดวลที่บ้ามาก แต่ฮอลล์ที่สนับสนุนคนที่พลังยังไม่ตื่นนั้นได้กระจายข่าว
และข่าวก็ได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
"เธอล้อเล่นหรือเปล่า? เด็กสาวมัธยมปลายถามเพื่อนของเธอที่ลากเธอมาดูการดวลนี้
“เป็นความจริง วาเรี้ยน เข้าร่วมฮอล์เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเอง แต่สัญชาตญาณการต่อสู้ของเขานั้นไม่มีใครเทียบได้เจ้าของฮอล์ยังพูดออกมาเองเลยว่าเขาสามารถไปถึงระดับ 4 ได้หากพลังของเขาตื่นขึ้นและกลายเป็นผู้ถูกปลุกพลังระดับกลาง” เพื่อนของเธอตอบ เธอจ้องไปที่หน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่
“แน่ใจนะว่าไม่ใช่สกา--”
"การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น" ผู้ตัดสิน AI ประกาศ ทุกคนจ้องไปที่หน้าจออย่างตั้งใจ ที่ผู้เข้าแข่งขันที่พลังยังไม่ตื่นนั้นคือวาเรี้ยน
วาเรี้ยน ไม่สะทกสะท้านกับสายตาของคนดูมากมายที่กำลังจับตามองดูเขาอยู่แม้แต่น้อย
เขารักษาท่าทางที่ได้รับการฝึกฝนมาและหายใจเข้าลึก ๆ รอการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้
เขาสามารถจัดการคนธรรมดาหลายสิบคนในการทะเลาะวิวาทได้ด้วยตัวคนเดียว
เขาไม่เคยแพ้การแข่งขันกับผู้ที่ยังไม่ถูกปลุกพลังเลยสักครั้ง
อย่างไรก็ตาม เขารู้ขีดจำกัดของตัวเอง คู่ต่อสู้ของเขาตอนนี้เป็นผู้ถูกปลุกพลังด้านร่างกายระดับ 1
พวกที่ถูกปลุกพลังด้านร่างกายแค่ระดับ 1 ก็แข็งแกร่งกว่านักมวยที่เก่งที่สุด เร็วกว่านักกีฬาที่ไวที่สุด และยืดหยุ่นกว่านักว่ายน้ำที่เก่งที่สุดของโลก
แต่ว่าผู้ปลุกพลังด้านร่างกาย ระดับ 1 ที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขาไม่แข็งแกร่งจนถึงขั้นหลบกระสุนหรือป้องกันโจมตีจากมีดได้ แต่พลังของเขาก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนทั่วไป บางทีกลุ่มคนร้ายอาจทำให้ผู้ปลุกพลังร่างกายระดับ 1 ล้มลงได้ แต่การเอาชนะพวกมันแบบตัวต่อตัวนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
วาเรี้ยนรู้เรื่องนี้ทั้งหมด แต่เขามั่นใจมากว่า หากมีวิธีหนึ่งที่เขาจะชนะได้ ก็คือการใช้ความแข็งแกร่งของเขาปกปิดจุดอ่อนและใช้ประสบการณ์การต่อสู้ของเขาได้รับจากการฝึกฝนที่ยากลำบากและทักษะที่ฝึกฝนจนกระดูกหักในการต่อสู้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ผู้ปลุกพลังที่อยู่ข้างหน้าของเขาไม่มีสิ่งเหล่านั้น
เขาเป็นผู้ปลุกพลังคนใหม่และภาคภูมิใจในพลังโดยธรรมชาติของเขามากเกินไป และดูถูกความกล้าหาญและประสบการณ์ที่ฝึกฝนมาทั้งหมด
ในที่สุดฝ่ายตรงข้ามก็เริ่มเคลื่อนไหว ด้วยความเร็วเกินกว่าที่มนุษย์จะเอื้อมถึงได้ เขาพุ่งไปข้างหน้าวาเรี้ยนชกเข้าที่คางของเขา
ผู้ชมอ้าปากค้าง แต่ก่อนที่คู่ต่อสู้ของเขาจะออกหมัด วาเรี้ยนก็หลบแล้วต่อยสวนกลับไปทันที
'บูม!'
คู่ต่อสู้ของเขาถอยหลังหนึ่งก้าวและปิดจมูกที่มีเลือดออก
คุณสมบัติทางกายภาพของผู้ปลุกพลังร่างกายระดับ 1 นั้นสูงกว่ามนุษย์ทั่วไป แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามนุษย์ธรรมดาจะไม่มีโอกาสชนะ
“อย่าดูถูกฉันนะ ไอ้ขยะ!” ชายหนุ่มพุ่งเข้ามาที่เขาในขณะที่เขาเล็งลูกเตะไปที่หน้าอกของวาเรี้ยน
"การเคลือนไหวของแกหน่ะมันง่ายเกินไป" วาเรี้ยนตอบแล้วเบี่ยงไปทางขวาและเตะหลังคู่ต่อสู้ ทำให้เขาล้มลงกับพื้น
บูม!
การเตะเพียงอย่างเดียวจะทำให้คนปกติต้องนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่ผู้ปลุกพลังนั้นไม่ใช่คนธรรมดา
คู่ต่อสู้ของเขากลับมายืนได้อีกครั้งในชั่วพริบตาและยังคงโจมตี วาเรี้ยน อย่างต่อเนื่อง ทุกท่วงท่าการโจมตีที่คู่ต่อสู้ของเขาปล่อยออกมาจะทำลายกระดูกของวาเรี้ยน อย่างแน่นอน แต่สิ่งที่เขาปล่อยออกมาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหมัดตรงหรือลูกเตะ ก็ไม่สามารถแตะต้องเขาได้แม้แต่เส้นผม
แม้จะมีพลังที่อัดแน่น แต่การออกกระบวนท่าของเขาฉันสามารถอ่านได้หมดเพราะมันง่ายเกินไป
"ต่อยที่ช่องท้อง เตะที่ลำไส้ และศอกไปที่ซี่โครง" วาเรี้ยนอ่านการโจมตีของคู่ต่อสู้ในขณะที่เขาปล่อยท่วงท่าทุกอย่างออกมา ขณะที่วาเรี้ยนหลบการโจมตีทุกๆอย่างได้อย่างง่ายดาย ใบหน้าของเขาสงบนิ่งและถึงแม้เขาจะเหงื่อออก แต่เขาก็ไม่ได้ดูกังวลใจเลย
คู่ต่อสู้ของเขาคิดว่าวาเรี้ยนแค่โชคดีพอที่จะหลบการโจมตี แต่มันก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“บัดซบ! เจ้าลูกครึ่ง” หมัดอันรุนแรงและเร็วถูกต่อยไปที่คางของวาเรี้ยน ทำให้ตัวของเขากระเด็นลอยขึ้นฟ้า และก่อนที่เขาจะลุกขึ้น เขาก็ถูกเตะเข้าที่ซี่โครง
ใบหน้าที่สงบก่อนหน้านี้ของวาเรี้ยนบิดเบี้ยว เขาชกหน้าคู่ต่อสู้และเตะซี่โครงของเขาต่อไป หักทีละท่อน
แกรํก!
แกรํก!
แกรํก!
วาเรี้ยนล้มลงกระแทกกับพื้นและพยายามลุกขึ้น แต่ทุกๆความพยายามถูกตอบโต้ด้วยการโจมตีที่คำนวณไว้ซึ่งทำให้เขาล้มลงอีกครั้ง
สิ้นหวัง เขาเริ่มต่อยที่ขาของวาเรี้ยนด้วยความแข็งแกร่งที่ไร้มนุษยธรรม
แตก!
ขาของวาเรี้ยนเกือบจะหักเมื่อเสียงกระดูกหักของเขาดังก้องไปทั่วเวที เขากัดฟันและทนต่อความเจ็บปวดและทำสีหน้าเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทั้งคู่ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัส และการดวลกลายเป็นแมตช์ความอดทนของผู้ที่ยอมแพ้ให้กับความเจ็บปวดก่อน
ผู้ชมเริ่มบ่นเพราะพวกเขาเริ่มแน่ใจว่าใครจะแพ้นั้นคือวาเรี้ยน
เป็นเพราะความเจ็บปวดที่วาเรี้ยน ต้องเผชิญนั้นยิ่งใหญ่กว่าการต่อสู้กับคนปกติวาเรี้ยนไม่มีทางที่เขาจะชนะ
“พวกเขาโกหกคุณ แม้ว่าวาเรี้ยนจะเข้าใกล้กับผู้ถูกปลุกพลังร่างกายระดับ 1 มากแค่ไหน” เด็กหญิงลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อออกจากห้องฮอล์และอีกหลายๆคนก็เริ่มลุกขึ้นตาม
"รอก่อน!" เพื่อนของเธอยืนกราน และหญิงสาวก็มองเธออย่างรำคาญ แต่เธอก็ตัดสินใจที่จะอยู่ ไม่ว่าแมตช์จะจบลงเมื่อไรก็ตาม
เธอเหลือบมองที่หน้าจออย่างไม่ระมัดระวัง และวินาทีถัดมา เธอก็อ้าปากค้างกับฉากที่เห็น
ขาของวาเรี้ยน ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ความถี่ของการโจมตีก็ไม่เปลี่ยนแปลง เขาเตะคู่ต่อสู้ด้วยขาที่เปื้อนเลือด การโจมตีของคู่ต่อสู้ค่อยๆหายไป และในที่สุดเขาก็หมดสติ
“วาเรี้ยนชนะ!” เมื่อผู้ตัดสินประกาศทุกคนที่กำลังจะเดินออกจากฮอล์นั้นชะงัก
เมื่อมองไปที่หน้าจอ ทุกคนก็จ้องมองไปยังสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ ผู้ที่ปลุกพลังถูกล้มโดยผู้ที่ไม่ถูกปลุกพลัง
เรื่องในวันนั้นกลายเป็นความจริงที่จะไม่มีวันเลือนหายไป