เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 24 : อืม...เนื้อเรื่องแบบนี้ ช่างคุ้นเคยยิ่ง!
ตอนที่ 24 : อืม...เนื้อเรื่องแบบนี้ ช่างคุ้นเคยยิ่ง!
“ข...ขออภัยขอรับ!”
“ข้าผิดไปแล้ว ผู้อาวุโสโปรดให้อภัยด้วย!”
“ข้าสำนึกผิดแล้วจริงๆขอรับ ข้ามิควรมาบ่มเพาะบริเวณนี้ และยิ่งไม่ควรจะตัดผ่านขั้นลมปราณด้วยประการทั้งปวง!”
“สวะน้อยเช่นข้าหรือจะเทียบได้กับผู้ยิ่งใหญ่เช่นอาวุโสท่านนี้”
“บิดามันเถอะ เจ้าลูกเต่า สวะน้อยตัวนี้!! เจ้าเกือบทำอันตรายแก่เซียนน้อยของพวกเราและแม่นางหยานหรานแล้ว!”
บัดนี้ ศิษย์สกุลหลินผู้นั้นโดนตาเฒ่าเปาทุบตีจนใบหน้าบวมปูดเหมือนหมูตัวหนึ่ง ทั่วร่างสั่งเทาและยังคงขอโทษขอโพยต่อตาแก่เปาอย่างต่อเนื่อง
ศิษย์น้อยคนนั้นโดนหลินเปาหิ้วหลังคอลอยกลางอากาศและเขย่าคอเขาไม่หยุดหย่อน ยิ่งกว่านั้นยังถึงขั้นตบหน้าตัวเองซ้ำๆและร้องขอความเมตตา มารดามันเถิด! เหตุใดเขาต้องมาบ่มเพาะและบรรลุขั้นลมปราณบริเวณนี้กันนะ! เขาเกือบจะต้องชดใช้มากกว่านี้แล้วหากทำให้อัจฉริยะน้อยสองคนนั้นบาดเจ็บขึ้นมา!
โดยเฉพาะเมื่อเขาพบว่าแรงกระแทกจากการเลื่อนขั้นของเขานั้นไปหยุดอยู่ห่างจากทั้งคู่ในระยะเพียงห้าฉื่อ ใบหน้าเขาก็กลายเป็นสีเขียวคล้ำ เขาหวาดกลัวจนหัวใจแทบจะหยุดเต้นไปแล้ว!
บรรพบุรุษมันเถอะ! ซวนหยานหรานนับว่าเป็นบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนคนหนึ่งของผู้นำสกุลซวนคนปัจจุบัน! ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วใต้หล้าถึงความเป็นอัจฉริยะที่น่าภาคภูมิใจของตระกูล!
ทุกคนล้วนได้ยินถึงเรื่องราวของนาง เพียงสิบหนาว แต่ทำให้คนเฒ่าคนแก่มากมายได้เพียงตกตะลึงกับความสามารถอันล้นเหลือ! และอย่าได้กล่าวถึงเซียนน้อยแซ่หลินคนนั้น เขาเกือบจะทำร้ายหลินซวนเข้าเสียแล้ว!
หากเขาทำให้หลินซวนเกิดบาดแผลแม้เพียงเท่าแมวข่วน คงมิต้องรอให้สกุลหลินยื่นเท้าเข้ามาจัดการ แต่เขาจะยอมโขกศีรษะจนตายด้วยตัวเอง! ต้องรู้เสียก่อนว่าเหตุที่เขาสามารถจะเลื่อนขั้นได้นั้นย่อมเพราะโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่ได้รับจากหลินซวนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้! เจ้าศิษย์น้อยผู้นี้ได้เพียงหวาดกลัวจนตัวสั่นและใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา
สัมผัสวิญญาณขอองหลินซวนได้เพียงมองไปยังศิษย์ตระกูลหลินคนนั้นอย่างว่างเปล่า
ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้นับว่าเป็นคนเสียสติผู้หนึ่ง หลินซวนยังมิได้โดยผู้อื่นลอบสังหารก็เกือบจะต้องมาตายด้วยมือของคนตระกูลตัวเอง....ตายตั้งแต่ยังพูดไม่ได้ ไม่ได้การล่ะ เขาต้องรีบบ่มเพาะให้ตัวเองแข็งแกร่งมากขึ้นไปกว่านี้!
หลินซวนที่สัมผัสได้ถึงอันตรายจากความประมาทของตัวเองตอนนี้กำลังเหลือบไปมองซวนหยานหราน
จากนั้น หลินซวนก็เลิกสนใจสิ่งใดและกลับไปเพ่งสมาธิเพื่อรวบรวมปราณเท่านั้น
ในอีกทางหนึ่ง ซวนหยานหรานมิได้ใส่ใจศิษย์ตระกูลหลินผู้นั้นและกล่าวเพียงว่านางเข้าใจถึงสถานการณ์ทั้งหมดดี หลังจากนั้นก็ทำเพียงอุ้มหลินซวนตัวน้อยเพื่อไปหาสถานที่สงบทางอื่น
เด็กสาวหาได้สนใจไม่ว่าเด็กหนุ่มผู้นั้นจะเป็นเยี่ยงไรต่อไป นางเพียงรู้สึกโล่งใจและสัมผัสใบหน้าของหลินซวนอย่างอ่อนโยนเท่านั้น ช่างดียิ่งนักที่น้องซวนยังคงปลอดภัย
อันที่จริง หยานหรานนั้นได้เห็นหลินซวนร่างวัยหนุ่มก่อนจะมาเจอทารกน้อยซวนซวน ทำให้นางโดนดึงดูดด้วยความสง่างามนั้น
บัดนี้ หลินซวนที่ล้อมรอบไปด้วยปราณม่วงบางเบา ดูราวกับตุ๊กตาตัวน้อย บรรยากาศรอบตัวเขาช่างดูสงบสุข อบอุ่น และน่าเอ็นดูยิ่งนัก
อย่างไรก็ตาม หากนางได้เห็นเจ้าตัวน้อยหลินซวนก่อนได้พบกับหลินซวนวัยหนุ่มแล้วล่ะก็ นางคงตกตะลึงเป็นอย่างยิ่งแน่นอน
โดยเฉพาะตอนที่นางได้มองแผ่นหลังของหลินซวนหนุ่มผู้นั้น
ช่างดูสง่างามทรงพลัง กลิ่นอายแข็งแกร่งราวกับจะกลืนกินทุกสิ่งและสยบทุกอย่างเอาไว้ใต้เท้า เป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่เหนือฟ้าดิน!
เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ย่อมไม่มีผู้ใดคู่ควร อุ้งมือกวาดผ่านใต้หล้าโดยไร้ผู้ต้าน ไม่ว่าจะเจอกับอุปสรรคใด เพียงนิ้วเดียวก็ปัดเป่าทุกอย่างที่ขวางทางออกไปได้
แค่ขยับมือก็สามารถสยบสิ่งมีชีวิตทั้งหมดไว้ได้ เป็นยอมยุทธไร้เทียมทาน สุดยอดผู้บ่มเพาะที่จะไม่มีใครสามารถเทียบเทียมได้ตลอดกาล!
ยิ่งเมื่อร่างกายนั้นหมุนวนรอบตัว ประกายตาที่สาดซัดออกมาคมกล้ายิ่งกว่ากระบี่เทพใดๆ หญิงสาวคนไหนกกันจะสามารถต้านทานเสน่ห์อันล้นเหลือนี้ได้?
เด็กสาวคนใดจะไม่ตกหลุมรัก? ดรุณีน้อยผู้ใดจะไม่ใฝ่ฝันถึงการได้แต่งงานกันเขา?
ต่อให้เหยียบย่างขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นฟ้าแล้วมองลงมาที่ซวนหยานหรานตอนนี้ก็ยังสามารถบอกได้ว่านางตกหลุมรักหลินซวนตั้งแต่แรกพบ!
มิต้องกล่าวถึงเบื้องหลัง ระดับการบ่มเพาะ หรือพรสวรรค์ใดๆ เพียงมอบหัวใจให้ สิ่งอื่นใดจะนับว่าเป็นปัญหาอีกหรือ? แค่พบประสบหน้า เด็กสาวตัวน้อยก็ได้ตัดสินใจในทันที!
ยิ่งกว่านั้น เหตุการณ์อันตรายก่อนหน้านี้ที่หยานหรานเต็มใจจะเอาร่างกายตัวเองเป็นโล่เพื่อปกป้องหลินซวนแล้วนั้น ย้ำเตือนให้เห็นถึงสถานะที่สูงส่งของเขาในใจนางเป็นอย่างดี!
ท้องฟ้าสว่างสดใส ก้อนเมฆน้อยใหญ่ลอยไปมา ในจิตใจของเด็กหญิงผู้นี้เต็มไปด้วยความคิดมากมายวนเวียนอยู่ เพียงกอดซวนซวนตัวน้อย นางก็ตระหนักได้ถึงความรู้สึกที่ท่วมท้นอยู่ในหัวใจตนเอง
“หยานหราน เจ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่?” ซวนชูเดินเข้ามาแล้วถามเสียงเบา นางนึกว่าหลานสาวตัวน้อยจะยังคงตกใจกับเหตุการณ์อันตรายที่เพิ่งเกิดขึ้น
แต่เด็กสาวตัวน้อยกลับกอดห่อผ้าแน่นขึ้นแล้วหันไปกล่าวกับซวนชู
“ท่านย่า ข้าต้องการจะยกเลิกสัญญาหมั้นหมายเจ้าค่ะ”
ซวนชูตกตะลึง และคิดว่าตนเองได้ยินผิดไปหรือเปล่า
“อะไรนะ? ยกเลิกการหมั้น?”
“เจ้าค่ะ ข้าต้องการยกเลิกการหมั้นกับตระกูลเซียว!”
ลมสายหนึ่งพัดผ่านระหว่างย่าหลานคู่นี้ ก่อนที่ซวนหยานหรานจะลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ
เด็กสาวพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ใช่เจ้าค่ะ ข้าต้องการจะล้มเลิกสัญญาหมั้นหมายกับสกุลเซียวจริงๆ!”
ชุดคลุมสีฟ้าสวยสะบัดไปตามกระแสลม ผมยาวสลวยสะท้อนประกายแดดเงางาม เด็กสาวเงยหน้าขึ้น และแสงอาทิตย์สีทองก็ฉายส่องลงมา ใบหน้าอันงดงามนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความแน่แน่ว
“ข้ามิเคยเห็นด้วยกับการหมั้นนี้ อันที่สุดแล้ว ทุกอย่างล้วนเป็นท่านบรรพชนจัดสรรทั้งสิ้น!”
“ชะตาของข้า ข้าขอเป็นผู้กำหนดเอง เหมือนแผ่นหลังนั้นที่เผชิญหน้ากับทุกสิ่งอย่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ!”
เมื่อเห็นแบบนี้ ซวนชูรู้สึกเพียงความว่างเปล่าในจิตใจ ผ่านไปพักใหญ่ นางก็เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง
“หยานหราน เจ้าคิดดีแล้วหรือ?”
“นี่นับเป็นสัญญาหมั้นหมายที่จริงจัง”
“จริงอยู่ที่บรรพบุรุษเป็นคนบังคับเจ้า แต่คนภายนอกหาได้รู้เรื่องนี้ไม่ เจ้าต้องแบกรับความกดดันอันใหญ่หลวงหากต้องการยกเลิกสัญญานี้ ผู้คนมากมายจะสาปแช่งและดูถูกเจ้า”
เด็กสาวเพียงจ้องมองผู้เป็นย่าแล้วเอ่ยตอบด้วยดวงตาหนักแน่น
“ข้าไม่สน”
“ท่านย่า สกุลเซียวหรือจะแข็งแกร่งได้เท่าสกุลหลิน? หากข้ายกเลิกการหมั้นนี้มันจะส่งผลใดกับสกุลซวนของเราหรือ?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ซวนชูเพียงยิ้มและมองไปยังหลานสาวที่กอดหลินซวนอยู่ ใบหน้าเด็กหญิงปรากฏร่องรอยของความหวาดกลัวว่าท่านย่าของตนจะปฏิเสธคำขอ แล้วเหตุใดคนมีอายุมากกว่าจะคาดเดาความคิดของเด็กน้อยมิออกเล่า?
กลิ่นอายบางอย่างแผ่ออกมาจากร่างกายของซวนชู เธอเอ่ยตอบหลานตัวน้อยด้วยเสียงสงบ
“กดดัน? สกุลเซียวนับเป็นสิ่งใดได้กัน? หากเจ้ามั่นใจแล้ว ข้าสามารถจะพาเจ้าไปยังตระกูลเซียวได้ทุกเมื่อ!”
ซวนหยานหรานพยักหน้าอย่างรุนแรง
“แน่นอนท่านย่า พวกเราควรรีบไปยังสกุลเซียวตอนนี้เลย!”
ซวนชูเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยกับท้องฟ้าเบื้องบน
“ท่านอาวุโสหลินเปา?”
“ไม่เกี่ยวอันใดกับข้า แต่หากให้กล่าวตามจริง เจ้าเด็กน้อยแซ่เซียวนั่นไม่เหมาะสมกับแม่หนูคนนี้แม้แต่น้อย” หลินเปากล่าวพลางหัวเราะออกมา ก่อนจะหรี่ตาลงแล้วพูดบางอย่าง
“อย่างไรก็ตาม ข้าคงจำเป็นจะต้องติดตามพวกเจ้าไปด้วย เพราะแม่หนูน้อยคนนี้กำลังอุ้มเจ้าทารกแซ่หลินของข้าอยู่”
“ขอบพระคุณท่านหลินเปา!” ซวนหยานหรานโค้งคำนับตาแก่เปาทันทีด้วยความเคารพ
“อย่างไรเสียก็นับเป็นครอบครัวเดียวกัน” หลินเปาโบกมือเบาๆ ก่อนจะส่งปราณไปแจ้งข่าวแก่อาวุโสแซ่หลินคนอื่น พร้อมกับดึงเอาวัตถุทรงพลังบางอย่างมากกว่าสิบชิ้นจากความว่างเปล่าออกมา แล้วสอดเข้าไปใต้แขนเสื้อของตน
ตาเฒ่าเปาตบที่แขนเสื้อเบาๆ ก่อนจะเอ่ยปากขึ้น
“เอาล่ะ ไปสิเจ้าตัวน้อย ไปยกเลิกสัญญาหมั้นหมายของเจ้ากัน ข้าไม่เคยได้พบการยกเลิกสัญญาหมั้นมาก่อน ช่างน่าสนุกยิ่ง! ว่าแต่ เจ้าเด็กแซ่เซียวคนนั้นนามว่า?”
“เซียวซุ่ย!”
พวกเขาทั้งสามคนพูดคุยกันไปตลอดทางที่เดินออกจากเมืองต้าหยาน
ในห่อผ้า แม้จะบอกหลินซวนกำลังบ่มเพาะอยู่ หากแต่เขาก็ยังคงให้ความสนใจกับสิ่งรอบข้างด้วยสัมผัสวิญญาณของเขา และในตอนนี้หลินซวนกำลังรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกชอบกล
ตระกูลเซียว? เซียวซุ่ย? ยกเลิกสัญญาหมั้น? ทำไมเรื่องนี้มันช่างคุ้นเคยยิ่งนัก?
*จากความผิดพลาดที่เกิดทำให้สามตอนที่ผ่านมา(21 22 23) กลายเป็นตอนติดเหรียญทั้งหมด ดังนั้นอีกหกตอนหลังจากนี้ (24 25 26 27 28 29) จะเป็นตอนฟรีไม่ติดเหรียญครับ ต้องขอโทษนักอ่านทุกท่านจริงๆครับ*
*ทางผมจะกลับมาติดเหรียญใหม่ตอนที่30 และทำการเว้นสองตอน(31 32) ก่อนติดเหรียญตามปกติตามที่แจ้งไปว่าจะเป็นสามตอนติดเหรียญหนึ่งครั้งครับ ขอบคุณที่สนับสนุนค่ากาแฟให้ผมครับ*