ฮันเตอร์สุดแกร่งที่อย่างเป็นแค่คนอ่อนแอ เล่ม 2 ตอนที่ 3 คุณครูวันวิษา
หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งกินข้าวกับทั้งสี่คนจนหมด
" พี่วันนี้พี่ต้องไปที่โรงเรียนเด็กอนุบาลใช้มั้ย "
" อ่า "
สกาวเดือนที่กำลังนั่งอยู่ถามออกมาพร้อมกับมองตรงมาทางผม จากนั้นผมก็ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแบบเหนื่อยๆ
" แล้ววันนี้พี่ต้องไปทำงานอีกมั้ย "
" ทำสิ คิดว่าไปคุยจบแล้วก็จะไปทำต่อเลย "
" ค่ะ "
เป็นอะไรกันนะ...????
ทำไมวันนี้ถามอะไรแปลกๆ
อืมมมมม....คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง
จากนั้นเมื่อกินข้าวเสร็จผมก็เตรียมตัวออกมาจากห้องทันที เพื่อไปหาคุณครูของนิรัชกับไอลินที่โรงเรียน
ในระหว่างที่ผมกำลังออกจากห้อง ก็ยังสงสัยเรื่องที่สกาวเดือนถามมาอยู่
แต่ว่า.....
ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปแล้วก็เดินออกจากห้องมา
ณ ด้านหน้าโรงเรียนอนุบาล
ตอนนี้ตัวผมที่ออกมาจากบ้านมาก็เดินมาอยู่ที่ด้านหน้าโรงเรียนแล้ว จากนั้นผมก็หยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าออกมาเพื่อโทรหาคุณครูผู้หญิงที่เจอกันวันนั้น
" ค่ะ วันวิษา พูดค่ะ "
" ครับ คือว่าวันนี้ผมนัดคุยเรื่องรถรับส่งเอาไว้นะครับ "
หลังจากที่ผมพูดออกไปที่ก็เงียบไปสักพัก แล้วก็ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับว่าคิดอะไรออก
" ออ!!!! พี่ของนิรัขกับไอลินใช้มั้ยค่ะ "
" ครับ ใช้ครับ "
" เชิญเข้ามาได้เลยค่ะ ฉันแจ้งร.ป.ภที่ด้านหน้าเอาไว้ให้แล้ว เดียวฉันรออยู่ที่ด้านหน้าตึกค่ะ "
" ครับ "
เมื่อผมคุยกับคุณครูวันวิษาเสร็จผมก็วางสายจากเธอทันที แล้วก็เดินตรงเข้าไปยังป้อมของ ร.ป.�
ที่ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าของโรงเรียน
นี้โรงเรียนอนุบาลสมัยนี้เค้ามี ร.ป.ภเฝ้าด้วยงั้นเหรอเนี้ย สุดยอดเลยแฮะ
หลังจากที่ผมเดินตรงเข้าไปยังป้อมก็เห็นคุณลุงใส่ชุดสีดำนั่งอยู่ทีี่ด้านใน
" ขอโทษนะครับ วันนี้ผมมาหาคุณครูวันวิษา นะครับ "
หลังจากที่ผมพูดออกไปลุงที่นั่งอยู่ในป้อมก็หันหน้ามามองผม แล้วก็ตอบกลับมา
" ออ.... ครับเชิญเข้าไปได้เลยคุณครูเค้าแจ้งผมเอาไว้แล้ว "
" ครับ ขอบคุณครับ "
จากนั้นเมื่อคุยกับรปภจบผมก็เดินตรงเข้าไปยังด้านในทันที
รอหน้าตึก????
แล้วมันตึกไหนละเนี้ย ทำไมโรงเรียนอนุบาลมันถึงได้มีตึกเยอะขนาดนี้กัน
ตอนนี้ที่ด้านหน้าของผมนั้นมีตึกขนาดใหญ่อยู่ประมาณ 3 ตึกแต่ละตึกก็มีขนาดใกล้เคียงกัน
แล้วเราจะต้องไปตึกไหนละเนี้ย????
เห้ออออออ..... โทรถามออกรอบดีกว่า
จากนั้นผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะโทรหาคุณครูวันวิษาอีกครั้ง แต่ในระหว่างนั้นก็ได้มีเสียงตะโกนออกมา จากตึกด้านซ้ายของผม
" ทางนี้ค่ะ.....ทางนี้ "
เมื่อตัวผมที่กำลังยืนอยู่ได้ยินเสียงที่ตะโกนออกมา
ผมก็หันหน้าไปหาเจ้าของเสียง หลังจากที่ผมหันไปผมก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงทันที เพราะคนที่ตะโกนออกมาเมื่อกี้ก็คือคุณครู วันวิษา
ที่กำลังยืนอยู่ที่ด้านหน้าของตึกพร้อมกับโบกมือซ้ายไปมาอยู่
เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็เดินเข้าไปหาเธอที่กำลังยืนโบกมืออยู่
" สวัสดีครับคุณครู "
" ค่ะ......เมื่อกี้ขอโทษด้วยนะค่ะที่ไม่ได้บอกว่าตึกไหน "
" ครับไม่เป็นไร "
ผมตอบออกไปพร้อมกับรอยยิ้มออน่ๆ
" งั้นเราไปคุยกันที่ด้านในเถอะค่ะ "
จากนั้นเมื่อเธอพูดจบก็เดินเข้าไปที่ด้านในตึกทันที ตัวผมที่กำลังยืนอยู่ก็เดินตามเข้าไปด้วย
เธอพาผมเดินมาถึงหน้าห้องแล้วก็เปิดประตูเข้าไปที่ด้านใน
ด้านในห้องตอนนี้ผมโต๊ะตั้งเรียงกันอยู่แล้วบนโต๊ะพวกนั้นก็มีกองเอกสารตั้งอยู่
แต่ในห้องกลับไม่มีคนอยู่เลยซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุดใครมันจะมาทำงานกัน ในระหว่างที่ผมกำลังยืนอยู่นั้น คุณครูวันวิษาที่ยืนอยู่ด้านหน้าของผมก็พูดออกมาพร้อมชี้นิ้วไปที่ ชุดโต๊ะโซฟาที่ตั้งอยู่ด้านซ้ายของห้อง
" เชิญไปนั่งรอตรงนั้นก็นะค่ะ "
" ครับ "
ผมตอบออกไปแล้วก็เดินไปนั่งที่โซฟาทันที
นี้แค่จะคุยเรื่องรถรับส่งมันต้องขนาดนี้เลยงั้นเหรอเนี้ย
นึกว่าแค่มาตกลงราคาแล้วจ่ายเงินก็จบสะอีก แต่นี้ถึงกับให้เรานั่งรอเลยเหรอมันคงจะไม่ได้มีเรื่องอะไรใช้มั้ย ลางสังหรณ์ว่าต้องเกิดเรื่องของเรายิ้งแม่นๆอยู่ด้วย
เห้ออออออ....
หลังจากที่ผมนั่งรอได้สักพักใหญ่ๆคุณครูวันวิษา เธอก็เดินมาพร้อมกับกระดาษที่อยู่ในมือตรงมายังจุดที่ผมกำลังนั่งอยู่
" นี้ค่ะ ....ใบรายจ่ายในการขึ้นรถรับส่งของทางโรงเรียน "
เธอยืนพูดออกมาพร้อมกับยื่นกระดาษมาให้ผม
" ครับ "
ผมตอบออกไปพร้อมกับเอามือหยิบกระดาษแผ่นนั้นมา
ด้านในกระดาษเขียนเอาไว้ว่า
' นักเรียนที่อยู่ 1 - 5 กิโลเมตรจากโรงเรียนค่ารถคนละ 1000 / เดือน ส่วนนักเรียนที่ไกลกว่า 5 กิโลเมตร 1500 / เดือน '
อืมมม.....
บ้านเราอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 3 กิโลงั้นก็เท่ากับว่า 2000 ต่อเดือนสินะที่เราต้องจ่ายให้กับทางโรงเรียน
เงิน 2000 ถ้าเป็นผมเมื่อก่อนคงต้องคิดหนักเลยละ แต่ว่าตอนนี้เรื่องนั้นมันก็ไม่ใช้ปัญหาอะไรแล้ว
หลังจากที่ผมนั่งอ่านกระดาษที่อยู่ในมือสักพักก็ตอบออกไป
" ครับ ผมตกลงกับราคานี้ครับ "
" ค่ะ "
" งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ "
ผมพูดออกไปพร้อมกับลุกออกจากโซฟาที่กำลังนั่งอยู่
" อะ.....เดี๋ยวก่อนค่ะยังมีอีกเรื่อง "
นั้นไง....!!!
ว่าแล้วมันต้องมีเรื่องจนได้ละน่า นี้ลางสังหรณ์ของเรามันไม่ผิดจริงๆด้วย จากนั้นผมก็นั่งลงอีกครั้งแล้วก็ถามออกไปด้วยหน้าตาที่กำลังสงสัย
" มีอะไรงั้นเหรอครับ "