ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 64 โลลิหูแมว (ฟรี)
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 64 โลลิหูแมว
สีหน้าของหว่านเอ๋อดูตกตะลึงแข็งค้าง จิตใจพลันว่างเปล่า
ในเวลานี้นางเริ่มสงสัยแล้วว่าตอนนี้นางอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงหรือเปล่า
กำลังฝันไปหรือเปล่า?
หรือนางจำผิดไป?
ไม่เช่นนั้น จิตวิญญาณปีศาจโดยกำเนิดที่แข็งแกร่งไร้พ่ายจนถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์ของนิกายผู้ฝึกตน จะสูญเสียพลังชั่วร้ายกลับกลายมาเป็นมนุษย์เพียงแค่หัวหน้ามือปราบหนิงเอามือกดหัวได้อย่างไร?
…...แม้จะบอกว่าเป็นมนุษย์ แต่มันก็ไม่ใช่เสียทีเดียว
เพราะเห็นได้ชัดว่าเด็กสาวในกรงเหล็กยังคงมีร่องรอยของสัตว์ร้าย
เล็บที่แหลมคมของนาง หูแมวสีดำบนหัว แม้ว่านางกำลังหลับใหลอยู่ในตอนนี้ แต่หว่านเอ๋อก็จำตาแมวสีเหลืองที่แข็งแกร่งได้อย่างชัดเจน ยังมีฟันเขี้ยวอีกสองซี่ด้วย......
ทว่าจิตวิญญาณปีศาจโดยกำเนิดที่ถูกบันทึกไว้ในนิกายผู้ฝึกตน อธิบายไว้ว่ามันน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก บัดนี้มันไม่ใช่ปีศาจอีกต่อไปแล้ว
กลับกลายเป็นเด็กสาวน่าสงสาร ดูไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อมนุษย์และสรรพสัตว์ แต่นางก็ยังมีเค้าโครงของปีศาจอยู่ตามร่างกายของนาง
“หนิง......หัวหน้ามือปราบหนิง”
หว่านเอ๋อมองไปที่คงหนิงซึ่งอยู่ข้างกรงเหล็กด้วยความรู้สึกตื่นตกใจ มือของนางสั่น “เจ้าเป็นเทพเจ้าหรืออย่างไร?”
แม้แต่จิตวิญญาณปีศาจโดยกำเนิดเขาก็สามารถแก้ไขมันได้?
นี่ใช่สิ่งที่มนุษย์ทำได้หรือ?
หากไม่ได้เป็นที่แน่ชัดว่าคงหนิงถูกปีศาจแมงป่องที่มีพลังตบะสามร้อยปีบีบบังคับไม่ให้หนีไปไหน นางก็แทบอยากจะหันหลังวิ่งหนี
คงหนิงที่อยู่ข้างกรงเหล็กมีแต่ความลึกลับ
มันลึกลับและน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุด เหมือนกับเป็นร่างจำแลงของหัวหน้าใหญ่ภายในเกม ซึ่งทำให้หว่านเอ๋อนึกสงสัยขึ้นมาว่าตนเองเคยทำอะไรตามอำเภอใจออกไปหรือไม่
ด้วยตัวตนที่ทรงพลังและแปลกประหลาดเช่นนี้ เขายังต้องการให้นางช่วยอยู่หรือเปล่า? ช่างเป็นเรื่องที่น่าตลกนัก!
หว่านเอ๋อตกใจมาก
คงหนิงขมวดคิ้วเล็กน้อย สัมผัสได้ถึงไหดำลึกลับภายในจุดตันเถียนของตน
คราวนี้การกลั่นของไหดำลึกลับยังดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน
โดยปกติเมื่อสังหารผีร้ายแล้วกลั่นพลังงาน ในเวลาเพียงไม่นานก็สามารถเพิ่มพลังตบะให้คงหนิงได้แล้ว
แต่คราวนี้ หลังจากดูดกลืนพลังงานปีศาจสีแดงเข้าไป ไหดำลึกลับก็สั่นสะเทือนและยังกลั่นไม่เสร็จสิ้น
คงหนิงรู้สึกว่าไหดำลึกลับคงต้องกลั่นต่อไปอีกนาน......
มองดูดวงตาที่แสดงอาการตกใจและหวาดกลัวของหว่านเอ๋อที่อยู่ไม่ไกลนัก และหันกลับมามองเด็กสาวที่นอนหลับขดตัวอยู่ภายในกรง คงหนิงก็มีความคิดบางอย่าง ค่อยๆ เปิดกรงออก
เขาก้มลงไปอุ้มเด็กหญิงที่หลับใหลอยู่ภายในกรง
เด็กหญิงแต่เดิมถูกปกคลุมไปด้วยขนแมวสีดำดูดุร้ายน่ากลัว นางไม่ได้สวมใส่อาภรณ์ใดๆ
ตอนนี้ขนแมวร่วงไปหมดแล้ว เผยให้เห็นผิวหนังแบบมนุษย์ นางนอนขดเป็นก้อนกลมดูน่าสงสารอยู่เล็กน้อย
ยามนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง แม้กลางวันจะยังร้อนอยู่ แต่กลางคืนก็ค่อนข้างหนาวทีเดียว
คงหนิงไม่รู้ว่าเด็กน้อยที่เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจจะเป็นเช่นไรบ้าง แต่เพื่อความปลอดภัยจึงอุ้มนางออกจากกรงเหล็กที่เย็นเฉียบ ถอดเสื้อคลุมมาพันตัวนางเอาไว้
จากนั้นจึงอุ้มเด็กหญิงที่กำลังหลับใหลมาหาหว่านเอ๋อและสวีเมี่ยวอี
ในเวลานี้สวีเมี่ยวอีกำลังจะสูญเสียลมหายใจสุดท้ายของนาง
ใบหน้าของนางซีดจนไม่เหลือรอยฝาดของเลือด
หายใจเข้าออกแผ่วเบายิ่ง
แม้แต่เปลือกตาก็แทบจะเปิดไม่ขึ้น
แต่เมื่อคงหนิงมาหานางพร้อมกับเด็กหญิงที่นอนหลับอยู่ในอ้อมแขน นางดิ้นรนฝืนตัวเองเอาไว้พร้อมกับท่าทีที่ดูตื่นเต้น
“ผู้......ผู้ฝึกตน.......”
สีหน้าของหญิงสาวนั้นดูทั้งตื่นเต้นและดีใจ
เมื่อเห็นว่าเด็กปลอดภัยดี ทั้งยังกลับกลายเป็นคนธรรมดา นางก็ร่ำไห้ออกมา
“ขอบพระคุณผู้ฝึกตน! ขอบพระคุณท่านผู้ฝึกตน!”
หญิงผู้นี้ร้องห่มร้องไห้อย่างหมดท่า “ชีวิตหน้า เมี่ยวอีขอยอมเป็นวัวเป็นม้าเพื่อตอบแทนน้ำใจของท่านผู้ฝึกตน!”
“ขอบคุณผู้ฝึกตนที่ช่วยเด็กคนนี้เอาไว้ ขอบคุณผู้ฝึกตน!”
หญิงคนนี้ใกล้จะตายแล้ว แต่ยังมีอารมณ์มาร้องห่มร้องไห้พร่ำคำขอบคุณ ความโศกเศร้าผสานกับความยินดียิ่งทำให้สภาพของนางดูไม่ได้เข้าไปใหญ่
ดวงตาของนางเริ่มจับทิศทางไม่ได้โดยสมบูรณ์
แม้ปากจะบอกขอบคุณเขา แต่ทิศทางที่มองออกไปดูว่างเปล่านัก
มองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าลูกของตนอยู่ทางไหน
ได้แต่พูดคำเดิมซ้ำๆ พึมพำคำขอบคุณ
คงหนิงก้มลงวางเด็กหญิงที่หลับใหลลงในอ้อมแขนของสวีเมี่ยวอีเบาๆ
เด็กหญิงคนนี้นอนอยู่ในกรงตั้งแต่เกิดและไม่เคยได้ใกล้ชิดกับแม่ของนางเลย ในที่สุดก็ได้นอนอยู่ในอ้อมอกของคนเป็นแม่
เพียงแต่ว่าแม่ของนางกำลังจะตาย
และเด็กหญิงที่อยู่ในอาการง่วงซึมก็ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หว่านเอ๋อรีบเอื้อมมือออกไปช่วยสวีเมี่ยวอีที่ไร้เรี่ยวแรง ให้โอบกอดลูกสาวไว้ในอ้อมกอดของนางพร้อมกับพูดว่า “แม่นางสวี ลูกของท่าน......รีบกอดนางเร็วเข้าสิ!”
ดวงตาของสวีเมี่ยวอีแทบลืมไม่ขึ้น ด้วยความช่วยเหลือของหว่านเอ๋อ มืออ่อนแรงของนางในที่สุดก็โอบเด็กหญิงไว้ในอ้อมกอดของนางได้
ในตอนนั้นเองนางก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
น้ำตาไหลซึมออกมาทางหางตา
“ผู้ฝึกตน......ผู้ฝึกตนทั้งสอง.......”
“ขอบคุณพวกท่าน.......”
คงหนิงมองไปยังหญิงสาวที่กำลังร้องไห้เสียงแผ่ว
แล้วเขาจึงถามขึ้นว่า “นางชื่ออะไร หลังจากที่เจ้าจากไป พวกเราจะช่วยเลี้ยงดูนาง”
“นางมีร่องรอยของปีศาจอยู่บนร่าง เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ร่วมกับมนุษย์”
“บางทีนางอาจจะติดตามพวกเรามาฝึกตน......”
คำพูดของคงหนิงทำให้สวีเมี่ยวอีมีความสุขมาก
“ไฉ่เว่ย! นางมีชื่อว่าสวีไ......”
หญิงสาวที่กล่าวออกอย่างตื่นเต้นก็ชะงักกึกไปทันทีที่ตะโกนออกมาได้แค่ครึ่งทาง
จากนั้นดวงตาของนางก็ว่างเปล่าเลื่อนลอย ร่างอ่อนเปลี้ยตกลงไปในอ้อมแขนของหว่านเอ๋อ
มีเพียงมือที่โอบกอดลูกสาวของนางเท่านั้นที่แน่นจนไม่ยอมปล่อยแม้จะสิ้นลมหายใจ
หญิงสาวผู้น่าสงสารผู้นี้ถูกปีศาจสร้างความอัปยศและจองจำ ช่างน่าอดสูและสิ้นหวัง
วินาทีสุดท้ายก่อนตาย ในที่สุดก็มองเห็นความหวัง
ท่ามกลางความโศกเศร้าผสมกับความปีติอันยิ่งใหญ่ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงไม่สามารถยืนขึ้นได้อีกต่อไป ขณะเดียวกันก็โอบเด็กไว้ในอ้อมแขน หยุดหายใจไปอย่างเงียบๆ
ทั้งห้องพลันเงียบเสียงลง
คงหนิงและหว่านเอ๋อต่างก็มองไปยังหญิงสาวที่ไม่หายใจอีกต่อไปแล้ว
ในอ้อมแขนของหญิงสาวมีเด็กน้อยที่ชื่อว่าไฉ่เว่ยกำลังหายใจอย่างช้าๆ หลับใหลอยู่อย่างเงียบๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสูญเสียคนในครอบครัวที่สำคัญที่สุดไป
หว่านเอ๋อเงยหน้าขึ้นและมองมายังคงหนิง
“หัวหน้ามือปราบหนิง......”
หญิงสาวเรียกด้วยอาการประหม่า
คงหนิงมองไปที่นางและเห็นความกลัวภายในดวงตาของหญิงสาว
อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“แก้ไขเรื่องในตอนนี้เสียก่อน หลังจากออกไปค่อยคุยกันอีกที”
คงหนิงไม่คาดคิดว่าสวีเมี่ยวอีจะจากไปอย่างรวดเร็วขนาดนี้
ท่ามกลางความเศร้าโศกปนยินดี ไม่มีเรื่องค้างคาใจอีกต่อไป และในที่สุดหญิงสาวก็ทนไม่ไหว เสียชีวิตลง
แต่คงหนิงและหว่านเอ๋อยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปีศาจที่ทำร้ายสวีเมี่ยวอีเป็นอย่างไรบ้าง
ตอนนี้สวีเมี่ยวอีได้จากไปแล้ว เบาะแสสำคัญจึงถูกตัดขาด
มีปีศาจที่ทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแออยู่ภายในเมือง ถ้าปีศาจที่ทำร้ายสวีเมี่ยวอีเป็นปีศาจที่มีพลังตบะมากกว่าสองร้อยปี มันจะเป็นอันตรายมากๆ กับทุกคนที่อยู่ที่นี่
สุดท้าย สวีเมี่ยวอียังเคยบอกว่าปีศาจจะมาที่คฤหาสน์ตระกูลสวีทุกคืนเพื่อป้อนพลังงานปีศาจให้กับสวีเมี่ยวอี
คงหนิงและหว่านเอ๋อต้องรีบทำความสะอาดร่องรอยในที่เกิดเหตุให้ได้โดยเร็วที่สุด ห้ามทิ้งกลิ่นอายใดเอาไว้ จากนั้นจึงจากไปพร้อมกับร่างของสวีเมี่ยวอีรวมถึงเด็กหญิงที่กำลังหลับใหล
สำหรับคำสัญญาของคงหนิงที่จะล้างแค้นให้สวีเมี่ยวอี สังหารปีศาจตนนั้น คงต้องดูกันไปอีกนาน