บทที่ 20 ศาสตร์เทพ!
ภายในโลกเสมือน ลู่เจ๋อมองศัตรูที่อยู่ข้างหน้าเขา มันสูงเกือบ 3 เมตรและถูกปกคลุมไปด้วยเกราะ มีเกล็ดสีเข้ม รูม่านตาสีแดงเลือดฉายแสงดุร้าย ที่แขนมีดาบกระดูกที่ยืดหดได้
ลู่เจ๋อรู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับเผ่าอสูรดาบ อสูรดาบเป็นเผ่าพันธุ์ต่างดาวที่ดังที่สุดในข่าว
พวกมันกำลังทำสงครามกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ ว่ากันว่าพวกมันเป็นเผ่าสาขาของเผ่าอสูรระดับสูง แต่เผ่าอสูรระดับสูงไม่เคยยอมรับอสูรดาบ
อย่างไรก็ตาม เผ่าอสูรระดับสูงยังคงปกป้องพวกมันเมื่อจำเป็น
ลู่เจ๋อมองร่างของอสูรดาบก่อนจะเลียริมฝีปาก เขากลายเป็นเงาเบลอเมื่อเขาโจมตี
กรี๊ดดด!
ใบมีดกระดูกสีดำยาวหนึ่งเมตร 2 ใบพุ่งออกจากแขนของอสูรดาบ มันกลายเป็นเงาพร่ามัวและปรากฏต่อหน้าลู่เจ๋อ กระดูกฟันใส่จุดบอดของลู่เจ๋อ
เลือดของลู่เจ๋อเดือด ร่างกายของเขาเปล่งแสงสีขาวออกมา เขาบิดเอว กำหมัด แล้วโจมตี
เปรี้ยง!
หมัดสีขาววาววับกระทบกับใบมีดกระดูก คลื่นพลังโปรงใสแผ่กระจายออกจากจุดที่เกิดการปะทะ
“ถอยไป!”
มือของลู่เจ๋อสั่นขณะที่อสูรดาบถอยห่างออกไป 2-3 ก้าว จากนั้นลู่เจ๋อก็ก้าวไปข้างหน้าและต่อยอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเผชิญกับหมัดของลู่เจ๋อ อสูรดาบก็ไม่อยู่เฉย มันคำรามและโบกดาบกระดูกของมันปะทะกับลู่เจ๋อ
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
มีเสียงกระทบกันผสมกับคลื่นพลังที่กระจายออกไป
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ลู่เจ๋อต่อยออกไปนับสิบหมัด
แกร็ก!
มีรอยร้าวเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนใบมีดกระดูกของอสูรดาบ อสูรดาบคำรามอย่างกังวลและต้องการหลุดพ้นจากการโจมตีต่อเนื่องของลู่เจ๋อ ร่างของมันกลายเป็นเรือขนาดเล็กที่ไม่มั่นคงในคลื่นหมัดของลู่เจ๋อ มันไม่สามารถลอยลำได้เลย
5 หมัด 10 หมัด 20 หมัด…
เสียงคำรามของมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ใบมีดกระดูกของอสูรดาบแตกเป็นชิ้น ๆ อันเป็นผลมาจากหมัดของลู่เจ๋อ
ก่อนที่เสียงคำรามของมันจะจบลง ลู่เจ๋อก็มาถึงตัวมัน แล้วชกเข้าที่หน้าอกของอสูรดาบ
การโจมตีอันทรงพลังเหวี่ยงร่างของอสูรดาบขึ้นจากพื้น ส่งมันออกไปไกลกว่าสิบเมตร
ร่างกายของลู่เจ๋อกลายเป็นภาพเบลอในขณะที่เขาปรากฏตัวขึ้นถัดจากอสูรดาบ เท้าขวาของเขากลายเป็นขวาน สับไปที่หน้าอกของอสูรดาบอย่างหนักหน่วง
ตูม!
เวทีใต้ร่างอสูรดาบแตก มันดิ้นรน 2-3 ครั้งก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลง
…
นอกโลกเสมือน ทุกคนในห้องของลู่เจ๋อต่างชำเลืองมองกัน
“อึก ลู่เจ๋อแข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ?”
“นี่มันไร้สาระเกินไปแล้ว นักรบป้องกันตัวระดับ 5 จะทำลายกระดูกของอสูรดาบระดับ 7 ได้ยังไง!”
“เชี่ย ฉันต้องจับต้นขาพี่เจ๋อให้แน่นกว่านี้!”
“อ่า ตอนนี้ฉันเพิ่งรู้ว่าลู่เจ๋อดุมาก หัวใจของฉันสั่นระรัว…ฉันจะทำยังไงดี”
ดวงตาของอลิซเป็นประกาย เธอหน้าแดงเล็กน้อยขณะจับมือลู่หลี่ "หลี่จ๋า แนะนำฉันให้รู้จักกับพี่ชายเธอหน่อยสิ ฉันคิดว่าฉันสามารถเปลี่ยนจากการเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอเป็นพี่สะใภ้เธอได้!”
ลู่หลี่ยิ้ม "งั้นรอจนกว่าพี่ชายจะสอบปลายภาคเสร็จไหม? ตอนนี้เขาต้องสอบปลายภาค เขาไม่สามารถเสียสมาธิได้”
อลิซคิดแล้วทำได้เพียงพยักหน้า “ตกลง เธอพูดแล้วนะ หลังจากสอบปลายภาคเสร็จ เธอต้องแนะนำเขาให้ฉัน”
ลู่หลี่ยิ้ม “ไม่ต้องเป็นห่วง”
อลิซพยักหน้าอย่างมีความสุขแล้วหัวเราะ “ฮิฮิ น้องสะใภ้ ฉันจะนวดขาให้…”
ลู่หลี่ถอนหายใจและกลอกตามองอลิซ “ดูกันต่อเถอะ”
อลิซพยักหน้า
…
ในห้อง VR ครูใหญ่เลิกคิ้วและหัวเราะ “เด็กคนนี้กล้าหาญมาก คนหนุ่มสาวควรเป็นคนเลือดร้อนแบบนี้แหล่ะดี!”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน ปกติครูใหญ่มักบอกให้สงบสติอารมณ์และคิดให้รอบคอบ อย่าโจมตีเพราะความเลือดร้อน วันนี้เขาชมลู่เจ๋อที่เป็นคนเลือดร้อน
ควรพูดอะไรเพื่อสนับสนุนคำพูดของครูใหญ่ดี
ครูใหญ่ไม่ได้ละสายตาจากจอและพูดต่อว่า “เขาสามารถจัดการกับอสูรดาบที่มีพลังเทียบเท่านักรบป้องกันตัวระดับ 8 ได้อย่างง่ายดาย เทคนิคพื้นฐานที่สมบูรณ์แบบนั้นทรงพลังจริง ๆ เขาได้สัมผัสพื้นฐานของพลังแล้ว บางที เด็กคนนี้อาจจะสามารถปลุกศาสตร์เทพได้ในอนาคต”
ได้ยินแบบนั้นทุกคนในห้องก็อุทานออกมาพร้อมกันว่า “ศาสตร์เทพ?!”
ศาสตร์เทพแตกต่างจากเทคนิคการต่อสู้ มันแข็งแกร่งกว่าเทคนิคการต่อสู้มาก บางชนิดสามารถควบคุมธาตุในธรรมชาติได้ และมีความสามารถทุกประเภท สิ่งเหล่านี้เรียกรวม ๆ ว่าศาสตร์เทพ
เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ได้เกิดมาพร้อมกับศาสตร์เทพ แต่พวกเขาสามารถปลุกศาสตร์เทพผ่านการฝึกฝนได้ หลังจากฝึกฝนเทคนิคการต่อสู้จนสมบูรณ์แบบแล้ว ก็สามารถปลุกศาสตร์เทพได้ นักศิลปะการต่อสู้ทุกคนที่ปลุกศาสตร์เทพได้ถือเป็นผู้มีอำนาจ พวกเขามีศักยภาพที่น่าทึ่งเสมอ!
พวกเขาไม่คิดเลยว่าครูใหญ่จะยกย่องลู่เจ๋อขนาดนี้
เมื่อหลี่เหลียงได้ยินเขาก็เริ่มหัวเราะเหมือนคนงี่เง่า การเป็นครูของผู้มีอำนาจมีประโยชน์มาก
“บัดซบ เหล่าหลี่ นายโชคดี!”
“ฮ่า ๆ”
ครูใหญ่ถอนหายใจ “น่าเสียดาย…ระดับการบำเพ็ญของเขาต่ำเกินไป”
จากนั้นเขาก็หยุดและกัดฟัน “ถ้าเด็กคนนี้ชนะ ฉันจะให้เซรุ่มการฝึกฝนระดับ 3 กับเขา!”
เมื่อได้ยิน ดวงตาของทุกคนก็กลายเป็นสีเขียว เซรุ่มการฝึกฝนระดับ 3 คือเซรุ่มการฝึกฝนสำหรับสถานะหลิงหวู่ พวกเขาเป็นหลิงหวู่ ซึ่งหมายความว่าสิ่งนี้ดีสำหรับพวกเขาด้วย
อย่างไรก็ตาม ทุกคนตระหนักดีว่าเพื่อให้ลู่เจ๋อได้อันดับที่ดีในการสอบ ครูใหญ่กำลังวางแผนที่จะจ่าย
ท้ายที่สุด หากลู่เจ๋อได้รับจดหมายแนะนำให้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยสหพันธ์จริง ๆ นั่นก็เพียงพอแล้วที่อัจฉริยะของระบบเต๋อหลุนจะมาเรียนที่นี่ นอกจากนี้ยังหมายความว่าลู่เจ๋อเป็นหนี้บุญคุณพวกเขา และลู่หลี่น้องสาวอัจฉริยะของเขาก็เช่นกัน
มีประโยชน์มากเกินไป ผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนมาก
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้หากลู่เจ๋อต้องการได้รับมัน เขาต้องใช้ความสามารถของเขาเอง เขาต้องเอาชนะผู้แข็งแกร่งที่สุดในโรงเรียนอย่างหลานจ้านด้วยสถานะนักรบป้องกันตัวระดับ 5 และหลานจ้านก็เป็นอัจฉริยะระดับ 9
ถ้าเขาไม่มีพลังพอ ก็โทษใครไม่ได้
“เขาเข้าสู่ระดับถัดไปแล้ว!”
ลู่เจ๋อได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย
ท้ายที่สุด การฆ่าอสูรดาบในฐานะนักรบป้องกันตัวระดับ 5 นั้นหาได้ยากเกินไปในโรงเรียน
"เชี่ย! นั่นเซิร์ก? นั่นเป็นตัวอ่อนเซิร์กชั้นยอดใช่ไหม? โชคร้ายเกินไปแล้ว”
ทุกคนพูดไม่ออกกับคู่ต่อสู้ของลู่เจ๋อ
ฝ่ายตรงข้ามเป็นเผ่าพันธุ์ที่สุ่มเลือกจากคลังข้อมูลของสหพันธ์ตามระดับ และเผ่าเซิร์กเป็นสิ่งที่นักรบระดับต่ำต้องการพบน้อยที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ร่างกายของมันแข็งแกร่งมากและวิธีการโจมตีของพวกมันก็น่าขนลุก มันยากมากที่จะจัดการ
-------------------------------