ตอนที่แล้วต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 175 ไคเซอร์VSวีนัส
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 177 ข่าวดีหรือข่าวร้าย

ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 176 ขอร้อง


ตอนที่ 176 ขอร้อง

ทางด้านของไมล์ที่ดูการต่อสู้อยู่ และเห็นผลที่ออกมาแล้ว ‘สมแล้วที่ตอบตกลงในแผนการครั้งนี้แบบไม่ลังเล สุดท้ายไคเซอร์มันก็สามารถชนะได้ถึงจะทำให้ลุ้นหน่อยก็เถอะในช่วงท้าย หึหึ! แต่ถึงมันแพ้ยังไงทางเราก็ไม่ยอมแพ้อยู่ดีนั่นแหละ’

ไมล์กำลังอยู่ในอารมณ์พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านหน้า เพราะระยะห่างจากไมล์และทั้งสองคนประลองกันอยู่มันเพียงหนึ่งกิโลเมตรเท่านั้น ถึงจะไม่ได้ยินที่ทั้งสองคนคุยกันแต่ก็สามารถมองเห็นได้ไปลำบากอะไรมาก จึงเห็นการต่อสู้ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ระหว่างที่ไมล์กำลังคิดด้วยความพอใจอยู่

“ท่านบารอนข้ามีเรื่องจะขอร้องอะไรท่านหน่อย…” ก็มีเสียงของอลิสซาเบธดังมากจากทางด้านหลังแบบน้ำเสียงเกรงใจคนอื่นเวลาจะข้อร้องอะไร

“มีเรื่องอะไร” ไมล์หันไปพูดด้วยแบบประโยคคำถาม ‘ตามจริงก็พอเดาสิ่งที่เธอต้องการขอนั่นแหละ แต่เพื่อความแน่ใจต้องถามเธอก่อน เพราะถึงวีนัสจะเลวมันก็เป็นพ่อของเธอ’

ไมล์เข้าใจอยู่แล้วว่าสิ่งที่เธอต้องการมันคืออะไร เพราะเข้าใจความรู้สึกของเธอดีว่าเป็นยังไง ในชาติก่อนไมล์ที่ใช้ชีวิตเป็นบอดี้การ์ดเองครอบครัวก็ไม่ดีมีพื้นฐานดีเท่าไหร่นัก แถมพ่อยังชอบกินเหล้าแล้วกลับมาทำร้ายตัวเองกับแม่แทบทุกวัน แต่ถึงแบบนั้นเมื่อถึงวันที่พ่อของตัวเองตายความไม่พอใจ ความโกรธ มันก็หายไปจนหมดเหลือทิ้งเอาไว้เพียงแต่ความเสียใจเท่านั้นเอง

“ขะ ข้าอยากที่จะขอจัดงานศพให้ท่านพ่อได้ไหม…”

‘เป็นแบบทีคิดเอาไว้ แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะทางเราเองก็เตรียมจัดพิธีศพเอาไว้แล้วเหมือนกันเพราะคิดว่าไคเซอร์มันจะแพ้ ให้ใช้เผาแทนไคเซอร์ก็คงไม่เป็นอะไร’

ไมล์ได้เตรียมทุกอย่างเอาไว้พร้อมอยู่แล้ว เพราะตอนแรกถ้าไคเซอร์เกิดแพ้ขึ้นมาและยังยึดเมืองไม่ได้ก็ต้องจัดนอกเมือง และใช้ประโยชน์จากการตายของไคเซอร์ปลุกใจทหารเพื่อยึดเมืองหลวงคืน แต่ตอนนี้มันผิดคาดไปหน่อยก็เลยต้องมาเผาวีนัสแทน

เอาสิ! แต่การจัดจะจัดที่นอกเมืองโดยจะทำตามพิธีแบบสามัญชนทั่วไป และต้องเผาเท่านั้น”

การเผาศพของขุนนางและสามัญมันต่างกันออกไป เพราะขุนนางจะต้องทำพิธีในโบสถ์เท่านั้นโดยจะเลือกได้สองทาง หนึ่งเผาศพตามพิธี สองฝังศพเอาไว้ตามหลุมศพที่โบสถ์จัดเอาไว้ให้ ซึ่งการทำตามวิธีที่สองจะได้รับความนิยมมากในเหล่าขุนนางแต่ทว่ามันก็ไม่ได้หมายความว่าสามัญชนจะทำไม่ได้

แต่เลือกที่จะไม่ทำกันต่างหาก เพราะการฝั่งร่างในสุสานหรือพื้นที่ของโบสถ์ที่จัดเอาไว้ต้องเสียเงินหลายร้อยเหรียญทอง แถมยังต้องจ่ายเป็นหลายปีอีกจึงมีแต่พวกขุนนางที่ร่ำรวยทำกัน

ค่ะ! ขอเพียงได้จัดพิธีศพข้าก็พอใจละ-”

“แต่ว่าเธอเองก็ต้องเข้าใจด้วยว่าคนที่เข้าร่วมพิธีศพอาจจะไม่มี เพราะพ่อของเธอทำอะไรไว้ก็น่าจะรู้ดี …ส่วนเรื่องขุนนางที่ไม่พอใจก็ไม่ต้องไปสนมัน เพราะข้าจะประกาศตัวเป็นคนจัดเองพวกนั้นคงได้แค่พูดเท่านั้นแหละ” ไมล์อธิบายถึงความเป็นจริงต่ออลิสซาเบธ

เพราะในตอนนี้ถ้าจัดงานศพถึงมันจะเป็นเพียงงานศพแบบสามัญชนพวกขุนนางจำนวนมากต้องไม่พอใจกันแน่

“แต่ถ้าทำแบบนั้นคนที่จะเดือดร้อนมันจะเป็นท่านเองไม่ใช่หรือไง?”

“ช่างมัน ตอนนี้คนไม่ชอบข้าหลายคนแล้วมีอีกเพียงไม่กี่คนมันจะเป็นอะไรไป” ไมล์ตอบแบบท่าทางเหนื่อยใจ ‘ตามจริงก็ไม่อยากสร้างศัตรูเพิ่มหรอก แต่ว่าถ้าใครกล้าทำอะไรทางเราเองก็ไม่ไว้หน้ามันเช่นกัน หึหึ!’

….

……

ในเวลาต่อมา

พิธีศพของวีนัสก็โดนจัดถึงภายในค่ายทหารของไมล์ ซึ่งคนที่กำลังยืนมองกองไฟขนาดใหญ่กำลังเผาร่างของวีนัสก็มีเพียงสามคน ไมล์ อลิสซาเบธและไคเซอร์ ส่วนรอบตัวของทั้งสามคนก็มีพวกทหารบ้างประปรายไม่เท่าไหร่นัก

โดยงานศพครั้งนี้ไมล์ประกาศตัวว่าเป็นคนจัดก็จริง แต่ทว่าก็ไม่ได้บังคับขุนนางหรือทหารคนไหนเข้าร่วม รวมถึงทหารของตัวเองด้วยเช่นกัน

จึงมีคนไม่มากที่เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ มีส่วนมากกว่าพวกทหารที่มาทำพิธีเท่านั้น

‘เท่านี้ก็เรียบร้อยไปหนึ่งเรื่องแล้ว ต่อไปก็การปรับให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาทำงานอีกครั้ง จากนั้นก็เริ่มแผนของเราต่อ’ ไมล์ยืนคิดขณะกำลังมองกองไฟด้านหน้าอยู่

“ท่านบารอนตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยหมดแล้วท่านจะพักที่เมืองหลวงก่อนไหม… ไม่สิ! ถ้าท่านต้องการอาณาเขตที่เมืองหลวงข้าสามารถมอบให้ท่านได้เลย” ไคเซอร์เริ่มถามแบบยื่นข้อเสนอให้ เพราะตัวไคเซอร์รู้ดีว่าผลงานทั้งหมดไม่ใช่ของตนแล้วก็มีแผนอื่นในใจอยู่แล้วด้วย

อีกอย่าง ตอนนี้มีขุนนางจำนวนมากโดนกวาดล้างไปรวมถึงดยุคที่มีพื้นที่กว้างขวางในเมืองหลวงอย่างวีนัส การที่หาคนเข้ามารับตำแหน่งแทนถือว่าเป็นเรื่องที่สมควรทำที่สุดของราชวงศ์เพื่อจะได้มีคนมาจัดการปัญหาหลายอย่างในอาณาเขต โดยตอนนี้เมืองหลวงก็เสียหายไปมาก การปล้น ก่อการร้าย ลักพาตัว กำลังเกิดขึ้นในเมืองหลวงอย่างมากมาย

“ข้าจะช่วยท่านเรื่องการฟื้นตัวของประเทศ แต่ก่อนหน้านั้นท่านลืมเรื่องอะไรบางอย่างไปหรือเปล่าองค์ชาย!!!” ไมล์แสดงสีหน้าจริงจังหลังตอบ ‘นี่อย่าบอกนะว่ามันลืมเรื่องที่ต้องเดินทัพเพื่อจัดการกับสหราชอาณาจักรต่อ เฮ้อ~

“ข้าไม่ได้ลืมเพียงแต่ว่าตอนนี้คิดว่าพวกเราควรที่จะพักพะ-”

“องค์ชาย!!!” ไมล์ขึ้นเสียงและแสดงสีหน้าแบบอารมณ์เสีย “ท่านกำลังจะพูดเล่นอะไรอยู่ ท่านรู้ไหมตอนนี้ทหารจักรวรรดิตอนนี้กำลังเสี่ยงชีวิตกันอยู่เพื่อผลประโยชน์ของพวกเรา แต่ท่านกำลังจะบอกว่าต้องการพักอย่างงั้นเหรอ”

สีหน้าของไคเซอร์แสดงถึงความกังวลอย่างชัดเจนเมื่อโดนขึ้นเสียงใส่ ‘ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ไอความคิดที่ยังเป็นห่วงชีวิตคนอื่นไม่ว่าจะเป็นคนของตัวเองหรือไม่ เฮ้อ~ แบบนี้เรื่องที่เราจะคุยด้วยคงต้องเอาไว้ก่อนแล้วละ’ ไคเซอร์มีเรื่องที่จะคุยกับไมล์หลังจากนี้ แต่เมื่อโดนพูดใส่ก็ตัดใจเรื่องที่คุยโดยเก็บเอาไว้ก่อน  “ถ้างั้นพวกเราจะพักสักสามวันเพื่อเตรียมของและกำลังทหาร ส่วนเรื่องการติดต่อกับจักรวรรดิทางข้าจะทำเองท่านไม่ต้องเป็นกังวล”

อ่า! ถ้าเวลาแค่นั้นก็ตกลง” ไมล์พยักหน้าขึ้นลงเล็กน้อย ‘ถ้าเวลาเพียงเท่านั้นก็เพียงพอต่อการพักผ่อนกับเตรียมสิ่งของ  ยิ่งในตอนนี้มีสมบัติและวัตถุดิบจำนวนมากในเมืองหลวงด้วย การสร้างทางรถไฟของเราต้องเร็วกว่าเดิมแน่’

ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ตัวของอลิสซาเบธก็ไม่ได้พูดอะไร ถึงแม้จะยืนขั้นกลางของทั้งสองคนก็ตาม เพราะเธอเข้าใจถึงสถานะของตัวเองเวลานี้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้ไม่นานก็มีทหารองครักษ์วิ่งตรงเข้ามาหาทั้งสามคนโดยมีเป้าหมายเป็นไคเซอร์ด้วยหน้าตาตื่น

‘ท่าทางแบบนั้นมีเรื่องอีกแน่’ ไมล์เข้าใจทันทีกับทหารองครักษ์ที่กำลังตรงเข้ามาหาไคเซอร์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด