ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 175 ไคเซอร์VSวีนัส
ตอนที่ 175 ไคเซอร์VSวีนัส
ณ จุดนัดประลอง
จุดที่นัดประลองของทั้งสองก็คือด้านหน้าทางเข้าของเมืองหลวง ที่ห่างจากกองทัพแต่ละฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร ช่วงเวลานัดเองก็เป็นช่วงใกล้มืดทำให้มีแสงอาทิตย์สีแดงอ่อนกำลังสองแตะพื้นไปทั่ว
“ไม่คิดเลยว่าจะได้มาสู้กันแบบนี้!” ไคเซอร์เริ่มกล่าวก่อนด้วยสีหน้าแสยะยิ้ม
ตัวไคเซอร์สวมชุดเกราะหนักเอาไว้เต็มร่างกาย รวมถึงหมวกเหล็กปิดบังส่วนหัวเอาไว้มองเห็นเพียงใบหน้าเท่านั้น ตัวอาวุธก็เป็นดาบกับโล่ขนาดใหญ่ถืออยู่ทั้งสองมือ
“ข้าเองก็เช่นกัน ไม่คิดว่าท่านจะไม่มีหัวคิดขนาดนี้ที่จะมาประลองกับคนที่สอนดาบให้ตัวท่านเองเมื่อสมัยเด็ก” วีนัสแสดงใบหน้าไม่ต่างจากไคเซอร์มากนัก เพราะเมื่อสมัยก่อนคนที่เริ่มทำให้ไคเซอร์เริ่มจับดาบก็เป็นตัวของวีนัสเอง แล้วในหัวของวีนัสตอนนี้ก็คิดว่าตัวเองชนะไปแล้ว เมื่อมาสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งกับไคเซอร์เช่นนี้
ร่างกายของวีนัสก็สวมชุดเกราะหนักไม่ต่างอะไรจากไคเซอร์ เพียงแต่ว่าไม่มีหมวกปิดหัวเอาไว้เท่านั้น ทั้งอาวุธและขนาดความหนาขอลงชุดเกราะก็ถือว่าอยู่ในระดับไม่ต่างกันมาก
“ถ้างั้นเราก็มาตกลงเรื่องการแพ้ชนะกันดีกว่า”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงทางข้าเป็นคนเสนอเองย่อมเข้าใจเรื่องนั้นดี ตอนนี้พวกเราแค่มีชีวิตรอดก็เท่ากับว่าฝ่ายนั้นชนะทันที” ไคเซอร์ตอบแล้วอยู่ในท่าที่เตรียมพร้อมต่อสู้ ‘ตามจริงก็คิดเอาไว้อยู่หรอกถ้าเราแพ้บารอนไมล์ต้องหาทางทำอะไรสักอย่างแน่ แล้วเมื่อถึงเวลานั้นคนอย่างบารอนไมล์…. ไม่สิ! อย่างบารอนนั่นไม่คิดสนใจกฏการประลองอะไรอยู่แล้ว เหอะๆ’
“เอาละ! ถ้าท่านพูดแบบนั้นทางข้าเองก็สบายใจ” พูดจบวีนัสก็เดินตรงเข้าไปทางไคเซอร์อย่างช้าๆ
หลังจากที่เดินถึงโดยมีระยะห่างประมาณ 3 เมตร ก็เริ่มอยู่ในท่าพร้อมสู้เหมือนกันโดยตั้งดาบและเอาโล่แนบลำตัวเอาไว้อย่างที่ไคเซอร์กำลังตั้งท่าอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเป็นการตั้งท่าเตรียมต่อสู้ที่ไม่ได้ค้างอะไรกันมากนัก
จากนั้นไคเซอร์ก็เริ่มโจมตีก่อนโดยใช้ดาบในมือขวาฟันลงไปยังส่วนขาล่างของวีนัส แต่ทว่า
เคล้ง!
วีนัสก็สามารถเอาโล่ในมือซ้ายมากันไว้ได้ทัน ทำให้ดาบของไคเซอร์หยุดก่อนที่จะไปถึงเป้าหมาย “เหอะ! นี่คิดหรือไงว่าจะทำอะไรข้าคนนี้ได้ด้วยการเล็งจุดบอด อ่อนหัด!” วีนัสยกดาบขึ้นระหว่างพูด จากนั้นก็ฟาดลงไปที่กลางหัวของไคเซอร์อย่างเต็มแรงด้วยความเร็ว
เคล้ง!
ไคเซอร์สามารถเอาโล่ในมือซ้ายมาป้องกันไว้ได้ทัน จากนั้นก็เว้นระยะห่างด้วยความเร็ว แต่ทว่าตอนนี้ดาบของไคเซอร์ได้หลุดออกจากมือไปแล้วเพราะถ้าไม่ทิ้งดาบเพื่อเพิ่มความเร็วให้กับร่างกายก็คงไม่สามารถป้องกันการโจมตีเมื่อครู่ได้
‘ให้ตายเถอะผ่านไปหลายปีที่ไม่ได้ทำสงครามฝีมือของมันไม่ได้ตกลงเลย’ ไคเซอร์รู้สึกแปลกใจกับความเร็วของดาบเมื่อครู่ของวีนัสที่ฟาดใส่ เพราะมันเป็นเพียงเสี้ยววินาทีมากที่โดนสวนกลับหลังโจมตีไป
“เหอะ! ท่านสีหน้าแบบนั้นกำลังตกใจอยู่ละสิองค์ชาย”
“ก็ไม่ขนาดนั้น แต่ไม่คิดเลยว่าของเก่าใกล้ลงโลงอย่างเจ้ายังสามารถโจมตีด้วยความเร็วขนาดนั้นได้อยู่อีก”
“อะไรกัน…” วีนัสแสดงใบหน้ายิ้มแบบมีนัย “นี่ไม่สามารถสู้ได้ก็เลยใช้แผนยั่วยุข้าแทนหรือไง น่าตลก! …แต่ว่าเห็นแก่ที่ท่านมีความกล้าที่จะมาสู้กับข้าเพียงคนเดียวเช่นนี้ข้าจะให้โอกาสก็แล้วกัน”
ปัก!
วีนัสปักดาบขนาดใหญ่ของตนลงพื้น จากนั้นก็หยิบดาบของไคเซอร์ที่วางอยู่ด้านข้างของตนแล้วโยนมันกลับไปที่ด้านหน้าของไคเซอร์
ตุบ!
“รับไปนั่นถือว่าเป็นความเมตตาของข้า”
“งั้นก็ได้!” ไคเซอร์พรึมพรำเสียงแผ่วแบบไม่พอใจ แต่ก็ก้มลงเก็บดาบมาที่วีนัสได้บอกมาว่าพร้อมกับคิดในใจไปด้วย ‘ก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมมันถึงทำแบบนี้ แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช้เวลามาห่วงเกียรติหรือศักดิ์ศรีแล้ว-’
“…ข้าบอกไปกี่รอบแล้วว่าอย่าละสายตาจากศัตรูระหว่างสู้” เสียงของวีนัสดังขึ้นในระยะที่ใกล้มากระหว่างที่ไคเซอร์กำลังก้มเก็บดาบอยู่ ซึ่งตอนนี้วีนัสก็อยู่ใกล้กับไคเซอร์มากแล้วเพราะระหว่างที่ไคเซอร์ก้มเก็บดาบวีนัสก็วิ่งมาด้วยความเร็วอย่างเต็มที่
‘ไม่ดีแล้วสิ!’ ไคเซอร์รู้ทันทีถึงตำแหน่งของตัวเองว่าตอนนี้กำลังเสียเปรียบขนาดไหน
จากนั้นดาบที่กำลังง้างเต็มที่ของวีนัสก็ฟังลงไปที่ไคเซอร์ด้วยความเร็วเพราะเล็งจุดตายเอาไว้แล้วอย่างแม่นยำ
ฉวบ!
ฟูม!!!
เสียงดาบปะทะเข้ากับเนื้อของสิ่งมีชีวิต จากนั้นก็มีเลือดพุ่งออกมาเป็นเลือดกองสีแดงขนาดใหญ่กระจายไปทั่วจุดที่ทั้งสองคนกำลังยืนอยู่ แต่ทว่าเลือดที่กำลังพุ่งออกมาอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่เลือดของไคเซอร์
แต่มันกลับเป็นเลือดของวีนัสที่โดนดาบขนาดใหญ่ของไคเซอร์แทงลงไปที่กลางท้อง โดยตัวดาบถูกตั้งเอาไว้ด้วยด้ามจับที่ติดกับดินทำมุม 45 องศา เหมือนกับตั้งฉากส่วนปลายดาบกำลังแทงเข้าไปทะลุเกราะเหล็กและร่างกายของวีนัส ความลึกของแผลก็ไม่ต้องพูดถึงมันแทงเข้าไปลึกจนสามารถโดนอวัยวะสำคัญของร่างกายแน่นอน
“บะ แอ่กๆ บ้าน่า…” วีนัสก้มมองบาดแผลตัวเองพร้อมเลือดที่ไหลออกมาจากปากเล็กน้อย ‘นี่มันสามารถทำแบบนี้ได้ยังไง เมื่อกี้มันต้องมัวแต่ก้มเก็บดาบไม่ใช่หรือไง???’
“ก่อนที่เจ้าจะตายข้าขอบอกเอาไว้ก่อนแล้วกัน ว่าข้าไม่ได้มีความคิดจะเชื่อใจเจ้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คิดว่าคนที่ทำทุกอย่างเพื่อชนะอย่างเจ้าส่งอาวุธคืนให้มันก็แปลกมากแล้ว เพราะงั้นข้าก็เลยเตรียมทำแบบนี้ตั้งแต่แรก” ไคเซอร์เริ่มอธิบายถึงสถานการณ์ที่กำลังเกิดอยู่
เพราะตัวไคเซอร์คิดอยู่แล้วว่าวีนัสต้องไม่ให้อาวุธตัวเองแบบปกติแน่ก็เลยคิดแผนรับมือก่อนก้มลงเก็บดาบไว้หลายแผน แผนใช้ดาบตั้งฉากโจมตีอยู่ตอนนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
พูดจบวีนัสก็ล้มลงกับพื้นทันทีโดยเอียงลงไปทางข้างซ้ายเล็กน้อยพร้อมกับดาบที่ยังปักร่างอยู่ และแล้วการประลองของทั้งสองก็จบลงด้วยชัยชนะของไคเซอร์
จากนั้นไม่นานหนัก เมื่อทางทหารในเมืองหลวงได้รับข่าวเรื่องการพ่ายแพ้ของวีนัส ตามกำแพงของเมืองหลวงก็เริ่มมีการชักธงสีขาวขึ้นมาเพื่อแสดงถึงการยอมแพ้ต่อสงครามในครั้งนี้
ต่อจากนั้นกองทัพทั้งหมดของไคเซอร์ก็เดินทางเข้าเมืองหลวงและเริ่มควบคุมสถานการณ์เรื่องต่างๆ โดยไมล์เป็นคนนำทั้งหมด แล้วกำจัดขุนนางที่สนับสนุนวีนัสทิ้งทั้งหมดเช่นกัน รวมถึงพวกพ่อค้าหรือคนรวยภายในเมืองด้วยที่สนับสนุนวีนัส เรียกได้ว่าใครมีความเกี่ยวข้องในสงครามครั้งนี้ หรือให้การสนับสนุนแม้แต่นิดเดียวก็โดนเหมารวมว่าเป็นคนทรยศทันที