ตอนที่แล้วต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 167 การช่วยเหลือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 169 แผนต่อไป

ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 168 ป้อมรักษาการณ์ชั้นใน


ตอนที่ 168 ป้อมรักษาการณ์ชั้นใน

ณ ป้อมรักษาการณ์ชั้นใน

หลังจากที่ยึดป้อมรักษาการณ์ชั้นนอกได้สำเร็จ ทางป้อมชั้นกลางและป้อมชั้นในก็ยอมแพ้แบบยอมรับเงื่อนไขของไมล์จนหมด เพราะขุนนางประจำป้อมรู้ดีว่าพวกต้นไม่ได้รับกำลังสนับสนุนแน่นอนเพราะเมืองหลวงก็เกิดการสู้รบเพื่อชิงตำแหน่งราชากันอยู่ ทำให้ไมล์และไคเซอร์สามารถยึดป้อมทั้งสองป้อมได้ไม่ยากอะไร แถมยังได้ทหารนับแสนคนมาเป็นกำลังรบเพิ่มอีกด้วย

ภายในห้องสักห้องในป้อมสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ทหารกำลังรายงานเรื่องการมาถึงของเวรนิก้าให้ไมล์ที่นั่งวางแผนในห้องเพียงคนเดียวฟังอยู่ เพราะตอนนี้หน่วยช่วยเหลือกลับมาแล้วพร้อมกับเวโรนิก้า แต่พวกที่พาราชาออกมายังเดินทางมาไม่ถึง เมื่อทหารพูดจบไมล์ก็ตอบออกไปด้วยท่าทางที่ไม่ได้สนใจอะไรมากนักด้วยดวงตาที่กำลังมองกระดาษขนาดใหญ่ด้านหน้า

“อื้มเข้าใจแล้ว เจ้าออกไปได้”

ตัวทหารที่ได้ยินสิ่งที่ไมล์ตอบออกมาและยังทำท่าทางไม่ได้สนใจอะไรมากก็คิดด้วยความสงสัย ‘ตอบแค่นี่เองเหรอ ท่านบารอนจะไม่ไปหาองค์หญิงหน่อยหรือไง… ไม่สิ! ตามปกติถ้าเป็นขุนนางก็ต้องไปสิ เพราะขุนนางคนอื่นที่ยศมากกว่าบารอนหรือขนาดองค์ชายยังไปรับเลย????’ ทหารสงสัยกับท่าทางของไมล์ที่แสดงออกมา แต่ทว่าก็ยังไม่ได้ถามอะไรได้แต่ยืนมองไมล์ที่กำลังก้มมองกระดาษขนาดใหญ่อยู่

ระหว่างนั้นไมล์ได้เบนสายตามองไปที่ทหารแล้วถามด้วยความสงสัยเพราะทหารไม่ได้ออกไป แถมกำลังมองตนอยู่ด้วยแววตาคาใจอะไรบางอย่าง “มีอะไรอีก ทำไมยังไม่ออกไป?”

“คือว่า…”

“….” ไมล์ทำหน้านิ่งเพื่อรอฟังคำตอบ

“ท่านไม่ไปหาองค์หญิงเหรอครับ เพราะขุนนางคนอื่นเมื่อรู้เรื่องก็ไปกันหมดนะครับ ท่านเองก็เป็นขุนนางก็น่าจะไปด้วย” ทหารตอบด้วยเสียงแผ่ว แบบเป็นกังวลเล็กน้อยระหว่างกำลังพูดก็คิดไปด้วย ‘เรายุ่งเกินไปหรือเปล่า???’

“เรื่องนั้นไม่จำเป็น ข้าจะไปหรือไม่ไปเรื่องมันก็เหมือนเดิม”

ทหารเมื่อได้ยินคำตอบก็แสดงสีหน้าแปลกใจพร้อมกับคิดด้วยความสงสัยกับประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่ ‘ยังไงละเนี่ย???’ แต่ถึงตอนนี้จะยังสงสัยกับสิ่งที่ไมล์บอกมาก็ตาม ทหารก็ไม่ได้ถามอะไรกลับ แล้วพูดต่อ “ถะ ถ้างั้นข้าขอตัวก่อนก็แล้วกันครับเมื่อครู่ต้องขออภัยด้วยที่เสนอความคิดไป”

“ไม่เป็นอะไร”

จากนั้นทหารก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้องด้วยความคิดที่ว่า ‘เราว่าเราก็ไม่ได้โง่นะ แต่ก็ไม่เข้าใจคำพูดเมื่อครู่เลยจริงๆ เฮ้อ~ ตัวทหารยังคงไม่เข้าใจกับสิ่งที่ไมล์พูดกับตน แต่หลังจากที่เดินออกมาเสียงของไคเซอร์ก็ดังขึ้นมาจากทางซ้ายมือด้วยน้ำเสียงกำลังหนักใจว่า “ท่านพี่ใจเย็นก่อนสิครับ ตอนนี้ท่านบารอนกำลังวางแผนการรบอยู่นะ ถ้าท่านอยากคุยท่านคุยกับข้าก็ได้…”

“เจ้านะเงียบไปเลยวันนี้ข้ามีเรื่องต้องคุยกับบารอนไมล์ ที่กล้าคิดแผนแบบนั้นออกมาได้” เวโรนิก้าตอบไคเซอร์ด้วยท่าทางไม่พอใจ โดยตอนนี้เธอกำลังเดินแบบเร่งความเร็วเต็มที่ตรงไปยังห้องที่ไมล์นั่งอยู่

ชไนน์เดอร์ที่กำลังเดินตามด้วยหน้าตาหนักใจก็กำลังคิดด้วยความหนักใจ ‘คิดแผนอะไร? ท่านบารอนไปทำอะไรไว้ถึงได้ทำให้ท่านพี่โกรธแบบนี้ เฮ้อ~ พอลงมาจากรถม้าก็ถามหาบารอนไมล์ตลอดแถมยังอยู่ในท่าทางไม่พอใจแบบนี้อีก’

ชไนน์เดอร์ไมได้เพียงสงสัยเท่านั้น แต่กำลังหนักใจอย่างมากกับท่าทางของเวโรนิก้าในตอนนี้ เพราะปกติแล้วเวโรนิก้าทำตัวใจเย็นตลอดเวลาแต่ครั้งนี้มันต่างออกไปมาก ขนาดพวกขุนนางรอต้อนรับหลายสิบคนพูดด้วยยังไม่พูดด้วยเลยสักคำแล้วรีบถามหาแต่ไมล์ว่าอยู่ไหน เมื่อรู้ตำแหน่งก็เร่งเดินมาทันทีแบบที่เป็นอยู่

ทางด้านทหารที่คุยกับไมล์ในห้องเมื่อครู่ก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดเช่นกัน ‘ออ! เข้าใจเรื่องที่ท่านไมล์พูดเมื่อกี้แล้วถึงจะไปไม่ไปองค์หญิงก็มาหาเอง หึหึ!’

“บารอนไมล์อยู่ในห้องไหม!” เวโรนิก้าถามเสียงแข็งกับทหารที่ออกมาจากห้องเมื่อครู่

ครับ! อยู่ครับ”

ผลัก!

“ท่านบารอนช่วยอธิบายแผนแยกกันหนีระหว่างข้ากับท่านพ่อมาด้วย!!!”

เวโรนิก้าเมื่อได้ฟังคำยืนยันจากทหารก็ผลักประตูห้องของไมล์ทันทีแบบไม่ได้เคาะก่อน จากนั้นก็เริ่มตะโกนอย่างสุดเสียงที่เหมือนกับคนกำลังโกรธข้าไปในห้องของไมล์ ต่อด้วยเดินตรงเข้าไปในห้องยังจุดที่ไมล์กำลังนั่งอยู่

ทางด้านของไมล์ก็เบนสายตาไปทางเวโรนิก้าที่กำลังตรงเข้ามาหาตน พร้อมกำลังคิดในใจ ‘ให้ตายสิยัยองค์หญิงนี่! ก็เข้าใจอยู่หรอกว่ากำลังโมโหกับแผนตัวล่อขอเราที่ต้องแยกทั้งสองคนหนี แต่อย่างน้อยก็ช่วยเก็บอาการหน่อยสิอย่างน้อยเธอก็เป็นเจ้าหญิงนะ เฮ้อ~

ระหว่างมองเวโรนิก้าไมล์ก็เบนสายตาไปทางไคเซอร์เล็กน้อย แล้วก็พบกับใบหน้ายิ้มแบบรู้สึกผิดของไคเซอร์ที่ด้านหลังของเธอ ‘ไคเซอร์ก็ไม่ได้เรื่อง แค่พี่ตัวเองยังไม่สามารถห้ามเอาไว้ได้ แบบนี้มันจะปกครองขุนนางและประเทศยังไง’

ระหว่างที่ไมล์กำลังคิดอยู่เวโรนิก้าที่ยืนด้านหน้าของไมล์สักพักก็เริ่มพูดออกมาต่ออีกครั้งเมื่อไม่ได้รับการตอบรับอะไร “ท่านบารอนช่วยอธิบายมาด้วย แผนแยกกันหนีมันหมายความว่ายังไง ตัวท่านไม่คิดช่วยเหลือพวกข้าทั้งสองคนอยู่แล้วใช่ไหม”

ใบหน้าของเวโรนิก้าตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธ กัดฟันแน่นอน สายตาเบิกกว้าง กำมือทั้งสองเอาไว้แน่น

‘จะปฏิเสธก็ไม่ได้ด้วยสิ แต่ถามให้พูดตามตรงทางนี้นะไม่ได้คิดจะช่วยสักคนอยู่แล้วต่างหากแต่จะสั่งฆ่าเลยก็ไม่ได้ เหอะ! ไมล์คิดในใจ จากนั้นก็ตอบไปว่า “…แล้วมันยังไง!” น้ำเสียงและดวงตาของไมล์เป็นของจริง ไม่ได้มีความลังเลหรือความเกรงใจอะไรทั้งนั้นเพราะรู้ดีว่าพูดอะไรตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไร

“ท่านยอมรับแล้วสินะ”

ยอมรับ! องค์หญิงก่อนอื่นท่านต้องใจเย็นก่อนแล้วคิดใหม่อีกครั้ง”

ยังไง! นี่ต้องการจะแก้ตัวอะไรอีก???” เวโรนิก้ายังคงพูดต่อด้วยท่าทางไม่พอใจ โดยระหว่างนั้นก็พรางคิดในใจไปด้วย ‘กำลังจะบอกเรื่องอะไรอีก ชิ!

เวโรนิก้ายังมีความไม่พอใจอยู่เต็มอกกับความรู้สึกตอนนี้ แต่ทว่าเมื่อผ่านไปสักพักไมล์ก็ไม่ได้ตอบอะไรแล้วมองแบบไม่พูดอะไรเช่นเดิม แต่เป็นแววตาที่เห็นก็รู้ได้เลยว่ากำลังไม่พอใจอยู่ จากนั้นเวโรนิก้าก็พยามสูดหายใจเข้าออกอยู่พักใหญ่จนอารมณ์เย็นลง จึงถามออกมาอีกครั้งด้วยเสียงที่นิ่มกว่าเดิม “ข้าเข้าใจแล้ว งั้นท่านก็ช่วยบอกเหตุผลมาด้วย!”

นี่ไง! เข้ามาแล้วพูดด้วยแบบนี้แต่แรกก็จบ เหอะๆ ไมล์คิดในใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด